คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF:3]Kiss Candy 2
Title: Kiss Candy
Author: WolF_BuNnY
Greet:เพิ่มตอนที่สองแล้วครับ สำหรับตอนนี้คิดว่าคงจะไม่ดราม่าหรอก(มั้ง)ครับ มันก็แล้วแต่อารมณ์ไรเตอร์นี่เนอะ(อ้าวอินี่)555555+
2
Chanyeol’s Part…
เช้าวันนี้ผมนั่งอมข้าวเช่นเคย และนั่งปวดตาเพราะขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า เพราะไอ้คำพูดบ้าๆของไอ้บ้าเสาไฟฟ้าคริสนั่นล่ะ มาบอกว่าผมเป็นลูกกงลูกกวาดอะไรล่ะไร้สาระชะมัด
“หาว...ชานยอลมีอะไรกินบ้าง เฮ้ย!”พี่เถาที่เดินหาวนอนมาจากบันไดตกใจทันทีเมื่อเห็นสภาพผม
“ตกใจอะไรพี่”
“คิดจะทำอะไรของแกอยู่เนี่ย”
“ทำอะไรฮะ??”
“นี่แกจะล้อเลียนพี่ว่าเหมือนหมีแพนด้าใช่มั้ย”
“อะไรของพี่เนี่ย ผมงงไปหมดแล้วนะ ฮึ่ย ไปโรงเรียนดีกว่า”ผมว่าอย่างอารมณ์เสียเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่พี่สื่อสาร ผมรีบสะพายกระเป๋าแล้วใส่รองเท้าเดินออกจากบ้านทันที
“อย่ากลับค่ำนะยอล พี่ไม่มีคนทำกับข้าว”พี่เถาตะโกนไล่หลังเช่นทุกวัน ก่อนที่ผมจะเดินออกมา ทันทีที่ผมเดินออกมาผมก็พบเข้ากับ...
“เฮ้ย!นายมายังไงเนี่ย”นายคริสยืนพิงกำแพงบ้านผมและดูดอมยิ้มอย่างสบายใจเฉิบ ชิ คิดว่าตัวเองเท่นักรึไง
“ก็มารอนายน่ะสิ ถามได้”
“ก็ใช่ แต่...”ผมยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร คริสก็จูงมือผมวิ่งออกมาแล้ว
“ไปโรงเรียนได้แล้วเดี๋ยวสาย”
“นายสนด้วยเหรอ ว่าจะไปสายรึเปล่า”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะพานายโดดเรียนเอามั้ยล่ะ”
“นี่นายจะบ้าเหรอ”
“แล้วจะถามให้มันได้อะไรล่ะ”นายคริสเดินไปอย่างเงียบๆตลอดทาง ให้ตายสิ มันเงียบเกินไปแล้วนะ ผมจะพูดอะไรดีล่ะทีนี้
“เมื่อคืนนอนดึกเหรอ”แล้วหมอนั่นก็พูดทำลายความเงียบออกมา
“ฮะ???”
“ขอบตานายน่ะ”ให้ตายสิไอ้บ้านี่ เห็นด้วยเหรอนี่
“เอ่อ...ก็นิดหน่อย”
“ไม่ชอบที่ฉันพูดแบบนั่นใช่มั้ย”
“เอ่อ...ปะ..เปล่าซักหน่อย”ทำไมพูดเหมือนตัดพ้อแบบนั้นนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบซักหน่อย ผมแค่ขะ...เขิน โธ่เว้ย!ผมคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย
“แล้วทำไมไม่นอน”จู่ๆคริสก็ดึงผมมาเผชิญหน้า หน้าของผมกับเขาห่างกันไม่ถึงคืบ ให้ตายสิ ไอ้บ้านี่ ทำไมทำหัวใจผมเต้นไม่หยุดเลยนะ
“ฉันก็แค่.......”
“.............”
“เฮ้ย!ไอ้คริส”เสียงบุคคลที่สามแทรกเข้ามาทำให้เป้าหมายการมองของคริสเปลี่ยนจากผมเป็น.......
