ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Mama Ah!!
“ ฮยอกแจทำไมแกยังไม่มีแฟนซักทีวะ”
“ ก็ไม่มีใครมาจีบนี่หว่า...”
“ ถ้างั้น ทำไมแกไม่ลองไปจีบคนอื่นดูวะ”
“ ก็คุณแม่บอกว่าจีบคนอื่นก่อนมันน่าเกลียด” เป็นอันเข้าใจในคำตอบ และกระจ่างแจ้งชัดเจนที่สุด อะไรก็ แม่ แม่ แม่ แล้วก็แม่... ไอ้เพื่อนรักคนนี้มันเป็นลูกแหง่รึไงวะเนี่ย ทงเฮท้าวคางมองเพื่อนรักที่ก้มลงไปอ่านหนังสืออีกครั้ง คงได้มีใครมาจีบหรอกวันๆก็อ่านแต่หนังสือ เลิกเรียนกลับบ้าน ไปเที่ยวกับคุณแม่ ติดแหงกอยู่กับคุณแม่สุดที่รัก ใครมันจะกล้าเข้าไปจีบ แถมเผลอๆไม่วายจะควงคุณพ่อออกไปไหนมาไหนด้วย แล้วก็เป็นอันรู้กันว่าคุณพ่อของฮยอกแจน่ะหวงกว่าคุณแม่เป็นล้านเท่า ก็ลองไปจ้องดูสิ่แทนที่จะได้รอยยิ้มจากฮยอกแจอาจจะได้ลูกปืนมาแทนซักสองสามนัด
ใครไม่กล้าและดีจริง... หมดสิทธิ์!!!
.
.
.
.
.
วันนี้เป็นอีกวันที่ค่อนข้างจะแย่สำหรับฮยอกแจ เพราะวันทั้งวันต้องวิ่งวุ่นไปทั่วมหาลัยเพราะละครเวทีที่ต้องส่งแผนประชาสัมพันธ์ให้ทันตอนเที่ยงนี้แก่ทุกคณะ ร่างบางพยายามที่จะจัดการเอกสารในมือให้เข้าที่เข้าทางมากที่สุด แต่ก็นั่นแหละเพราะกระดาษแต่ละแผ่นมันค่อนข้างที่จะใหญ่ แถมยังปลิวง่ายอีกต่างหาก ก้าวเท้าได้สองสามก้าวกระดาษเจ้ากรรมก็เป็นแบบเดิน ฮยอกแจพยายามแล้วพยายามอีกแต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่ได้ดีขึ้นแม้แต่น้อย
“ เฮ้ย... ไม่นะ” ร้องเสียงหลงเมื่อกระดาษในมือทั้งหมดกระจัดกระจายตามพื้น แถมอีกหลายแผ่นยังปลิวว่อนอยู่บนอากาศอีกต่างหาก ร่างบางกระโดดคว้าเอาไว้แต่ก็ได้เพียงไม่กี่แผ่น ฮยอกแจแทบอยากจะร้องไห้เมื่อเห็นว่ามันเริ่มที่จะกระจัดกระจายไปทั่วแล้ว
“ มา... ผมช่วย” เสียงทุ้มเอ่ยจากด้านหลัง ค่อยๆคว้ากระดาษบนอากาศอย่างใจเย็น ฮยอกแจไม่ได้สนใจที่จะเอ่ยคัดค้านออกไป เพราะนี่แหละสิ่งที่เค้าต้องการ คนช่วย!! และในสถานการณ์แบบนี้ไม่สมควรที่จะปฏิเสธซักนิด
“ เอ่อ... ขอบคุณมากนะครับ” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณเมื่อเห็นว่าคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยกำลังก้มเก็บกระดาษอีกหลายๆแผ่นบนพื้น
“ ไม่เป็นไร...” ร่างสูงหันมาพร้อมกับยื่นกระดาษทั้งหมดไปตรงหน้าฮยอกแจ ร่างบางได้แต่ยืนมองนิ่ง แน่ล่ะ... ใครจะไม่ยืนนิ่งบ้างล่ะก็คนตรงหน้าน่ะ หล่อ ใบหน้าคม นัยน์ตาสีเข้มที่แทบจะทำเค้าละลาย ไหนจะรอยยิ้มนั่นอีก
“ คุณ... คุณ... เอกสารของคุณ”
“ อ๊ะ... ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ร่างสูงไม่ได้ต่อบทสนทนาให้ยืดยาวไปกว่านี้ ขายาวพาก้าวออกจากหน้าตึกทันที ร่างบางโอบกอดกระดาษทั้งหมดมาแนบตัวพลางหันไปมองชื่อคณะที่ติดอยู่บนตึกด้านหลัง
ให้ตายเถอะ
คณะเกษตรมีเทพบุตรด้วยหรอเนี่ย ทำไมฮยอกแจไม่เห็นรู้เลยอะ!!!
