ตอนที่ 23 : ARCIII : ไฮเดรนเยียสีขาว-3-
บทที่3
จ้าวอวี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ตรงหน้าของเขาคือมื้ออาหารสุดหรูของครอบครัวตัวละครเอก เขาลอบกลืนน้ำลาย ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งหนึ่งที่เขาและซินเซียร์ตรงข้ามกันแบบสุดๆ
ถ้วยโควกวยฉ่าย(มะระต้มผักกาดดอง)ถูกเลื่อนมาตรงหน้าของเขา แค่นึกถึงรสชาติของมันเขาก็รู้สึกขนลุกขนพองแล้ว เขาเกลียดมะระที่สุด! โดยเฉพาะมะระที่อยู่ในโควกวยฉ่าย!
“กินสิ ของโปรดไม่ใช่เหรอ”เสียทุ้มเอ่ย จ้าวอวี้เงยหน้าขึ้นไปมองค้อนพ่อพระเอกหน้ามนคนชอบยัดเยียด
“ผักนี่อีกแล้ว หนูไม่ชอบเลย”ไฮเดรนเยียเอ่ยพร้อมกับเขี่ยมะระจีนออกไปกองไว้ตรงขอบจาน จ้าวอวี้รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดของเจ้าเด็กเป็นอย่างมาก ผักชนิดนี้ควรหายไปจากโลกได้แล้ว
“เยีย อย่าเลือกกิน”คนเป็นพ่อเอ่ยตักเตือนแกมบังคับ ไม่ว่าเปล่ามือใหญ่ยังตักก้อนมะระมาไว้ในจานข้าวของเขา “ดูอย่างแม่สิ แม่เขายังบอกว่าอร่อยเลย ทำไมลูกถึงไม่กิน”
“หม่าม๊ายังไม่กินเลยเถอะ”จ้า ยัดเยียดกันเก่งจริง จ้าวอวี้มุ่ยหน้ามองมะระเขียวๆในจานก่อนจะกวาดตามองสายตาสองคู่ที่จ้องมาอย่างกดดัน
สุดท้ายเขาก็จำต้องยัดมันเข้าปากไป ใบหน้าของเขาเบ้จนยับยู่ยี่ มือทั้งสองกำจิกกันแน่น ความขมที่ผสมกับความเปรี้ยวทำเอาเขาอยากจะอ้วกออกมา
“เห็นไหมแม่ยังกินได้เลย ลูกก็ต้องกิน”ลูคัสเอ่ยเสียงเข้ม เขาจะทำเป็นมองเมินใบหน้าที่ประหลาดนั่นแล้วกัน
“งือ หนูกินก็ได้”
มื้ออาหารสุดเลวร้ายจบลงที่จ้าวอวี้วิ่งกลับไปอ้วกในห้องนอนของตน เขานอนซมร้องไห้เงียบๆเหมือนคนถูกทำร้ายจิตใจมาอย่างหนัก ข้างๆมีเสี่ยวหลันที่ช่วยซับน้ำตา
บ้าที่สุด! เขาเกลียดโควกวยฉ่าย!
