คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : { บทนำ } จุดเริ่มต้นของความเขิน(?)
- 3เดือนที่แล้ว –
‘ออกมาหาหน่อยสิ รอที่ร้านเดิมนะ’
ข้อความจากคนที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแฟนของผมถูกส่งมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ผมนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงหน้าโทรศัพท์จนแม่ต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เอ่อ...ผมแค่ดีใจน่ะ
ลืมแนะนำตัวไปเลย ผมมินยุนกิ ที่กระแดะอยากจะชื่อชูก้าเพราะความขาวของตัวเอง เรียนอยู่ม.ปลายปีหนึ่งที่กำลังจะขึ้นปีสองในอีกไม่นาน มีแฟนเป็นรุ่นพี่ที่มีอายุห่างกัน3ปี ที่สำคัญนะ...แฟนผมหล่อมาก! เป็นถึงเดือนของคณะเลยที่เดียวเชียว และที่ผมดีใจก็เพราะนั่นแหละ เราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่หลังจากที่พี่เค้าย้ายไปเรียนต่อที่มหาลัยต่างจังหวัด ทำให้ช่วงนั้นหัวใจมินยุนกิคนนี้ห่อเหี่ยวม๊ากกกกก T-T
“มี๊ เดี๋ยวน้องยุนกิออกไปที่ร้านเค้กหน้าหมู่บ้านหน่อยนะฮะ”
“งั้นเดี๋ยวมี๊ไปส่งค่ะ ไปคนเดียวมันอันตราย” มี๊บอกผมพร้อมลูบหัวเบาๆ ง่า ผมบอกมี๊ไปตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าผมน่ะโตแล้ว ไม่อยากให้มี๊เหนื่อยเพราะต้องขับรถไปส่งผมที่หน้าหมู่บ้านเลยอ่ะ (เอาจริงๆคือไม่อยากให้รู้ใช่ป่ะว่านัดผู้ชายไว้?)
“น้องยุนกิโตแล้วนะฮะ...”
“อย่าเถียงมี๊สิคะ มันอันตรายจริงๆ เชื่อมี๊รึเปล่า?” ผมจำต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่เถียงหรอกว่ามันอันตรายน่ะ มี๊บอกผมบ่อยๆว่าหน้าผมหวานยิ่งกว่าผู้หญิงจนมีใครหลายๆคนทักผิดอยู่บ่อยๆ เต๊าะบ้างล่ะ ขอแตะเนื้อต้องตัวบ้างล่ะ อยากจะตะโกนให้หน้าจริงๆว่า ‘ยุนกิเป็นผู้ชายนะ!’
“ฮะ น้องยุนกิไม่เถียงหรอก งั้นมี๊ไปส่งน้องหน่อยนะ” ผมยิ้มแป้นก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นห้องไปเอากระเป๋าตังค์ใส่ลงในกระเป๋ากางเกง มองรูปคู่ที่เคยถ่ายด้วยกันตอนพี่แจฮยอนปัจฉิมแล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
“อ๋า จริงด้วย!” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่แจฮยอนเคยให้รองเท้าเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่นานมานี้ (พี่เค้าส่งมาทางไปรษณีย์มาน่ะ) แถมในโน้ตยังบอกอีก ที่ให้รองเท้าเพราะพี่เค้าจะบอกประมาณว่า
‘น้องยุนกิเป็นจุดยืนของพี่ ถ้าไม่มีน้องยุนกิ พี่คงอยู่ไม่ได้’
พวี๊ดดดดด คนอะไรโรแมนติกที่สุดเลย ไม่คิดบ้างหรอว่าน้องยุนกิจะขวยเขิน T////w////T โอเค!! ตอนนี้ผมควรจะไปร้านเค้กได้แล้ว กลัวว่าแฟนสุดหล่อของผมจะรอนาน ไม่ได้ๆ >_<
“SweetieRoll Cafè”
“แล้วน้องยุนกิจะรีบกลับบ้านนะฮะมี๊ ชยู๊ปปป” ผมส่งจุ๊บให้มี๊แล้วยิ้มกว้างก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถ เตรียมก้าวขาเข้าไปด้านในร้านแต่ก็ชะงักเมื่อเห็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าที่สุด จะไม่ให้คุ้นได้ยังไง ก็นั่นมันพี่แจฮยอน! คุณพระ พี่เค้าดูดีกว่าตอนม.6มากเลยล่ะ จากผมสีดำกลับย้อมเป็นสีน้ำตาลแดงหม่นๆ เสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวที่ตัดกับผิวขาวของพี่เค้าทำให้เพิ่มเสน่ห์มากยิ่งขึ้นไปอีก ฮื่อ จะไม่ทน T^T
“ใจเย็นๆสิยุนกิ อย่าตื่นเต้น...” กุมมือแน่นเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองแล้วเปิดประตูร้านเข้าไป . . .
ตึกตัก
ให้ตายสิ ผมห้ามตัวเองไม่ให้ใจเต้นแรงไม่ได้เลยจริงๆง่า ยิ่งเข้าไปใกล้ก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ดีหน่อยที่พี่เค้ายังไม่เห็นผมเพราะมัวแต่เล่นโทรศัพท์อยู่
“พ พี่แจฮยอน” กรี๊ดดดด ผมเรียกพี่เค้าไปแล้ววววว
“ครับ...อ้าว ยุนกิ” และทันใดที่พี่แจฮยอนมาตามเสียงเรียกของผม สายตาของเราก็สบกันเหมือนมีอะไรมาสปาร์คยังไงยังงั้น อมก!!! พลังทำลายล้างสูงมาก ตายแป๊ปปปปปป
“รอนานมั้ยฮะ? ย ยุนกิไม่ได้ตั้งใจจะมาสายนะ”
“ไม่ๆ ไม่เป็นไรครับ นั่งก่อนสิ” แล้วผมก็เดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามของอีกคนอย่างว่าง่าย ประหม่าจังแหะ เขินง่ะ /) /////// (\
“อ่า ฮ่ะๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนานแหน่ะ พี่หล่อขึ้นนะฮะ”
“เราเองก็น่ารักเหมือนกันนั่นแหละ” พี่แจฮยอนตอบยิ้มๆแล้วกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง เอ่อ...พี่เค้าสั่งเค้กไปรึยังนะ?
