ตอนที่ 3 : ARCI : มายาสีคราม-2-
บทที่2
“โฮสต์ครับ วันหลังอย่าโยนระบบออกไปแบบนั้นอีกนะครับ”เสี่ยวหลันโวยวายงุ้งงิ้งอยู่ข้างหูในขณะที่จ้าวอวี้กำลังนั่งอ่านบทที่ต้องเข้าฉากในเย็นวันนี้
“เลิกบ่นในแล้วน่ะเสี่ยวหลัน”จ้าวอวี้เอ่ยดุ ดีหน่อยที่กองถ่ายนี้มีห้องส่วนตัวให้นักแสดง แถมผู้จัดการส่วนตัวก็ออกไปทำธุระให้เขา ตอนนี้ในห้องส่วนตัวจึงเหลือแค่จ้าวอวี้กับระบบตัวน้อย
“ระบบขวัญเสีย! ระบบจะฟ้องสำนักงานคุ้มครองระบบ”เสี่ยวหลันยังคงฮึดฮัด จ้าวอวี้ส่ายหน้าอย่างระอา
“เอาเถอะ จะทำอะไรก็ทำ”เขาบอกปัดตัดรำคาญ ก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ “เสี่ยวหลัน นายคิดว่าแปลกรึเปล่า”
“แปลก? อะไรเหรอครับ”
“ประธานเฉินน่ะสิ ความจริงบทละครเรื่องนี้ไม่ควรอยู่ในความสนใจของเขาด้วยซ้ำ นึกยังไงถึงไปติดต่อขอบทมาให้ผม”
“โฮสต์จะเช็คสถานะoocไหมครับ”
“สถานะoocคืออะไร”จ้าวอวี้ขมวดคิ้วเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน ระบบเบิกตากว้างก่อนจะบินห่างจากจ้าวอวี้ไปไกล
“แหะ ระบบลืมบอกครับ ระบบแม่ได้อัปเดตฟังก์ชันการตรวจสอบสถานะoocของตัวละครมาให้โฮสต์เป็นกรณีพิเศษ”เสี่ยวหลันเอ่ยตอบเสียงแผ่ว
“นายไม่นึกได้ตอนที่โลกล่มสลายไปแล้วเลยล่ะ”จ้าวอวี้ประชดประชัน แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านความเด๋อด๋าของเสี่ยวหลัน “ช่างเถอะ ช่วยตรวจสอบสถานะoocของเฉินเหวินฮั่วให้หน่อยแล้วกัน”
เสี่ยวหลันนิ่งอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีดำกลมโตของมันกลายเป็นสีแดงก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น “สถานะoocของตัวละครเฉินเหวินฮั่ว บทบาทพระเอก คือ60%ครับ”
“สูงมากเลยนะนั่น”จ้าวอวี้ขมวดคิ้ว นิ้วเรียวลูบใบตามริมฝีปากด้วยความเคยชิน “หรือว่าบัคตัวนั้นจะแฝงตัวอยู่ในตัวประธานเฉิน”
“ก็อาจเป็นไปได้นะครับโฮสต์ จากที่ตรวจสอบมา เฉินเหวินฮั่วเป็นบุคคลที่สถานะoocสูงที่สุด”
“อย่างนั้นเหรอ งั้นเราก็ควรจับตามองเขาเป็นพิเศษสินะ”จ้าวอวี้เอ่ยกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วรับสายเมื่อเห็นว่าปลายสายคือผู้จัดการของเขา
“ว่ายังไงครับ”
[เสี่ยวอี้ วันนี้พี่ติดธุระเร่งด่วนที่ค่าย ของของเธอพี่ฝากไว้กับคนในกองถ่ายแล้ว พี่จะมาย้ำเธออีกรอบให้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานวันเกิดของประธานเฟยในวันพรุ่งนี้]
“ครับ”จ้าวอวี้ตอบรับแค่นั้นก่อนจะวางสายไป สมองของเขาเค้นความทรงจำเกี่ยวกับประธานเฟย
