ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] ตัณหารัก

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : รายการโปรด

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 58






    C h a p t e r 6










                    ทุกครั้งหลังตื่นนอน สิ่งแรกที่นารูโตะจะทำคือการเช็คโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุค ทวิต หรือไอจี หลังจากนั้นอาจจะเล่นเกมอีกสามสี่ตาก่อนแล้วค่อยลุกไปทำอย่างอื่น แต่วันนี้มีอะไรที่น่าสนใจกว่านั้นเยอะ

     

     

                นารูโตะนอนตะแคงเท้าคางหันหน้าเข้าหาหญิงสาว จ้องมองใบหน้าขาวเนียนใสที่ยังไม่ตื่นอย่างพินิจพิเคราะห์ ไล่ดูตั้งแต่คิ้ว ขนตายาวเป็นแพร จมูกที่โค้งมน ริมฝีบางกระจับอมชมพู พวงแก้มขาวนวลที่เมื่อคืนแดงไปทั้งพวงเพราะการกระทำของเขา พอนึกขึ้นมาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ มือหนาเอื้อมมือลูบไล้ผมยาวสยายที่ปรกลงมาคลุมไหล่ ช้อนช่อผมเงางามขึ้นแตะจมูก สูดดมกลิ่นแชมพูผสมกลิ่นกาย ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เขาเอาแต่มองหน้าฮินาตะ รู้แต่เพียงว่าอยากหยุดเวลานี้เอาไว้ อยากให้เธอเป็นคนแรกที่เจอในทุกเช้า และอยากเห็นเป็นคนสุดท้ายของทุกคืน

     

     

                อืม...เสียงหวานครางเบาๆ เพราะถูกมือหนาเกลี่ยแก้มนิ่มๆ อย่างเอาแต่ใจ นารูโตะไม่ได้ชักมือกลับแต่อย่างใดเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับตัว ยังคงหยอกล้อกับใบหน้าของเธอต่อ จงใจปลุกเธอให้หลุดจากห้วงนิทรา ได้เวลาตื่นแล้วครับสาวน้อย

     

     

                อรุณสวัสดิ์

     

     

                ใบหน้าเรียวคมพร้อมรอยยิ้มเป็นสิ่งแรกที่ฮินาตะเห็นในวันนี้ สัมผัสอุ่นๆ จากวงแขนที่กำลังกอดร่างเล็กอย่างหลวมๆ ทำให้ตาของเธอสว่างฉับพลัน ฮินาตะเอนตัวลุกขึ้นทันทีแต่ไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดเรือนกายเอาไว้ ก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่พอได้สบตากับสายตาที่ยิ้มแย้มไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด

     

     

                มองหน้าแบบนี้แสดงว่าคิดถึงฉันล่ะสิ

     

     

    ...และเธอก็ไม่อยากจะเสียเวลากับคำพูดกวนอารมณ์อย่างนั้น ฮินาตะนั่งหันหลังก่อนจะหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องมองอยู่แน่ๆ เมื่อใส่เสื้อผ้าอย่างลวกๆ เธอก็ลุกขึ้น มุ่งตรงไปที่ประตู แต่ระหว่างที่เดินผ่านปลายเตียงร่างสูงก็รีบพุ่งตัวเข้ามาดึงข้อมือของเธอไว้ซะก่อน

     

     

                จะไปไหน

     

     

                “กลับห้องค่ะฮินาตะไม่ได้สะบัดฝ่ามือนั่นออก เธอยืนนิ่งและตอบคำตอบโดยที่ไม่ได้มองอีกฝ่าย เหตุการณ์จากเมื่อคืนทำให้เธอจำขึ้นใจเลยว่าดิ้นหรือขัดขืนไปก็เท่านั้น คนเอาแต่ใจอย่างเขาออกแรงหนีเท่าไหร่ก็เสียแรงเปล่า

     

     

                ตอนนี้เธอยังกลับไม่ได้

     

     

                “แล้วตอนไหนฉันถึงจะกลับได้คะ

     

     

