ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชู้ตรักให้ลงหัวใจนายตัววุ่น

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 จูบแรกของนาย

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 55


    ตอนที่ 1 จูบแรกของนาย

     

      " จ้ำจี้มะเขือเปาะแปะ กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออกแอ่น สาวสาว หนุ่มหนุ่ม อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมเยี่ยมมองมอง นกขุนทองร้องวู้......!!!" 
    เด็กหนุ่มสามคนกำลังนั่งเล่น  การละเล่นพื้นบ้านของเมืองกันอย่างสนุกสนาน  ส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งหอพัก

     

    “ฉันอีกแล้วหรอ  อะไรกันนี่”   ชายที่ดูตัวสูงที่สุดในวงเล่น  ส่งเสียงร้องโวยออกมาเมื่อจบเกมส์แล้วรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายแพ้

    “วันนี้  ดูท่าโชคจะไม่เข้าข้างนายนะชานยอล”      คนที่ตัวเล็กที่สุดในวงพูดใส่คนตัวสูง  เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงกำลังพองลมออกมา

    “ผมจะดีดละนะ”     ชายที่ตัวสูงไม่แพ้คนที่ได้ชื่อว่าชานยอลเอ่ยขึ้น  พร้อมกับตั้งท่าเตรียมทำการลงโทษคนที่แพ้เกมส์ 

     

    คนที่แพ้เกมส์อย่างชานยอลนั่งปิดตาสนิท  พร้อมกับมือที่กำชายเสื้อของตัวเองไว้แน่น  (ยอมรับการลงโทษ)  ไม่นานหลังจากที่ชานยอลหลับตาสนิทจนตีนกาขึ้น  แรงดีดอันมหาสารของชายผู้ซึ่งชนะเกมส์ได้กดลงไปบนหน้าพากกว้างของชานยอลเข้าอย่างจัง

    “โอ้ย!!! >[]<  เบาๆหน่อยสิเถา  ฉันก็คนนะ เจ็บเป็นนะโว้ย”   คนถูกดีดรีบเอามือที่ก่อนหน้านี้กำชายเสื้อไว้ แล้วยกขึ้นมาลูบที่หน้าพากตัวเองอย่างเจ็บปวด

    “ผมเบามือแล้วนะนั้นน่ะ”  ชายที่ได้ชื่อว่าผู้ชนะอย่างเถา  พยายามแก้ตัว  ทั้งที่จริงก็ซัดไปสะเต็มๆแรงนั้นแหละ

    “เบาแล้วหรอ  ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!!!!  ชานยอลไม่ยอมจบ  ยังโวยพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปตรงตำแหน่งที่ตัวเองกำลังต่อสู้กับความเจ็บอยู่

    “ไหนๆให้ฉันดูหน่อยซิ” คนตัวเล็กขยับเข้าไปใกล้ๆตัวชานยอล  เพื่อตรวจสอบอาการของตัวปัญหาที่โวยวายไม่ยอมหยุด

    “เจ็บจังเลย  เป่าให้หน่อยสิ”  ชานยอลได้ทีอ้อนให้ชายตัวเล็กกว่าที่ตอนนี้กำลังมองดูหน้าพากของเขาอยู่ 

    “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่  ไม่เป่าให้หรอก”  ชายตัวเล็กแกล้งปฏิเสธทันที  เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังยั่วเขาอยู่ชัดๆ

    “มันเจ็บจริงๆนะ  เป่าให้หน่อยสินะนะ  แบคฮยอนนะ” จบประโยดนั้นชานยอลก็ได้รับยารักษาจากชายที่ชื่อว่าแบคฮยอนโดยการเป่าหน้าพากให้ในทันทีทันใด

    “ทำเป็นงอแงไปได้นะนาย  โดนดีดแค่นั้นทำเป็นบ่นไปได้”   จู่ๆก็มีเสียงใครคนอื่นนอกวงเล่นพูดขึ้น ชายที่ร่างสูงยิ่งกว่าชานยอล ที่กำลังนั่งเล่นคอมอยู่หันมาพูดใส่ชานยอล  เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนกำลังถกเถียงกันอย่างไม่มีท่าทีที่จะจบ