“เขาติดต่อมาได้รึยัง”หวังเฉิงชุนในห้องนอนของตนเอ่ยถามเจียนกั่ว ระบบสีดำมองนายท่านของมันด้วยสายตาเป็นห่วงแต่ไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมา
“ระบบกำลังเชื่อมต่อ ขออีกประมาณ5นาทีครับ”
“รีบๆ”ชายหนุ่มเอ่ยย้ำ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงกว้าง อดไม่ได้ที่จะไพล่นึกไปถึงเหตุการณ์ในมื้ออาหารล่าสุด โควกวยฉ่ายเป็นของที่คนรักของเขาเกลียดมากที่สุด...เขาอยากจะคาดหวังแม้จะรู้ว่าต้องเจ็บปวดมากยามผิดหวัง
เป็นเขาได้ไหม ขอร้องล่ะ...เมื่อไหร่เราจะได้พบกันสักที
“นายท่านครับการเชื่อมต่อสำเร็จ”
“ติดต่อเขาทันที”เจียนกั่วรับคำสั่งของเขาเงียบๆไม่นานจอภาพโฮโลแกรมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าที่คุ้นเคยของผู้เป็นพี่ชายทำให้เขายกยิ้มขึ้น
“ไม่ได้เจอกันนานเลย...พี่ไห่”ไห่ฝูถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใบหน้าของหัวหน้าหน่วยกำจัดบัคฉายแววเคร่งเครียด
[รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันเสี่ยงน่ะเฉิงชุน]
“พี่ก็รู้ ผมไม่เหลือเวลาแล้ว ผมอยากเจอเขา อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้พูดอะไรบางอย่างกับเขา”
[เรามีเวลาประมาณ3นาทีที่จะพูดคุยกันโดยไม่ถูกตรวจจับจากระบบแม่]
“ขอโทษที่ทำให้พี่ลำบาก”เขาเม้มปากแน่น ที่พี่ชายของเขาจะต้องมาวุ่นวายเช่นนี้ก็เป็นเพราะความดื้อรั้นและความเอาแต่ใจของเขา
[นายสบายดีไหม]
“ผมสบายดี”
[ติดต่อพี่มามีอะไรเร่งด่วนรึเปล่า]
“ไม่ แต่ผมอยากจะรู้ว่าตอนนี้จ้าวอวี้อยู่ที่ไหน ทำไมผ่านมาตั้งหลายร้อยโลกผมถึงไม่เจอเขาสักที”คำถามของหวังเฉิงชุนทำให้ไห่ฝูขมวดคิ้วแน่น หรือว่าพวกเขาจะยังไม่รู้ความจริงอีก...คงจะเป็นอย่างนั้นกว่าเขาจะดึงตัวจ้าวอวี้มาช่วยทีมบัคได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเลยแถมการติดต่อกับน้องชายก็แทบจะไม่มีโอกาส
[ฟังพี่นะเฉิงชุน ตอนนี้จ้าวอวี้อยู่ในโลกเดียวกับนายแล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่ที่ระบบแม่ส่งไป อีกอย่างนี่ไม่ใช่โลกแรกที่นายเจอกับเขา]
“พี่หมายควมว่ายยังไง”แม้ว่าเขาจะรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินข่าวดีแต่คำพูดท้ายประโยคของไห่ฝูก็ทำให้เขาใจกระตุก
...หมายความว่ายังไงที่บอกว่าไม่ใช่โลกแรก...พวกเขาเคยเจอกันในโลกอื่นอย่างนั้นเหรอ
[จ้าวอวี้ถูกส่งไปเป็นเจ้าหน้าที่กำจัดบัคครั้งแรกที่โลก...] อยู่ๆสัญญาณทุกอย่างก็ดับไปพร้อมกับใบหน้าของพี่ชาย หวังเฉิงชุนเบิกตากว้าง
“เกิดอะไรขึ้น”
“นายท่าน! มีไวรัสไม่ทราบชื่อแทรกแซงเข้ามาระบบต้องทำการปิดการเชื่อมต่อ แต่เหมือนมันจะเข้ามาได้นิดหน่อย”เจียนกั่วเอ่ยเสียงเครียด ไม่นานหวังเฉิงชุนก็กระอักเลือดออกมา
...นี่คือความเสี่ยงที่ต้องแลกมา การถูกไวรัสแทรกแซงทำให้เวลาชีวิตของนายท่านเหลือน้อยลงจากที่มีน้อยมากอยู่แล้ว มันไม่น่ายินยอมให้นายท่านเลือกใช้วิธีนี้เลย
“ไม่...ไม่เป็นไร แค่รู้ว่าตอนนี้เราจะได้เจอกัน มันคุ้มค่าแล้ว”หวังเฉิงชุนยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจของเขา...เป็นรอยยิ้มที่เขาปิดตายมันมาแสนนาน
...เป็นรอยยิ้ม...เพื่อคุณ
__________50%_________
จ้าวอวี้นอนไม่หลับ รสชาติมะระจีนย่ำแย่จนเขาลืมไม่ลง จ้าวอวี้ไม่เข้าใจจริงๆทั้งที่โลกนี้ถูกเซตติ้งทางฝั่งตะวันตกแล้วไอ้อาหารจีนสุดหยึยนั่นมันมาปรากฎกลางโต๊ะอาหารได้อย่างไร แถมมันยังเป็นอาหารจานโปรดของพ่อนายเอกอีกต่างหาก ถ้าเขาต้องเจอมันในทุกๆวันล่ะก็...