                “ทำข้าวให้ฉันกินหน่อยสิ หิวจะตายแล้วเนี่ยน้ำเสียงที่ดูออดอ้อนเหมือนเด็กขอกินขนมทำให้ฮินาตะเผลอหันมามอง แต่ก็ต้องรีบเบือนหน้าหนีทันทีเพราะดันเห็นภาพเกือบเปลือย เกือบเปลือยที่ว่าคือท่อนบนไม่มีอะไรปิดอยู่เลย และต้องขอบคุณผ้าห่มที่ช่วยปกคลุมท่อนล่างไม่ให้บางสิ่งบางอย่างโผล่กายออกมา ตื่นตั้งนานแล้วทำไมถึงไม่ไปใส่เสื้อผ้าซักที

     

     

                ฉันจะกลับห้อง

     

     

                “ก็บอกว่าทำข้าวให้กินก่อนไง

     

     

                “คุณก็ทำเองสิ

     

     

                “จะทำหรือไม่ทำ

     

     

                “ไม่ค่ว๊าย!” ชั่วพริบตา ฮินาตะก็ถูกดึงให้ล้มตัวลงเตียงก่อนจะถูกร่างเปลือยคร่อมทับ

     

     

                ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันหิวมาก เธอจะไม่ทำข้าวให้ฉันกินก็ได้นะ อย่างไงตอนนี้ฉันก็มีอาหารที่พร้อมกินได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อีกอย่าง...เสียงทุ้มหยุดพูดชั่วครู่ ใบหน้าเรียวคมค่อยๆ ก้มลงมากระซิบข้างหู แค่ห้ารอบเมื่อคืน ไม่ทำให้ฉันหมดแรงหรอกนะ

     

     

                ฮินาตะมองแววตาและรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์นั่น ยิ่งสภาพของเขาที่เปลือยทุกสัดส่วนพร้อมจะสู้รบได้ตลอดเวลาแบบนี้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาให้คิดสักวินาเลยเลยว่าเธอควรเลือกทางไหน

     

     

                เข้าใจแล้วค่ะ

     

     

                เข้าใจว่าเธอจะเป็นอาหารให้ฉันกินสินะ

     

     

                “ฉันจะทำให้คุณทานต่างหาก!”

     

     

                นารูโตะหัวเราะร่าพอได้ยินเสียงหวานขึ้นเสียง เขาลุกขึ้นยืนในขณะเดียวกันหญิงสาวก็เอนตัวนั่งก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น นี่เขารู้ตัวบ้างมั้ยว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย

     

     

                ถ้าคุณไม่ใส่เสื้อผ้าซักที ฉันจะไม่ทำให้คุณทานนะฮินาตะหลับตาพูดก่อนจะรีบย้ายตัวออกมาจากห้องอันตรายโดยมีเสียงว่า คร้าบ~” พร้อมหัวเราะชอบอกชอบใจดังไล่หลังออกมา

     

     

                เขานี่มันโรคจิตชัดๆ

               

               

     

               

     

     

     

     

    ถึงคนโรคจิตจะบอกว่าให้ทำอะไรให้ทานก็เถอะ แต่เธอจะทำอะไรได้อย่างไงในเมื่อตู้เย็นมีแต่เหล้าเบียร์ และในครัวก็มีแต่บะหมี่ถ้วยเต็มไปหมด อยากจะรู้นักว่าในปีนึงเขาต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาอวัยวะภายในสักกี่รอบ

     

     

                “ทำอะไรให้ฉันกินอ่ะกำลังจะถามอยู่พอดี ตัวปัญหาก็เดินเข้ามาในครัว ฮินาตะหันไปจะเอ่ยปากถามแต่ต้องเปลี่ยนเป็นรับหมุนตัวกลับมาที่เดิม

     

     

                นี่น่ะหรอ ที่เรียกว่าใส่เสื้อผ้า

     

     

                ตกลงเธอทำอะไรให้ฉันกินนารูโตะยืนพิงเคาเตอร์ก่อนจะชะโงกหน้ามาถาม แบบนั้นหญิงสาวเลยหันหน้าไปอีกทาง

     

     

                ฉันบอกคุณแล้วไงคะ ว่าให้ใส่เสื้อผ้าก่อน

     

