คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : chapter9 Story Teller : Junior
Chapter 9
Story Teller : Junior
ความใกล้ชิดกำลังจะทำลายความลับของผม...
วันนี้เป็นวันอัดเสียงของพวกเราทั้งหกคนครับ เย้ พวกเรากำลังจะได้เป็นศิลปินแล้วล้ะ ตอนนี้พวกเราก็นั่งอยู่บริเวณห้องประชุม ที่ตอนนี้เหมือนห้องพักศิลปินไปแล้วล่ะครับ
แล้วตอนนี้ซิลวี่ก็กำลังอัดเสียงอยู่...
ส่วนคนข้างๆผมเนอะหรอ... กำลังใส่หูฟังแล้วฮัมเนื้อเพลงที่อยู่ในมือตามไปด้วย เฮอะ คิดว่าเท่นักหรือไง ไอ้ท่านั่ง ไอ้ใส่หูฟังแล้วกระดิกเท้าเนี่ย โห่
ขวับ !
เฮือก O_o ยังไม่ทันที่ผมจะคิดไปถึงไหน ไอ้คนที่ผมกำลังพูดถึงก็เหมือนรู้ว่าผมพูดถึง ใคร cc. ไปหารึเปล่าเนี่ย บอกมานะ!
ตูมตามหันหน้ามาจ้องผม ย้ำว่า จ้อง! ยัง มันยังไม่พอ มันยังเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมกว่าเดิมอีก เฮ้ย เมิง เอ้ย แกจะทำอะไรน่ะเฮ้ย
“นินทาอะไรอยู่” ตูมตามเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับปลดหูฟังในหูออก ยังไม่พอ มันยังจ้องเข้ามาในตาผมอย่างไม่เกรงกลัว กะ....แกต้องการอะไรจากฉัน
“ปะ...เปล่า ไม่ได้นินทา” ผมตอบแค่นั้นแล้วเลื่อนเก้าอี้เลื่อนของห้องประชุม ออกไปเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างเอาไว้ บ้า บ้าไปแล้ว มันทำอย่างนี้ก็ยิ่งทำให้ใจผมเต้นระรัวยิ่งขึ้นไปอีก
อ๊ากกกกกกกกก ควบคุมตัวเองหน่อยสิ ไอ้บ้าเนียร์
“หึ” มันแสยะยิ้มมุมปาก _///_ “แค่สายตาก็บอกแล้วว่านินทา จะบอกดีๆหรือว่าจะให้เข้าไปใกล้กว่านี้” ตูมตามพูด แต่มันไม่รอให้ผมตอบเลย มันขยับหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม แล้วยังต้อนผมจนแทบไปติดผนัง บ้าไปแล้ว ตอนนี้อวัยวะอกข้างซ้ายมันแทบจะออกมาดิ้นข้างนอกแล้วนะเฮ้ย!
ปึงงงงง !!!!!
เสียงประตูที่เปิดออก ไม่รู้ว่ามันดันเชื่อมกับเก้าอี้ หรือว่าตูมตามมันตกใจกันแน่ ใบหน้าเราที่อยู่ใกล้กัน ริมฝีปากที่อยู่ใกล้กัน มันก็เลยดันมาประกบกันโดยบังเอิญ ฮะเฮ้ยยยยย....ห้องนี้ยังมีคนอยู่อีกเยอะนะเว้ย
“พะ...พี่ตาม ทำอะไรน่ะ” ซิลวี่นี่เองที่เปิดประตูเข้ามา และเธอเองก็เหมือนกันที่ตกใจและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ประโยคที่เอ่ยออกมานั้นทำให้ตูมตามกระเด้งตัวออกจากผมทันที แต่ความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นนี้...
มันคืออะไรกันนะ
“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก พี่จะแกล้งไอ้เนียร์มันน่ะ ขอตัวนะ” ตูมตามลุกขึ้นพูดอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ส่วนตัวผมเองก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่กับที่ ในหัวยังคงติดตรึงถึงสัมผัสเมื่อครู่อยู่...
“เฮ้ ซิล ซิล เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมเหม่อล้ะ” เสียงนทที่เอ่ยขึ้น ทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์แล้วมองไปที่ซิลวี่
ใบหน้าของซิลวี่ดูเหม่อลอย เธอหันมาสบตาผมครู่หนึ่ง แล้วก็หลบตาไปนั่ง สายตาแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆในใจ เธอมีให้ตูมตามงั้นหรอ
หรือว่า...ซิลวี่จะ...