ประธานเฟย หรือ เฟยหลางจี เป็นชายวัย39ปี ประธานบริษัทของค่ายRB ค่ายที่เสวี่ยอี้เคยสังกัดอยู่ เมื่อก่อนอำนาจในมือของชายคนนี้น้อยนิดเกินกว่าจะปกป้องเด็กในสังกัดได้ เสวี่ยอี้จึงถือเป็นเครื่องสังเวยต่อความอ่อนแอของเขา แม้ว่าในตอนนี้ค่ายRBจะเป็นกลายเป็นค่ายอุตสาหกรรมบันเทิงที่กำลังมาแรงที่สุดรองลงมาจากBIC Star แต่ประธานเฟยก็ยังไม่ลืมความเจ็บปวดในครั้งนั้น เพราะอย่างนั้นทุกครั้งที่เฟยหลางจีเจอกับเสวี่ยอี้เขาจึงทำดีกับเสวี่ยอี้มากเป็นพิเศษจนความอิจฉาก่อเกิดขึ้นมาในใจของหวังซินเจียง
อ่า ประธานเฟยคนนั้นคล้ายจะเป็นอีกชนวนเหตุหนึ่งที่ทำให้หวังซินเจียงไม่คิดจะญาติดีกับเสวี่ยอี้เลยก็ว่าได้
“เอาเถอะ งานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ น่าจะเป็นวันรวมตัวละครหลัก อะไรจะเกิดก็ไปตัดสินกันที่หน้างานแล้วกัน”จ้าวอวี้ไหวไหล่แบบคนปล่อยวาง มือเรียวคว้าเสี่ยวหลันมาบีบเล่นก่อนจะเข้าฉาก
“ค้นพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ทำการแทรกแซงโลกใบนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”เสียงทุ้มของระบบก้อนดำเอ่ยบอก
ชายร่างสูงปิดแฟ้มเอกสารในมือ แล้วหันไปให้ความสนใจกับระบบที่ตนสร้างขึ้นมาเลียนแบบปัญญาประดิษฐ์ของระบบแม่
“ยังตามจิกกันไม่เลิกเลยสินะ”บัคตัวร้ายเหยียดยิ้มเย้ยหยันออกมา “ตรวจสอบได้ไหมว่าเข้ามาแทรกแซงในตัวละครไหน”
“ดูเหมือนจะเป็นตัวละครที่ชื่อว่าเสวี่ยอี้”
“ว้าว อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น”เขาแสร้งอุทานเหมือนตกใจ “ดันมาอยู่ในหมากชั้นดีของฉันซะได้ คงต้องหาเรื่องไปเยี่ยมเยียนสักหน่อยแล้ว”
“นายท่าน เจ้าหน้าที่คนนั้นมาเพื่อจับนายท่านนะ เขาเป็นตัวอันตราย”ใบหน้าของร่างสูงยังคงมีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปาก
“ยิ่งอันตราย ยิ่งเร้าใจไม่ใช่รึไง”
งานเลี้ยงวันเกิดของประธานเฟยถูกจัดอย่างหรูหราที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง จ้าวอวี้ในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาในงานพร้อมกับประธานเฉิน
“สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่เฟย”ประธานเฉินเข้าไปทักทายประธานเฟยอย่างเป็นกันเอง ดูเหมือนสองคนนี้จะมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกัน
“สุขสันต์วันเกิดครับ”จ้าวอวี้เอ่ยตามหลัง ประธานเฟยเลื่อนสายตามาที่เขาก่อนจะระบายยิ้มเหมือนผู้ใหญ่ใจดี
“สวัสดีเสวี่ยอี้ ไม่ได้พบกันนาน สบายดีไหม”
“สบายดีครับ ประธานเฟยล่ะครับ”
“ก็สบายดีตามประสาคนแก่นั่นแหละ”
“แก่อะไรกันล่ะ พี่ยังหนุ่มอยู่เลย”อีกฝ่ายหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อประธานเฉินเอ่ยเช่นนั้น พวกเขาสามคนคุยกันอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งมีเสียงหวานของใครบางคนแทรกเข้ามา