     

                “ก็ใส่แล้วนี่ไงถอยห่างออกหนึ่งก้าว ยืนตัวตรงให้ดูชุดที่สวมใส่



                 ใส่บ๊อคเซอร์จิ๋วสีส้มสะท้อนแสงตัวเดียวเนี่ยนะ

     

     

    ตกลงเขาเข้าใจคำว่า เสื้อผ้าของเธอมั้ย เสื้อกับกางเกงน่ะ ที่เขาใส่นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็น ชุดชั้นในแบบผู้ชายเลยก็ว่าได้ ซึ่งเกือบจะเปลื่อยไม่ต่างอะไรจากเมื่อกี้เลยซักนิด

     

     

    ไปใส่เสื้อก่อนเถอะค่ะถึงเธอจะเห็นมาหมดแล้วก็ตาม แต่ใครมันจะไปชินกัน เธอเป็นผู้หญิงนะ ช่วยเกรงใจกันหน่อยได้มั้ย

     

     

                อะไรกัน เมื่อคืนเธอเห็นยิ่งกว่านี้อีก เลิกอายได้แล้วมั้ง ฉันยังไม่อายเลยปรกติเวลาอยู่คนเดียวเขาก็ใส่แค่นี้ตลอด แล้วนี่ก็ห้องตัวเอง ตอนนี้ในห้องก็มีแต่เขาและเธอ ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดสุภาพเหมือนคนแปลกหน้า แล้วเธอก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน แนบแน่นยิ่งกว่าเหล็กที่โดนหล่อหลอมให้เป็นอันนึงอันเดียวกันซะอีก

     

     

                ว่าไง ทำอะไรให้ฉันกินนารูโตะเปลี่ยนประเด็น เพราะตอนนี้ท้องของเขาเริ่มส่งเสียงประท้วงดังระงม

     

     

                “บะหมี่ถ้วยตอบไปก็ข่มใจไป ในเมื่ออีกคนยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนชุด งั้นเธอก็คงต้องพยายามไม่สนใจกับอะไรที่เป็นเนื้อหนังกำยำแบบนั้น แค่ไม่มองก็เท่านั้นเอง ไม่เห็นจะยากตรงไหน... แต่อากาศในนี้ร้อนจังเนอะ

     

     

                โห่ เอาอย่างอื่นดิ ของแค่นั้นฉันทำเองก็ได้

     

     

                เขาต้องการกวนประสาทเธอใช่มั้ยเนี่ย

     

     

                ฉันทำอย่างอื่นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะไม่มีวัตถุดิบ

     

     

                เออจริง ลืมเลยว่าที่ห้องมีแต่เบียร์กับบะหมี่ถ้วย งั้นเราออกไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกันเถอะ ฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ

     

     

                เดี๋ยวค่ะใช้เวลาไม่กี่วินาทีประมวลผลทุกอย่างในสมองก่อนจะส่งเสียงร้องห้ามไม่ให้ร่างสูงไปเปลี่ยนชุด

     

     

                หือ?”

     

     

                “ไม่เป็นไรค่ะ ใช้ของที่ห้องฉันก็ได้ฮินาตะเสนอตัวเลือกใหม่ที่คนเกือบเปลือยก็พยัคหน้าเห็นด้วย

     

     

                ใครมันจะไปอยากเดินซื้อของกับคนที่ตัวเองไม่อยากอยู่ด้วยกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                หลังจากที่รู้ว่านารูโตะเป็นคนโรคจิตแล้ว เขาเองยังเป็นคนพิการอีกด้วย นั่นก็เพราะเขาไม่มีหูอย่างไงล่ะ ทั้งที่เธอก็พูดไปแล้วว่าเธอจะไปเอาวัตถุดิบที่ห้องของเธอเอง แล้วค่อยเอามาทำอาหารที่ห้องของเขา แต่เขาก็ไม่ได้ฟังเธอเลย ทั้งที่เธอก็พูดดัง ชัดถ้อยชัดคำว่าเดี๋ยวกลับมา แล้วดูสิเนี่ย ไม่เดินตามมาเปล่า ยังถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องเธอทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วยซ้ำ