เฮ้ย จะอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับผมนี่หน่า เลิกคิดๆ
พวกเราทุกคนยังคงอยู่ในห้องประชุม และตูมตามก็ยังไม่กลับเข้ามา ตอนนี้เป็นคิวของนทที่เข้าไปอัดเสียงอยู่ แต่...ทำไมไม่มีใครชะเง้อมองหาบักปอบนั่นเหมือนผมเลยล้ะ!!!
เมื่อไรจะกลับมาว่ะ = =
งอนอะไรเรารึเปล่า...เอ๊ะ เราสิต้องงอนมัน
หรือมันจะโกรธตัวเองอยู่ เห้ย มันจะโกรธทำไมว่ะ
.
...
.....................
เดี๋ยวนะ แล้วทำไมผมต้องมานั่งคิดเรื่องมันให้เปลืองสมองด้วยเนี่ย แต่พอผมข้ามตัวเองแล้ว ไอ้ความคิดบ้าๆมากมายนั้นมันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เว้ยยยยยยยยย
ปัง!!!
ผมหลับตาปี๋ แล้วทุบโต๊ะประชุมลงแรงๆหนึ่งที ก่อนจะพูดใส่ทุกคนทั้งที่ยังไม่ลืมตานั้นว่า
“ขอตัวแปปนะครับ เดี๋ยวกลับมา”
แล้วก็วิ่งออกมาจากห้องนั้นทันที...
ผมพยายามที่จะสอดส่ายสายตาให้ทั่วถึงเพื่อที่จะหาว่ามันไปไหน ซ้าย ขวา หน้า หลัง ซอกหลืบต่างๆ ผมก็วิ่งไปดูมาหมด แต่ก็ยังไม่เห็นจะเจอคนที่พบต้องการสักที
ให้ตายเถอะ! ผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมผมต้องทำอะไรอย่างนี้ด้วย แต่ผมรู้สึกว่าที่ผ่านๆมาช่วงนี้ ตูมตามจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมมากเป็นพิเศษ ความคิดผมไปโฟกัสอยู่ที่มันแทบทุกเรื่อง ทำอะไรก็เอาแต่นึกถึงมันตลอด
แล้วยิ่งมันเข้ามาใกล้เท่าไรผมก็รู้สึกไม่เป็นตัวเองมากเท่านั้น อย่างเหตุการณ์ในห้องประชุมเมื่อกี้เป็นต้น...
ไม่ได้การล้ะ บางทีผมคงต้องหยุดความรู้สึกนี้ไว้ก่อนที่มันจะไปไกลกว่านี้ซะแล้ว
ตึก!
แรงกระแทกทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ความคิดต่างๆทันที ผมชนกับใครบางคนและในขณะที่กำลังจะเงยหน้าขึ้นไปขอโทษนั้น
“จะวิ่งไปไหนน่ะ ไอ้ตี๋” ใบหน้าพร้อมน้ำเสียงกวนประสาทแบบนี้มีอยู่คนเดียวแหละครับ ทำไมหาแทบตายไม่เจอ บทจะเจอก็เจอกันง่ายๆเงี้ยนี่นะ (ไรเตอร์มันโรคจิตแน่ๆ = =)
“ปะ...ไปไหนสักที่” ผมตอบออกไปแล้วก็อยากจะตบปากตัวเองสักที บ้ารึเปล่า ตอบไปอย่างนั้น = =
“หึหึ ออกมาตามหาก็ไม่บอก เป็นห่วงขนาดนั้นเชียว” ตูมตามพูดราวกับอ่านความคิดของผมได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่ได้การล้ะ ผมควรหนีออกจากสถานการณ์อึดอัดนี่สินะ
“ใครบอก มั่ว หลงตัวเอง ไปล่ะ” ว่าแล้วผมก็กลับหลังหันเดินไป แต่อาจเพราะผมขาสั้นด้วยมั้ง ยังก้าวไม่ทันจะถึงสองก้าว ร่างสูงก็ดึงแขนผมเข้ามาจนปะทะแรกๆกับอกของมัน แล้วยังผลักผมไปติดกำแพงอีก
ยังไม่พอ! มันยังยื่นหน้ามาประชิดอีก ไอ้บ้า ไอ้เลว
ตอนนี้หัวใจผมเต้นแรงพอๆกับการไปวิ่งร้อยเมตรเลยทีเดียว ตอนนี้เราสองคนใกล้กันมาก ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจและหัวใจของกันและกันเลยทีเดียว
หืม? เสียงหัวใจงั้นหรอ ถ้าผมฟังไม่ผิด เสียงหัวใจของมันก็เต้นแรงไปด้วย นี่มันกำลังรู้วึกตื่นเต้น หรือกำลังมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นแบบผมกันแน่
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
เราสองคนต่างเงียบแล้วฟังเสียงหัวใจของกันและกันเต้นไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีปลายจมูกตูมตามก็มาชนกับปลายจมูกของผมซะแล้ว
ผมได้แต่หลับตา รอรับสัมผัสที่จะเกิดขึ้นต่อไป ที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเกิดรึเปล่า แต่ในขณะที่ความหวานจะเข้าทาบทับนั้น...
