ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Checkmate... [WonHyuk KiHae etc.]

    ลำดับตอนที่ #6 : Checkmate... - If you were here

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 52


              ฉันเสียใจที่มอบความรักแก่เธอไป
     
                  ฉันเสียใจที่รักเธอ

              ฉันเสียใจที่รั้งเธอเอาไว้
     
     
     
              ทำไมฉันต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเพียงลำพัง...
     
     
     
               
     
                " หึ... รอดูต่อไปเถอะซีวอน " เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ก้าวเท้ายาวๆเข้าไปในบริษัทออกแบบที่เค้าคิดว่าเค้าจะหาตัวช่วยในการแก้แค้นของเค้าได้แน่ๆ มือบางผลักประตูแล้วเดินเข้าไปส่งยิ้มน้อยๆให้กับประชาสัมพันธ์สาว
     
     
              "สวัสดีค่ะ ต้องการติดต่อเรื่องอะไรดีคะ"
     
     
                "ผมต้องการจะออกแบบคอนโดใหม่ เพื่อนของผมเค้าแนะนำ คิม คิบอมมาน่ะครับ ผมอยากจะคุยกับเค้าหน่อย"
     
     
                "อ่อ... เชิญที่ชั้นสองเลยค่ะ ห้องขวามือสุดเลยนะคะ"ฮยอกแจพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มแทนคำขอบคุณ ร่างบางพาตัวเองขึ้นมายังชั้นสอง ห้องขวามือสุดประตูถูกเปิดเอาไว้ ดวงตาเรียวมองเข้าไปด้านในห้อง นี่ขนาดห้องทำงานยังสวยขนาดนี้... ฮยอกแจเลือกคนถูกจริงๆเลย
     
     
                “ คุณคิม คิบอมใช่มั๊ยฮะ” ร่างสูงที่ก้มๆเงยๆอยู่กับกระดาษแผ่นหนาตรงโต๊ะออกแบบละสายตาออกมาสบเข้ากับดวงตาเรียวที่มองเข้ามา
     
                “ ครับ... เชิญเข้ามาก่อนสิ่ครับ” ฮยอกแจไม่รอให้ร่างสูงเชิญเป็นครั้งที่สอง ร่างบางย้ายตัวเองเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของร่างสูง ใบหน้าคมนิ่งเฉยแต่มันช่างดูอบอุ่น
     
     
                เพราะแบบนี้สิ่นะ... ลี ทงเฮถึงเลือกไม่ได้
     
              ระหว่าง ชเว ซีวอนที่แสนดี
     
              กับ คิม คิบอมที่แสนอบอุ่น
     
     
              “ ผม ลี ฮยอกแจยินดีที่ได้รู้จักนะ”
     
                “ ครับ...คุณมีธุระอะไรกับผมรึป่าวครับ”
     
                “ คือผมอยากจะออกแบบคอนโดใหม่ คุณจะช่วยฉันได้รึป่าว”
     
                “ ได้สิ่ครับ... แต่ค่าตัวผมแพงนะ” ฮยอกแจยิ้มเขินๆเมื่อดวงตาคมคู่นั้นจับจ้องมาที่ตัวเอง เร็วเกินไป... เหมือนว่าอะไรๆก็จะเข้าทางฮยอกแจไปซะหมดเลยนะเนี่ย
     
     
                “ ผมจ่ายให้คุณไม่อั้นอยู่แล้ว ถ้าคุณทำงานให้ผมเต็มที่”
     
                “ เอาเป็นว่าตกลงก็แล้วกันนะครับ” คิบอมส่งยิ้มเมื่อข้อตกลงปากเปล่า 
     
                “ นั่นอะไรหรอ... เราว่ามันคุ้นๆนะ” สรรพนามเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนฟังอมยิ้มน้อยๆ 
     
                “ นี่เป็นผลงานของผมเอง” ฮยอกแจยิ้มกว้างเมื่อรู้สึกว่ามันสวยถูกใจซะเหลือเกิน บทสนทนายาวเหยียดอีกมากมายสร้างสีสันให้คนทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี ทั้งสองคนดูจะเข้ากันเป็นอย่างดี ผ่านไปราวๆ 2 ชั่วโมงฮยอกแจเลยขอตัวกลับก่อน โดนอ้างว่าเค้ามีธุระด่วน ร่างบางเดินอกมาจากบริษัทออกแบบแล้วขึ้นรถไปโดนมีคิบอมเดินออกมาส่งถึงด้านหน้า ร่างสูงโบกมือลาก่อนจะเดินกลับเข้าไปทำงานเมื่อเห็นว่ารถคันหรูลับตาไปแล้ว ริมฝีปากบางแสยะยิ้มน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าอะไรๆมันง่ายอย่างที่คิด