     

     

                ไปโรงพยาบาลเช็คอวัยวะภายในไม่พอ อย่าลืมเช็คหูบ้างนะว่ายังใช้การได้อยู่หรือเปล่า

     

     

                ห้องเธอสะอาดน่าอยู่จังแฮะเจ้าของบ๊อกเซอร์สีส้มเดินสำรวจทั่วห้อง ของมีแค่นี้หรอ

     

     

                “ก็เพิ่งเข้ามาอยู่นี่คะเหนื่อยจะพูดกับคนที่ไม่มีหู ฮินาตะเลยเดินเข้าครัว ปล่อยให้อีกคนอยากจะดูอะไรก็ดูไป เพราะของสำคัญส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ในห้องนอนเธอทั้งนั้น

     

     

                ห้องนอนเธอน่ารักจัง

     

     

                อะไรนะ!?

     

     

                ฮินาตะรีบวกกลับจากโซนครัว ก้าวขายาวๆ เพื่อไปให้หาเจ้าของเสียงทุ้มที่ตะโกณดังมาจากอีกฝากหนึ่ง

     

     

                คุณเข้ามาในห้องฉันทำไมเนี่ย ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะเหมือนว่านารูโตะยังไม่ได้สำรวจอะไรมากมาย เพราะตอนที่เธอเข้ามา เขาแค่ยืนอยู่ที่ปลายเตียงเฉยๆ

     

     

                ฮินาตะคว้าแขนหนา ลากออกมาจากพื้นที่ส่วนตัว แล้วกดร่างสูงให้นั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร

     

     

                “นั่นมันห้องนอนฉัน คุณจะเข้าไปได้อย่างไง เสียมารยาท!”

     

     

                “เอ้า! ทำไมฉันถึงเข้าไม่ได้อ่ะ ทีห้องนอนฉัน ฉันยังไม่ให้เธอเข้าได้เลย แล้วก็ไม่ได้แค่เข้าไปเฉยๆ ด้วย ทำอะไรตั้งหลายอย่า…”

     

     

                “หยุดค่ะ! ไม่ต้องพูดแล้วร้องห้ามก่อนที่ร่างสูงจะถึงเหตุการณ์บางอย่าง ถึงเขาจะหยุดพูดแต่สายตาและสีหน้ายิ้มชอบใจเหมือนกับกำลังสนุกที่ได้แกล้งเธอ

     

     

                ไม่พูดก็ได้ครับ ^^”



                 โรคจิต พิการไร้หู ไม่มีมารยาท ชอบกวนประสาท ทำไมเธอต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วยนะ จะบ้าตาย

     

     

    นั่งตรงนี้ ห้ามลุกไปไหนจนกลัวฉันจะทำอาหารเสร็จ ถ้าคุณเดินเผ่นผ่านอีกล่ะก็ ฉันเอาตะหลิวตีคุณแน่คว้าตะหลิวที่แขวนอยู่ข้างผนังมาถือไว้ ทำท่าทางประกอบคำพูด แสดงให้รู้ว่าเธอตีเขาจริงๆ แต่แทนที่คนโรคจิตจะสลดกลับตัวสั่นแทน ไม่ใช่ตัวสั่นเพราะกลัวนะ แต่ตัวสั่นเพราะกลั้นหัวเราะไว้ต่างหาก

     

     

    คร้าบผม ยอมให้ตีเลย ขอเน้นๆ ตรงนี้เลยนะ” ใช้มือตบที่หน้าอกด้านซ้ายเบาๆ พร้อมส่งรอยยิ้มแฝงนัยแบบที่หญิงสาวก็รู้ว่าหมายความว่าอะไร

     

     

    แม้พยายามไม่สนใจคำพูดของคนกวนประสาท แต่หัวใจของเธอดันเต้นแรงเพราะรอยยิ้มบ้าๆ นั่น ฮินาตะรีบเดินไปเปิดตู้เย็นดูว่ามื้อนี้จะทำอะไรได้บ้าง เพื่อสลัดกับคำพูดเมื่อกี้ให้หลุดออกไป

