คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1~ แค่เริ่มต้น ก็หน้าแตกแล้วฉัน (T_T )
"S club ปี2!!" เสียงของพีอาร์ 2 สาวประสานกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"ใช่แล้วจ้ะ" อีกเสียงหวานนุ่มพูดตอบขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงสุขุมกว่าหลายเท่านัก
- - - - -
ก็จะไม่ได้ฉันกับแพม ตกใจได้ยังไงล่ะ ก็จู่ๆ พี่โอ๋ เจ้าของบริษัทพีอาร์ที่ฉันทำงานอยู่ก็เรียกประชุมด่วน แล้วบอกข่าวดีว่าบริษัทพีอาร์เล็กๆ (แต่คอนเน็กชั่นดี) ของพวกเราน่ะได้รับความไว้วางใจ ให้รับผิดชอบหน้าที่ประชาสัมพันธ์โปรเจ็คใหญ่ S Club ปี2... โอย แค่คิดฉันก็จะเป็นลม!
โปรเจ็ค "S Club" เป็นโครงการปั้น 6 นักร้องหน้าใหม่จากค่ายเพลง S Entertainment ค่ะ เมื่อปีที่แล้วหนุ่ม-สาวที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องนับหมื่นจากทั่วประเทศก็แห่กันมาสมัคร จนในที่สุดหนุ่มหน้าหล่อ พ่อรวย เสียงดี เสน่ห์ล้น อย่าง "แม็ค" ก็คว้าแชมป์เวที S Club ด้วยคะแนนท่วมท้นจากกรรมการ จนตอนนี้แม็คก็กลายเป็นหนุ่มฮอตประจำวงการไปเรียบร้อยแล้ว
พี่โอ๋อธิบายให้ฉันและแพมฟังว่า เพราะพี่โอ๋รู้จักกับผู้บริหารของค่าย S Entertainment อยู่บ้าง บริษัทของเรา(ที่มีกันอยู่ 3 คน)เลยได้มารับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ ตลอดเวลา 3 เดือนตามการเซ็นสัญญา...
เฮ้อ! จะว่ายากมันก็ยากนะ เพราะฉัน "ฝุ่น-ฟาลิดา" เพิ่งเรียนจบแล้วมาจับงานพีอาร์ไม่ถึงปี แต่งานมันก็ท้าทาย ท้าความสามารถเหลือเกิน
หนำซ้ำงานนี้อาจได้เจอหนุ่มหล่อ ที่จะมาสั่นคลอนหัวใจว่างๆ ของฉันก็ได้ เห๊อะๆๆ!!
- - - - -
"แพม ฝุ่น ฟังพี่อยู่หรือเปล่า?" เสียงพี่โอ๋ดังขึ้นทำลายภวังค์ความคิดฟุ้งซ่านของฉัน
"ห๊ะ อะไรนะพี่โอ๋" แพม เพื่อนร่วมงานมาดห้าวของฉันตอบ (เห็นห้าวๆ ผมซอยอย่างงี้ แพมมันผู้หญิงแท้นะขอบอก!)