.
.
.
.
.
ทงเฮยกหนังสือเล่มที่อยู่บนสุดขึ้นมาดูแล้วก็ได้แต่ทำหน้าแปลกๆ ใส่หนังสือกับคนที่เดินไปหยิบมาจากชั้นหนังสือในห้องสมุดของมหาลัยที่เค้านั่งอยู่ในขณะนี้
แปลก... มันมีอะไรแปลกๆ แปลกมากๆ แปลกโคตรๆ!!!
“ ฮยอกแจ ถามจริงเถอะ... แกไปสนใจอ่านหนังสือพวกนี้มาจากไหนวะ” หน้าแดง อมยิ้ม... นั่นแหละคำตอบที่ได้รับ อะไรของมันวะ... ให้มันได้อย่างนี้สิ่ ทงเฮกำลังสงสัยอยู่ว่าตั้งแต่เมื่อวานฮยอกแจก็เอาแต่อมยิ้ม ดูมีความสุขเสียเต็มประดา มันไปเจออะไรมา... แถมยังทำท่าจะเดินไปคณะเกษตรท่าเดียว
“ นี่... ไอ้พวกในหนังสือมันก็ทฤษฎีทั้งนั้นแหละ ปฏิบัติจริงมันไม่เหมือนกันหรอกนะ”
“ จริงหรอทงเฮ งั้นฉันต้องทำยังไงล่ะ” คนถูกถามได้ฟังก็ขมวดคิ้วด้วยความงง เออ!! งงและงงมากด้วย ก็เมื่อวันก่อนถามเรื่องแฟนก็บอกว่าไม่มีใครมาจีบ พอบอกให้จีบก็บอกว่าคุณแม่สุดที่รักบอกว่ามันน่าเกลียดแล้วทีอย่างงี้มาอ่านหนังสือ ‘เคล็บไม่ลับของการจีบ ฉบับกระเป๋า’
“ ว่าแต่แกบอกว่าจีบคนอื่นก่อนมันน่าเกลียดไม่ใช่หรอวะ”
“ ก็...”
“ เออๆ ไม่ต้องหาข้อแก้ตัว... เอาเป็นว่าใครกันที่แกจะไปจีบ” อาย... ลีฮยอกแจอายม้วนอีกแล้ว ทงเฮท้าวคางมองด้วยท่าประจำที่ทำแทบจะตลอดเวลาอยู่กับฮยอกแจ แล้วมันจะรู้เรื่องมั๊ยเนี่ย มัวแต่นั่งเขินอยู่ได้ ไอ้เพื่อนคนนี้หนิ่...
“ เค้าเรียนอยู่ที่คณะเกษตรล่ะ
”
นั่นไง!! นั่นไง!! ว่าแล้วว่ามันต้องมีอะไรที่คณะเกษตร...
“ หล่อ น่ารัก แถมนิสัยดีมากๆเลยด้วย
”
นั่นไง!! ตกหลุมรักแล้วเพื่อนเรา
“ ยิ้มทีนะฉันหัวใจเต้นแรงมากเลยล่ะ...”
“ พอๆเลิกบรรยายได้แล้วว่าแต่เค้าเป็นใคร” ทงเฮยกมือห้ามก่อนที่ฮยอกแจจะเพ้อไปมากกว่านี้ ร่างบางส่ายหน้าน้อยๆเพื่อบ่งบอกว่าเค้าไม่รู้ว่าคนหล่อคนนั้นชื่ออะไร
“ งั้นก็ต้องไปถามชื่อก่อนเป็นอันดับแรก”
“ แต่ว่า...” ทงเฮไม่ได้พูดต่อเพราะรอฟังคำพูดของฮยอกแจที่จะพูดต่อ พอทงเฮได้ฟังประโยคถัดมาแล้วก็แทบจะหมดแรง ให้ตายเถอะลีฮยอกแจ... ชาตินี้แกก็ไม่มีแฟนกับเค้าหรอก
“ ขอกลับไปถามคุณแม่ก่อนได้มั๊ย...”