    “ใช่พี่คริสพูดถูก  นายอะขี้แง”  แบคฮยอนรีบรับคำสมทบกับชายร่างสูงที่ชื่อคริสทันที

    “อะไรกันอะ  แค่ให้เป่าให้เอง จะบ่นกันทำไมนี่”  ชานยอลหันไปทำปากหมูใส่คริสที่กำลังมองเขาอยู่อย่างหมั่นไส้

    “ฉันเริ่มหิวแล้ว  ฉันของไปหาดีโอที่ครัวก่อนแล้วกัน  จะทำอะไรไว้ให้กินนะวันนี้”  แบคฮยอนพูดตัดบทขึ้นเมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะยาวไปกันใหญ่

    “อืม  แล้วรีบมานะ  ฉันคิดถึง”  ชานยอลพูดส่งท้ายให้แพคฮยอน  ที่กำลังลุกเดินออกไป

    “ผมไปด้วยฮะ  พี่แบค”  เถารีบวิ่งตามแบคฮยอนไปทันที  เพราะคิดได้ว่าถ้าอยู่ตรงนี้ต่อไปคงมีเรื่องตีกับชานยอลแน่

    ส่วนชานยอลเมื่อเห็นว่าเพื่อนๆพากันไปนู้นนี้หมดก็ลุกขึ้นเดินไปหาคริส  ที่ตอนนี้กำลังนั่งทำโน้นนี้อยู่หน้าคอม

     

    .

    .

    .

    “พี่ทำอะไรอยู่อะ”  ชานยอลที่นั่งดูคริสเล่นคอมอยู่นาน  เกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา

    “ออกแบบฟอนต์”  คริสตอบชานยอลอย่างเรียบๆ

    “ออกแบบฟอนต์  มันคืออะไรอะ”  คำพูดของคริสทำให้ชานยอลสนใจเข้าไปอีกว่าฟอนต์มันคืออะไร  แล้วดูเหมือนว่ามันจะทำให้ชานยอลรู้สึกสนุกขึ้นมา  อยากรู้อยากเห็นนั้นเอง

    “บอกไปนายก็ไม่รู้” สั้นๆได้ใจความ

    “ถามแค่นี้ทำเป็นไม่บอก  จะเก็บไว้ไปบอกตุ๊กแกที่บ้านหรือไง” ประโยคหลังนี้ชานยอลพูดแบบเบาที่สุด  แต่คริสก็ดันหูดีได้ยินมันเข้า

    “นายนี่พูดมากจังเลยนะชานยอน”  คริสวางมือจากการจับเมาส์และละสายตาออกจากจอคอม  แล้วหันมาจ้องหน้าชานยอลแทน  ชานยอลที่ดูจะสนใจอะไรไม่เข้าท่าซะแล้วตอนนี้

    “เพิ่งรู้หรือไงครับ  พี่อยู่กับผมมาตั้งแต่ผมเป็นเด็กฝึกหัดช่วงแรกๆ พี่ยังไม่ชินอีกหรอ”  ชานยอลไม่แม้แต่จะเกรงกลัวสายตาของคริสที่กำลังจ้องมองเขาอยู่  แถมเขายังจะกล้าพูดกวนคริสอย่างสบายอารมณ์อีก

    “เอาเหอะๆ......แต่ตอนนี้นายช่วยเงียบหน่อยได้ไหม  ฉันต้องใส่สมอง”  เมื่อรู้ทันว่าชานยอลเป็นคนที่ไม่ยอมอะไรง่ายๆ  คริสจึงเป็นฝ่ายต้องยอมแพ้สะเอง

    “อืม...”  ชานยอลยอมเชื่อฟังคริส แล้วนั่งเงียบนิ่งทำทางท่าเหมือนเข้าใจและคิดว่ามันเป็นการขอร้องจากกัปตันร่วมทีม


     

    .