“ท่านประธานครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ”
...อ่า ใครคนนั้นที่ชื่อว่าหวังซินเจียง ดาวหายนะของเขานั่นเอง
______________50%_____________
“มาแล้วเหรอซินเจียง”ประธานเฟยกวักมือเรียกให้ผู้มาใหม่เข้ามาร่วมวง “ทำความรู้จักกันเสียสิ นี่คือประธานเฉินเหวินฮั่ว และข้างๆเธอคงจำเขาได้ เสวี่ยอี้กับเธอไม่ได้เจอกันเสียนาน”หวังซินเจียงเดินเข้ามา อีกฝ่ายปรายตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะเมินหน้าหนีไป “ส่วนนี่คือหวังซินเจียง เด็กคนนี้มีแผนที่จะเริ่มเดบิวต์ในฐานะนักแสดงอีกไม่นาน ยังไงก็ต้องขอฝากฝังกับอาเฉินด้วยนะ”
“พี่ก็พูดเกินไป มีเด็กคนไหนที่พี่ปั้นแล้วไม่ดังบ้าง”ประธานเฉินเอ่ยยอ ดวงตาคมหันไปมองสำรวจหวังซินเจียงด้วยความสนใจ หวังซินเจียงเองก็ไม่น้อยหน้ายามเมื่อดวงตาสบกับประธานเฉิน คล้ายคนตัวบางจะเสียอาการไป ใบหน้าน่ารักเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
นี่เขาต้องมาเป็นพยานรักของพระนายคู่นี้อีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่จะปลีกตัวออกไปได้เสียที
“โฮสต์ครับ อย่าน้อยหน้าสิครับ มีอย่างที่ไหนปล่อยให้คนที่แอบชอบยืนสวีทหวานกับคู่แข่งตัวเอง”เสี่ยวหลันบินวนรอบๆพร้อมกับเอ่ยเตือน จ้าวอวี้พยักหน้าน้อยๆเห็นด้วยกับคำพูดของระบบ
ร่างโปร่งของเขารีบเดินเข้าไปประชิดข้างกายประธานเฉิน มือเรียวเอื้อมไปแตะหลังมือของคนตัวสูงเบาๆ ประธานเฉินคล้ายถูกฉุดออกจากภวังค์
“ประธานเฉินครับ เมื่อครู่นี้ผมเห็นมีคนจะเข้ามาอวยพรประธานเฟยแต่ไม่ได้เข้ามา เกรงว่าพวกเราจะดึงตัวประธายเฟยมานานมากแล้ว”เสียงหวานเอ่ยเตือนคล้ายคนหวังดี จ้าวอวี้จำต้องเหยียดยิ้มน้อยๆเมื่อหวังซินเจียงเหลือบตามองมือของเขาที่แตะอยู่บนหลังมือของประธานเฉิน
“นั่นสินะ”ประธานเฉินเอ่ยเบาๆคล้ายเพิ่งคิดได้ เขาอวยพรประธานเฟยอีกครั้งก่อนจะพาจ้าวอวี้ปลีกตัวออกมา
จ้าวอวี้ถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อขอตัวออกไปห้องน้ำได้ นับว่าการสวมบทบาทเป็นเสวี่ยอี้นั้นยากไม่น้อย
อย่างแรกคือการที่เขาต้องแสดงความรักต่อประธานเฉินอย่างออกนอกหน้า แต่การแสดงความรักนั้นจะต้องไม่ทำให้ประธานเฉินหลงรักโดยเด็ดขาด
อย่างที่สองคือการที่เขาจะต้องไปขัดขวางหรือหึงหวงประธานเฉินกับหวังซินเจียงอย่างที่เสวี่ยอี้ควรจะเป็น
และอย่างสุดท้ายคือประธานเฉินและหวังซินเจียงต้องรักกัน อันนี้ล่ะที่ยากสุด เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าประธานเฉินรู้สึกยังไงกับหวังซินเจียง เนื่องจากสถานะoocของประธานเฉินสูงมาก จ้าวอวี้จำเป็นที่จะต้องทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนที่ควรจะเป็น แต่ถ้าในร่างประธานเฉินเกิดมีบัคแฝงตัวอยู่อย่างที่สงสัยจริง เรื่องทุกอย่างคงจะยุ่งยากขึ้น