ให้มันได้อย่างนี้สิ่หน่า... ลีทงเฮอยากจะบ้าตาย!!!!
.
.
.
.
.
ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น วันนี้คุณแม่คนสวยของเค้าจะทำอะไรให้เค้ากินนะ อืม... คิดแล้วก็ชักจะวิ่งเข้าไปดูในห้องครัวซะแล้วสิ่ ยังไม่ทันที่จะได้เคลื่อนตัวออกไปไหน ใบหน้าหวานสวยราวกับนางฟ้าก็เดินถือถาดใส่ขนมอบใหม่ๆเข้ามาในห้อง
คุณแม่คนดีที่สุดของเค้า คุณแม่จองซู
“ หอมจังเลยฮะ”
“ แน่ล่ะ... ฝีมือแม่ไม่เป็นรองใครอยู่แล้วล่ะ ฮยอกแจชิมสิ่” ร่างบางหยิบเอาคุกกี้ในถาดขึ้นมาแล้วส่งเข้าปากแทบจะทันที ฮยอกแจฉีกยิ้มกว้างเมื่อมันอร่อยถูกใจเหมือนทุกที ทำเอาคนเป็นแม่ยิ้มตามอย่างมีความสุข จองซูขอตัวออกไปจัดการอาหารเย็น แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกออกไปไหน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็โอบกอดเค้าแน่น
“ แม่ฮะ...”
“ ว่าไงฮยอกแจ”
“ ถ้าฮยอกแจจีบคนอื่นก่อน มันจะน่าเกลียดมั๊ยฮะ” จองซูจ้องมองใบหน้าขาวใสของลูกตัวเองเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้มในความน่ารักของลูกชาย คนถูกถามยกมือขึ้นเกลี่ยผมสีน้ำตาลที่ตกลงมาปรกหน้าผากนวล
“ มันก็แล้วแต่ฮยอกแจนะ... ลูกโตแล้วแม่จะไปห้ามได้ที่ไหนล่ะ ว่าแต่คนที่ลูกจะจีบนี่เป็นคนยังไงกันจ๊ะ”
“ อืม... เค้าเป็นคนที่หล่อมากๆเลยล่ะครับ เหมือนเทพบุตรเลย”
“ หล่อขนาดนั้นเค้าจะไม่เจ้าชู้หรอ หล่อเกินไปนิสัยไม่ดีนะ
” จองซูเอ่ยขึ้นมา ฮยอกแจได้แต่ทำหน้ายู่เมื่อฟังคำจากผู้เป็นแม่
“ นิสัยดีมากๆเลยนะครับ”
“ ถ้าเค้าดีอย่างนั้นเค้าก็น่าจะมีเจ้าของแล้วนะแม่ว่า...” แล้วก็บทสนทนาอีกยาวเหยียดของแม่ลูกที่ตามมา ไม่ว่าฮยอกแจจะบอกอะไรที่เป็นแง่ดี คุณแม่สุดที่รักก็จะบอกแง่ลบออกมาเช่นกัน แล้วก็เถียงกันไปเถียงกันมาตบท้ายด้วยการแกล้งกันระหว่างแม่กับลูกซะอย่างนั้น
แล้วฮยอกแจจะจีบเค้าคนนั้นก่อนได้มั๊ยเนี่ย... คุณแม่นะคุณแม่!!
.
.
.
.
.
ทงเฮดูจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนรักมา แม้ว่าคุณแม่จะบอกว่าน่าเกลียดยังไง แต่ฮยอกแจก็ไม่อยากจะปล่อยให้คนที่ทำให้เค้าหัวใจเต้นแรงหลุดมือไปได้ หรืออย่างน้อยๆก็แค่อยากจะลองดูล่ะนะ ร่างบางสองคนเดินมาด่อมๆมองอยู่หน้าตึกคณะเกษตรเพื่อตามหาคนๆนั้นของฮยอกแจ
“ มาแล้วๆๆ... คนนั้นๆทงเฮรู้จักมั๊ย” ฮยอกแจพยักเผยิบไปทางร่างสูงที่เดินลงมาจากบันได ดวงตากลมโตมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะดีดนิ้วดังเป๊าะ มือบางลากเอาเพื่อนตัวบางเดินเข้าไปในตึก ฮยอกแจได้แต่ขืนตัวไม่เดินตามแรงที่เพื่อนรักลากไปด้วย ฮยอกแจกำลังหน้าแดงไปถึงใบหูแล้วทงเฮไม่สนใจเลยอะ!!
