ตอนที่ 5 : ARCI : มายาสีคราม-4-
บทที่4
“โฮสต์ครับเกิดอะไรขึ้น ระบบเห็นสัญญาณฉุกเฉินที่โฮสต์ส่งมา”เสี่ยวหลันบินเข้ามาถามจ้าวอวี้ที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง
“ซวยแล้วเสี่ยวหลัน เมื่อกี้นี้ผมเจอบัคที่เรากำลังตามหาอยู่...บัคตัวนั้นมันเข้ามาในห้องนี้”จ้าวอวี้พูดเสียงสั่นคล้ายคนสติหลุด “ที่สำคัญ บัคตัวนั้นถามว่ารู้จักคนที่ชื่อเซียวจ้าวอวี้ไหม ทำไมบัคตัวนั้นถึงรู้ชื่อของผม ทำไมล่ะ ทำไม”
“โฮสต์ใจเย็นๆก่อนนะครับ”เสี่ยวหลันรู้สึกรับมือลำบากกับโฮสต์ในโหมดสติหลุด
“เสี่ยวหลันดึงความทรงจำของผมออกมา ตรวจสอบเดี๋ยวนี้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร มีตัวตนในโลกนี้ไหม แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าผมแฝงตัวอยู่ในร่างเสวี่ยอี้”
“ระบบแม่กำลังทำการปรับปรุงข้อมูลอยู่ครับโฮสต์ เซิร์ฟเวอร์จะกลับมาใช้ได้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ครับ”
“ระบบแม่เฮงซวย!”คล้ายจ้าวอวี้จะดึงสติกลับมาได้เพราะความเฮงซวยของระบบแม่ “ทำไมไม่โผล่หัวมาเหมือนตอนตัวเองมีเรื่องจิกหัวใช้คนอื่นบ้างนะ”เขาเอ่ยประชดประชันใบหน้าบึ้งตึง
“โฮสต์ใจเย็นๆเถอะครับ กลับไปนอนนะ ระบบรับรองว่าพรุ่งนี้โฮสต์จะได้ข้อมูลทุกอย่างของคนๆนั้น”
“เฮอะ ก็ได้”...หวังว่าระบบแม่จะไม่ทำตัวเฮงซวยไปมากกว่านี้นะ
จ้าวอวี้ล้มตัวลงนอนทันที หลับตาปิดการรับรู้ แม้จะได้ยินคำว่าซกมกที่ไม่ได้อาบน้ำดังมาจากปากของเสี่ยวหลัน...แต่ใครจะสนกันล่ะ
สิ่งที่จ้าวอวี้คาดหวังในยามที่ตื่นเช้ามา คือการได้รับข้อมูลที่อยากรู้มากที่สุด ไม่ใช่การนั่งมองระบบของตัวเองร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบนี้
“เกิดอะไรขึ้นเสี่ยวหลัน ร้องไห้ทำไม”เขาเอ่ยถามออกไป ในใจสังหรณ์ว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาเองไม่มากก็น้อย
“ฮึก ค...คือโฮสต์ครับ เกิดเรื่องผิดพลาดระหว่างปรับแต่งข้อมูลทำให้...ระบบแม่ล่มไปอีก7วันครับ”
“ฮะ? อะไรนะ พูดอีกทีซิเสี่ยวหลัน”จ้าวอวี้เบิกตากว้าง เขารู้สึกว่าหัวเขาเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“ฮือ โฮสต์ครับ ระบไม่รู้เรื่องจริงๆนะ”
“...”
“แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ดูเหมือนระบบแม่ที่รักจะอยากหายไปตลอดกาลสินะ”จ้าวอวี้ฮึดฮัด อยากจะฟ้องสำนักงานคุ้มครองเจ้าหน้าที่บ้างเกี่ยวกับความเฮงซวยของระบบแม่ แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ
เขาเดินกระทืบเท้าเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่พอใจ เสี่ยวหลันที่ร้องไห้กระซิกๆอยู่หยุดร้องทันทีเมื่อโฮสต์ของมันหายลับสายตาไป มันถอนหายใจออกอย่างโล่งอก
...จะให้โฮสต์รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าความจริงแล้วระบบแม่ไม่ได้ล่ม...แต่ระบบแม่ลาพักร้อน!