“พี่ชายแกทำไว้แสบมากเลยนะ ไม่คิดจะรับผิดชอบหน่อยเหรอ”ดูท่าทางจะเป็นเด็กช่างกลของโรงเรียนหนึ่ง พร้อมกับลูกน้องอีกประมาณ 5-6 คน ที่มุมปาก ตา ร่างกาย ดูจะฟกช้ำไปซะหมด อย่าบอกนะว่าพี่ของนายคริสไปมีเรื่องกับคนพวกนี้
“ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะฉะนั้นฉันจะไม่รับผิดชอบ”นายคริสจูงมือผมให้ออกจากวงล้อมออกมา แต่ดูท่าทางว่าพวกนั้นจะไม่ให้นายคริสออกง่ายๆ
“เฮ้ย!จะรีบไปไหน มาลองกันซักตั้งก่อนสิ ถ้าฉันแพ้ฉันจะยอมปล่อยพี่แกไป”ดูท่าทางคล้ายๆกับการพนันในนิยายรักหลายๆเรื่องเลยนะ แต่ขอร้องล่ะ นายคริส นายอย่าเอาฉันไปเกี่ยวด้วยเลยนะ
“แล้วถ้าฉันแพ้ล่ะ”
“ถ้าแกแพ้....หึ น้องชายคนนั้นน่ารักดีนี่”อึ๋ย ซวยแล้วไง ไอ้คนหัวหน้าแก๊งค์เชยคางผมขึ้นแล้วลูบไปตามทางแก้ม สายตาแบบนั้นน่ากลัวชะมัด
“ปล่อยเขา เขาไม่เกี่ยวด้วย”นายคริสปัดมือของนายหัวหน้าแก๊งค์ออกจากหน้าผม
“หึ แฟนแกล่ะสิ ถึงได้หวงขนาดนี้ เอาอย่างนี้ ถ้าแกแพ้น้องคนนั้นต้องเป็นของฉันโอเคมั้ยล่ะ”นั่นไง ผมนึกแล้ว ขอร้องล่ะคริสนายอย่าตกลงเลยนะ
“ฉันขอโทษนะ แต่ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่มีทางแพ้เด็ดขาด”คริสจ้องหน้าผมอย่างเข้มแข็งสายตาแบบนี้ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน และมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่า ผมจะไม่มีทางตกเป็นของพวกนั้นเด็ดขาด
“อื้ม” ผมพยักหน้าเป็นการตอบแล้วนายคริสก็เดินออกไปตะลุมบอนกับพวกเด็กช่างกลทันที ดูท่าทางทางพวกนั้นจะได้เปรียบกว่านายคริสอยู่มาก ชักเป็นห่วงหมอนั่นแล้วสิ ทำยังไงดีนะ ในขณะที่ผมนึกจะเสี่ยงชีวิตเขาไปช่วยหมอนั่น ย้ำ!ว่าเสี่ยงชีวิตจริงๆแต่ก็โดนห้ามเอาไว้ก่อน
“อย่าเข้ามา จำที่ฉันสัญญาไม่ได้เหรอ”ใช่!ผมต้องเชื่อมั่นในตัวเขาสิ ก็เขาเป็นแฟนของผมนี่นา เอ๊ะ!นี่ผมคิดอะไรออกไป ซักพักใหญ่ที่ดูเหมือนกับว่าคริสจะโดนรุมกลับกลายเป็นตอนนี้คริสได้เปรียบอยู่มาก เหลืออีกสองสามคนก็เรียบร้อยแล้ว
“ยะ...อย่าเลยนะพี่อย่าทำอะไรผมเลย”ไอ้ลูกน้องคนสุดท้ายที่มีชีวิตรอดแต่สภาพย่ำแย่พนมมือขอชีวิตอย่างน่าสงสาร
“หึ กลับไปซะ แล้วอย่ามายุ่งกับพี่ชายฉันอีก”นายคริสยอมไว้ชีวิตแล้วจูงมือผมออกมาทันที
“นายไหวมั้ย”ผมถามเขาอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าที่มุมปากของเขามีเลือดซิบอยู่
“ไม่เป็นไรหรอก แผลแค่นี้ไม่ตายหรอกน่า”
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วเท่นักรึไง”
“หืม?”