เอาเถอะถึงมุขนี้จะเก่า... แต่มันก็ใช้ได้ผลมาตลอดแหละ
ทงเฮทดลองมาแล้วเชื่อใจได้แน่นอน!!!
“ อ๊ะ... ฮยอกแจสะดุดอะไรเข้าทำไมถึงล้มลงไปอย่างนั้นล่ะ” ผิดแผนและทงเฮก็พลาด... เพราะดันผลักฮยอกแจเร็วไปหน่อย แทนที่ร่างสูงจะโอบรับร่างบางเอาไว้แต่ดันเป็นว่าฮยอกแจล้มลงไปตรงหน้าร่างสูงพอดี เอาหน่า!! อย่างน้อยมันก็ไม่ซ้ำวิธีกับใครๆเค้านั่นล่ะ เอาล่ะ... อ่อยเลยฮยอกแจ คนที่เพิ่งจะผลักเพื่อนลงไปนั่งกับพื้นพยายามส่งสัญญาณให้คนที่นั่งหน้ายู่อยู่บนพื้น ร่างสูงมองอย่างงงๆก่อนที่จะค่อยส่งมือไปให้คนที่อยู่ตรงหน้า
เยี่ยมยอด!!! ผ่านด่านแรกแล้ว ลีฮยอกแจสู้ๆ!!
“ เป็นอะไรรึป่าวครับ” ร่างสูงค่อยๆดึงร่างบางให้ลุกขึ้นยืน มือหนาที่กอบกุมมือของตัวเองเอาไว้อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ฮยอกแจพยายามจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแต่ทงเฮที่ยืนอยู่ข้างๆส่งสัญญาณบอกว่าอย่าเพิ่งลุกไปง่ายๆ
“ โอ๊ย...” มือบางอีกข้างกุมลงไปที่ข้อเท้าข้างขวาแล้วนิ่วหน้าคล้ายกับเจ็บมากๆ ทั้งๆที่จริงๆแล้วตรงที่เจ็บน่ะสะโพกที่กระแทกลงไปกับพื้น ทงเฮรู้แล้วล่ะว่าทำไมฮยอกแจถึงได้เล่นละครเวทีบ่อยๆ อ๊ะๆๆ....ไม่ได้ว่าเพื่อนตัวเองนะ แต่มันเป็นอย่างงั้นจริงๆ ไหนบอกว่าจีบก่อนมันน่าเกลียดไง
อ่อ!! ลืมไปคุณแม่ฮยอกแจบอกว่าจีบก่อนน่าเกลียด แต่ไม่ได้ห้ามอ่อยก่อนซะหน่อย...
“ สงสัยเท้าจะพลิก เดี๋ยวผมนวดให้แล้วกันนะ” ร่างสูงค่อยๆย่อตัวลงนั่ง มือหนาบีบนวดข้อเท้าบางอย่างเบามือ ฮยอกแจอมยิ้มบางๆเมื่อร่างสูงหันมายิ้มให้เป็นบางครั้งบางคราว ทงเฮที่ยืนอยู่ตรงนั้นเลยค่อยๆเดินออกไปทางด้านหลังเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเค้ากำลังไปได้ด้วยดี
“ ต้องเดือดร้อนคุณอีกแล้ว... ผมนี่แย่จังเลยนะครับ”
“ ไม่หรอก ว่าแต่คราวหน้าคราวหลังคุณควรระวังให้มากกว่านี้นะ” ร่างสูงยังคงบีบนวดต่อไปเมื่อฮยอกแจนิ่วหน้าด้วยความเจ็บอีกครั้ง
“ ขอบคุณมากนะครับ คุณ... เอ่อ...”
“ ผมซีวอนครับ ชเวซีวอน” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มให้คนตรงหน้า โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฮยอกแจกำลังจะระเหยกกลายเป็นไอลอยขึ้นไปบนฟ้าเพราะความร้อนจัดบนใบหน้าซะแล้ว
ด่านสอง... ถามชื่อ ลีฮยอกแจเคลียร์!!!