     
     
              ก็บอกแล้วไง... ลี ทงเฮน่ะ ทำลายง่ายจะตายไป
     
              คิม คิบอมเป็นคนดี... ใช่ เค้ารู้ถึงข้อนั้นเลย
     
              แต่ว่านะ... ฮยอกแจจะไม่ทำร้ายคนดีๆอย่างคิบอม
     
              เพราะคงมีแต่ ทงเฮ กับ ซีวอนเท่านั้นที่ต้องเจ็บปวด

     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
     
     
                จงฮยอนปลีกตัวออกมาจากห้องสมุดที่แทมินและคีย์กำลังนั่งทำรายงานกันอยู่ ร่างสูงกดรับสายที่ขึ้นโชว์อยู่ที่หน้าจอ ใบหน้าหล่อเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อรับรู้ถึงน้ำเสียงจากปลายสาย
     
     
                ‘ เป็นไงบ้าง... ได้อะไรบ้างล่ะตอนนี้’
     
                “ เอ่อ... ผมก็ไม่ทราบอะไรมากนักครับ แต่ว่าเหมือนว่าคุณฮยอกแจกำลังแข่งอย่างจริงจังกับคุณซีวอนในเรื่องธุรกิจ แล้วก็ดูเหมือนจะมีอะไรเกี่ยวกับคนที่ชื่อ ลี ทงเฮเนี่ยแหละครับ” ที่เค้ารู้เรื่องนี้ก็เพราะคุณแทมินเอามาปรึกษา อันที่จริงเค้าเองก็ไม่ได้อยากจะเล่า แต่ถ้าเค้าไม่ทำ... มันก็คงจะแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่
     
     
                ‘ เด็กเล่นขายของกันทั้งนั้น... งั้นแค่นี้นะ’ ร่างสูงถอนหายใจเฮือกโตเมื่อปลายสายตัดสายทิ้งไปแล้ว ร่างสูงยัดมือถือเครื่องหรูเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เค้าโดนบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา คุณแทมินกำลังทำให้เค้ากลับมาเป็นเด็กนักศึกษาอีกครั้ง
     
                “ เอ่อ... คือพี่เรียนอยู่คณะอะไรหรอคะ”เสียงหวานของเด็กสาวที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทำให้จงฮยอนงงอยู่ชั่วขณะ แก้มใสแดงระเรื่อมากยิ่งขึ้นเมื่อเค้าจ้องมองใบหน้าสวยนั้น
     
                “ คือพี่...”
     
                “ พี่จงฮยอนฮะ... แทมินเสร็จแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ” ร่างบางที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องสมุดชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวที่เค้าจำได้ลางๆว่าเป็นดาวคณะเศรษฐศาสตร์ 
     
                “ อ่อ... คุณแทมินเสร็จแล้วหรอครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ร่างสูงก้มน้อยแล้วเดินไปหยิบหนังสือในมือของร่างบางมาถือเอาไว้ซะเอง ใบหน้าน่ารักกลับบึ้งตึงขึ้นมาซะอย่างนั้นเมื่อเห็นจงฮยอนส่งยิ้มหวานให้กับหญิงสาว


     
     
              ไม่รู้ว่าทำไม...
     
              แต่แทมินไม่อยากให้พี่จงฮยอนสนใจใครมากกว่าแทมิน
     
              ก็เท่านั้นเอง...
     
     
              “ คุณแทมินเป็นอะไรรึป่าวครับ”
     
                “ ป่าวนี่...”
     
                “ โกหกไม่ดีนะครับ” ร่างบางหน้าบึ้งหนักกว่าเดิมเมื่อได้ฟังคำพูดของร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่
     
                “ ผมไม่ได้โกหกซะหน่อย พี่จงฮยอนนั่นแหละ”
     
                “ อ้าว... พี่ผิดอะไรล่ะครับ”



     
              “ ก็พี่นั่นแหละ... ผิดแล้วยังไม่รู้ตัวเองอีก ผมไม่ชอบ ไม่ชอบ แล้วก็ไม่ชอบ ที่พี่ไปยิ้มให้กับผู้หญิงคนนั้น ไม่ชอบให้พี่สนใจใครมากกว่าผม แบบนี้พี่ยังจะคิดว่าไม่ผิดอีกหรอ” 

     
     
    “ หึงพี่หรอ...” แทนที่จงฮยอนจะสำนึกผิด แต่ร่างสูงกลับยิ้มกว้าง ร่างบางที่นั่งหน้าบึ้งอยู่เบาะหลังเลยคว้าเอาหมอนปาใส่คนขับรถส่วนตัวซะเลย
     
     
                “ แทมิน พี่ขับรถอยู่นะ” จงฮยอนเอ่ยว่าเสียงติดขำ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่สามารถดุคนที่นั่งอยู่ด้านหลังได้แม้แต่น้อย
     
     
                “ ป่าวซะหน่อย...”ถึงจะตอบไปแบบนั้นแต่แก้มขาวกลับแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
     
     
                เจ้านายตัวน้อย... หัวใจกำลังเต้นแรงใช่มั๊ย...
     