แค่คิดจ้าวอวี้ก็น้ำตาไหล
“โฮสต์หยุดร้องไห้ได้แล้วครับ”เสี่ยวหลันเอ่ย มันเห็นโฮสต์ของมันร้องไห้แล้วก็หยุด ร้องไห้แล้วก็หยุด ทำซ้ำวนไปแบบนี้มาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้ดวงตากลมโตนั่นบวมเป่งไปหมด
“ไม่หยุด หยุดไม่ได้ ฮึก”ไอ้อารมณ์อ่อนไหวที่ติดตัวนายเอกมานี่มันภาระของเขาชัดๆ รู้สึกอะไรนิดหน่อยก็น้ำตาไหลอีกนิดจ้าวอวี้จะควักลูกตาออกมาแล้วนะ
จ้าวอวี้คว้าตัวเสี่ยวหลันมามาใช้เช็ดน้ำตา ทันใดนั้นเองแสงไฟในห้องของเขาก็ดับลง เสี่ยวหลันสะดุ้งเมื่อถูกเขาบีบ สถานการณ์แบบนี้ทำให้จ้าวอวี้เม้มริมฝีปากแน่น
...หรือว่าบัคนั่นจะโผล่มาแล้ว
เสียงย่ำเท้าลงกับพื้นดังกึกก้องอย่างที่ไม่ควรจะเป็นกับพื้นพรม จ้าวอวี้หันไปทางต้นเสียงก่อนจะพบกับเงาร่างสูงที่เขาเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง
“...”
“...”มันน่าอึดอัดมากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบใส่กัน จ้าวอวี้วางแผนไว้แล้วว่าจะไม่พูดอะไรออกมา แต่อีกฝ่ายน่ะสิทำไมยังเงียบแถมยังมายืนจ้องหน้าเขาอีกเนี่ย!
“...ส...สวัสดีครับ”เสียงทุ้มที่เอ่ยติดขัดแสดงถึงความประหม่า จ้าวอวี้ที่ตั้งท่ารอจะปะทะถึงกับหน้าเหวออกมา
“ห๊ะ?”อะไรวะเนี่ย คราวนี้มาโหมดสุภาพว่ะ
“พี่สบายดีไหม”
“...”
“ผมคิดถึงพี่นะ”
“...”
“อยู่ที่นี่พี่คิดถึงผมบ้างรึเปล่า”
“...”
“เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ...”จ้าวอวี้ยังคงนิ่งเงียบปล่อยให้บัคตัวนั้นพล่ามอะไรที่เขาไม่เข้าใจต่อไป อีกฝ่ายชะงักเมื่อได้รับความเงียบงันเป็นคำตอบของทุกคำถาม
สุดท้ายเขาก็กลั้นใจถามคำถามที่เขาไม่อยากถามมากที่สุด“...พี่จำผมได้รึเปล่า?”
“ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”จ้าวอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ในเมื่อใช้แผนแรกแล้วไม่ได้ผลเขาก็ไม่คิดจะเงียบปากอีกต่อไป
“แสดงว่า...”
“ใครจะจำคนที่ฆ่าตัวเองถึง2ครั้งไม่ได้ล่ะ”ประโยคที่จ้าวอวี้แทรกขึ้นมาทำให้หวังเฉิงชุนชะงัก
“หมายความว่ายังไง”
“หึ คราวนี้มาแปลกจังเลยนะคุณบัคคนเก่ง รู้สึกว่าคุณจะความจำสั้นเกินไปแล้วนะ”จ้าวอวี้ลุกขึ้นจากเตียงยืนประจันหน้ากับอีกฝ่าย
“...”