หลังจากทำความรู้จักแล้วก็พูดคุยกันได้ซักพักก็ถึงเวลาต้องแยกจากกันแล้วเพราะซีวอนต้องรีบไปเรียนต่อ ฮยอกแจส่งยิ้มหวานๆให้คนที่อาสาเดินมาส่งที่คณะเพราะเห็นว่าเค้ายังเดินไม่ค่อยจะถนัด มือเรียวยกขึ้นโบกไปมาเล็กน้อย ตลอดทางซีวอนกับฮยอกแจคุยกันถูกคอมากๆ อันที่จริงเค้าน่ะไม่ได้รักธรรมชาติอะไรขนาดนั้นหรอก... อ๊ะๆแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบนี่หน่า
“ เอาไว้วันหลังผมจะบอกวิธีการดูแลต้นไม้ให้นะ ถ้าคุณฮยอกแจต้องการ”
“ ขอบคุณนะคุณซีวอน”
“ ซีวอนเฉยๆก็พอ... ไม่ต้องทางการขนาดนั้นก็ได้ ผมไปก่อนนะ” ฮยอกแจพยักหน้ารับน้อยๆแล้วฉีกยิ้มหวานสัญลักษณ์ประจำตัวไปให้ ร่างสูงเดินลับตาไปแล้วแต่คนจ้องมองยังคงยิ้มหวานตามอย่างเคลิ้ม ทงเฮเดินเข้ามายืนข้างๆเพื่อนรัก
“ เป็นไงบ้าง”
“ จับมือ รู้จักชื่อ เดินคุยกัน แล้วก็....” มือบางตะครุบปากเรียวเอาไว้ได้ก่อนที่จะแผดเสียงร้องออกมา ทงเฮถอนหายใจเฮือกโตเมื่อสามารถกลั้นเสียงทั้งหมดนั้นเอาไว้ได้
รู้แล้วล่ะทำไมคุณแม่ฮยอกแจถึงไม่ให้จีบก่อน... ก็เพราะเป็นอย่างนี้นี่เอง - -*
.
.
.
.
.
ร่างบางก้าวเท้ายาวๆเข้าไปในคณะเกษตรส่งยิ้มหวานให้คนที่เดินผ่านไปมา มือบางทั้งสองข้างโอบอุ้มกระถางต้นไม้ที่ภายในบรรจุต้นไม้ต้นจิ๋วเอาไว้แน่น รอยยิ้มไร้เดียงสาผุดขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงวันที่เค้ากับใครอีกคนช่วยกันปลูกหลังๆมานี่ฮยอกแจมาที่นี่จนใครๆจำกันได้หมดแล้ว สาเหตุที่เจ้าตัวบอกก็ทำให้หลายๆคนแอบยิ้มออกมาได้ง่ายๆ ผิดกับทงเฮเพื่อนรักที่จะเบ้หน้าทุกทีที่ได้ยินเค้าตอบแบบนั้น ผิดนักรึไงที่เค้าจะตอบว่า
‘ ผมรักต้นไม้น่ะครับ ’
ข้ออ้าง... ??
เปล่าเลย...ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น
แต่พักหลังๆมานี้ผมดูจะมีความสุขกับต้นไม้เอาซะมากๆ
“ อ้าวฮยอกแจ... วันนี้ก็มาอีกแล้ว แล้วในกระถางนั่นต้นทิวลิปหรอ” รุ่นพี่ปีสี่ที่ฮยอกแจจำได้ลางๆว่าเป็นพี่รหัสของซีวอนเอ่ยถามเสียงใสพลางส่งยิ้มน่ารักมาให้เค้า
“ ครับ... ต้นทิวลิปครับ” ร่างบางส่งยิ้มหวานให้ คุยกันอีกสองสามประโยค เมื่อรุ่นพี่คนดีแนะนำเคล็ดลับที่จะทำให้ต้นทิวลิปโตเร็วๆและออกดอกไวๆแก่เค้า
ฮยอกแจก้าวเท้ายาวๆเดินไปยังเรือนเพาะชำที่อยู่ด้านหลังของตึกเรียน เค้าเองบอกตามตรงว่าเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยได้มาที่คณะเกษตรซักเท่าไหร่หรอก เพราะเค้าคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ มิน่าล่ะ... เค้าถึงได้ไม่รู้จัก ชเวซีวอน เจ้าชายแห่งคณะเกษตร เพราะส่วนใหญ่คณะเกษตรจะทำงานร่วมกับคณะประมงไม่ค่อยได้ร่วมกับคณะอื่นๆ สองคณะนี้ค่อนข้างจะมีคนเรียนน้อย ถ้าเทียบกับคณะบริหารหรือศิลปกรรม ซึ่งอันที่จริงฮยอกแจก็ว่าคนที่เรียน 2 คณะนี้ก็เยอะอยู่นะ
“ อ้าวฮยอกแจ... วันนี้เอาทิวลิปมาด้วยหรอ”
“ ก็ซีวอนบอกว่าให้ช่วยกันปลูก วันนี้เวรซีวอนดูต้นทิวลิปของเราแล้วล่ะ” ร่างสูงทำท่าคิดน้อยๆก่อนจะตอบออกมา เค้าลืมไปจริงๆว่าวันนี้ถึงเวลาที่เค้าต้องดูแลต้นไม้ที่ช่วยกันปลูกแล้ว...