“ปล่อยผมนะ”จ้าวอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แขนเล็กพยายามสะบัดให้หลุดพ้นจากการพันธนาการที่บีบรัดแขนเขาอยู่
“ทำไมต้องปล่อยล่ะ ปล่อยให้แกเข้าไปยั่วคนของฉันรึไง”หวังซินเจียงเหยียดยิ้ม จ้าวอวี้เบ้หน้าออกมาเมื่อแรงที่แขนเพิ่มมากขึ้น ดวงตาของเขาเริ่มคลอด้วยน้ำตา
“ยั่วอะไร ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”จ้าวอวี้เอ่ย แต่หวังซินเจียงก็หาได้สนใจ ร่างของจ้าวอวี้ถูกเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น แขนของเขาครูดกับพื้นทรายจนเลือดซิบ
“คัต”เสียงสั่งคัตของผู้กำกับดังขึ้น ทีมงานหลายคนเดินเข้ามาเพื่อช่วยพยุงเขา
“เสวี่ยอี้เป็นยังไงบ้าง เจ็บมากรึเปล่า ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”ดอกบัวขาวเอ่ยขอโทษพลางมองสำรวจแผลที่แขนของจ้าวอวี้ด้วยความเป็นห่วง
จ้าวอวี้อยากจะหัวเราะออกมาดัง เขาที่ทำภารกิจผ่านมาตั้งหลายพันโลกมีเหรอจะดูไม่ออก พ่อดอกบัวขาวนี่จงใจหาเรื่องเขาชัดๆ หลักฐานก็มีให้เห็นอยู่ตำตาทั้งแผลที่แขนของเขาและรอยบีบแดงช้ำที่ข้อมือ
“ไม่เป็นไรหรอก แผลแค่นี้เอง สบายมาก”แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่หวังซินเจียงที่ทำตัวเป็นดอกบัวขาวได้ ตัวเขาเองก็ไม่ได้น้อยหน้าหรอกนะ
“งั้นเหรอ แต่ฉันไม่สบายใจเลย ขอดูแผลหน่อยนะ”ไม่รอให้จ้าวอวี้ตั้งตัว หวังซินเจียงก็เข้ามาประชิด สองมือเล็กของอีกฝ่ายทำทีเป็นจับๆสำรวจแผลเขา อาศัยช่วงนั้นบีบลงบนแขนเขาอย่างแรงจนจ้าวอวี้เผลอสะบัดออก ร่างของหวังซินเจียงกระเด็นออกไป ดีที่มีทีมงานรับไว้ทัน
จ้าวอวี้มองรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนหน้าหวังซินเจียงแวบหนึ่งก่อนจะหายไป ดวงตาของเขาเหลือบไปมองกลุ่มทีมงาน แม้คนพวกนั้นจะไม่พูดอะไรแต่สายตาก็ฟ้องว่ามองเขาเป็นพวกดังแล้วหยิ่ง แถมยังทำท่ารังเกียจใส่นักแสดงหน้าใหม่อย่างหวังซินเจียงอีก
เขากลายเป็นคนไม่เหลือชิ้นดีในสายตาทีมงาน แต่หวังซินเจียงกลับเรียกคะแนนสงสารไปเต็มๆ
“ซิงเจียงเป็นอะไรมากรึเปล่า”จ้าวอวี้รีบเปลี่ยนสีหน้าทันที เขาทำท่าทางเหมือนรู้สึกผิดที่เผลอผลักหวังซินเจียงจนกระเด็น “ฉันขอโทษนะ ฉันแค่ไม่อยากให้เธอโดนแขนฉัน”
“...”หวังซินเจียงคล้ายตั้งรับไม่ทันเมื่อจ้าวอวี้ยอมรับออกมาตรงๆว่ารังเกียจตนเอง
“ก็แหม แขนฉันมันสกปรกจะตาย มีทั้งเศษดินเศษหญ้า เดี๋ยวซินเจียงก็ต้องไปทานข้าว ที่นี่น้ำท่าหายากจะตาย อย่าให้มือซินเจียงต้องมาเปื้อนเลือดเปื้อนดินเลย”
“...”
“แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะตกใจขนาดผลักเธอออกไปขนาดนั้น ขอโทษนะ”จ้าวอวี้ทำหน้าคาดหวังการให้อภัยปนน่าสงสารใส่หวังซินเจียงที่มีท่าทีอ้ำๆอึ้งๆ
“ม...ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เป็นอะไร”แม้จะตอบไปอย่างนั้น แต่ดวงตาของหวังซินเจียงแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน สายตาของทีมงานก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม
จ้าวอวี้ยกยิ้ม คิดจะแข่งกับเขาคงต้องฝึกอีกเยอะนะ หึ ¯\_(ツ)_/¯
เขาปลีกตัวออกมาในที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง วันนี้เป็นวันถ่ายทำนอกสถานที่จึงต้องคลุกดินคลุกฝุ่นไม่น้อย
“โฮสต์มีอะไรเหรอครับ”เสี่ยวหลันถามอย่างสงสัย มันคล้ายวัวสันหลังหวะกลัวว่าโฮสต์จะเอ่ยเรื่องระบบแม่ขึ้นมา
“ระบบแม่ใช้งานได้รึยัง นี่มันผ่านมาสามอาทิตย์แล้วนะ”จ้าวอวี้ถามเสียงเข้ม ในขณะที่ระบบตัวน้อยเหงื่อไหลพลั่กๆเพราะมันเกินกำหนดที่เขาบอกจ้าวอวี้ไปแล้ว ใครใช้ให้ระบบแม่ลาพักร้อนแล้วปิดเซิร์ฟเวอร์หนีเล่า
“เอ่อ ยังไม่ได้เลยครับโฮสต์ ระบบพยายามเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์แต่ก็ล่มทุกครั้งเลยครับ”จบงานนี้บอกเลยว่าระบบแม่ต้องขึ้นโบนัสให้เสี่ยวหลันนะ อุตส่าห์ช่วยปกปิดความผิดขนาดนี้
“เหอะ ไร้ประโยชน์จริงๆระบบแม่ของเสียวหลันเนี่ย เอาเถอะ เสี่ยวหลันไปดูให้หน่อยว่าตอนนี้ประธานเฉินกำลังทำอะไร ดูเหมือนช่วงนี้ประธานเฉินจะติดธุระบางอย่างตลอด ทั้งๆที่เวลานี้เขาควรมาตามวอแวหวังซินเจียงแล้วด้วยซ้ำ”
“ได้ครับ”มีเหรอระบบจะปฏิเสธ ตอบรับคำสั่งเสร็จก็รีบแจ้นหนีจ้าวอวี้ไปทันที
จ้าวอวี้กุมขมับตัวเองสักพัก ตั้งแต่วันเปิดกล้องและมีบัคตัวโตมาบุกห้องเขา ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วสามสัปดาห์ ทั้งที่ทุกอย่างควรจะดำเนินไปอย่างทีควร แต่ในช่วงสามสัปดาห์นี้ตัวละครกลับทำหลายสิ่งแปลกไป
เริ่มจากหวังซินเจียง ครั้งแรกที่เจอกันเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นนายเอกประเภทดอกบัวขาวแน่ๆ แต่หลังจากที่ได้ร่วมงานกับหวังซินเจียง จ้าวอวี้สัมผัสได้ว่าหวังซินเจียงเปลี่ยนไป จะว่าเปลี่ยนจะไม่เชิง เขารู้สึกว่ามีใครบางคนบงการหวังซินเจียงอยู่ อย่างเช่นเหตุการณ์เมื่อกี้ที่พอเขาพลิกสถานการณ์หวังซินเจียงกลับตอกกลับเขาไม่ได้เหมือนที่ปากดีในตอนแรก และเหตุการณ์กลั่นแกล้งเหมือนเด็กประถมนี้ก็มีมาตั้งแต่เริ่มถ่ายทำ
