คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Checkmate... - What should I do?
ใจเย็นๆ... ยังมีเวลาคิดอีกเยอะ
ทั้งเรื่องของทงเฮ
เรื่องของคิบอม
แล้วก็...
เรื่องของ ชเว ซีวอน
ฮยอกแจกำลังหัวเสียและมันเริ่มจะมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ เกือบ 2 อาทิตย์แต่ฮยอกแจก็ยังไม่สามารถแก้ไอ้เจ้าความมั่นใจในตัวเองขั้นเทพของร่างสูงที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจสอบเอกสารบนโต๊ะทำงานได้เลย มิหนำซ้ำ เดี๋ยวนี้ยังอวดดีกับเค้าอีก
“ คุณควรกับบริษัทของคุณไป”
“ หือ...”
“ ผมบอกว่าคุณควรกลับไป”
“ เพราะอะไรล่ะ”
“ คุณควรไปดูแลกิจการของคุณ”
“ ฉันมีคนที่ฉันไว้ใจได้และค่อนข้างจะน่าไว้ใจดูแลอยู่แล้ว” ปากก็พูดไปแต่ในใจกลับรู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย คนที่เค้าไว้ใจทั้งสองคน เฮ้อ... แทมินแอบโทรมาฟ้องเค้าเกือบจะทุกวันว่าสองสาว(??)สิก้าเค้าเมากันทุกวัน เหตุผลน่ะหรอ... เจสสิก้าบอกว่าเครียด ส่วน ฮีสิก้าบอกว่าแฟนบินกลับจีนไปแล้ว เอ้อ!! เหตุผลฟังขึ้นกันทุกคนเลยโว้ย...
“ คุณต้องการอะไร”
“ถามครั้งที่ล้านได้แล้วมั้ง”
“ แต่คุณก็ไม่เคยตอบ”
“ ต้องการอะไรน่ะหรอ... อืม... ความสะใจ ไม่สิ่... ความสุข”
“ แล้วทุกวันนี้นายมีความสุขรึไงฮยอกแจ”
“ ไม่...”
“ แล้วนายจะยังคงเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน”
“ ไม่รู้สิ่”
“ ฮยอกแจโตๆกันแล้ว มีเหตุผลหน่อย”
“ รู้อะไรมั๊ยซีวอน... นายพูดเหมือนนายกำลังเป็นห่วง...”
“ใช่ ผมกำลังเป็นห่วง”
“ ทงเฮ...”
“ ทงเฮไม่เกี่ยว ฮยอกแจ... นี่มันคือเรื่องระหว่างฉันกับนาย แค่ซีวอนกับฮยอกแจ” ฮยอกแจฝืนหัวเราะออกมาน้อยๆคล้ายกับหัวเราะเยาะตัวเอง
“ บางทีถ้ามันเป็นเรื่องของเราสองคนเมื่อ 2 ปีก่อน มันก็คงจะดีกว่านี้”
“ ...........................”
“ เรื่องของความรู้สึก ฉันจะไม่โทษว่าใครผิด”
“ ...........................”
“ แต่เรื่องของการกระทำ คนที่ผิดคือนายกับทงเฮ”
“ เรื่องนั้นใช่มั๊ย... คืนที่ทงเฮรับปริญญา คืนนั้นใช่มั๊ย...” ดวงตาเรียวว่างเปล่าไปชั่วขณะ แต่ก็กลับคืนมาสู่ปกติได้ในไม่ช้า เรื่องราวในอดีตที่อยากจะลืม แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
“ อย่าพูดถึงมันอีกเลย”
“ ฮยอกแจ... เราทั้งคู่ต่างก็เมา”
“ ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัว
นายเองก็ดีใจที่มันเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรอ!”
“ ฉันรักทงเฮ...”
“ เหอะ... ฉันฟังเป็นรอบที่ร้อยล้าน”
“ และฉันก็รู้ว่ามันผิดถ้าบอกว่ารักนาย”
“ มันไม่ได้ผิดซีวอน... แต่นายจะกลายเป็นผู้ชายเฮงซวย ซึ่งสำหรับฉันนายเป็นแบบนั้น”
“ ขอโทษ...”
“ ขอโทษ มันไม่พอหรอกซีวอน... ฉันถามนายคำเดียว นายเคยรักฉันบ้างมั๊ย รักเพราะรัก... ไม่ใช่เพราะฉันน่าสงสาร...”