    .

    .

    .....=_=......

    .
    .

     

    แต่ก็ไม่ใช่เวลาที่ยาวนานหนัก  นิสัยที่อยู่ไม่สุขของชานยอลก็กลับมาอีกครั้ง 

    “นายเป็นอะไรของนายชานยอล”  คริสที่กำลังนั่งสร้างฟอนต์อยู่อย่างตั้งใจ  แต่แล้วก็ต้องมาสะดุดเพราะคนข้างๆ  กำลังทำบ้าอะไรอีกแล้ว  นั่งนับนิ้วอะไรอยู่ได้ตั้งนานสองนาน มันทำให้คริสไม่มีสมาธิในการทำงานเลย

    “อ๊อ...ก็ลองนับระยะเวลาที่ผมรู้จักพี่มาเอ่อ...จนถึงตอนนี้ก็ประมาณ...ห้าปีครึ่งแล้ว  ไวจริงๆเลยนะครับ” 

    “อืม.........ไวจริงๆ” คริสพูดอย่างนิ่งๆ

    “ผมไม่คิดเลยนะครับว่าผมกับพี่  เราจะได้มาอยู่ทีม EXO ด้วยกัน”  ชานยอลเริ่มแถไปเรื่อย

    “นั้นสินะ” คริสก็เริ่มหลงไปกับเรื่องราวของชานยอล  ทำให้บทสนทนาของทั้งสองเริ่มไปไกลเรื่อยๆ
    .
    .
    .

     

    “ผมเจอพี่ครั้งแรกก็ที่หน้าโรงยิมที่ 3 วันนั้นผมจำฝังใจเลยละ  ที่พี่เล่นโยนลูกบาสมาลงที่หัวผมเต็มๆอะ  คิดแล้วก็ปวดหัวขึ้นมาเลย” ไม่พูดเปล่าชานยอลเอามือมาลูบที่หัวตัวเองเพื่อบ่งบอกว่าเขาปวดหัวจริงๆ (ไอ้ที่ปวดหัวอะไม่ใช่ถูกเถาดีดไปเมื่อกี๊หรอ)

    “ก็นายเล่นไปยืนขวางลูกเองทำไมเล่า   มัวยืนเรียกความมั่นใจตัวเองอยู่ตั้งนานสองนาน  ฉันที่จะต้องทำแต้ม ต้องโยนลูกลงห่วง ถึงจะเห็นว่านายยังยืนเอ๋ออยู่ที่ใต้แป้น  แต่ฉันก็ไม่คิดว่าคนอย่างนายจะไม่หลบให้ลูกบาส   มัวแต่คิดอะไรอยู่ได้” คริสได้ทีบ่นชานยอลยาวเป็นหางว่าว

    “พี่เห็นอยู่แล้วหรอ” ชานยอลที่ได้ฟังคริสเล่าก็รู้ความจริงทั้งหมดว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง

    “ก็เห็นสิ”

    “เห็น...แล้วทำไมยังโยนมาล่ะ”  ชานยอลผู้ไม่เคยยอมแพ้หันมาบ่นคริสอย่างจริงจัง

    “แล้วจะให้ฉันรอนายทำสมาธิจนถึงเมื่อไหร่  ฉันต้องรีบทำคะแนนเพื่อวัดระดับทักษะ จะให้ฉันรอนาย  เวลาหมดกันพอดี”  คริสรีบอธิบายอย่างมีเหตุผล  ทำเอาชานยอลต้องพองลมอีกครั้ง

    “ก็หน้าจะตะโกนบอกก่อนก็ได้นี่   O3O  ชานยอลผู้ไม่เคยยอมแพ้เถียงคำไม่ตกฟากตลอด

    “ก็ไม่ทันคิดว่านายจะเอ๋อได้ขนาดนั้น”

    “พี่คริส  พี่ก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยเลย  ผมไม่คุยด้วยแล้ว  ไปหาแบคฮยอนดีกว่า”
     

    สิ้นประโยคชานยอลก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที  แต่เพราะความซุ่มซ่ามของชานยอล  ชานยอลก้าวเท้าไปเหยียบลูกเทนนิสที่อยู่ใต้เก้าอี้ของตัวเองเข้าอย่างจัง  ทำให้ชานยอลเสียการทรงตัว


    “อะ...อ่า!!!! O[]O

     

     

    “ช...ชานยอล!!! OoO*

     


     

    .....
    .................

