คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1
ผมกลับมาถึงบ้านได้สักพักแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรจึงขับรถเล่นออกมาบริเวณหน้าหมู่บ้าน
หมู่บ้านที่คนร่างบางอยู่เป็นแนวรักสงบผู้คนไม่พลุกพล่าน ทะเลสาบขนาดย่อมกระจายอยู่ตามพื้นที่โดยรอบอีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำอีกด้วย สนามตีแบตมินตันก็ถัดมาไม่ไกลกันมากนัก บ้านของฮอทอยู่เกือบท้ายหมู่บ้านซึ่งมีขนาดใหญ่ ตัวบ้านถูกทาด้วยสีครีมหลังคาสีเทา ต้นไม้ปลูกบริเวณรั้วเป็นแนวยาวล้อมรอบตัวบ้าน...
ก๊าบ ก๊าบบ ก๊าบบบ *เสียงโทรศัพท์ครับ ผมไม่ได้เลี้ยงเป็ดหรอกนะ
“ฮัลโหลครับแม่”
(ฮอท ฉันจะไปต่างประเทศสักเดือนนึงกับพ่อแกนะ แกอยู่ได้ใช่ไหม)
“เสียงแบบนี้ถึงผมอยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ให้ได้ใช่ไหมครับ แล้วคุณนายจะไปไหนเนี้ยอย่าบอกนะว่าไปชอปปิ้งอ่ะ ผมล่ะสงสารพ่อจริงจริ๊งงง”
(ไม่ใช่ย่ะแต่ก็ไม่เชิงล่ะนะ คือฉันจะไปคุยงานแล้วเวลาที่เหลือก็แค่ใช้ให้มีประโยชน์เท่านั้นแหละ)
“อ๋อออออเหรอ แล้วอย่าลืมของฝากนะครับ คุณนายแม่”
(น้อยๆหน่อยไอ้ลูกคนนี้ งั้นแม่วางสายก่อนนะดูแลตัวเองด้วยอย่าทำให้คนอื่นต้องเป็นห่วงล่ะ)
“คร้าบบบ บาย”
เฮ้อ! จะว่าไปแล้วแม่กับพ่อก็ทำงานหนักเหมือนกันนะ ผมเคยบอกให้พักบ้างก็ได้ ลูกน้องก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่แม่ก็ไม่ฟัง บอกว่ามันคือความสุข พอได้ยินอย่างนี้แล้วผมก็ไม่อยากขัดเลย พ่อก็ด้วยตามใจแม่อยู่นั่นแหละ น้อยใจนะครับพ่อ อืม สู้ๆนะครับ แม่ พ่อ...
หลังจากที่ผมแอบบ่นอะไรเล็กน้อยเสร็จแล้วก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ข้อมือซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วก็แค่สามทุ่ม อะไรนะ สามทุ่มมม เกือบลืมไปแล้วเห็นมั้ย ทำไมพึ่งมานึกได้นะว่าไอ้พวกนั้นมันนัดกันไปผับตอนสี่ทุ่มนี่นาถ้าเกิดว่าไม่เห็นนาฬิกาล่ะก็แทบไม่อยากจะคิดเลย
ระหว่างที่คิดได้แล้วคนตัวเล็กก็รีบขับรถกลับบ้าน
“อ้าววว ไปไหนมาครับคุณหนู”
“ไปขับรถเล่นมานะครับลุงสน ว่าแต่ตอนสี่ทุ่มลุงไปส่งผมที่ผับไอ้ซินท์หน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้สิครับ แต่ว่าดื่มให้น้อยๆหน่อยนะครับ ผมเป็นห่วง”
“โอเคคร้าบบบบบบ ขอบคุณนะครับลุง
เดี๋ยวผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”
คนร่างบางใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนักแต่ติดตรงที่เจ้าตัวมัวแต่เลือกเสื้อผ้านั่นแหละ
“อืมม ใส่เสื้อตัวไหนดีนะ ตัวนั้นก็...” ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่หรอก ผมนะใส่อะไรก็หล่อ “...งั้นเอาตัวนี้แล้วกัน” เป็นเสื้อยืดสีดำสกรีนอาร์ตนิดๆ กางเกงยีนส์ขายาวสีเทาหม่น ว่าแล้วผมก็ให้ลุงสนขับรถไปส่งที่ผับไม่ใช่ว่าไม่มีรถเป็นของตัวเองหรอกที่ให้ลุงแกไปส่งเผื่อเวลาเมาจะได้ไม่อันตรายไง ความคิดดีใช่มั้ยล่ะไม่ต้องชมๆ ถ้าถามว่าลุงสนแกเป็นใคร ขอตอบเลยว่าแกเป็นคนสวนที่บ้านครับบวกกับตำแหน่งคนขับรถ ทำไมถึงไม่ให้คนอื่นมาขับรถแทนลุงเค้าล่ะ พอดีว่าลุงเค้าทำหน้าที่ตรงนี้มานานแล้วแถมยังรู้ใจทุกคนในบ้านเลยก็ว่าได้ ลุงเค้านิสัยยังไง ก็ใจดีพอๆกับพ่อเลยก็ว่าได้คงเป็นเพราะแกทำงานที่บ้านตั้งแต่ผมจำความได้เลยมั้ง
ก๊าบ ก๊าบบ ก๊าบบบ *คงจำกันได้นะครับว่าเสียงอะไร