“ ต่อจากนี้ฉันจะ...”
“ พอเถอะ อย่าพูดมันเลย” ฮยอกแจหมุนตัวกลับหมายจะเดินกลับเข้าไปนั่งที่โต๊ะ แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆจะไม่เป็นใจนัก ดวงไฟสว่างจ้าเมื่อครู่ดับมืดลงเสียงอย่างนั้น ถึงจะเป็นเวลากลางวันแต่ผ้าม่านผืนหนากลับบดบงแสงจากดวงอาทิตย์เอาไว้ ร่างบางเอือมมือคว้าทุกอย่างที่พอจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวได้ หากแต่รอบตัวก็ไม่มีอะไรเลย
“ ไฟเป็นอะไรวะเนี่ย”
“ ฮึก....”
“ ฮยอกแจ... ฮยอกแจ นายโอเคมั๊ย”
“ ฉันไม่... ฉันไม่...ไม่”
“ ฮยอกแจนายอยู่ตรงไหน” เพราะความมืดจึงทำให้ทัศนภาพของสายตาดูจะลดลงน้อยลงจนเกือบจะเป็นศูนย์ แต่เสียงหอบหายใจแรงๆที่ดังขึ้นแทนความเงียบทำให้ร่างสูงพอจะเดินเข้าไปหาฮยอกแจได้
“ ฮึก... ฮึกๆ”
“ ฮยอกแจนายเป็นอะไร...” ถึงแม้ว่าจะอยู่ภาพในห้องเดียวกัน หาแต่ซีวอนก็ไม่กล้าเสี่ยงวิ่งพล่านเพื่อตามหาฮยอกแจ มือหนาถูกยื่นออกไปตรงหน้าพยายามเดินให้เร็วขึ้นอีกนิดเมื่อเสียงหอบหายใจดังมากขึ้นกว่าเดิม
“ ฉัน... ฮึก... หายใจ... เฮือก...ไม่ออก”
“ ฮยอกแจ ฉันอยู่นี่... นายจะไม่เป็นไร... ไม่เป็นไร ค่อยๆหายใจ” ซีวอนเดินมาทันที่จะค่อยๆทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมกับร่างบางในอ้อมแขน ฮยอกแจยังคงพยายามที่จะหายใจ เวลาอยู่ในที่มืด ดวงตาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ มันทำให้ฮยอกแจเหมือนกำลังถูกบีบทุกส่วยของร่างกายยังไงอย่างงั้น
“ ฮึก....”
“ โอเคขึ้นมั๊ย...” เสียงทุ้มเอ่ยพลางถามคนที่ดูเหมือนจะอาการดีขึ้นมาหน่อย
“ อือ...”
“ นายรออยู่นี่นะ ฉันจะออกไปดูข้างนอก”
“ ไม่เอา... อย่าทิ้งฉัน... อย่าทิ้งฉันอีกเลย” แปลกที่ก้อนเนื้อด้านซ้ายที่หน้าอกกำลังเจ็บปวดเหมือนถูกบีบแน่น คงเพราะคำพูดของร่างบางตรงหน้า... ครั้งแรกที่เค้าเคยได้ยินเค้าเองไม่รูสึกแบบนี้เลย คงเพราะเค้าไม่ได้นึกถึงคนตรงหน้า แต่ครั้งนี้ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้กันนะ...
“ นายไม่เป็นไรแล้ว ฉันอยู่นี่แล้ว ฉันจะไม่ทิ้งนายอีกแล้ว... ฉันสัญญา” ซีวอนโอบกอดร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม มือเรียวยกขึ้นกอดตอบด้วยความแน่นที่เค้าเองแทบจะหายใจไม่ออก เค้าเชื่อว่าถ้าหากอยู่ในสภาวะปกติแล้วล่ะก็ฮยอกแจคงชี้หน้าแล้วบอกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าสัญญา แต่ในเหตุการณ์แบบนี้ แค่หายใจปกติร่างบางยังลำบากเลย
เวลาผ่านไปเกือบ 5 นาทีแต่ดูเหมือนว่ามันจะแสนนานสำหรับคนสองคนที่อยู่ในห้อง เลขาฯก็ไม่ได้เข้ามาสอบถามความเป็นไปของเจ้านายทั้งสองคน คงเพราะกำลังวุ่นกับการสั่งคนลงไปแก้ไข หลอดไฟนีออนด้านบนค่อยๆสว่างขึ้นทั่วไปทั้งห้อง แสงสว่างจากหลอดไฟทำให้ซีวอนต้องหรี่ตาเพื่อปรับแสงเช่นเดียวกับร่างบางที่พอไฟสว่างก็รีบผละตัวออกจากร่างสูงทันที
“ นายโอเคมั๊ย...”