“รู้บ้างมั้ยว่ามีคนเป็นห่วงน่ะ ทีหลังอย่าทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย”ไอ้หยา นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย นายคริสมองผมด้วยท่าทางแปลกๆก่อนจะยิ้มออกมา
“หึ ลูกกวาดของฉันเป็นห่วงฉันด้วยเหรอเนี่ย”
“ลูกกงลูกกวาดอะไรกันเล่า ฉันคนนะไม่ใช่ลูกกวาด”
“ก็นายเหมือนนี่”
“เหมือนตรงไหนมิทราบ”พอผมถามแค่นั้น นายคริสก็เริ่มจู่โจมผมอีกครั้ง ไอ้บ้าเอ้ย!ผมรู้แล้วล่ะว่าผมจะเป็นอะไรตาย ผมคงต้องเขินหมอนี่ตายแน่ๆ
“ก็ทั้งหอม...”แล้วหมอนั่นก็เชยคางผมขึ้นแล้วหอมแก้มผมหนึ่งที ไอ้บ้าเอ้ย!ทำอะไรขอให้อายคนบ้างเถอะ
“ทั้งหวาน...”
“อย่าบอกนะว่าไอ้ที่หวานนี่คือ...อุ๊บ!”เสียงของผมถูกนายคริสกลืนกินไปซะหมด ร่างกายมันอ่อนระทวยไปหมด แรงผมไม่มีแทบจะยืนอยู่แล้ว เหมือนกับว่านายคริสสูบวิญญาณผมไปเลย ลิ้นอุ่นๆของหมอนั่นที่สอดเขามาหยอกล้อกับลิ้นของผม ให้ตายเถอะ ทำไมหัวใจเต้นแรงขนาดนี้ เต้นช้าๆก็ได้
“จะสัมผัสกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ..”นายคริสพูดทันทีที่ผละจูบออกจากผมอย่างอ้อยอิ่งบอกตางตรงว่าผมสู้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ
“จะเอ๋ออีกนานมั้ย น้ำลายยืดหมดแล้วนายน่ะ”นายคริสว่าพลางชี้ไปที่มุมปากของผม ผมน้ำลายยืดด้วยเหรอเนี่ย ทำตัวน่าอายแบบนี้ไปได้นะเรา
“ฮ่าๆๆนายนี่มันน่ารักชะมัด”จู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าหน้าของผมมันต้องขึ้นสีแน่นอน ผมจึงก้มหน้างุดลงไปมองพื้นทันที
“มองทำไมล่ะพื้นนั่นน่ะ มันมีหน้าฉันอยู่รึไง”
“มีก็ดีสิ ถ้ามีฉันจะเหยียบให้จมดินเลย”
“ถ้านายเหยียบฉันก็จะดึงนายมาจูบ”ทุกคำที่หมอนั่นพูดฟังดูจริงจังไปซะหมด นี่ผมปรับอารมณ์ตามเขาไม่ถูกแล้วนะ เขาจูงมือผมเดินเข้าโรงเรียนด้วยกันโดยไม่แคร์สายตาใครๆ มือขวาของเขาจับมือซ้ายของผมไว้ ส่วนมือขวาของเขาถือกระเป๋าเป้ให้ผม สายตาทุกคนที่มองมาที่ผมต่างพากันซุบซิบกันใหญ่มันมีอะไรน่าแปลกนักรึไง มันก็ไม่แปลกนะที่ผมมาโรงเรียนกับนายคริส อันธพาลสุดหล่อประจำโรงเรียน(จ้า ไม่แปลกเลย)
พอผมเดินเข้ามาที่ห้องหลังจากที่เสียงคุยกันจอแจอยู่ดีๆพอผมกับนายคริสเข้ามาทุกอย่างกลับเงียบกริบราวกับอยู่ในป่าช้า ทุกสายตาจ้องมาที่ผมสองคน รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้แฮะ
“เอาล่ะ ทุกคนเงียบก็ดีแล้ว ฉันคริส อู๋ มีเรื่องจะประกาศ”พอเห็นว่าทุกคนไม่มีเสียงตอบรับ นายคริสจึงเริ่มพูดต่อ
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะมาโรงเรียนทุกวัน เพราะฉะนั้นฝากตัวด้วย”พอพูดแค่นั้นล่ะ เสียงซุบซิบนินทาก็ดังขึ้นมาอย่างทันใจ
“อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องนึง”หืม?ยังไม่จบอีกเหรอ
“ปาร์ค ชานยอลคือแฟนของฉันห้ามใครมาแกล้งหรือแตะต้องแฟนของฉันเด็ดชาด ถ้าใครกล้าขัดคำสั่งอู๋ อี้ฟานคนนี้มาเคลียกับฉันได้”