คนที่สองที่แปลกก็คือประธานเฉิน ตามไทม์ไลน์แล้วช่วงเวลานี้ประธานเฉินควรจะเริ่มจีบหวังซินเจียงได้แล้ว แต่อีกฝ่ายกับหายไปราวกับว่าไม่เคยสร้างเหตุงามหน้าไว้ในวันเปิดกล้อง พอโทรไปหาหรือไปพบที่ค่ายเลขาก็เอาแต่บอกว่าประธานเฉินไปทำธุระ เขาอยากจะรู้จริงว่าธุระที่ว่านั่นคืออะไร
ใจเขาอยากจะอัปเดตสถานะoocของตัวละครจะแย่ แต่เหมือนระบบแม่จะไม่เข้าใจถึงได้ทำตัวผีบ้าแบบนี้
ผ่านมาอีกหนึ่งอาทิตย์การกลั่นแกล้งของหวังซินเจียงก็ทำเขารำคาญใจไม่น้อย ทำได้เพียงอดทนเอาไว้ ระบบที่ถูกส่งไปสืบธุระของประธานเฉินก็ได้เวลากลับมารายงาน
“ว่ายังไงบ้างเสี่ยวหลัน”
“ดูเหมือนว่าประธานเฉินจะกำลังเดทกับเฟยหลันฮวาอยู่ครับ”คำรายงานของเสี่ยวหลันทำให้จ้าวอวี้ที่กำลังเคลิ้มหลับสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา
“อะไรนะ!”เป็นไปได้ยังไงกัน พระเอกกำลังเดทกับเพื่อนนายเอกเนี่ยนะ “สืบมาผิดรึเปล่า สองคนนั้นเนี่ยนะ พวกเขาแทบไม่เคยเจอกันเลยด้วยซ้ำ”
“ระบบมั่นใจครับว่าสืบมาไม่ผิดแน่”ระบบยืนยัน “ตอนนี้เซิร์ฟเวอร์สามารถใช้ได้แล้ว โฮสต์จะตรวจสอบสถานะoocของตัวละครไหมครับ”...แน่ล่ะว่าต้องใช้ได้ ถ้าใช้ไม่ได้มีเหรอมันจะโผล่หัวมาให้โฮสต์เห็นหน้า เสี่ยวหลันคิดในใจ
“อืม ตรวจสอบเลย”
“ระบบเริ่มทำการตรวจสอบสถานะooc
#เฉินเหวินฮั่ว บทบาทพระเอก สถานะooc จาก45%>75%
#หวังซินเจียง บทบาทนายเอก สถานะooc จาก50%>60%
#อันเสวี่ยอี้ บทบาทตัวร้าย สถานะooc จาก20%>20%
#เฟยหลางจี บทบาทเพื่อนพระเอก สถานะooc จาก0%>0%
#เฟยหลันฮวา บทบาทเพื่อนนายเอก สถานะooc จาก10%>85%”
จ้าวอวี้ทุบกำปั้นลงกับเตียงอย่างแรง ใบหน้าเรียวฉายแววไม่สบอารมณ์ มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง ตัวละครเกือบทุกตัวoocกันหมดแล้ว เจ็บใจนัก จ้าวอวี้มั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำให้เกิดoocแน่ นั่นก็หมายความว่าจะต้องเป็นบัคตัวนั้นที่ทำให้ตัวละครเปลี่ยนไป
เฟยหลันฮวา
ชื่อนี้ดังเข้ามาในหัวของจ้าวอวี้ทันที คนๆนี้ตอนแรกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญมาก แต่พอคิดทบทวนอีกทีเฟยหลันฮวาเป็นเพื่อนกับหวังซินเจียงไม่ยากเลยที่จะคอยเป่าหูให้หวังซินเจียงooc และเพราะประธานเฉินเป็นเพื่อนของพ่อแถมยังเป็นผู้ชายที่กำลังเดทอยู่ด้วย ไม่ยากอีกเช่นกันที่จะทำให้ประธานเฉินooc
บัคตัวนั้นอาจจะแฝงตัวอยู่ในร่างของเฟยหลันฮวาก็เป็นได้!
________________
#ระบบร้าย
ปั่นตอนตีสามมันก็จะเบลอๆหน่อยนะคะ
________________
"ระบบแม่! อย่าให้จับได้นะว่าหนีเที่ยว"
สีหน้าของระบบที่รู้ว่าระบบแม่หนีเที่ยว
และพยายามจะเก็บความลับให้เพราะหวังโบนัส
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว่าที่สามีน้องอยู่ในร่างผู้หญิงงั้นเรอะ!