     

     

    ฉันทำข้าวผัดนะ กินมั้ยคะหันมาถามคนที่กำลังเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะเพลงอย่างอารมณ์ดี ถามก่อนเพื่อความปลอดภัย หากเขาไม่ชอบกินขึ้นมาจะได้ไม่เสียของ

     

     

    เธอทำอะไรฉันก็กินหมดแหละ

     

     

    แล้วตอนที่จะต้มบะหมี่ถ้วยให้กิน ดันไม่กินนะ

     

     

    แต่ไม่เอาผัก ฉันไม่ชอบกินผัก

     

     

    ผักมีประโยชน์มากเลยนะร่างเล็กหยิบวัตถุดิบทั้งหมดที่จะใช้ออกมา แล้วเริ่มจัดการทำอาหาร

     

     

    ก็เพราะมีประโยชน์ไง ฉันถึงไม่ชอบกิน

     

     

    ตรรกะอะไรล่ะนั่นหญิงสาวอดที่จะขยับปากแอบบ่นอุบอิบไม่ได้ ถ้านารูโตะบอกว่าเขาอายุห้าขวบ เธอจะปักใจเชื่อไม่เถียงเลยจริงๆ

     

     

    อ้อ แต่ฉันชอบกินของมีประโยชน์อยู่อย่างนึงนะ ที่หนึ่งในใจเลย

     

     

    อะไรคะ

     

     

    นม

     

     

    ฉึก! เกือบหั่นโดนนิ้วตัวเองแล้วมั้ยล่ะ

     

     

    เธอไม่รู้ว่าตอนที่พูดเขาทำสีหน้าแบบไหน เพราะเธอยืนหันหลังให้เขาอยู่ และก็ไม่อยากจะรู้ด้วย รีบทำให้มันเสร็จๆ ดีกว่า

     

     

    หลังจากนั้นหญิงสาวก็ไม่เอ่ยปากพูดคุยกับร่างสูงอีกเลย แม้ว่านารูโตะจะพยายามชวนเธอคุยโน่นนี่ แต่เพื่อความปลอดภัยในการทำอาหาร ฮินาตะเลยเลือกที่จะเงียบ

     

     

    ฉันบอกว่าไม่เอาผักไงเมื่อหญิงสาวทำอาหารเสร็จแล้วตักใส่จานเอามาเสิร์ฟให้เขา นารูโตะก็สัมผัมได้ถึงปริมาณของผักที่เยอะจนคิดว่านี่เป็นข้าวผัดผักซะมากกว่าข้าวผัดหมูนะ ร่างสูงก้มมองจานตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองคนทำอาหารที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

     

                ผักมีประโยชน์มากกว่าบะหมี่ถ้วยเยอะเลยค่ะฮินาตะไม่ได้เป็นห่วงสุขภาพคนโตแต่ตัวเลยสักนิด แค่อยากจะเอาคืนเขาบ้างเท่านั้นเอง

     

     

                แต่ฉันไม่ชอบสายตาที่ก้มมองวัตถุเขียวๆ ด้วยความไม่พิสมัยแบบนั้น เขานี่มันเด็กห้าขวบชัดๆ

     

     

                “ไม่ชอบก็ต้องทาน

     

     

                “อ้าว แล้วของเธออ่ะก่ะจะเทียบว่าปริมาณอาหารเท่ากันมั้ย แต่พอมองไปก็ไม่เห็นจานข้าวของอีกคน

     

     

                ฉันไม่หิวค่ะบอกว่าไม่อยากกินถึงจะถูก

     

     

                ตัวก็เล็ก ยังจะอดมื้อกินมื้ออีก

     

     

                “อย่าเขี่ยทิ้งนะว่าแล้ว เด็กชอบเขี่ยผักทิ้งจริงๆ ด้วย

     

     

                ฮินาตะเดินอ้อมโต๊ะมายืนข้างๆ ร่างสูงก่อนจะแย่งช้อนส้อมจากอีกฝ่ายมาแล้วตักผักที่ถูกเขี่ยใส่กระดาษทิชชูกลับขึ้นมาใส่จาน

     

     

                ก็บอกแล้วไงคะว่าต้องกินให้หมดฮินาตะวางช้อนส้อมลงบนจานตามเดิน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนเจ้าเล่ห์ใช้โอกาสนี้ในการเอาคืน

     

     

                ฟุบ!

