คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ปัญหา
9
ปัญหา
เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ก็พบโรมที่นอนกอดฉันกลมอย่างกับงู เขานี่จริงๆแล้วก็เหมือนเด็กมากเลยนะ
“จะmorning kissฉันก็ได้นะ”เขาพูดขึ้น แกล้งหลับหรอเนี่ย
“ไม่เอาหรอก นายมันอันตราย”ฉันพูดแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวไปอาบน้ำ ใช่เมื่อคืนเขาลากฉันมานอน
กับเขาที่คอนโดของเขา วันนี้ฉันต้องไปหาอาเพราะฉะนั้นคงต้องตื่นเร็ว
“จะรีบตื่นไปไหน”เขาถาม
“ทำธุระน่ะ”
“อย่างเธอมีธุระให้ทำด้วยหรอ”นั่นเขากำลังด่าฉันใช่มั๊ย
“มีย่ะ ชิ”ฉันเดินเชิดหน้าเดินตรงไปทางห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูหนึ่งผืน
และเมื่อฉันออกมาจากห้องน้ำก็เห็นโรมทำหน้าเครียดๆอยู่
“มีอะไรรึเปล่า”ฉันถามเมื่อเห็นสีหน้าของโรมเซ็งจัด
“ฉันต้องไปทำงานกับหุ้นส่วน คงไปส่งเธอไม่ได้”เขาพูดด้วยสีหน้าสลด
“ฉันก็ไม่ได้ขอให้นายไปส่งหนิ ฉันก็ส่วนฉัน นายก็ส่วนนาย”ฉันพูดแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย โรมลุกจากเตียง แล้วโน้มหน้ามาจูบที่ขมับของฉัน ก่อนจะไปส่งฉันหน้าประตู ฉันว่าแค่นี้ไม่ต้องส่งก็ได้ ฉันนั่งแท็กซี่ไปที่มหา’ลัยและใส่แว่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ฉันอยู่ในฐานะนักเรียน และผู้บริหาร เมื่อฉันก้าวเข้ามาสู่ประตูโรงเรียนก็มีเหล่าประธานนักเรียนมายืนต้อนรับ รวมถึงคณะกรรมการกิจกรรมต่างๆ แล้วยัยแกรนด์ซึ่งมีหน้าที่เป็นรองผู้บริหาร และพรัมรองผู้ช่วยผู้บริหาร และอาฉันที่มารับหน้าที่ผู้อำนวยการแทนพ่อ อาฉันเจ้าชู้แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษดี และก็มีคณะกรรมการชั้นผู้ใหญ่อีก3คน และเมื่อเข้าห้องประชุมฉันก็เกิดสงสัยขึ้น
“ที่นั่งขาดไป3ที่”ฉันพูดขึ้นแล้วหันหน้าไปหาอา
“คือว่า หุ้นส่วนของเรายังมาไม่ถึงน่ะ”อาฉันกลัวฉันนิดหน่อย เพราะฉันเป็นผู้หญิงโหดผู้ชายทั้งบ้านเลยกลัวฉันรวมถึงพ่อฉันด้วย และเมื่อมีเสียงเปิดประตูขึ้นชาย2หญิง1ก็เดินเข้ามา
“โซล”ฉันอุทานขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งเข้ามา และต้องขอเหวอหนักว่าเดิมเมื่ออีกสองคนที่เดิมมาคือ โรมกับยัยแมตตี้ แต่ตอนนี้ที่ฉันช็อกคือ โซล ว่าที่คู่หมั้นของฉัน ฉันไม่ได้ชอบเขาหรอก แต่มันก็เหมือนโรมนั่นแหละคลุมถุงชน
“มิน ไม่ได้เจอกันนาน”โซลพูดขึ้นแล้วส่งยิ้มมาให้ฉัน ถ้ามองแบบนี้เขาจะเป็นสุภาพบุรุษสุดๆแต่ว่าลับหลังเขาก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไป และเขาอีกนั่นแหละก็เป็นส่วนหนึ่งให้ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้าน เพราะเขาเข้าออกบ้านฉัน เช้า สาย บ่าย เย็น เลยน่ะสิ