"พี่บอกว่า อีก 2 วันพวกเราต้องเริ่มงานกันแล้วนะ"
"เร็วขนาดนั้นเชียวเหรอพี่โอ๋" ฉันอดไม่ได้ที่ต้องถามขึ้นมาบ้าง
"ใช่ เพราะตอนนี้พวก S Club ปี2 น่ะเค้าเพิ่งคัดตัวเหลือ 6 คน ยังไม่ได้ขึ้นเวทีประกวดครั้งสุดท้ายเพื่อหาแชมป์ ถ้าได้แชมป์เมื่อไหร่ รับรองพวกนี้ต้องมีคิวงานเป็นหางว่าวจนไม่มีเวลาให้พวกเราเข้าไปสัมภาษณ์เก็บข้อมูลแน่ๆ พี่เลยตกลงกับทางค่าย S ว่าพวกเราจะเข้าไปสัมภาษณ์ทั้ง 6 คนเก็บไว้ก่อน ก็พวกประวัติกับคำถามจิปาถะน่ะแหละ ไม่มีอะไรยากหรอก... อ๊ะ นี่ใบข้อมูลของทั้ง 6 คน พี่อยากให้แพมกับฝุ่นอ่านทำความเข้าใจก่อนเข้าไปสัมภาษณ์วันพุธนี้ แล้วอย่าทำอะไรเป๋อๆ เชียวล่ะ" พี่โอ๋อธิบายยืดยาว พร้อมทั้งยื่นเอกสารให้พวกเรา
การประชุมอย่างไม่เป็นทางการของพวกเราจบลงนานแล้ว ฉันกับแพมนั่งอ่านเอกสารในมือพลางเม้าท์หนุ่มสาวทั้ง 6 อย่างออกรส (ฉันรู้น่าว่ามันเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ^^') เห็นแพมห้าวๆ อย่างนั้นเหอะ พอเธอเห็นข้อมูลของหนุ่มหล่อ ตี๋ ขาว ชื่อ "กิ" เท่านั้นก็เม้าท์ไม่หยุดเลยล่ะ
"อู๊ยยย กินี่หล่อจัง มาดตี๋เกาหลีอินเทรนด์สุดๆ สูง 185 กำลังเรียนวิศวะ อุ๊ยๆๆ ดูนี่ สเป็คสาวที่ชอบ ชอบผู้หญิงเก่ง ดูแลตัวเองได้ ความสวยไม่สำคัญ เฮ้ย! นี่มันชั้นเลยนี่... ฝุ่นๆๆ แก แกว่าวันพุธนี้ถ้าเค้าเจอชั้น เค้าจะปิ๊งชั้นไหมอะ"
ฉันหันไปมองเพื่อนเลิฟพลางทำหน้าขำๆ (มันเพ้อไปแล้วค่ะท่านผู้ชม!)
แต่ตอนนี้ในมือ ฉันกำลังดูเอกสารของผู้ชายคนหนึ่ง ในรูปเค้าใส่แว่นสายตา ดูเท่ ตัวสูง แม้จะไม่ได้หล่อตี๋ตามสมัยนิยม แต่อะไรบางอย่างทำให้ฉันสนใจเขา ฉันเองก็บอกไม่ถูก
"ดิว-ดนตรี"... พุธนี้ เราคงได้เจอกัน
- - - - -
ตอนนี้ฉันกำลังรอสัมภาษณ์ S Club คนต่อไปอยู่ในห้องประชุมเล็กของค่ายเพลง S เมื่อกี้ฉันสัมภาษณ์สาวเปรี้ยวชื่อ "มิเชล" ไปแล้ว มิเชลดูมาดมั่น พูดเก่งจนฉันแทบไม่ต้องป้อนคำถามอะไรเลย การสัมภาษณ์เลยเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนพี่โอ๋กับแพมก็แยกไปสัมภาษณ์ S Club คนอื่นๆ กันคนละห้อง แพมน่ะเจาะจงเลยว่าจะสัมภาษณ์ "กิ" ฉันกับพี่โอ๋ก็ไม่ได้ค้านอะไร ออกจะขำๆ ด้วยซ้ำกับความ alert เกินหน้าเกินตาของเพื่อน (มันท่องข้อมูลของกิได้ทุกอย่างแล้วมั้ง 555+)...