“ถ้าฉันจะมีล่ะ มีอะไรมั้ย”เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นทำให้ทุกคนหรือแม้กระทั่งผมหันไปมองต้นเสียง ผู้หญิงตัวเล็ก ผมทอง สายตาดูจิกๆชอบกล สวมยูนิฟอร์มชุดเดียวกับโรงเรียนผม พายกระเป๋าลายราพันเซลสีชมพู ยืนพิงขอบประตูห้องอยู่
“เจส”จู่ๆนายคริสก็ปล่อยมือผมแล้ว วิ่งไปโอบกอดบุคคลที่เพิ่งมาใหม่ ผมรู้สึกว่าในใจมันเจ็บแปลบแปลกๆเลยแฮะ มันให้ความรู้สึกที่เหมือนกับว่า “ผม เป็นส่วนเกิน”
“มายังไง ไหนเธอพ่อเธอไม่ให้ย้ายมาไง”
“ก็จริงอยู่ แต่ฉันก็ย้ายมานี่แล้วไง มันยากนะนายก็รู้”
“คิดถึงเธอจัง ฉันมีอะไรจะเล่าให้ฟังเยอะเลย”
“อืม ฉันว่านายหาที่นั่งให้ฉันก่อนเถอะ”
“เออ มานั่งตรงนี้”แล้วนายคริสก็เดินชนผมให้ออกห่าง เหมือนกับว่าไม่เห็นผมอยู่ในสายตา จู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าขอบตามันร้อนผ่าว เหมือนน้ำตาจะไหล พอมองไปที่ทุกคนในห้องทุกคนมองผมด้วยสายตาที่ดูเย้ยหยัน คริส....สำหรับนายแล้ว ฉันเป็นเพียงแค่ของเล่นใช่มั้ย พอเบื่อแล้วก็ไปเล่นกับสิ่งอื่น สิ่งที่มัน......คือความจริง
“ฮึก...หัวหน้าห้อง ลาครูให้ฉันทีนะ”ผมเดินไปบอกหัวหน้าห้องที่นั่งอ่านหนังสือราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่น้ำตามันก็จะไหลอยู่แล้ว
“ทำไม นายจะไปไหนเหรอ”หัวหน้าห้องที่ตัวเล็กหน้าตาเหมือนหมากระเป๋า ผมไม่ได้ว่าแต่มันคือความจริง ถามผม จะถามทำไมกันล่ะ ผมแทบจะปล่อยโฮอยู่แล้ว กลับมาทำท่าลอยหน้าลอยตาอยู่ได้
“ฉันคิดว่าฉันไม่สบายน่ะ ฉันขอไปอยู่ในห้องพยาบาลซักพักนะ”
“อืม แล้วจะบอกครูให้นะ”พอได้ยินไอ้หัวหน้าห้องหน้าหมากระเป๋าพูดจบ ผมจึงรีบคว้าเอากระเป๋าเป้ ที่นายคริสวางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะ แล้วไปคุยกระหนุงกระหนิงกับคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่คนนั้น ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง แต่ที่ๆผมรู้แน่ๆคือ ผมอิจฉาผู้หญิงคนนั้น.....
Ps.งวดนี้ขอ 85 เม้น แล้วตอนจบจะมานะครับ ถ้าไม่เช่นนั้นก็อย่าหวังเลยว่าจะได้อ่านล้อเล่ง ป๊อปไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นหรอกครับ ป๊อปก็แค่จะมาลงอินโทรซิมเปิลเล็กน้อยให้ค้างกันเล่นๆอีก
Ps2.รายงานผลการโหวตแนวดราม่าตอนนี้กำลังมาแรง และอาจจะแซงแนวหื่นเป็นได้ อีเตี้ยบอกแล้วนะว่ามันไม่ใช่แนวถนัดของอีเตี้ยเลย(มึงเปลี่ยนสรรพนามนำหน้ามึงเพื่อ?) แต่ยังไงก็แล้วแต่ฝากโหวตด้วยนะครับ คนสวย คนหล่อของป๊อป ^^
Ps3. 3-5 สิงหาคมอีเตี้ยไม่อยู่เน้อ ต้องไปทัศนศึกษาที่จันทบุรี ลาไว้ล่วงหน้าเลยจะได้ไม่ต้องสงสัยกัน รีดเดอร์คนไหนเป็นคนเมืองจัน(คงไม่มีหรอกเนอะ)เตรียมตัวพบกับอีเตี้ยได้เลย อีเตี้ยจะไปป่วนแล้วจ้า
APPLE PIE★
ความคิดเห็น