“ ก็ไม่ได้แย่ แล้วมันก็ไม่ได้ดี”
“ ฉันว่านายกลับไปพักผ่อนเถอะนะ” ร่างสูงทำท่าจะเข้าไปพยุงคนตรงหน้าที่กำลังอวดเก่งพยายามเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ทั้งๆที่ตัวเองแค่ยืนก็ยังจงไม่ไหวเลยด้วยซ้ำไป แต่ฮยอกแจก็ปฏิเสธไม่อยากรับความช่วยเหลือ
“ ไม่เป็นไร... ฉันโอเค”
“ เด็กดื้อ”
“ ห๊ะ... ใครกันแน่”
“ ปวดหัวรึป่าว”
“ ไม่...”
“ มึนๆมั๊ย”
“ ไม่...”
“ เบลอๆหรือว่ามองอะไรไม่ชัดรึป่าว”
“ ไม่... ฉันบอกว่าโอเคก็คือโอเคสิ่ เอาเวลาที่นายถามฉันไปห่วงทงเฮจะดีกว่า”
“ ฉันห่วงทงเฮมามากแล้ว เสียเวลานาทีสองนาทีห่วงนายบอกก็คงไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอก นั่งรออยู่นี่เฉยๆฉันจะไปเอาน้ำอุ่นเข้ามาให้” ร่างสูงว่าก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง ร่างบางค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง ดวงตาเรียวปิดลงอย่างช้าๆ
ลี ฮยอกแจ จะยังคงทำต่อไป...
หรือจะปิดหูปิดตา ทำเป็นว่าจำไม่ได้ว่าเรื่องคืนนั้นมันมีอะไรดีนะ
แต่มันก็ไม่ง่ายเลยนะ ถ้าจะลืมเรื่องตอนนั้น...
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ฮยอกแจทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา หลายๆอย่างมันดูแย่ไปหมด หลังจากที่ไฟดับเมื่อตอนกลางวัน ซีวอนคงจะไม่รู้ว่าฮยอกแจเป็นโรคกลัวความมืด ที่ออกจะรุ่นแรงมากด้วยซ้ำไป ที่เป็นแบบนี้ฮยอกแจจะไม่โทษซีวอน จะไม่โทษที่ทิ้งฮยอกแจไว้ที่นั่น ที่ๆแสนน่ากลัวเมื่อตอนที่ไม่มีซีวอน
ดวงตาเรียวเปิดค้างจ้องมองแสงนีออนสีส้มอ่อนด้านบน ถ้าเกิดว่ามันดับลงในตอนนี้ฮยอกแจคงแย่ ไอ้อาการหายใจไม่ออกเป็นอะไรที่ทำให้เค้าแย่สุดๆไปเลย หลายเหตุการณ์ในอดีตส่งผลมาถึงปัจจุบันและมันเริ่มจะมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนว่าจะไม่หยุดลงง่ายๆ
บางทีฮยอกแจคงต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะลืมอดีตและเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วเริ่มชีวิตใหม่ ในฐานะหุ้นส่วนร่วมกับซีวอนดีรึป่าว แต่ก็อีกแหละ... มีความบอกว่าการจมกับความหลังเป็นคนโง่ แล้วมีซักกี่คนกันล่ะที่ฉลาด
บางเรื่อง... มันก็ลืมไม่ลงจริงๆ
.
.
.
.
.