     

     

                นารูโตะเกี่ยวเอวบางให้นั่งลงบนตัก ถึงหญิงสาวจะดิ้นหนี แต่ถ้าได้เข้ามาอยู่ในวงแขนหนาแล้วล่ะก็ เธอไม่มีทางหลุดหนีไปได้ง่ายๆ แน่ นอกจากเขาจะยอมปล่อยเธอไปซะเอง

     

     

                นี่คุณจะทำอะไรคะฮินาตะพยายามดึงแขนหนาให้ออกจากตัว แต่ก็ตามเดิม ยิ่งพยายามงัดออก แรงกอดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

     

     

                นั่งเฉยๆ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่าเสียงทุ้มเอ่ยอย่างร่าเริง เขารู้หรอกว่าที่เธอใส่ผักเยอะๆ ก็เพราะอยากจะแกล้งเขา แล้วเขาผิดตรงไหนที่อยากจะแกล้งเธอบ้าง

     

     

                หญิงสาวนั่งนิ่งตามคำสั่ง ใบหน้าโค้งมนเริ่มหงิกตามอารมณ์ เห็นแบบนั่นคนใต้ร่างจึงเผลอยิ้มกว้าง

     

     

                ป้อนข้าวให้ฉันหน่อยสิ แล้วฉันถึงจะกินผักเสียงทุ้มว่าพลางพยัคหน้าไปทางจานข้าว

     

     

                “งั้นไม่ต้องทานผักก็ได้แล้วค่ะคำตอบเล่นเอาคนฟังยิ้มกว้างกว่าเดิม ว่าแล้วเธอต้องตอบแบบนี้

     

     

                ไม่ตักผักให้ก็ได้ เพราะฉันก็ไม่ชอบ แต่ว่าเธอก็ต้องป้อนข้าวให้ฉันอยู่ดี

     

     

                “ถ้าไม่ป้อนก็ไม่ปล่อยใช่มั้ยคะ

     

     

                “เยสจงใจกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

     

     

                ในเมื่อหนีไม่ได้ หญิงสาวเลยหยิบช้อนตักข้าวคำใหญ่ที่มีปริมาณผักจนเต็มช้อนใส่ปากเด็กในร่างโตอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่

     

     

                นารูโตะไม่ชอบผักเลยสักนิด เพราะความขมของมันที่ไม่ว่าจะใช้อะไรช่วยปรุงเพิ่มก็ไม่ช่วยให้อร่อยขึ้นสักนิด แต่ว่าวันนี้รสชาติของผักแม้จะยังมีความขมอยู่ แต่อาหารที่หญิงสาวเป็นคนทำให้ไม่พอ ยังป้อนให้เขากินอีก พูดได้คำเดียวว่าโคตรหวาน

     

     

    อาอ่อย” (อร่อย)

     

     

    ไหนบอกว่าไม่ชอบผักไง เคี้ยวไปยิ้มไปนี่คืออะไร

     

     

                รู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวอยู่คนเดียว ฮินาตะเลยป้อนคำต่อไปให้อีกโดยทิ้งระยะเว้นช่วงแค่นิดเดียว ป้อนติดต่อกันจนตอนนี้แก้มนารูโตะได้ป้องเป็นลูกเทนนิสเพราะแก้มทั้งสองข้างเต็มไปด้วยข้าว หมู และผัก

     

     

                ใบหน้าเรียวคมได้แปรเปลี่ยนเป็นกลมมนจนหญิงสาวต้องพยายามกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น

     

     

                หือ? อีอาไอ” (มีอะไร)

     

     

                แต่พอใบหน้ากลมมนด้วยแก้มลูกเทนนิสทั้งสองข้างหันหน้ามาหาแล้วเอียงคอน้อยๆ ด้วยความสงสัยที่อยู่ๆ เธอก็หยุดป้อนแล้วใช้มือปิดปากไม่ให้เผลอหลุดขำเป็นอันต้องปลดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาจนตัวโยน นารูโตะขมวดคิ้วด้วยความงงงวย แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ (ทั้งที่มีข้าวอยู่เต็มปาก)