จ้าวอวี้เดินออกมาจากห้องน้ำ ให้เดาตามหลักของบทละครน้ำเน่าสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใช่ ตอนนี้เขากำลังถูกดักอยู่หน้าห้องน้ำโดยบุคคลที่ตัวเตี้ยกว่าเขาเกือบสิบเซนติเมตร ถ้าพูดกันตามหลักความจริงแค่จ้าวอวี้เดินชนหรือผลักเบาๆอีกฝ่ายคงจะกระเด็น แต่ตามพื้นฐานนิสัยเสวี่ยอี้ที่ปกป้องเด็กเตี้ยนี่ยิ่งชีพคงไม่ทำ
“มีอะไร”จ้าวอวี้ถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย หลังจากวันที่เสวี่ยอี้ย้ายสังกัดเขาก็ไม่ได้พบกับหวังซินเจียงอีก จ้าวอวี้ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน
แต่ขึ้นชื่อว่านายเอกก็คงจะไม่ร้ายไปกว่าตัวร้ายอย่างเขาหรอกมั้ง
“ไม่ได้เจอกันนานนะเสวี่ยอี้”เจ้าเตี้ยเชิดหน้าขึ้น ใบหน้าของนายเอกของเรื่องนิ่งเรียบเย็นชาแต่ดวงตาสั่นไหว
อ่า...หวังซินเจียงคงเป็นนายเอกประเภทดอกบัวขาวที่พยายามจะเป็นกุหลาบสินะ (*หมายถึง นายเอกหรือนางเอกที่ใสซื่อโอบอ้อมอารีแต่พยายามจะทำตัวร้ายๆหรือเย็นชา)
เป็นประเภทที่น่ารำคาญไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ยากที่จะรับมือ
“มาเพื่อพูดแค่นี้รึไง ถ้าแค่นี้ก็ขอตัว”จ้าวอวี้เอ่ยกลับอย่างเย็นชาไม่แพ้กัน ดวงตาของหวังซินเจียงเริ่มปริ่มน้ำ
“มีความสุขมากเลยสินะ กับที่ๆควรจะเป็นของฉัน”เสียงที่เอ่ยถามสั่นเครือ รับรองได้ว่าถ้าพระเอกของเรื่องมายืนอยู่ตรงนี้คงไม่ยากที่จะตกหลุมรัก
ดอกบัวขาวนี่ดีจังนะทำอะไรก็ดูน่าสงสารไปหมด
“ก็มีความสุขดีนะ”จ้าวอวี้เหยียดยิ้ม ก่อนจะก้มตัวลงไปกระซิบเบาๆข้างหูหวังซินเจียง “โดยเฉพาะชีวิตรักน่ะ”
ว่ากันว่าความสัมพันธ์ต้องห้ามนี่ล่ะที่ดึงดูดให้คนลุ่มหลง คิดว่าพ่อดอกกุหลาบปลอมนี่จะทำยังไงเมื่อรู้ว่าประธานเฉินมีความสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองเกลียด อาจจะพยายามแก้แค้นเขาด้วยการเข้าหาประธานเฉิน หรืออาจจะพูดย้ำเตือนตัวเองว่าไม่ควรเข้าใกล้ประธานเฉินแต่สุดท้ายก็ปากอย่างใจอย่างได้เสียกันอยู่ร่ำไป ส่วนใหญ่นายเอกในนิยายก็จะประมาณนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ผลลัพธ์ก็คือพวกเขาจะไม่oocซึ่งก็ดีสำหรับจ้าวอวี้ทั้งนั้น
“เสวี่ยอี้ นายไม่รู้สึกผิดบ้างเลยรึไง ทำไมยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่...ทั้งๆที่นายแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน”
“แย่ง? หึ คิดว่าตัวเองมีดีขนาดนั้นเลยรึไง จะบอกอะไรให้นะถ้านายมีดีจริงป่านนี้คงได้เดบิวต์ไปนานแล้ว แต่ที่ตอนนี้ยังเป็นแค่เด็กฝึกกระจอกๆก็ควรพิจารณาตัวเองได้แล้วนะว่ามีดีที่ความสามารถหรือแค่หน้าตา”
“...”