“จะให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดีล่ะ ถ้าเป็นโลกที่แล้วก็ต้องเป็น...หลี่เฉียงฮ่องเต้? หรือจะเป็นโลกของโลกที่แล้ว ชื่ออะไรนะ เฟยหลางจีรึเปล่า”เขายกยิ้มเย้ยหยัน ถึงจะไม่รู้ว่าชายตรงหน้านิ่งไปเพราะอะไร แต่ในเมื่อทำให้อีกฝ่ายพลาดท่าได้ จ้าวอวี้ก็ไม่ลังเลที่จะกระโดดตะครุบตัวอีกฝ่าย เขาพยายามใช้มือจิกเข้าไปที่เนื้ออีกฝ่ายเหมือนที่เคยทำเมื่อโลกที่แล้ว
แต่มือใหญ่ของหวังเฉิงชุนกลับคว้ามือเรียวของเจ้ากระต่ายเล็บคมได้ก่อน
“ปล่อย!”จ้าวอวี้พยายามยื้อแขนตัวเองกลับ แต่แรงมหาศาลของเจ้าบัคก็มากพอที่จะทำให้เขาได้แต่ฮึดฮัดและก่นด่า
“อย่าบอกนะว่าเป็น...เสวี่ยอี้กับหลินเว่ย”
“ใช่! คนที่โง่ถูกคุณฆ่าทุกโลกไง”หวังเฉิงชุนนิ่งไพล่นึกไปถึงคำพูดสุดท้ายของพี่ชาย เขารู้สึกเหมือนรอบข้างเริ่มหนาวเหน็บ ยิ่งมองเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เขารู้สึกเหมือนว่าเขาทำทุกอย่างผิดพลาดไป
เขาปล่อยให้คนรักต้องจากเขาไปถึง3ครั้ง และ2ใน3เป็นเขาที่ลงมือฆ่าอีกฝ่าย
เขาทำอะไรลงไป
“ขอโทษ”ทำขอโทษสั้นๆนั้นทำให้จ้าวอวี้สงบลงอย่างน่าประหลาด เขาเม้มปากแน่นไม่ได้พูดอะไรอีก “แล้วนอกจากนี้ล่ะ จำอะไรได้ไหม จำหน้าผมได้รึเปล่า”
“คุณอย่ามาโง่สิ ห้องมืดขนาดนี้ใครจะไปเห็นหน้าคุณ”แต่ก็ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นหน้าอีกฝ่าย แค่อยากหลอกด่าเท่านั้นเอง
“...”
“ผมไม่รู้จักคุณ และมั่นใจว่าไม่เคยมีคุณอยู่ในความทรงจำของผมด้วย”
“...”
“คุณมาที่นี่คราวนี้จะมาทำอะไรอีกล่ะ ทักทาย? ท้าทาย? เยาะเย้ย? บอกไว้ก่อนนะว่าคราวนี้ผมไม่แพ้แน่”จ้าวอวี้เอ่ยท้าทายกลับ
หวังเฉิงชุนยังคงตกอยู่ในภวังค์ หัวของเขาดังก้องแต่คำพูดใจร้ายของอีกฝ่าย อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นให้กับโชคชะตาของตัวเอง
ตามหาเขาแทบพลิกแผ่นดิน...แต่เขากลับเลือกไม่จำ
ช่างมันเถอะ ลืมมันไปได้ก็ดีความทรงจำที่มีแต่สิ่งเลวร้ายนั่นน่ะ...ต่อไปนี้มันควรเป็นเวลาของเขาบ้าง
...เวลาที่ในความทรงจำของเซียวเกอจะมีเพียงเขาคนเดียว
...เวลาที่เขาจะไม่ต้องเป็นตัวสำรองของใคร
...เวลาที่เขาจะเป็นคนเดียวที่ถูกรัก
...เวลาที่เขาจะไม่ใช่เงาของลู่เทียนอีกต่อไป
พอคิดแบบนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ ที่นี่ไม่มีผู้ชายที่ชื่อลู่เทียน...มีเพียงเขา...และคนรักเท่านั้น
หวังเฉิงชุนดึงร่างบางเข้ามาใกล้จนพวกเขาแทบจะแนบชิดกัน เขาอาศัยช่วงที่จ้าวอวี้ยังตั้งตัวไม่ทันก้มหัวลงไปจรดริมฝีปากบนหน้าผากเนียน
“ทำอะไรน่ะ”คนถูกลวนลามเริ่มโวยวายและดิ้นอีกครั้ง คราวนี้หวังเฉิงชุนจะยอมปล่อยอีกฝ่ายไปก่อน
“คราวนี้...ทางนี้ก็จะไม่ปล่อยไปแล้วเหมือนกัน”
ไม่ปล่อยให้ความรักของตัวเองหลุดมือไปเป็นครั้งที่สอง
______________________100%__________________
ใจนึกก็อยากย้อนอดีตแล้ว อีกใจก็บอกว่าอย่ารีบเลยพวกเขาต้องหวานกันก่อน
"คราวนี้ผมไม่แพ้แน่"
______________มีมสำหรับตอนนี้5555__________
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอหวานๆ สักตอน 555
โฮ่ รู้ตัวซะที