              เต้นแรงเหมือนที่บอร์ดี้การ์คคนนี้กำลังเต้นแรง
     
              หัวใจของเรากำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกันอยู่ใช่มั๊ย... เจ้านายตัวน้อย
     
     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
     
               
                ร่างบางกำลังง่วงอยู่กับการวาดภาพประกอบปกหนังสือเล่มล่าสุดที่ตัวเองกำลังจะได้ตีพิมพ์ ซองมินวางดินสอ 2B ลงข้างๆกระดาษขาวสะอาด ทั้งๆที่นั่งอยู่เกือบ 3 ชั่วโมงแล้วแท้ๆ แต่ซองมินกลับยังไม่มีภาพดีๆผุดขึ้นมาในสมองแม้แต่น้อย ญี่ปุ่นดูไม่มีสีสันเอาซะเลยในช่วง 3 เดือนหลังมานี้ คยูฮยอนยังคงโทรมาหาเค้าทุกวัน ไม่มีคำพูดใดๆทั้งนั้น นอกจากเหตุผลเดียวคือ
     
     
    ‘ ผมแค่อยากได้ยินเสียงลมหายใจของซองมิน...’
     
     
    แต่คยูฮยอนคงจะไม่รู้สิ่น่ะ... ว่าไอ้เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ซองมินไม่อยากจะหายใจต่อไปแล้ว ความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกที่ซองมินไม่รู้จัก อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้แล้วมันก็แย่มากๆ ทางสำนักพิมพ์ก็เร่งเค้ามาทุกวัน แต่เค้าก็ไม่สามารถที่จะวาดภาพอะไรออกมาได้ แค่เขียนหนังสือเล่มนี้ให้จบเค้ายังจะแทบแย่เลยล่ะ
     
     
    หลายครั้งที่เค้าคิดจะกลับไปยังที่เดิม... กลับไปที่เกาหลีไปเริ่มใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รักคยูฮยอนในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจะเมื่อไหร่เค้าก็รักคยูฮยอนคนนี้คนเดียว แต่เวลา... นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เพราะความห่างไกล เพราะสังคมใหม่ๆ หรือเพราะอะไรก็ตาม
     
     
    “ ฮัลโหล...”
     
    ‘ ซองมิน โอเครึป่าว’
     
    “ คิดว่าไม่...”
     
    ‘ ถ้าไม่ไหวก็กลับมาเถอะนะซองมิน...’
     
    “ แต่ถ้ากลับไปแล้ว”
     
    ‘ เดี๋ยวฉันสั่งฆ่ามันเลยเอามั๊ยล่ะ’
     
    “ อย่านะฮยอกแจ แกอย่าทำแบบนั้นนะ”
     
    ‘ เฮ้อ... ฉันไม่ทำหรอกหน่า แต่แกจะไม่กลับมาจริงๆหรอ’
     
    “ ไม่รู้สิ่...” ซองมินทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้างอย่างเหนื่อยล้า ปลายสายเงียบไปพักใหญ่เมื่อรู้สึกว่าเพื่อนรักกำลังไม่อยากจะต่อบทสนทนา หรือบางทีอาจจะต่อบทสนทนานั้นไม่ได้
     
    ‘ งั้นกลับเมื่อไหร่ก็บอกฉันแล้วกัน’ ซองมินเอ่ยรับก่อนจะกดสายทิ้ง บางทีถ้ากลับไปแล้วอาจจะดีกว่านี้ก็ได้นะ เพราะอย่างน้อยๆคยูฮยอนก็จะได้ไม่โทรมาฟังเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาของเค้าถ้ารู้ว่าเค้ายังมีชีวิตอยู่
     
     
              แย่จังเลยนะความรัก...
     