วันนี้ที่บ้านดูจะครึกครื้นมากถึงมากที่สุดเมื่อวันนี้ทงเฮเรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว หลังจากพยายามอยู่นานหลายปี คงเพราะทงเฮต้องเรียนมากกว่าฮยอกแจ 1 ปีเกือบ 2 ปี เลยทำให้ฮยอกแจมีเวลาได้เริ่มเรียนปริญญาโทไปแล้ว ซึ่งทงเฮก็บ่นอุบซะทุกทีว่าถ้าเลือกเรียนเหมือนฮยอกแจก็คงไม่ต้องรอนานขนาดนี้
“ ยินดีด้วยนะทงเฮ... ของขวัญจากฉัน” ในมือของฮยอกแจถือกล่องของขวัญกล่องเล็ก แต่ถึงจะเล็กเค้าเชื่อว่าถ้าทงเฮเปิดออกมาคงจะชอบมันเอามากๆ
“ ขอบคุณนะ” ร่างบางเอื้อมมือมารับมันไปก่อนจะค่อยๆเปิดออกดูแล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อสร้อยข้อมือสีเงินราคาแพงที่ทงเฮถึงกับบ่นอุบอิบว่าอยากได้แต่มันโคตรแพงเลยเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน
“ ชอบใช่มั๊ยล่ะ...”
“ อือ... รักฮยอกแจที่สุดเลย” ร่างบางโผเข้ากอดเพื่อนรักเอาไว้แน่น ฮยอกแจได้แต่หัวเราะกับการกระทำนั้น ทงเฮน่ารักและลั่นล้าได้เสมอหากว่าได้เจอของที่ถูกใจและชอบใจเอาซะมากๆ
“ อะ... อันนี้ของฉัน” กล่องของขวัญกล่องโตถูกยื่นให้ร่างบางทงเฮค่อยๆรับมันมาหลังจากที่จัดการใส่สร้อยของมือที่เพิ่งได้มาเมื่อครู่ นิ้วเรียวค่อยๆแกะดูอย่างชั่งใจ
“ เอาตัวอะไรมาแกล้งฉันรึป่าว”
“ จะบ้ารึไง”
“ นายน่ะขี้แกล้ง...” ว่าแล้วก็เปิดกล่องออกช้าๆแล้วก็ต้องยิ้มกว้าง หนังสือนิยายชื่อดังทั้งเซตที่เค้าหมายตาเอาไว้มาเกือบเดือน ซีวอนรู้ได้ยังไงกันว่าเค้าอยากได้มัน เค้าไม่เคยบอกใครเลยนอกจาก...
“ ฮยอกแจบอกว่านายอยากได้ แต่เค้าอยากซื้อสร้อยให้นาย เค้าเลยให้ฉันซื้อหนังสือให้แทน”
“ เห็นมั๊ยล่ะ... ฉันบอกนายแล้วว่าทงเฮต้องชอบ”
“ ครับ... คุณนาย” มือหนาบีบจมูกรั้นอย่างหมันเขี้ยว ฮยอกแจตีลงที่ไหล่หนาเมื่อซีวอนไม่ยอมหยุดแกล้งตัวเองเสียที ทงเฮอมยิ้มน้อยๆกับความน่ารักของคนทั้งคู่
คิดถูกแล้ว...
ที่ทงเฮไม่เชื่อคำว่ารัก
จาก ชเว ซีวอน...
ล่วงเลยเวลาเที่ยงคืนมานานพอควรแล้ว แต่ซีวอนกับทงเฮและเพื่อนๆคนอื่นๆยังคงดวลเบียร์กับอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เพื่อนชาวอเมริกันหลายคนเริ่มนอนแผ่หลาอยู่ที่พื้นเพราะฤทธิ์เบียร์และเหล้ามากมาย ดูได้จากขวดเปล่าของเครื่องดื่มมึนเมาหลากหลายยี่ห้อที่อยู่บนพื้น
“ พอแล้วๆๆ... กลับบ้านกันไปได้แล้วไป”
“ ฮยอกแจ๋~... โน โน โน...”