(มึงถึงไหนแล้วว่ะครับบ) น้องซินท์ผู้น่ารักของเราเองครับ มันคงคิดถึงผมแน่ๆเลย
“ใกล้แล้ว คิดถึงกระผมเหรอฮ่ะ”
(คิดถึงพ่อเอ็งสิ ถ้าถึงแล้วก็โทรมาบอกด้วยละกัน)
“เครครับ แล้วคุณมึงประทับอยู่โต๊ะไหน”
( VIP R-2 )
“เออๆ บาย”
…ตอนกลางคืนแสงไฟตามท้องถนนก็สวยแม้จะสว่างไม่ต่างกลับกลางวันแต่น่าดูไปอีกแบบหนึ่ง
ผู้คนต่างพากันกลับบ้านหลังจากเลิกงาน มองดูแล้วเหมือนรังผึ้งที่แตกกระจายจากจุดหนึ่งไปยังจุดจุดหนึ่ง…
“ถึงแล้วครับคุณหนู” ลุงสนกล่าวขึ้นซึ่งทำให้ผมหลุดจากความคิดตรงหน้า
“อ่อ ขอบคุณมากครับลุง”
”จะให้ลุงรอรับเลยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรดีกว่า
พอดีมันดึกแล้วอ่ะครับ ผมกะว่าจะนั่งแท็กซี่กลับเอง” ผมพูดพลางยกมือไหว้ลุงสน
ผับของไอ้ซินท์มีขนาดใหญ่
รอบข้างอาคารเป็นต้นไม้ส่วนทางด้านหลังเป็นที่จอดรถซึ่งในตอนนี้รถจอดใกล้เต็มแล้ว
คนเยอะเหมือนกันนะ ตอนนั้นที่คุยกับไอ้ซินท์มันบอกว่าถ้าถึงแล้วให้โทรหานี่นา หลังจากที่กดโทรออกได้ไม่นานอีกคนก็ไม่ปล่อยให้รอนานนัก
(ถึงแล้วเหรอ)
“เออสิครับบบ”
(งั้นเดี๋ยวกูให้ไอ้ภาพไปรับมึงนะ)
“ทำไมต้องส่งใครมารับกูด้วยว่ะ
โตแล้วนะเห้ยมีขาเดินที่สำคัญทำไมมึงต้องส่งไอ้เสาไฟฟ้ามาด้วยคนอื่นก็มีป่ะ”
(อย่างอแงดิ
มึงก็น่าจะรู้สึกตัวได้แล้วนะว่าหน้าตาหวานๆไม่ต่างกับผู้หญิงแบบมึง ถ้าเดินขึ้นมาคนเดียวจะเจออะไรบ้างทีนี้เข้าใจกูยังครับ)
“เฮ้อ! เข้าใจแล้วๆ กระผมจะรอนายภาพอยู่ด้านหน้า เครมั้ยครับคุณพ่อ”
ติ๊ด ติ๊ด
ติ๊ด
อะไรว่ะบทจะตัดสายก็ตัดทีเมื่อกี้ยังด่าฉอดๆๆอยู่เลย ไม่เข้าใจเลยจริงจริ๊ง
แต่ที่เมื่อกี้ไอ้ซินท์มันบอกว่าถ้าเดินขึ้นมาคนเดียวคงไม่รอดเห็นท่าจะจริงอย่างที่มันพูดเพราะคนบางคนหรือส่วนมากก็มองมาทางผมกันใหญ่ไม่รู้ว่าจะมองอะไรกันนักหนาและที่สำคัญไม่ใช่ว่าเป็นสายตาของพวกผู้หญิงหรอกนะเป็นสายตาของผู้ชายล้วนสะด้วย
แถมสายตาที่มองมาอย่างกับว่าจะกลืนกินผมไปทั้งตัวถ้าพวกมันทำได้น่ะนะ ในระหว่างที่คนหน้าหวานกำลังคิดเกี่ยวกับสายตาที่มองมานั้นก็ได้มีใครไม่รู้มาสะกิดที่ไหล่ครั้งเดียวก็รู้สึกแล้วแต่ไอ้นี่สะกิดรัวๆแหม่มขอพ่อดูหน้ามันหน่อยสิ
“อะ ไอ้ภาพ”
“ทำหน้าอย่างกับเห็นผีงั้นแหละมึง ยังจะเอ๋ออีกตามกูมา” ว่าแล้วมันก็จูงมือผมไป กูเดินเองได้ครับคุณเสาไฟฟ้า
“อย่าดื้อได้มั้ยฮอท” มันหันหน้ามาพลางดึงมือที่จับอยู่แน่นขึ้นไป..
“เออๆ”
ตลอดทางที่เดินมาตั้งแต่ด้านหน้าร้านจนกระทั่งด้านในก็มีแต่สายตามองมาที่ร่างบางอย่างไม่ขาดทั้งสายตาราวกับจะกลืนกิน สายตาที่มองว่าอยากได้อยากเป็นเจ้าของคนตรงหน้า สายตาราวกับหมาป่ามองเหยื่อตรงหน้าที่พร้อมบดขยี้ได้ทุกเมื่อ
แต่สายตาก็ยังเป็นแค่สายตาเพราะคนที่จับจูงร่างบางอยู่นั้นตวัดสายตาไปปะทะกับคนที่มองคนตัวเล็กชนิที่ว่าถ้ามีใครเดินเข้ามาใกล้ล่ะก็...อยู่ไม่สุขแน่ คนที่จับคนตัวเล็กกว่าก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงต้องหวงจนถึงขนาดส่งสายตาเหล่านั้นออกไปทั้งๆที่จะไม่ทำก็ได้จึงอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาการหนักที่หวงเพื่อนของตัวเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
50% แล้ววว สำหรับตอนนี้
เป็นไงบ้างเอ่ย คอมเมนท์บอกกันหน่อยสิ
...............................คอมเมนท์คือกำลังใจนะ...............................
ความคิดเห็น