     

     

     

                นารูโตะค่อยๆ กลืนอาหารลงท้องก่อนจะเอาคืนโดยเป็นฝ่ายป้อนอีกคนบ้าง ฮินาตะรีบใช้มือปิดปากเพราะอาหารที่มีอยู่เต็มปาก ถลึงตาใส่นารูโตะ แย้งช้อนคืนแล้วตักผักล้วนๆ ป้อนคนที่กำลังยิ้มขำ เด็กในร่างผู้ใหญ่หน้าบู้บี้ทันทีเมื่อในปากมีแต่รสชาติขมจากผักเต็มไปหมด อยากจะแกล้งคืนอีกแต่คำที่คับแน่นไปด้วยสารอาหารเมื่อกี้ดันเป็นคำสุดท้ายพอดี

     

     

    อึก!” ร่างสูงกลืนคำสุดท้ายด้วยสีหน้าที่แหยสุดๆ ก่อนจะปล่อยร่างเล็ก หลังจากนั้นรีบตรงไปที่ตู้เย็น หยิบน้ำเทใส่แก้วแล้วดื่มเพื่อดับความขมจากผักเมื่อกี้

     

     

                ฮินาตะใช้มือปิดปากเพื่อปิดเสียงหัวเราะ เม้มปากพยายามทำใบหน้าที่นิ่งไว้ตามเดิมก่อนที่อีกคนจะหันมาเห็น

     

     

                “ทานหมดแล้วก็กลับห้องสิคะพอเขากลับไป เธอจะได้ทำตามใจตัวเองสักที

     

     

                ยังไม่กลับ เอามือถือเธอมาก่อนนารูโตะเดินมาหา แบมือยืนออกมาข้างหน้า

     

     

                เอาไปทำอะไรคะ

     

     

                “เถอะน่า

     

     

                “บอกมาก่อนสิแน่นอนว่าเธอไม่ไว้ใจเขาเลยสักนิด อย่าบอกนะว่าจะแอบเช็คโทรศัพท์เธอ เช็คห้องนอนยังไม่พออีกหรอ โรคจิตเกินไปแล้วนะ

     

     

                จะขอเบอร์หน่อยร่างสูงพูดเสียงเบาหวิว รู้สึกประหม่ากับประโยคที่เพิ่งเอ่ยออกไป ก็มันนับครั้งได้เลยนะที่เขาจะเป็นคนเอ่ยปากของเบอร์ผู้หญิงก่อน ปรกติแล้วจะมีแต่คนมาขอเบอร์ ขอไลน์จากเขาก่อนทั้งนั้น ถ้าไม่พิเศษจริงเขาไม่มีทางที่จะเป็นคนขอก่อนหรอก

     

     

                ฮินาตะกำลังจะอ้าปากพูดว่าไม่ให้ แต่จากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกันมาแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะฟังเธอแน่นอน ก็เขามันมนุษย์ไร้หูนี่นะ หญิงสาวเดินไปที่โซนโซฟาหน้าทีวีก่อนกลับมาพร้อมมือถือ

     

     

                บอกเบอร์คุณมาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันเมมเองหญิงสาวใส่รหัสปลดล็อคหน้าจอมือถือ แต่ยังไม่ทันได้กดอะไรต่อ วัตถุสี่เหลี่ยมก็ถูกคว้าแย่งไป

     

     

                เอ๊ะ!?”

     

     

                ร่างสูงเมมเบอร์ก่อนจะกดโทรออก รอสัญญาณเตือนว่าโทรติดก็กดวางแล้วยืนให้ฮินาตะ

     

     

                ฉันเมมเบอร์ให้แล้วนะหญิงสาวเอื้อมมือจะคว้า คนเจ้าเล่ห์ก็ชักมือกลับ ห้ามเปลี่ยนชื่อที่ฉันเมมเด็ดขาด

     

     

                “เห?”