              ซองมินกำลังไม่อยากมีมันซะแล้วสิ่
     
     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


     
     
                นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนพอดิบพอดีหากแต่ภายในห้องก็ไร้เงาของร่างสูงที่คุ้นเคย ร่างบางนั่งนิ่งบนโซฟาคิดทบทวนหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปร่างบางรับรู้ถึงมันได้ แต่นั่นเพราะอะไรล่ะ... เค้าเองก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน เสียงข้อความเข้าเรียกสติของร่างบางให้หันกลับมาสนใจมันได้ไม่ยาก
     
     
    ‘ นอนหลับฝันดีนะเด็กน้อย... ฝันถึงซีวอนคนนี้ด้วยนะ’
     
     
    ทงเฮยิ้มหวานออกมาเมื่ออ่านข้อความเมื่อครู่ คงเพราะร่างบางกำลังสนอกสนใจอยู่กับข้อความเลยไม่ทันได้สังเกตเห็นร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องเงียบๆ ใบหน้าคมเรียบเฉยหากแต่นัยน์ตาสีเข้มกลับฉายแววปวดร้าวอย่างเห็นได้ชัด คิบอมเดินเข้าไปอาบน้ำเงียบๆแล้วก็กลับออกมาในชุดนอนตามปกติ
     
     
    “ เรารอคุยกับคิบอมอยู่หลายวันแล้วนะ... แต่ทำไมคิบอมหลบหน้าเราตลอดเลยล่ะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวด้านหลัง ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หากแต่เดินตัดเข้าไปในห้องครัว ริมฝีปากบางเม้มเกือบจะเป็นเส้นตรง
     
     
    “ คิบอมเป็นอะไรรึป่าว” ทงเฮเลือกที่จะถามออกไปอีกครั้งแทนความเงียบที่เข้ามาครอบคลุม และบรรยากาศที่น่าอึดอัด
     
     
    “ คิบอม... เราทำอะไรผิด” ทงเฮเดินมาขวางด้านหน้าคิบอมที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ได้สนใจร่างบางแม้แต่น้อย
     
    “ ไม่หรอก... ทงเฮไม่ผิดหรอก ผมเอง... ผมเองที่ผิด”
     
    “ หมายความว่ายังไงคิบอม”
     
    “ ทงเฮ... เราเป็นอะไรกัน ผมเป็นอะไรสำหรับคุณ คุณเป็นทุกอย่างของผม... แล้วผมล่ะเป็นทุกอย่างของคุณรึป่าว” เสียงทุ้มเอ่ยออกมานิ่งๆแต่แอบแฝงไปด้วยความปวดร้าวที่ทงเฮเองก็รู้สึกถึงมัน
     
    “ เรา...”
     
    “ ถ้าเป็นมากกว่าคนรู้จักแล้วต้องเสียใจ...”
     
    “.....................”
     
    “ถ้าเป็นมากกว่าเพื่อนแล้วต้องเจ็บปวด...”
     
    “.....................”
     
    “ เราเป็นแค่คนรู้จักกันก็พอ... หรือไม่ก็เป็นแค่ใครบางคนที่ไม่สำคัญก็พอ”
     
     
    “ ไม่เอา... ไม่เอานะคิบอม อย่าทำกับเราแบบนี้นะ” ทงเฮโผเข้ากอดร่างสูงจากทางด้านหลัง ดวงหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา คิบอมรู้สึกได้ถึงแรงสะอื้นที่เริ่มจะแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงกระนั้นมันก็คงไม่มากเท่ากับน้ำตาที่อยู่ในใจของคิบอม
     
    “ งั้นเลือกสิ่ทงเฮ... เลือกมาสิ่ ระหว่างผมหรือว่าซีวอน”
     
    “ ซีวอนเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็ก เราเป็นแค่เพื่อนกัน”
     
    “ เพื่อนกันเค้าไม่จูบกันหรอกนะทงเฮ... ผมเองก็เป็นมากกว่าเพื่อนของทงเฮแต่ผมก็ไม่เคยทำอะไรเกินไปกว่านั้น... “
     
    “.......................”
     
    “ ทงเฮจูบเพื่อนของทงเฮทุกคนอย่างงั้นหรอ...”
     
    “.....................”
     
    “ ถ้ามันเป็นแบบนั้น... ผมรับมันไม่ได้หรอกนะ”
     
    “ ขอโทษ... เราจะไม่ทำอีกแล้ว”
     
    “ ผมไม่ให้อภัย... ถ้าจะให้ผมให้อภัยคุณ ก็เลือกสิ่ทงเฮ... ระหว่างผมกับซีวอน”
     
    “ ฮึก... เรา… เรารักคิบอมนะ” ทงเฮกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นและแน่มากขึ้น ความรู้สึกมันเหมือนกับเค้ากำลังจะเสียคนตรงหน้าไป เค้ากำลังจะเสียคิบอมไป... 
     