‘ ต้นทิวลิปของเรา ’
คำนี้ยังไงๆมันก็แปลกอยู่ดีนั่นล่ะ
“ วันนี้ซีวอนไม่มีเรียนหรอถึงได้มาอยู่เรือนเพาะชำ”
“ อือ... พอดีว่าผมทำรายงานเสร็จแล้วก็เลยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเรียนน่ะ” ร่างบางพยักหน้ารับพลางเอื้อมมือไปจับกลีบดอกกุหลายแดงที่อยู่ตรงหน้าอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มหวานถูกวาดขึ้นที่เรียวปากบางมันเป็นภาพที่น่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 2 เดือนแล้ว ฮยอกแจมาที่นี่ทุกวันแล้วมันก็เป็นทุกวันจริงๆ เพราะวันไหนที่เค้าไม่มาเค้าก็จะได้ยินเพื่อนเค้าเล่าว่าวันนี้ฮยอกแจก็มา
เค้ารู้จุดประสงค์ของฮยอกแจ... เค้าไม่ได้โง่ซะหน่อย
แต่ถ้าฮยอกแจยังไม่ยอมพูด... เค้าเองก็คงไม่พูดเหมือนกัน
เค้าไม่อยากบ้าไปเองข้างเดียว...
ชเวซีวอนไม่อยากบ้ารักลีฮยอกแจข้างเดียวหรอก
ก็ถือว่าเสมอกันล่ะนะ ^^
.
.
.
.
.
ฮยอกแจนั่งลงตรงข้ามกับซีวอน วันนี้ซีวอนใจดีพามาเลี้ยงไอศกรีมด้วยเหตุผลเพราะว่าต้นทิวลิปของเราโตขึ้นอีก 2 ซม. น่าปลื้มใช่ชะมัดเลย ซีวอนสั่งไอศกรีมรสสตอเบอร์รี่มาให้ฮยอกแจ ร่างบางนั่งจ้องมองซีวอนที่กำลังพยายามดึงรูปถ่ายใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า มือบางรับมันมาก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ ในภาพมีเค้าซีวอนแล้วก็ต้นทิวลิปอยู่ตรงกลาง
“ คยูฮยอนที่อยู่ชมรมถ่ายรูปล้างเอามาให้น่ะ น่ารักดีนะ...”
“ อือ... ต้นทิวลิปที่น่ารักของเรา”
“ เปล่า ผมหมายถึงฮยอกแจ” รู้สึกเหมือนหน้ามันจะร้อนๆขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก ฮยอกแจเก็บรูปนั้นลงกระเป๋าข้างๆ แล้วหันมาสนใจกับไอศกรีมสตอเบอร์รี่ตรงหน้า เรียวปากบางกลืนกินไอศกรีมเข้าไปโดยไม่เงยขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้าอีกเลย
เขิน... โคตรเขินเลยอะ >.<
หลังจากกลืนกินไอศกรีมของโปรดลงท้องไปหมดแล้วซีวอนก็เลยอาสาพาฮยอกแจกลับไปส่งที่บ้าน มือบางโอบกอดกระถางต้นทิวลิปสีสวยไว้แน่น บอกตามตรงเถอะ เค้าน่ะ... ไม่เคยคิดว่าจะมาอยู่ถึงจุดนี้ด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะมาสนทิกับซีวอนมากขนาดนี้ซักนิด ไม่คิดว่าจะได้คุยกัน ได้รู้จักกัน แล้วก็ได้มาเดินข้างกันแบบทุกวันนี้
เค้ารักชเวซีวอน... แล้วซีวอนล่ะ
รักเค้ารึป่าว...??