“นั่นสินะ”ฉันไม่ค่อยอยากพูดอะไรมาก เพราะฉันจะไม่เอาเรื่องงานมารวมกับเรื่องส่วนตัว เขาเลื่อนเก้าอี้และนั่งลงข้างๆฉันโดยมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ของโรมอยู่ตรงข้าม
“นี่แกมีแฟนอยู่แล้วแล้วมาเข้าหาโรมของฉันทำไม”ยัยแมตตี้เริ่มโวยวายเมื่อเห็นว่าโซลส่งสายตาหวานๆมาให้ฉันทุก3นาที
“กรุณาให้เกียรติสถานที่ด้วยนะคะคุณแมติสัน เรื่องงานก็ควรอยู่เรื่องงานเรื่องส่วนตัวก็ควรจะอยู่เรื่องส่วนตัว”และคำพูดของฉันก็ทำให้แมตตี้เงียบลง ฉันนั่งฟังอาพูดและสวมบทบาทผู้บริหารได้อย่างงดงาม และเมื่อประชุมเสร็จ เซ้นส์ฉันก็บอกว่าหายนะจะมาเยือน
“นี่มินเราไปกินข้าวกันมั๊ย เราไม่ได้กินข้าวกันนานแล้ว”โซลเริ่มพูดขึ้น
“ไม่ ฉันไม่หิว”
“งั้นเราไปดูหนังก็ได้ ซ้อมเอาไว้เพื่อเราจะต้องหมั้นกันจริงๆ”ยังตื้อไม่เลิก
“ถึงจะหมั้นกันแล้วฉันก็ไม่ไป”ฉันพูดขณะเดินออกจากห้องประชุมและหวังไว้ว่ายัยแมตตี้จะไม่ได้ยินการสนทนาเรื่องหมั้น
“ก็ได้ แล้วเธอก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะ โรคหัวใจมันเป็นโรคที่ความตายอยู่ใกล้ตัว กินยาอย่าขาดล่ะ”ใช่ ผู้ชายคนนี้แคร์คนเก่งมากถ้าเขาไม่เจ้าชู้ฉันอาจจะรักเขาหัวปักหัวปำไปแล้วก็ได้
“ขอบใจ”
“นี่มินอย่าหยิ่งกับฉันสิ กลับบ้านเถอะนะ เราหมั้นกันแล้วจะได้แต่งงานกัน”
“ไว้ชาติไหนที่นายเลิกเจ้าชู้ได้ฉันจะยอมกลับไป”
“ฉันเลิกเจ้าชู้แล้วนะ”
“จะให้ฉันพิสูจน์มั๊ยล่ะ ถ้าฉันรู้ว่านายเจ้าชู้งานหมั้นของเราจะไม่เกิดขึ้น”เขาดูอึ้งๆที่ฉันยื่นหน้าไปใกล้เขา ใกล้มากจนอีกไม่กี่มิลปากเราก็จะชนกัน
“เธอทำอะไรน่ะ”เขายังคงตกตะลึงอยู่ เขาคงไม่คิดว่าฉันจะจูบเขาหรอกนะ
“หึ ผิดคาดนะที่นายมีกลิ่นน้ำหอมชาแนลนัมเบอร์ไฟล์ติดตัวอยู่”ฉันยกมุมปากขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ และฉันก็เดินจากไปทิ้งให้โซลอึ้งในการดมกลิ่นของฉันอยู่
ฉันไม่ใช่หมาหรอกนะ แต่สัมผัสของฉันมันดีน่ะ^^ แต่ฉันไม่ควรจะอารมณ์ดีสินะ เมื่อโรมยังจ้องฉันขวางแต่ไม่มียัยแมตตี้คอยเกาะกุม เขาโกรธฉันแล้วฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธล่ะเนี่ย ผู้ชายคนนี้เดาใจยากจริง
“มินรอฉันก่อนสิ เรื่องหมั้นเรายังคุยกันไม่เสร็จเลย”โซลตะโกนออกมาทำให้สีหน้าของโรมตึงเครียดกว่าเดิม ฉันใช้มือกุมขมับตัวเองแล้วรีบเร่งฝีเท้าจากสองสิ่ง หนึ่ง…การตื้อไม่เลิกของโซล และสอง…สีโกรธๆของโรม เขานี่โกรธอะไรฉันล่ะ โกรธที่ฉันไม่บอกเรื่องโซลรึไง
ผู้ชายงี่เง่า ไอ้คนไร้เหตุผล ไอ้ผู้ชาย…โธ่เอ๊ย ทำไมฉันต้องโมโหด้วยเนี่ยกะอีแค่สายตาของเขา มัยเหมือนเอามีดคมๆมากรีดที่ก้อนเนื้อข้างซ้ายของฉันเลย บ้าที่สุด
และหลังจากวันนั้นเขาก็ไม่พูดกับฉันเลย แม้แต่คำเดียวนี่ก็ผ่านมา3วันแล้ว เฮ้อ เขาเป็นอะไรล่ะเนี่ยถ้าไม่บอกแล้วฉันจะรู้มั๊ยเนี่ย ยิ่งฉลาดๆอยู่ด้วย ชิ ถ้าไม่คิดจะไม่พูดกันก็ไม่ต้องพูด อย่าฝันเลยว่าฉันจะง้อ ในเมื่อฉันไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิด
เฮอะ ผู้ชายสมัยนี้เป็นบ้าอะไรกันหมดก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้าน มาทำไมน่ะหรอก็ถูกบังคับน่ะสิ-_-จะอะไรซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่มาพบโซล ฉันรู้สึกว่าโซลเปลี่ยนไป ถึงจะไม่เลิกเจ้าชู้แต่ก็ดูแคร์คนรอบข้างดี เอิ่มคนรอบข้างของเขาก็มีฉันคนเดียวนั่นแหละ เขาดูพูดจาดีขึ้น เอาใจเก่งขึ้น แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันรักเขาอยู่ดี การแต่งงานมันต้องมาจากความรักของคน2คนไม่ใช่คลุมถุงชน ถึงฉันจะมีกำหนดหมั้นเดือนหน้าก็เถอะ แต่สิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้นคือวันนี้ที่บ้านฉันและโซล ดูจะเฮฮาปาร์ตี้หวังว่าที่ฉันคิดเอาไว้จะไม่มีวันเกิดขึ้น
“มินทำไมทำหน้าตาแบบนั้นล่ะ”พ่อของฉันถามขึ้น
“แค่อารมณ์ไม่อยากกลับบ้านมันเต็มหัว”ฉันตอบกลับไปเสียงเรียบอย่างรำคาญเต็มทน
“ไม่เอาน่ามินลูกรัก ทำใจให้สงบแล้วเรามาคุยกันเรื่องหมั้นดีกว่า”ยิ่งพ่อพูดฉันยิ่งไม่สบอารมณ์ ฉันนั่งกอดอกมองผู้เป็นพ่อตาขวาง
“มินขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะคะ”ฉันบอกญาติๆของตัวเองและพ่อแม่ของโซลก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัว
“คุณหนูมินจะมารับอะไรรึเปล่าคะ”ป้าสา แม่บ้านผู้ซื่อสัตย์ที่ทำงานให้บ้านของพวกเรามาอย่างยาวนานถามขึ้น
“มินอยากได้เค้กหลังอาหารที่ป้าสาทำให้มินทุกครั้งครั้งนี้ทำรึเปล่าคะ”ฉันถาม
“แน่นอนค่ะ ป้าไม่เคยลืมอยู่แล้ว”
“งั้นเตรียมใส่กล่องให้มินชิ้นนึงนะคะ ไม่รวมกับพวกยัยแกรนด์นะคะ”ฉันบอกป้าสาก่อนจะขอตัวกลับมานั่งที่เดิม หลังจากคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็เย็นมากแล้วฉันไปเอาเค้กที่ป้าสาแล้วกลับบ้าน พบชายที่ไม่พึงประสงค์นั่งจ้องตาแข็งไปหมด อ่า ผู้ชายคนนี้อะไรขงเขาอีก
“นี่โรมฉันเอาเค้กมาให้ กินป่ะ^^”ฉันทำเสียงหวานอย่างอารมณ์ดีทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาโกรธ
“ของแบบนั้นฉันไม่คิดจะแตะมันด้วยซ้ำ”เขาพูดเสียงแข็งก่อนลงไปนอนกองบนเตียง
“ไม่กินก็ไม่กิน ฉันจำได้ว่าบีอาร์ชอบกินเขาบอกว่าเค้กป้าสาอร่อยที่สุดในโลกเอาไปให้เขาก็ได้ในเมื่อคนแถวนี้ไม่ต้องการ”ฉันพึมพำ แต่จงใจให้เขาได้ยินก่อนจะค่อยๆลุกแล้วเอาเค้กส่วนของยัยแกรนด์ไปวาง แล้วหยิบสส่วนบีอาร์ออกมา ใช่ ทุกคนอ่านไม่ผิดหรอกฉันคิดไว้แล้วว่าโรมต้องไร้สาระแบบนี้ก็เลยเอาส่วนของบีอาร์มาจริงๆ
“ชิ ผู้หญิงงี่เง่า”เฮ้อ ฉันได้ยินนะ งี่เง่าใครกันแน่ที่งี่เง่า เอาแต่ใจ ไร้สาระ ขี้งอน
“จะไม่เถียงเลยถ้านายหัดส่องกระจกดูตัวเองซะบ้าง ผู้ชายอะไรขี้งอน"ฉันบ่นก่อนจะเดินเอาเค้กไปให้บีอาร์
ความคิดเห็น