     
    “ ผมไม่ได้ถามว่าคุณรักผมมั๊ย... แต่ผมให้คุณเลือก”
     
    “ เรารักคิบอม... เรารักคิบอม... เรารักคิบอม!!” ร่างบางตะโกนสุดเสียงและดังที่สุดเท่าที่จะทำได้
     
     
    ใช่... ทงเฮรักคิบอม รักมากและไม่อยากเสียไป
     
    แต่ทงเฮไม่อาจจะเลือกได้
     
    ทงเฮเลือกไม่ได้จริงๆ...
     
     
    “ พอเถอะทงเฮ...”
     
    “ ไม่เอา... ไม่เอา.. ไม่เอา!!”
     
    “ คุณจะปล่อยให้ผมทรมานแบบนี้อีกนานแค่ไหน” น้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่ได้ คิบอมหันมาเผชิญหน้ากับร่างบาง ดวงตาโตเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังร้องไห้เช่นเดียวกัน มือบางเอื้อมไปเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของร่างสูง
     
     
    “ ขอโทษ...”
     
     
    “ ขอโทษแล้วผมหายทรมานรึป่าว”
     
     
    “ ขอโทษ...”
     
     
    “ ขอโทษแล้วคุณเลือกผมมั๊ย”
     
     
    “ ขอโทษ...”
     
     
    “ ขอโทษแล้วคุณจะรักผมคนเดียวได้รึป่าว... ถ้าไม่ได้อย่าขอโทษผมอีกเลย” มือหนาแกะมือบางออกจากเดินเข้าห้องนอนไปโดยไม่หันกลับมาสนใจร่างบางที่ทรุดลงกับพื้น ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยหยุดน้ำตามากมาย
     
     
    ลี ทงเฮ มีคิม คิบอมเป็นคนที่เข้าใจที่สุด
     
    เป็นคนที่รักมากที่สุด
     
    เป็นคนที่คอยห่วงใยเค้ามากที่สุด
     
    ตอนนี้ทงเฮกำลังจะเสียคิบอมไปแล้ว
     
    เพราะความลังเลที่เกิดขึ้นในหัวใจของตัวเอง
     
    นี่รึป่าวนะ... ความรู้สึกของฮยอกแจ

             ตอนที่กำลังจะเสียซีวอนไป
     
     
    เวรกรรมมันกำลังตามสนองลี ทงเฮ
     
    ที่ไปแย่ง ชเว ซีวอน มาจาก ลี ฮยอกแจรึป่าวนะ
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


     
     
     
    ร่างสูงนั่งมองใบหน้าหล่อของเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก็จะอะไรซะอีกล่ะ คิม คิบอมเพื่อนรักของเค้ากำลังมีปัญหาหนัก แถมเป็นปัญหาใหญ่ซะด้วยสิ่ ซึ่งเค้าเองก็คงช่วยได้มาก แน่ล่ะ... ขนาดตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
     
     
    “ มึงไม่เป็นอะไรแน่นะ”
     
    “ เออ...”
     
    “ อย่ามาหลอกกูซะให้ยาก”
     
    “ เรื่องเดิมๆ คนเดิมๆ ความรู้สึกเดิมๆ” มือหนายังคงใช้ช้อนค้นลงไปในแก้วกาแฟอยู่อย่างนั้น คยูฮยอนรู้ถึงความสัมพันธ์ของคน 2 คนนี้ดีว่ามันเป็นแบบไหน ทงเฮคนที่ไม่เคยอยากจะหยุดที่ใคร กับคิบอมคนที่ไม่พร้อมจะมีใครอีก แต่สิ่งหนึ่งที่เค้ามั่นใจและเค้าเชื่อว่าทงเฮจะเป็นแบบนั้น
     
     
    ทงเฮ รัก คิบอมมากกว่าใครๆ
     
     
    แต่ก็เท่านั้น ถ้าหากว่าทงเฮยังไม่อาจจะเลือกได้ว่าจะตกลงที่ใคร ดูท่าว่าคิบอมจะหยุดซะแล้วสิ่... อยากจะหนีไปไกลๆจากคนที่รักนักหนาอย่างทงเฮซะแล้ว เพราะถ้าไม่ใช่อย่างนั้น คิบอมองไม่มองหาคอนโดใหม่แน่นอน
     
     
    ‘ คิบอมอยู่ไหน... เราอยากให้คิบอมมาอยู่ด้วย เราเหงา...’ เสียงปลายสายเอ่ยขึ้นมาทันทีที่คิบอมกดรับสายมือถือของตนเอง ร่างสูงชั่งใจอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะกดสายทิ้งไป
     
     
    “ เดี๋ยวทงเฮก็ร้องไห้อีกหรอก...”
     