แต่ก็ช่างเถอะ... เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะนะ ^^
“ ส่งแค่นี้ก็พอแล้วซีวอน... เดี๋ยวเราเดินเข้าไปเอง” ฮยอกแจเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงหน้าซอยบ้าน ริมฝีปากเรียวฉีกยิ้มพลางเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้า
“ ฮยอกแจ ถามอะไรอย่างได้มั๊ย” ฮยอกแจพยักหน้ารับ ใบหน้าหวานรอคอยคำถามจากคนตรงหน้า ซีวอนอ้าปากจะถามแต่ก็เงียบไป แต่พอหันกลับไปสบเข้ากับตาเป็นประกายของฮยอกแจเค้าก็ไม่สามารถที่จะกลืมมันลงคอไปได้อีกแล้ว
“ ทุกวันที่เป็นอยู่... ทุกวันที่ฮยอกแจกับผมเป็นอยู่แบบนี้... ที่ฮยอกแจมาหาผมทุกวัน คอยยิ้มให้ผมทุกวัน คอยห่วงใยผมทุกวัน...”
“ ฮยอกแจกำลังจีบผมอยู่รึป่าวใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้ ฮยอกแจเสหลบสายตาที่ส่งมาคล้ายรอฟังคำตอบของเค้า ถ้าฮยอกแจบอกความจริงไปว่ากำลังจีบอยู่มันจะดูน่าเกลียดมั๊ยนะ?? บอกไปแล้วมันจะดูแย่มากมั๊ย?? ซีวอนจะคิดว่าเค้าจะตกหลุมรักใครง่ายมั๊ย?? ทั้งสับสนทั้งกลัว คุณแม่ช่วยฮยอกแจคิดคำตอบด้วย... เดี๋ยวนะ คุณแม่หรอ... ร่างบางยิ้มบางๆอย่างเขินอายให้คนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยประโยคประจำตัว(เมื่อก่อน) ที่ทงเฮเพื่อนรักของเค้าบอกว่ามันน่าเบื่อที่สุดแต่มันกลับทำให้ซีวอนฉีกยิ้มกว้าง”
“ คุณแม่บอกว่าจีบคนอื่นก่อนมันน่าเกลียด”
“ งั้นเอาเป็นว่า... ผมจีบฮยอกแจก่อนก็ได้นะ ตกลงมั๊ย”
ไม่ได้มีคำตอบในคำถามนั้นที่หลุดออกมาจากปากฮยอกแจที่ส่งไปให้ซีวอน แต่ใบหน้าขาวใสพยักหน้าขึ้นลงน้อยๆ ซีวอนเลื่อนมือของตัวเองไปกุมมือบางเอาไว้แล้วออกเดินไปพร้อมๆกัน
ถ้าถามว่าใครจีบใครก่อน... บอกตามตรงว่าตอบยาก
ฮยอกแจจีบซีวอนก่อน หรือ ซีวอนจีบฮยอกแจก่อน
แต่ไม่ว่าซีวอนหรือฮยอกแจจะเป็นฝ่ายจีบก่อน
สุดท้าย... มันก็ลงตัวตรงที่ว่า
ลีฮยอกแจ รัก ชเวซีวอน
และ
เชวซีวอน รัก ลี ฮยอกแจ
The End
อีกนิดละกัน ^^+
“ ผมชเวซีวอนครับ ยินดีที่ได้รู้ครับ” ร่างสูงพยายามทำตัวมั่นใจสุดๆเมื่อวันนี้ต้องมาบ้านของฮยอกแจ ได้ยินใครๆเค้าพูดกันมาว่าโหดสุดๆ จริงๆแล้วทั้งสองท่านก็ดูอบอุ่นดีออก... อบอุ่นจนร้อนเลยล่ะ
“ อือ... ยินดี เรียนอะไรล่ะเรา” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม วางมาดน่าเกรงขามสุดขีด คุณแม่คนสวยก็นั่งเกาะลูกชายที่สวยไม่แพ้กันแน่น ตอนนี้ถ้ามองดูดีๆเหมือนซีวอนกำลังโดนสอบสวนเสียมากกว่าการแนะนำตัว