“ ไอ้เวรนี่... ฮยอกแจไม่ใช่ฮยอกแจ๋...” มือบางเขกกะโหลกเพื่อนฝรั่งคนพูดเขาให้
“ ก็ปล่อยให้ไอ้ทอมมันนอนนี่แหละ”
“ ก็ได้... แต่อย่าอ้วกก็แล้วกัน ถ้ามันอ้วกนายรักผิดชอบนะซีวอน”
“ จ้า.... คุณนายคนสวย” ฮยอกแจเลยค้อนใส่ให้ทีก่อนจะเดินออกไปนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก นั่งจนเผลอหลับไปชั่วครู่เพราะบรรยากาศชวนให้เคลิ้ม รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบๆชั่วโมงต่อมา ร่างบางลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน เพื่อนชาวมะกันนอนแผ่หลายหมดสภาพ โดยเฉพาะไอ้คนที่บอกไม่ยอมกลับบ้านหลับท่าทุเรศมากกว่าใครเพื่อนเลย
“ สงสัยจะขึ้นไปนอนกันแล้ว...” พึมพำกับตัวเองเมื่อมองไปแล้วไม่เห็นเพื่อนทั้งสองคนของตัวเอง ฮยอกแจตัดสินใจเดินไปล็อกประตูและเดินขึ้นบันไดไปหมายจะเข้าห้องนอน แต่เสียหวานที่เค้าจำได้ดีว่าเป็นเสียงทงเฮดังขึ้นอย่างแผ่วเบา มันไม่น่าแปลกหากทงเฮจะละเมอ แต่มันแปลกตรงที่มันดังมาจากห้องของซีวอน ฮยอกแจถือวิสาสะค่อยๆแง้มประตูห้องนอนของซีวอนออกอย่างแผ่วเบา
“ อือ... อย่า ซีวอน มันไม่ดี...”
“ ไม่ดีตรงไหนล่ะ...”
“ มันไม่ดี... อืม...”
“ อย่าหน่าทงเฮ...นายกำลังทำให้ฉันคลั่ง...”
“ ซีวอนมันไม่ถูกต้อง แฮ่กๆ...อื้อ...”
“ ฉันรักนาย ทงเฮ...”
ทุกภาพที่เห็นและทุกประโยคคำพูดที่ได้ยินมันทำให้ร่างบางที่ยืนมองอยู่ชาวูบ เหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่แล้วก็โดนตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเหล่า ร่างสองร่างที่ไม่รู้ว่าเสื้อหาไปไหนกำลังก่ายกกกันอย่างไม่รู้จักพอ ริมฝีปากถูกทาบทับเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่า มือบางถูกยกขึ้นปิดปากกั้นเสียงสะอื้นที่กำลังจะเล็ดลอดออกมา หยาดน้ำตาใสไหลลงอาบแก้มอย่างมากมาย
“ เดี๋ยวฮยอกแจ...”
“ ตอนนี้มีแค่เราสองคน อย่าพูดถึงคนอื่นหน่าทงเฮ”
“ แต่ซีวอนกับฮยอกแจเป็นแฟนกันนะ...”
“ ช่างเถอะหน่า
”
เจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรที่เคยเจอมา
เหมือนว่าหัวใจกำลังแตกสลายลงต่อหน้าต่อตา...
.
.
.
.
.
ฮยอกแจยกมือขึ้นบีบขมับเมื่อภายในหัวเริ่มจะปวดหนึบๆ ยิ่งคิดเท่าไหร่มันก็ยิ่งจำได้มากเท่านั้น ต่อให้พยายามที่จะไม่คิดถึงแต่มันก็ไม่สามารถควบคุมได้ เรื่องคืนนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง และมันก็ทำให้ฮยอกแจกลายเป็นแค่ใครก็ไม่รู้ในสายตาของ ชเว ซีวอน
วันที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง
โดยไม่มีใครหันหลังกลับมามอง...
.
.
.
.
.
ฮยอกแจจัดการเก็บของทุกอย่างที่เป็นของทงเฮลงกระเป๋าเดินทางทั้งหมด ร่างบางของเพื่อนรักเดินเข้ามาในห้องพลางส่งยิ้มหวานให้แก่ฮยอกแจ ใบหน้าหวานแน่นิ่งไม่ได้ส่งยิ้มตอบกลับไป หลายวันมานี้ทงเฮพยายามที่จะถามว่าเค้าเป็นอะไร แต่เค้าก็ไม่อยากจะตอบ
“ ฮยอกแจนายเป็นอะไรรึป่าว...”
“ ไม่นี่...”
“ อย่ามาโกหกนะ”
“ อือ...”
“ ฮยอกแจเราคุยกับได้ทุกเรื่องไม่ใช่หรอ”
“ แล้วนายกล้าบอกกับฉันทุกเรื่องรึป่าวล่ะ”
“ หือ...”