    “ เดี๋ยวซีวอนก็คงจะไปปลอบใจ มันก็เป็นแบบนี้ทุกทีไม่ใช่หรอ... ไม่ว่าทงเฮจะทำอะไร รู้สึกยังไง ก็ชเว ซีวอนที่อยู่ในช่วงเวลานั้นตลอด...”
     
    “ แต่เค้ารักมึงไม่ใช่หรอวะ...”
     
    “ ความรักมันไม่ใช่ทุกอย่าง มึงเคยพูดเองจำได้รึป่าว” คยูฮยอนอยากจะเอากาแฟดำในถ้วยสาดใส่หน้าเพื่อนรักนักที่กล้าย้อนกลับมาสอนเค้า
     
     
    “ เออ... กูเคยพูด แต่กับมึงมันคนละกรณีกัน เข้าใจกูมั๊ย”
     
    “ มันต่างกันตรงไหนวะ... อ่อ มีตรงนึงที่ต่าง”
     
    “ อะไรวะ...”
     
    “ ซองมินรักมึงคนเดียว มีมึงคนเดียว ห่วงใยมึงคนเดียว มีหัวใจให้มึงคนเดียว... ไม่เหมือนทงเฮซักนิด”
     
     
    ใช่... ซองมินน่ะรักคยูฮยอนคนเดียว
     
    ห่วงใยและดูแลคยูฮยอนคนเดียว
     
    มีหัวใจเอาไว้ให้คยูฮยอนคนเดียว
     
     
     
    แต่ทงเฮ ไม่ใช่...
     
    ทงเฮรักคิบอม... แต่ไม่ได้รักแค่คนเดียว
     
    ทงเฮน่ารัก... แต่ไม่ได้น่ารักกับคิบอมคนเดียว
     
    ทงเฮห่วงใยและดูแล... แต่ไม่ได้ดูแลและห่วงใยคิบอมคนเดียว
     
    ทงเฮมีหัวใจ ใช่... แต่ทงเฮก็ไม่ได้มีหัวใจไว้ให้คิบอมคนเดียว
     
     
     
    รู้อะไรมั๊ย หัวใจน่ะ... ถ้าถูกแบ่งมากๆ
     
    มันก็จะไม่ใช่หัวใจอีกต่อไป...
     
    .
    .
    .
    .
    .
     
     
                คยูฮยอนขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของโรงแรม ร่างสูงหอบเอาแฟ้มงานที่เบาะข้างมาไว้แล้วเดินเข้าไปในคอนโด ร่างสูงเอ่ยทักทายคนดูแลความปลอดภัยทางด้านน้าเล็กน้อยแล้วจึงเดินเข้าไปด้านใน ประชาสัมพันธ์สาวยิ้มให้เค้าก่อนที่จะเอ่ยเรียกเค้าเอาไว้
     
                “ คุณคยูฮยอนคะ”
     
                “ ครับ...”
     
                “ มีพัสดุส่งมาให้ค่ะ”
     
                “ อ่อ... จากไหนหรอครับ”
     
                “ รู้สึกว่าจะเป็นญี่ปุ่นนะคะ นี่ค่ะ” หญิงสาวยื่นกล่องกระดาษที่เพิ่งหยิบมาจากโต๊ะด้านในส่งให้ร่างสูง คยูฮยอนเอ่ยขอบคุณก่อนที่จะรีบขึ้นไปบนห้อง ร่างสูงวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่ใส่ใจนัก ร่างสูงโปร่งนั่งลงเก้าอี้ทำงานแล้วยกกล่องกระดาษขึ้นมามองอย่างสนใจ ไม่รู้ว่าเพราะลายมือที่คุ้นเคยหรือว่าใบหน้าหวานที่นึกถึงกันแน่ที่ทำให้คยูฮยอนยิ้มออกมาได้ง่ายๆ
     
     
              ‘ หนังสือเล่มใหม่พิมพ์เสร็จแล้ว เลยส่งมาให้ลองอ่านดู’
     
     
              ลงท้ายข้อความด้วยชื่อที่คุ้นเคย ลี ซองมิน คยูฮยอนค่อยๆหยิบหนังสือที่วางอยู่กล่องขึ้นมามองช้าๆ เพียงแค่ภาพหน้าปกก็ทำให้เค้าถึงกับน้ำตาคลอ   ภาพวาดร่างๆด้วยเส้นสีสีดำที่เค้าคิดว่าคนวาดคงจะใช้เพียงแค่ดินสอ ใบหน้าเลือนรางหากแต่เค้ามองออกว่าเป็นใบหน้าใคร มันเป็นเค้า... ภาพหน้าหันข้างมันเป็นหน้าของเค้า แถมชื่อเรื่องก็ทำให้เค้าเจ็บปวดใจอีกครั้ง
     
     
              ‘ เวลาหรือที่พิสูจน์ความรัก...’
     