“ถ้านายยังเอาแต่เรียกร้องว่าฉันแย่งทุกอย่างไปจากนาย แน่จริงก็แย่งมันกลับไปสิ ถ้าทำได้น่ะนะ”จ้าวอวี้เหยียดยิ้ม เขาปูทางไว้ขนาดนี้แล้วหวังว่าพ่อดอกบัวขาวจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง ร่างโปร่งเดินออกไปจากห้องน้ำจนกระทั่งหายลับไปจากสายตา
หวังซินเจียงน้ำตาไหลอาบแก้ม ทำไมเพื่อนสมัยเด็กของเขาถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์เมื่อครั้งก่อนของพวกเรา ชื่อเสียงงั้นเหรอที่ทำให้เสวี่ยอี้เปลี่ยนไป หรือจะเป็นเพราะประธานเฉินคนนั้นกัน สองมือเล็กกำแน่นจนเลือดไหลซิบ
“อยากแก้แค้นรึเปล่าล่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยดังจากด้านหลัง หวังซินเจียงหันหลังกลับไปมอง ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เข้าใจ “ถ้าอยากแก้แค้นฉันจะช่วยเธอเอง”
“คุณ...ทำไม...ถึงเป็นคุณ”
“เพราะเสวี่ยอี้กำลังขัดขวางแผนทุกอย่างของฉัน จำเป็นจะต้องกำจัดเขาก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย”
“แต่คุณกับเขา...”หวังซินเจียงยังคงตกตะลึงและไม่เชื่อ ทำไมถึงเป็นคนๆนี้
“เรื่องนั้นเป็นแค่อดีต เพียงแค่เธอตอบตกลง ทุกอย่างที่เธอถูกแย่งไปจะกลับมาเป็นของเธอ ว่ายังไงล่ะ”ร่างสูงเหยียดยิ้มเมื่อหวังซินเจียงทำท่าคล้ายจะคล้อยตาม ร่างบอบบางสูดหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาของหวังซินเจียงแน่วแน่ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ผมตกลง ผมจะร่วมมือกับคุณ”
__________________________________
ได้เวลามาทายกันแล้วว่าคุณบัคไปแอบอยู่ที่ใคร แล้วตัวละครที่คุณบัคไปแฝงอยู่มีบทรึยังนะ
ทุกคนคะใครเล่นทวิตเตอร์ฝาก #ระบบร้าย หน่อยนะคะ
อยากลงรูปป๋อจ้านมากค่ะ ใครที่ยังไม่มีรูปไหนก็ไปดูดรูปได้ที่นั่นนะคะ
(ถึงจะมั่นใจว่าทุกคนเก็บแล้วทุกคอลเล็กชั่นก็เถอะ555)
ใครที่อยากให้ภาคต่อๆไปเป็นแบบไหนก็มาร่วมแชร์รูปได้นะคะเพราะนิยายเรื่องนี้แต่งสดค่ะ
__________________________________
"หึ อยากรู้จังว่าคุณจะเร้าใจสักแค่ไหน"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใครคะลุ้นมากคะประธานเฉินหรือเปล่าน้า~
ใครล่ะเนี่ยยยยยย