“ ทุกๆเรื่องที่นายทำ”
“ หมายความว่าไงฮยอกแจ”
“ เรื่องคืนนั้น... นายกล้าบอกฉันมั๊ย!!!” ร่างบางตะโกนใส่คนที่เพิ่งจะนั่งลงข้างตนพลางเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปบนหัวเตียงเหวี่ยงใส่ทงเฮ มือเรียวยกขึ้นป้องกันไม่ให้โดนใบหน้าแต่ที่มือกลับโดนปลายกรอบรูปบาดเข้า โลหิตสีแดงสดไหลออกมาน้อยๆ
“ นาย.... ฉัน...”
“ ลี ทงเฮ นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง...”
“ ฉันขอโทษ ฮยอกแจฟังฉันอธิบาย”
“ ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวทงเฮ... พอเถอะ”
“ ฮยอกแจคืนนั้นฉันกับซีวอนเราต่างก็เมาด้วยกันทั้งคู่”
“ ฉันแค่อยากรู้ว่านายทำแบบนั้นได้ไง... นายทำกับฉันคนที่เป็นเพื่อนของนายได้ยังไง!!!” มือบางคว้าเอาไหล่ของคนตรงหน้าเขย่าอย่าเอาเป็นเอาตาย น้ำตาไหลรินอาบแก้มด้วยกันทั้งคู่ หากแต่ทงเฮไม่ได้ปัดป้องมือบางที่กำลังเขย่าตัวเองเลยแม้แต่น้อย
“ ฉันจะไปแล้ว... เรายังเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอฮยอกแจ”
“ ไสหัวไปซะทงเฮ... ไสหัวออกไปจากชีวิตฉัน!!”
“ ......................”
ทงเฮคว้าเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นมาไว้ในมือ ก่อนจะส่งกรอบรูปที่อยู่ในมือให้ฮยอกแจ ร่างบางรับมันมาถือเอาไว้ รอฟังว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไร
“ เรายังเป็นเพื่อนกันใช่มั๊ย”
“ ฉันไม่คิดว่าคนที่นอนกับคนรักของฉันยังคงเป็นเพื่อนหรอกนะ!!” มือบางปากรอบรูปในมือลงพื้น เศษกระจกแตกเกลื่อนกลาดไปทั่วห้องนอน
“ ขอโทษ...” ทงเฮเดินออกจากห้องไปพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงถึงทงเฮ ฮยอกแจทรุดตัวนั่งลงบนเตียงกว้างพร้อมทั้งยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มใส ทงเฮนั่งแท็กซี่ออกไปแล้วฮยอกแจเห็น กำหนดการเดินทางวันนี้ตอน 5 โมงเย็น ทงเฮจะกลับไปเกาหลีแล้ว
ซีวอนเดินเข้ามาตอนบ่าย 2 โมง ถามหาแต่ทงเฮแล้วก็วิ่งออกไปจากบ้านเพื่อไปหาทงเฮ ฮยอกแจยังคงพยายามทำตัวเข้มแข็ง และพยายามอย่างมากเพื่อที่จะไม่ทำให้น้ำตามันท่วมหัวใจตายไปเสียก่อน ฮยอกแจเลือกที่จะเดินออกไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆเพื่อทำให้ตัวเองสบายใจมากขึ้น แต่เค้าคิดผิด ร่างสูงวิ่งมาขวางหน้าเค้าเอาไว้เสียก่อน
“ นายเป็นบ้าอะไรฮยอกแจ”
“ ทำไม...”
“ ทงเฮไปแล้ว”
“ แล้วไง...”
“ นายทำให้ทงเฮต้องไปก่อนเวลา”
“ เดือดร้อนนักก็ตามกันไปสิ่”
“ ฮยอกแจ...”
“ เรื่องคืนนั้น
”
“ กลับบ้านไปคุยกันหน่อย”
“ ไม่” ฮยอกแจเอ่ยเสียงแข็งก่อนจะเดินเลี่ยงวีวอนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ฮยอกแจกำลังก้าวออกมาไกลและเริ่มไกลขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคำว่ารักและคำว่าเพื่อนมันกำลังบีบรัดจนแน่ไปหมด ฮยอกแจยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆจนท้องฟ้าเริ่มจะมืดลง
ฮยอกแจก้าวเข้ามาในบ้าน จ้องมองไปรอบๆ ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ข้าวของสำหรับสามคนตอนนี้เหลือเพียงคนเดียว กระเป๋าเดินทางใบโตถูกนำมาวางที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งฮยอกแจจำได้ดีว่ามันเป็นของซีวอน
“ ฉันจะไป... ไปหาทงเฮ”
“ ซีวอน... ได้โปรด”
“ ตอนที่ทงเฮกำลังจะไป นายได้ขอร้องเค้าไว้รึป่าว”
“ ซีวอน นายเป้นแฟนฉันนะ...”