     
              ไม่ใช่คำที่ดีในการบอกเล่า หากแต่เป็นคำถามที่ทำเอาคยูฮอยนจุกอย่างบอกไม่ถูก ร่างสูงเปิดอ่านตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย แปลกที่หนังสือเล่มหนามากมายแต่เค้ากลับอ่านมันจบภายในเวลาเกือบๆ 5 ชั่วโมงกว่าๆ หยดน้ำใสไหลลงอาบแก้ม มือหนายกขึ้นปาดมันออกลวกๆเมื่อรู้สึกถึงน้ำตาของตนเอง
     
     
              ‘ หากเลือกที่จะเดินย้อนกลับมา... ฉันก็ยังรอ
     
     
    แต่ถ้าเธอไม่เลือกที่จะเดินย้อนกลับมา... น่าแปลกนะ ที่ฉันก็ยังจะรอ
     
    ไม่ใช่เวลาหรอกนะที่พิสูจน์ความรัก...
     
    หากแต่เป็นใจของเราสองคนไม่ใช่หรือ
     
     
    ฉันภาวนาให้เธอกลับมา
     
    จะยังคงภาวนาและจะภาวนาต่อไป
     
    สักวันเธอคงเห็น... คำขอร้องของฉันฝากไปกับสายลม ข้ามทะเลที่กั้นกลางระหว่างเราไว้
     
     
     
    ข้อความในหน้าสุดท้าย... ขอความที่สื่อมาถึงตัวเค้า เรื่องราวในหนังสือมันไม่ใช่เรื่องเล่า หรือเรื่องที่ซองมินคิดขึ้น หากแต่มันเป็นความรู้สึก และเรื่องราวที่ผ่านมาตลอด 3 ปีระหว่างเค้าทั้ง 2 คน
     
    “ ผมควรจะกลับไปใช่มั๊ย...”
     
     
     
    “ แต่ถ้าผมกลับไป... ซองมินจะทนคนเห็นแก่ตัวคนนี้ได้รึป่าว”
     
     
     
     
    ใช่... ถ้าเค้ากลับไปซองมินจะยังรักเค้าอยู่มั๊ย
     
    จะยังคงมีเค้าเป็นที่หนึ่งและคนเดียวอย่างที่คิบอมบอกรึป่าว
     
    แต่ถ้าหากกลับไปแล้วทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนเดิมล่ะ
     
    ถ้าทุกอย่างต้องเจ็บปวด ต้องทำให้เค้าทรมาน
     
    โจ คยูฮยอนก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพอสำหรับ ลี ซองมินนั่นล่ะ
     
    เพราะโจ คยูฮยอนก็เป็นแค่ ผู้ชายขี้ขลาด
     
    ที่ไม่กล้าเดินกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาด
     
     
     
    ที่เคยพูดว่า ความรักไม่ใช่ทุกอย่าง
     
    มันก็คงเป็นแค่... คำพูดที่เอาไว้โกหกตัวเองสิ่นะ
     
     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

     
     
     
    วันนี้เป็นวันหยุดและแน่นอนว่าคนก็ค่อนข้างจะเยอะ ในสวนสาธารณะที่แสนจะร่มรื่นแบบนี้ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คู่รักมากมายต่างพอกันมาเดินชมแม่น้ำ บ้างก็มานั่งรับลมชมวิว หรือบ้างก้มาปั่นจักรยานเล่น
     
     
    “ ไม่เอาหรอก คิบอมขี้โม้” ร่างบางในเสื้อยืดแขนยาวเท่าข้อศอกกำลังดึงรั้งชายเสื้อกันหน้าสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังจะวิ่งหนีไป ร่างสูงยิ้มกว้างแก้มแทบแตกเมื่อเห็นร่างบางกำลังพยายามรั้งไม่ให้เค้าวิ่งออกไป หลังๆมานี้เค้ากลับคิบอมสนิทกันมากขึ้น และยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
     
     
    “ อะไรล่ะ... แค่นี้เองจะกลัวทำไม”
     
    “ ก็เรากลัวล้มอะ”
     
    “ อะไรล่ะ... ฮยอกแจทำเป็นขี้กลัวไปได้”
     
    “ คิบอม คิบอม คิบอมจะล้มแล้วอะ” ร่างบางพยายามรักษาสมดุลตัวเองไม่ให้ล้มลงไปกับพื้นเพราะเจ้ารองเท้าสเก็ตสีสวยที่สวมอยู่ที่เท้า คิบอมเห็นแบบนั้นเลยยิ่งอยากแกล้งร่างบางหนักขึ้นไปอีก
     