ฉันไม่ได้เลือกว่าจะสัมภาษณ์ S Club คนไหน แต่ผู้ชายคนที่กำลังก้าวเข้ามาในห้อง กลับเป็นผู้ชายชื่อ "ดิว"
"สวัสดีค่ะ พี่ดิว" ฉันลุกมือแล้วยกมือไหว้เขา (ก็บอกแล้วว่าฉันเพิ่งเรียนจบ การที่จะต้องมือไม้อ่อนเลยเป็นสิ่งจำเป็น ก็ส่วนใหญ่คนที่ฉันเจอก็เป็นรุ่นพี่ฉันทั้งนั้น)
"ครับๆ เอ่อ...สวัสดีครับ" ดิวรีบรับไหว้ฉันอย่างเขินๆ แค่นี้ก็อายซะแล้ว สงสัยเพราะเพิ่งเข้าวงการยังตั้งตัวไม่ทันล่ะสิ
"พี่ดิวไม่ต้องเขินนะคะ คุยกันสบายๆ อันไหนตอบได้ก็ตอบ อันไหนตอบไม่ได้ก็บอกข้ามก็ได้ค่ะพี่ ฝุ่นไม่บังคับ" ฉันหยอดมุขลงท้าย พร้อมส่งยิ้ม มันน่าจะทำให้บรรยากาศเป็นกันเองขึ้นนะ
"ครับ" พี่ดิวยิ้มๆ
การสัมภาษณ์เป็นไปด้วยดี หลังจากคุยกันไปซักพักพี่ดิวก็ผ่อนคลายมากขึ้น ตอนให้เขาเล่าถึงเครื่องดนตรีสุดโปรด พี่ดิวก็เล่าถึง "เปียโน" ที่พ่อของเขาทิ้งไว้ให้ก่อนจากโลกนี้ไปเพราะโรคร้าย แม้ตอนที่พ่อจากไปพี่ดิวจะยังเด็ก ยังเล่นเปียโนได้เพียงขั้นพื้นฐาน แต่เพราะความรักดนตรีสืบทอดทางสายเลือดหรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาเลยขวนขวายทั้งเรียน-ทั้งซ้อม จนเปียโนตัวนี้กลายเป็นเครื่องดนตรีที่ห่างกันไม่ได้ไปแล้ว
ตอนเล่าเรื่องพ่อ แม้แววตาของพี่ดิวดูเศร้าๆ แต่ก็เห็นความเข้มแข็งที่มีอยู่เต็มเปี่ยม (เป็นเพราะตอนนี้พี่ดิวกลายเป็นลูกชายคนเดียวที่ต้องดูแลคุณแม่ละมั้ง) พอกระชากอารมณ์มาพูดถึงอะไรขำๆ ก็หัวเราะซะตาหยี จนฉันอดยิ้มตามไม่ได้...
ยิ่งมองตาคมๆ ผ่านแว่นสายตากรอบเล็กฉันยิ่งเคลิ้ม มาดพี่ชายแสนดีแบบนี้ตรงสเป็คฉันชะมัด แฮะๆ =^_^=!
"เอ่อ คำถามต่อไป ตั้งแต่ได้เข้ามาเป็น S Club ปี2 มีอะไรที่ทำให้พี่ดิวประทับใจบ้างคะ?" ฉันป้อนคำถามต่อก่อนที่สมองจะแอบคิดฟุ้งซ่าน
"อ่อ คงเป็นวันที่พวกเราทั้ง 6 คนได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเป็นครั้งแรกน่ะครับ จู่ๆ มิเชลก็ถามขึ้นมาว่าใครเด็กที่สุดในกลุ่มพวกเรา ผมก็ยกมือ ทุกคนก็หันมามองผมแล้วก็ขำกันใหญ่" พี่ดิวเล่าด้วยสีหน้าระบายยิ้ม
"แหม ก็พี่ดิวเล่นหยอดมุขอำซะขนาดนั้น ใครจะเชื่อล่ะคะ" ฉันตอบพลางยกแก้วขึ้นดื่มน้ำที่ตั้งทิ้งไว้นานจนไม่เหลือความเย็นแล้ว
"ไม่ได้อำ เห็นผมยังงี้ ผมเพิ่งอายุ 19 เพิ่งเอนทรานซ์ติดเองนะครับ"
"อื๊อ!!" ฉันส่งเสียงตกใจอยู่ในลำคอ ก็น้ำที่เพิ่งดื่มน่ะยังไม่ได้กลืนเลย จะพูดก็พูดไม่ได้ จะกลืนน้ำก็กลืนไม่ลง ตาของฉันตอนนี้คงกลายเป็นตาปลาทองไปแล้วล่ะมั้ง ก็จ้องพี่ดิว (ที่ตอนนี้กลายเป็นน้องดิวไปแล้ว) ชนิดไม่กระพริบ
จะไม่ได้ช็อกได้ไง ก็พี่ดิวที่ฉันไหว้ๆ อยู่เนี่ย อยู่ๆ ก็เด็กกว่าฉันตั้ง 4 ปี!!
ให้ตายเหอะ! ใครก็ได้ช่วยเก็บหน้าแตกๆ ของฉันให้ที!! T__T
ความคิดเห็น