     

     

                “เข้าใจมั้ย?”

     

     

                ฮินาตะมองมือถือตัวเองที่อยู่ในมือหนาสลับกับมองใบหน้าเขา เธอเลือกที่จะปฎิเสธได้หรือไง เข้าใจแล้วค่ะ

     

     

                ในที่สุดมือถือก็กลับมาอยู่ในกับฮินาตะ หญิงสาวเดินไปส่งแขกที่หน้าประตู ถึงจะไม่อยากจะมาส่งก็ตามทีเถอะ แต่ว่ามันเป็นมารยาทที่ดีของเจ้าบ้าน

     

     

                สองทุ่มเดี๋ยวฉันมารับนะ แต่งตัวรอด้วยเปิดประตูแล้วยังมิวายจะหันกลับมาสั่งอีกนะ

     

     

                คะ?”

     

     

                “ถ้าเบี้ยวนัดฉันล่ะก็ เธอเจอดีแน่

     

     

                ปั้ง

     

     

                หลังจากที่ตัวอันตรายได้ออกจากห้องนี้ไป หญิงสาวก็ย้ายร่างมาทิ้งที่โซฟา เอนกายนอนราบไปกับเบาะนุ่ม รู้สึกร่างกายเพลียไปหมด ระหว่างที่กำลังจะนอนพักผ่อนเอาแรง จู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ รีบหยิบมือถือมาดู กดเข้าไปในรายชื่อโทรออกล่าสุดทันที

     

     

                เมื่อหน้าจอปรากฏรายชื่อขึ้นมา หญิงสาวถึงกับตาถลน เอนตัวขึ้นนั่ง เรี่ยวแรงที่หายไปกลับมาเพราะความโมโห

     

     

                บ้า! บ้าไปแล้ว ใครใช้ให้ตั้งชื่อแบบนี้ เขานี้มันโรคจิตชัดๆ ถ้าหากว่าชื่อนี้ขึ้นตอนเวลาโทรเข้าโทรออก แล้วคนอื่นมาเห็น คนพวกนั้นจะมองเธอว่าอย่างไง ฮินาตะแทบไม่ใช้เวลาในการคิดว่าจะเปลี่ยนชื่อดีหรือไม่ นี่มันมือถือเธอ เธอจะตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้ มันสิทธิ์ของเธอ เขาไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย

     

     

                ก่นด่าทอในใจไปพร้อมๆ กับเปลี่ยนชื่อใหม่ที่ตัวเองพอใจ

     

     

                คนโรคจิตคำนี้ล่ะเหมาะกับเขามากที่สุดแล้ว


                 

                 ส่วนคำนั้นอีกร้อยปีเขาก็ไม่มีทางได้เป็น

     

     



     

                   My Husband’

                

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                นารูโตะเดินกลับห้องตัวเองพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มแสนสดใสยิ่งกว่าพระอาทิตย์ในเทเลทับบี้ ตรงดิ่งเข้าห้องนอน กระโดดใส่เตียงพร้อมคว้ามือถือบนโต๊ะข้างหัวเตียงมาดู กดเข้าไปในสาย Miss call

               

     

    ตั้งชื่อเสร็จสรรพก่อนจะจัดเก็บไว้ในรายการโปรด มองดูรายชื่อนั่นแล้วยิ้มหัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้า โดนด่าว่าบ้าสิบรอบก็ไม่โกรธ ก็บ้าจริง บ้ารักไง

     

     

     

     

     

     

                รายการโปรด

     

                 ‘My Wife’

               

                   

                   

                   

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Hello everybody

     

    หายไปไหนมา?

    หายไปสอบคร่า

    ตอนนี้สอบเสร็จแล้ว กรี๊ดสิคะกรี๊ด

     

     ปล.ในไกเด็นบักโตะหล่อมาก สูงขึ้นมาก ล่ำขึ้นมาก บึกขึ้นมาก กรี๊ดดดดด #อิแม่ใจบ่ดี

    ใครยังไม่อ่าน อ่านด่วนคร่า แล้วมาประสานเสียงกรี๊ดกัน

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×