    “ ฮยอกแจ...ฮ่าๆๆ” ร่างสูงเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของฮยอกแจแล้วเขย่าแรงๆ ร่างบางก็ด้วยความกลัวก็เลยรีบคว้าคอของร่างสูงเอาไว้เป็นหลัก แต่ดูเหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะด้วยความที่คิบอมเล่มเก่งมากก็เลยได้ที
     
     
    “ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว” ฮยอกแจนั่งลงแล้วจัดการถอดรองเท้าสเก็ตแล้วเดินกลับไปนั่งรอที่ม้านั่งใกล้ๆ คิบอมรีบไถลมาอยู่ไกลๆร่างบางที่นั่งหน้าบึ้งรอเค้าอยู่
     
     
    “ ฮยอกแจจะกลัวอะไรล่ะ”
     
    “ ก็ถามล้มแล้วมันเจ็บนะ”
     
    “ ผมอยู่ด้วยทั้งคน...”
     
    “ คิบอมไม่ปกป้องเราหรอก แถมจะแกล้งเราอีกด้วยซ้ำ น่ากลัวกว่าตอนที่ไม่มีคิบอมอยู่อีก” ร่างสูงอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นคนขี้งอนกำลังจะเริ่มโกรธเค้าอีกครั้งหากเค้าแกล้งคนตรงหน้าอีก
     
    “ งั้นเราเลิกเล่นสเก็ตแล้วไปปั่นจักรยานกันดีกว่าเอามั๊ย” ฮยอกแจไม่ได้ตอบอะไรแต่พยักหน้ารับ คิบอมเลยถอดรองเท้าสเก็ตออกแล้วเอื้อมมือไปรั้งมือบางเข้ามากอบกุมแล้วเดินไปพร้อมกัน ฮยอกแจได้แต่ยิ้มน้อยๆในความอบอุ่นนั้น
     
     
    ความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกปกป้อง
     
    มีคนคอยเคียงข้างและเดินไปด้วยกัน
     
    มันอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...
     
     
     
    ทำไม ลี ทงเฮถึงเป็นคนโง่แบบนี้นะ
     
    ทำไมถึงปล่อยให้คนๆนี้ต้องเป็นคนโง่แบบนี้ล่ะ
     
    ทั้งๆที่คิบอมคนนี้ แสนดีซะจนตัวเค้าเองยังหวั่นไหว
     
    เอ๊ะ... หรือว่า ลี ทงเฮจะยังไม่รู้กันนะว่ากำลังจะเสียคิม คิบอมไป
     
    ถ้างั้นสงสัยว่า ลี ฮยอกแจ คงจะต้องทำให้ ลี ทงเฮหายโง่ซะแล้วสิ่
     
     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

    100 % อย่างรวดเร็วค่ะ แหะๆๆๆ
    หลายคอมเม้นท์อยากให้เป็นบอกฮยอก (แล้วก้บอกว่าล้อเล่น 55+)
    อันที่จริงไรท์เตอร์ก็เริ่มโลเล กร๊าก กกก (ล้อเล่นเหมือนกันค่ะ คุคุคุ)

    ตอนนี้ไม่มีชเว ซีวอน ฮ่าๆๆๆๆ ไรท์เตอร์งอนคุณชายนิดหน่อยค่ะ
    แต่ว่าตอนหน้าคุณชายจะเริ่มเยอะขึ้น สัญญาๆๆ
    พยายามจะเพิ่มๆคยูมินให้ค่ะ 
    แต่จริงๆเพราะว่าตอนนี้เค้าอยู่ห่างกัน ก็เลยน้อยๆหน่อย
    เพราะว่าต้องเคลียร์คู่อื่นก่อน แหะๆๆๆ

    ตอนนี้ก็เริ่มจะกระจ่างว่าฮยอกแจจะทำลายทงเฮยังไง
    หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
    ฮยอกแจก็เลยใช้วิธีทงเฮซะเลย
    ตอนหน้าจะเป็นอย่างไรต้องติดตามๆๆค่ะ


    มีอะไรก็ติชมกันเต็มที่เลยนะ ไรท์เตอร์จะได้ปรับปรุงนะคะ
    แต่ตอนนี้ขอตัวไปอ่านหนังสือสอบก่อน (ยังไม่ได้อ่านเลย 55+)
    ใครสอบขอให้ได้คะแนนเต็ม สาธุๆๆๆๆ (ขอทุกรอบเลย เอิ๊กๆๆๆ)
    ^_____________^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×