“ เรียนคณะเกษตรครับ”
“ มันดีหรือไง”
“ ผมรักมันครับ” ตอบออกไปอย่างชัดเจนตามที่ตัวเองคิดเอาไว้ ฮยอกแจหันมาส่งยิ้มบางๆให้เมื่อรู้สึกได้ว่าเค้าอึดอัดมากแค่ไหน
“ คนหล่อนิสัยไม่ดีจริงรึป่าว” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามขึ้นมาลอยๆไม่ได้หวังจะได้คำตอบอะไรหรอก ก็แค่หวงลูกชายเท่านั้นแหละ กันท่า วางมาดกันไปตามประสาคนเป็นพ่อเป็นแม่
“ไม่ทุกคนเสมอไปนี่ครับ”
“ คนหล่อชอบหลอกคนอื่นว่าตัวเองไม่มีแฟน”
“ ผมไม่มีแฟนจริงๆครับ”
“ แล้วไปมุดอยู่ไหนล่ะถึงไม่มีแฟน” กลับกลายเป็นคุณพ่อที่แขวะขึ้นมาซะดื้อๆ
“ ก็เรือนเพาะชำบ้าง ที่สวนบ้าง อะไรทำนองนี้ล่ะครับ” ร่างสูงส่งยิ้มให้ ทำใจดีสู้เสือ เมื่อเห็นว่าคนถามได้รับคำตอบที่ไม่ค่อยจะถูกใจซักเท่าไหร่นัก
“ แล้วนี่จีบฮยอกแจยังไง” เอาล่ะสิ่... คำถามนี้จี้ใจดำคุณลูกชายนะครับคุณแม่ ก็ในเมื่อคนที่เริ่มรุกก่อนน่ะเป็นลูกชายสุดที่รักของคุณแม่ที่นั่งอยู่ข้างนี่ล่ะครับ
“ .............................” ซีวอนไม่ได้ตอบคำถามข้อนี้ เว้นเอาไว้ให้ความเงียบเข้าครอบคลุม บรรยากาศเริ่มแย่ลงเมื่อทุกคนในห้องนั่งเล่นดูจะตั้งใจจะรอฟังคำตอบนี้
“ เห็นมั๊ยล่ะฮยอกแจ... เค้าไม่จริงใจหรอก แม่บอกแล้วคนหล่อนิสัยไม่ดี”
“ ผมรักชเวซีวอน” ส่งยิ้มหวานตอบกลับไป คนเป็นแม่เลยนั่งปั้นหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว
“ คนหล่อเจ้าชู้...”
“ ผมรักชเวซีวอน”
“ คนหล่อไม่จริงใจ
”
“ผมรักชเวซีวอนฮะ”
“ คนหล่อขี้โกหก
”
“ ผมรักชเวซีวอนฮะ”
“ คนหล่อกระล่อน
แม่ไม่ยอมให้ฮยอกแจคบกับคนหล่อหรอกนะลูก” ฮยอกแจสิ่งยิ้มหวานไปให้คนเป็นแม่ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งลงข้างๆซีวอนที่นั่งอยู่ด้านตรงข้าม ร่างบางเอื้อมมือไปกุมมือหนาเอาก่อนจะเอ่ยเสียงดังฟังชัด
“ ก็ผมไม่ได้รักคนหล่อนี่ฮะ... ผมรักชเวซีวอนคนนี้ต่างหาก”
แหม!!! ชเวซีวอนนี่ไม่หล่อเลยนะคุณนาย ลี ฮยอกแจ
จบจริงเถอะค่ะ
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ขออนุญาตเปลี่ยนเรื่องนะคะ
ฮือๆ อันเก่าไม่รู้ว่าหายไปไหนอะ เศร้าๆๆๆ
เรื่องนี้เคยลงไว้ที่เรือนหอกับ smfix แล้วนะคะ
ใครเคยอ่านก็ต้องขอโทษด้วยนะ
แต่อ่านอีกก็ได้นะ แหะๆๆ
ตัวหนังสือใหญ่ ไรท์เตอร์โง่ๆคนนี้ก็แก้ไม่ได้ซักกะที TT^TT
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น