“ ฮยอกแจเรื่องนั้นนายคิดไปเองไม่ใช่หรอ...”
“ ฮึก... นายเป็นแฟนฉันนะ” ร่างบางสวมกอดจากท้านด้านหลังของร่างสูงที่กำลังจะเดินออกจากบ้านไป ซีวอนสะบัดตัวหลุดออกจากการกอบกุมนั้นเมื่อเริ่มทนไม่ไหว และใกล้เวลาที่เค้าจำเป็นจะต้องไปจากที่นี้แล้ว
“ นายอย่าเข้าใจมันผิด... ฉันแค่เป็นไม้กันหมาให้นายแค่นั้นเอง”
“ ฮึก... ซีวอน...”
“ ฉันกันแช็ดให้นายแค่นั้น” ร่างสูงไม่ต่อปากต่อคำอะไรอีก มือหนาลากกระเป๋าเดินทางออกไปขึ้นแท็กซี่ที่ตัวเองนักเอาไว้โดยไม่หันมาฟังคนด้านหลังแม้แต่น้อย ซีวอนสั่งให้คนขับออกรถไปแล้ว ฮยอกแจพยายามจะรั้งเอาไว้ให้ถึงที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้
“ ซีวอน... ซีวอน... ซีวอน!!!!” ร่างบางตะโกนสุดเสียงทั้งที่เท้าเรียวยังคงวิ่งตามรถแท็กซี่ที่เพิ่มความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม สองเท้าเริ่มอ่อนแรงและทรุดฮวบลงบนพื้นถนนที่เย็นเฉียบ หยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาพร้อมๆกับสายฝนหยดเล็กที่ค่อยๆสัดสาดลงมาจากท้องฟ้า
รู้แล้วว่าที่นางเอกละครร้องไห้เวลาวิ่งตามรถพระเองด้วยเท้าเปล่า
หลายครั้งที่คิดว่านางเอกอาจจะเจ็บเท้า
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าสิ่งที่เจ็บกว่า
และเจ็บมากที่สุด
คือ หัวใจ...
.
.
.
.
.
ฮยอกแจลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะหันไปมองนาฬิกาเรือนหรูที่แขวนไว้บนพนังห้อง เวลาเกือบจะตี 4 แล้ว แต่ไอ้ความทรงจำต่างๆนาๆกลับยังคงไหลออกมาจากสมองให้เค้าได้ช้ำใจเล่นอยู่อย่างนั้น ฮยอกแจนอนไม่หลับแล้วต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็ตาม
จุดจบของการเริ่มต้น
คงอยู่ตรงนี้ล่ะมั้ง...
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ครบแล้วนะคะ 100%
เพราะว่าตอนนี้เป็นอดีตเกือบจะทั้งหมด
ตอนหน้าก็ยังจะมีอดีตออกมาเรื่อยๆ
ใกล้จะถึงจุดจบแล้วล่ะ
แล้วการเริ่มต้นก็กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ตอนหน้าก็คงจะค่อยๆเคลียร์ไปทีละคู่แล้วนะคะ
ฮยอนมินหลังจากที่หวานกันมาก็คงใกล้จะรันทด (ไม่มากหรอกค่ะ)แล้ว
คยูมินก็กำลังจะดีขึ้นหรือแย่ลง (เอ๊ะ...ยังไง)
หมวยของเราเลือกแล้ว แต่ตาตี๋น่ะ.. เค้าจะเลือกด้วยรึป่าวก็คงต้องไปรอดูกันค่ะ
ฟิคเรื่องนี้อาจจะไม่ให้ความรู้สึกว่าแบบฮยอกแจสะใจ
หรืออะไรที่จะทำให้แก้แค้นได้มากมายหรอกนะคะ
(บอกไว้ก่อนแหละ... เดี๋ยวจะไม่ถึงใจวีนไรท์เตอร์ เค้ากลัวนะ ฮ่าๆๆ)
เรื่องนี้อีกไม่นาน... แค่อีกไม่นานเท่านั้น
ขอบคุณทุกคนที่ติชมและอ่านกันนะคะ
ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ ^^
ความคิดเห็น