     

    ตุ๊บ!!!

     

    เพียงเวลาชั่วอึดใจ  ทั้งคริสและชานยอลตกลงจากเก้าอี้กันทั้งคู่  ร่างของคนตัวเล็กกว่านอนนิ่งอยู่บนพื้นภายใต้ร่างสูงที่โอบกอดเขาเอาไว้แน่น  ชานยอลหลับตาสนิทเพราะความตกใจพร้อมกับรับรู้ถึงสัมผัสบ้างอย่างที่ริมฝีปากของเขา  ชานยอลค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆก็พบกับสายตาของคริสที่อยู่ใกล้จนแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับเขา  สายตาของคริสที่จ้องชานยอลอยู่ตอนนี้  บ่นบอกถึงอารมณ์ อึ้ง ทึ่ง ค้าง ในเวลาเดียวกัน  เหมือนโลกหยุดหมุนไป  ทั้งสองจ้องตากันและกันรับรู้ถึงสัมผัสของอีกฝ่าย  จูบแรกของใครบางคน ณ ที่นี้เกิดขึ้นกับผู้ชาย  ทั้งที่พวกเขาทั้งสองเป็นผู้ชาย

    .......................................................................

    .....................................................................

    .................................................................

    ...................................

    ...

    .

    .

     

    “เป็นไรหรือเปล่า”  คริสรีบถอนจูบออกจากชานยอลทันทีที่ได้สติกลับมา

    “....O.O…..” ชานยอลที่ดูเหมือนว่าสติสตังจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วตอนนี้

    “เป็นอะไร” คริสพยายามเรียกสติชานยอล  พร้อมกับเขย่าเข้าที่ไหล่ของชานยอลเบาๆ

    “ชานยอล!!!” คริสส่งเสียงเรียกชานยอลอีกครั้ง  และอีกครั้ง

    ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~

    ไม่มีการตอบสนองของชานยอลกลับเลยแม้แต่น้อย

     

    .

    .

    .

    ชานยอลที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว  ยกมือขึ้นมาลูบริมฝีปากของตัวเอง  พร้อมกับท่าทางที่ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย   คริสที่ไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านี้   เพราะเขาเองก็ตกใจไม่แพ้ชานยอล   คริสลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ติดๆกันกับห้องนี้  ปล่อยให้ชานยอลนั่งเอ๋ออยู่แบบนั้นต่อไป

    .

    .

     

    “ชานยอล....จูบแรกของนาย....O.O











         *มาแบบเล็กๆน้อยๆก่อนนะ  ช่วงแรกๆยังไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกีฬาเท่าไหร่อาจมีบ้างนิดๆหน่อยๆ  แต่จะมีแบบแข่งขันก็ประมาณช่วงท้ายๆอะค่ะ  แล้ว....มันจะมีสาเหตุอะไรในการแข่ง  ติดตามหน่อยนะคะ*



                           นายห้ามไปบอกใครนะ เรื่องจูบแรกของฉัน



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ตัวอย่างตอนต่อไป


    “พี่ชานยอลหรือเปล่าครับ”

    “พวกนาย....บอยเฟรนด์หรอ”
     

    “ชานยอล” เลิกเรียกชื่อผมสักที่จะได้ไหม๊!!!!!!!
    “โอ้ย!!!  นายทำบ้าอะไรของนาย” 

     

    อะไรกันเล่าไม่เคยจะเข้าใจอะไรผมเลย  พี่มันบ้า  พี่มันเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว


     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×