“พี่สองคนทำอะไรกันน่ะ!”
“...!!!” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมและตูมตามชะงัก ก่อนจะถอยห่างออกจากกันเป็นวา ผมและมันมองหน้าซิลวี่ที่กำลังมองมาทางเราสองคนเช่นกัน แต่สายตาที่เธอมองมามีแต่ความงุนงง ประหลาดใจ และเสียใจ
เสียใจงั้นหรอ...
“พี่ตาม จะได้เวลาอัดแล้ว คุณกันให้มาตาม พี่ต้องไปคุยกับพี่เซนอีกด้วย” ซิลวี่หายใจเข้าลึกๆก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เพลงของตูมตามมีพี่เซน แห่งวงPhenomena ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคุณกัน โปรดิวเซอร์ของพวกเรามาฟีตเจอริ่งด้วย นี่คงต้องไปคุยกันเพื่อเตรียมการอัดล่ะสิ
“อือ ขอบคุณมากนะซิล ไปเนียร์” มันพูดแล้วลากแขนผมไปด้วย อะไรนะ ลากแขนนั้นหรอ แกจะบ้าหรือไงเล่า แล้วซิลวี่...
ผมมองไปก็เห็นซิลวี่มองตามเราสองคนมาด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง แปลก แปลกที่สายตานั้นมันไม่ได้ฉายแววประหลาดใจเลย มันมีแต่ความเสียใจมากกว่า...
“นี่ แกลากฉันมาทำไม ทำงี้ซิลวี่ก็เข้าใจผิดดิ ว่าแกน่ะรักหลงฉัน”
“หึหึ ต้องลากมาด้วยกันสิ ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวก็มีคนวิ่งตามหาเราจนทั่วตึก”
มันพูดประโยคที่ทำให้หน้าโดนเตะออกมา แต่ทำไมไม่รู้ผมกลับยิ้มออกมาอย่างหุบไม่ได้
.
...
............
ผมควรหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วนะ ว่าเป็นอะไรกันแน่?
ชายหนุ่มขมวดคิ้วกับเรื่องราวที่คนตรงหน้าเล่าให้ฟัง คราวนี้เขาเองไม่มีท่าทีที่จะแสดงออกว่าชอบใจได้อีก เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันช่างบีบหัวใจยิ่งนัก...
ก็ในเมื่อเค้ารู้ความลับของใครอีกคนมาแล้วนี่หน่า
ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าที่พยายามเล่าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ตาที่ตี่อยู่แล้วแทบจะเล็กลงจนกลายเป็นเส้นเดียว เขาเข้าถึงความอึดอัดดี
“ขอบคุณครับ ตัวตลก ไว้เราเจอกันอีก” เขากล่าว คู่สนทนาของเขาจึงได้เดินออกจากห้องไป
ลิสต์รายชื่อถูกหยิบมาอีกครั้ง ก่อนที่ปากกาจะมุ่งไปที่ชื่อของคนอีกคน ที่เขาต้องการจะรู้...
จบอีกตอนแล้วววววว น่ารักเนอะ ฮ่าๆๆ
ฝากติดตามต่อด้วยครับ
ส่วนใครอยากติดตามเรื่องราวของเก่งเซน โน่ริท กันไอซ์
ติดตามได้ที่เรื่อง “บทเพลงรัก หัวใจปริศนา” นะครับ
เป็นเรื่องก่อนที่จะมาเป็นเรื่องนี้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับผม!
ความคิดเห็น