“พี่สั่งอะไรไปรึยังฮะ? ให้ยุนกิสั่งให้มั้ย?”
“ไม่ต้องหรอกครับ พี่สั่งอเมริกาโน่ไปแล้ว^-^” ผมพยักหน้าพลางชะเง้อมองเค้กในตู้โชว์ อื้ม เค้กสตรอเบอรี่ชีสเค้กนั่นน่ากินจัง เครปเค้กชาเขียวด้วย เฮ้ย! แล้วนั่นมีเค้กราสเบอร์รี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? อยากเหมาหมดเลยง่า *----*
“พี่แจฮยอน ยุนกิอยากลองกินเค้กราสเบอร์รี่จัง”
“สั่งกลับบ้านดีมั้ยครับ? เพราะอีกไม่นานพี่ก็กลับแล้วล่ะ” หือ?
“อ้าว นี่มันก็ช่วงปิดเทอมของพี่ไม่ใช่หรอ? ทำไมรีบกลับจัง นานๆเราจะได้เจอกันนะฮะ ยุนกิคิดถึงจะแย่” ผมพองแก้มพูดอย่างน้อยใจ แต่พอเห็นสีหน้าพี่แจฮยอนแล้วก็อดคิดไปต่างๆนานาไม่ได้ว่าพี่เค้ากำลังมี ‘ความลับ’ ที่ยังไม่ได้บอกผมอยู่ หรือว่าที่พี่เค้านัดผมมาคือไม่ได้ตั้งใจจะมากินเค้กด้วยกันงั้นหรอ?
“พี่ก็คิดถึงยุนกิครับ แต่...”
“มีอะไรไม่สบายใจก็บอกยุนกิได้นะ เราเป็นแฟนกันนี่หน่า” ผมทาบมือของตัวเองลงบนมือพี่เค้าอีกที ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบหลังมือเบาๆเพื่อปลอบประโลม ผมแค่อยากให้เค้ารู้ว่าถ้าพี่เค้าไม่เหลือใคร ก็ยังมีผมที่อยู่เคียงข้างพี่เค้าอีกคน
“อื้ม พี่มีเรื่องจะบอกเรา ฟังให้ดีๆนะ”
“อ่าฮะ”
“เราเลิกกันเถอะ”
“ห้ะ?” งงสิฮะ งงม๊ากกกกกกกกก อะไรวะ...อยู่ๆก็นัดมาบอกเลิกเนี่ยนะ? มันเรื่องอะไรกันนน เว๊?
“เลิกกัน”
“ท ทำไมล่ะพี่แจฮยอน? ยุนกิทำอะไรผิดหรอ? ทำไมต้องเลิกล่ะ ยุนกิรักพี่แจฮยอนมากนะฮะ” ผมพูดรัวไม่เหลือช่องว่างให้พี่เค้าแทรก เพราะขืนถ้าฟังอะไรๆมาจากปากพี่เค้า น้ำตาผมคงไหลแน่ๆอ่ะ จะบ้าตาย ความสุขที่สะสมไว้เกือบปีกลับต้องพังลงเพราะคำบอกเลิกเพียงสองวินาที อย่างนั้นหรอ!!!!
“เราเข้ากันไม่ได้”
“ตรงไหนที่เข้ากันไม่ได้? ยุนกิก็สังเกตมาตลอดนะไม่มีตรงไหนเลยที่เราจะขัดแย้งกัน ถามว่าเราทะเลาะกันบ้างมั้ย...ก็มีบ้างแต่ก็ไม่ได้งี่เง่าเหมือนคู่อื่นนี่ ตอนพี่ไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัด ยุนกิก็ไม่ได้สนใจใครเลย ท..”
“นายมันอ้วน” เหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห๊?
“ตัวเตี้ย บอกให้กินนมก็ไม่กิน
.
นายมันดื้อ
.
นายมันเด็ก ต้องให้แม่ไปรับไปส่งอยู่ตลอด
.
นายมันเอาแต่ใจ
.
พี่ต้องเก็บมันเอาไว้ เพราะขืนบอกนายไปนายก็คงอาละวาด” ว๊อทททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททท ???????????????????????????????????????????
โอเคตอนนี้ผมยอมรับเลยว่าเหมือนจะหน้ามืด และไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมกับพี่แจฮยอนถึงมายืนอยู่หน้าร้านเค้กแล้ว ผมช็อคมาก ช็อคจริงๆ อะไรคือ ‘ต้องเก็บมันเอาไว้’ ?
“เราจบกันแค่นี้เถอะยุนกิ พี่ไม่ได้รักนายแล้ว”
“…” พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว พี่ไม่ได้รักนายแล้ว !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ไม่พูดอะไรหน่อยหรอ?”
“กูนึกคำด่าอยู่สัด! โหย มึงคิดว่ามึงดีมากใช่มั้ยที่มาบอกเลิกคนอย่างกู ไม่เห็นข้อดีของกู แล้วดูเหตุผลมึงดิ๊ เหตุผลพ่อมึงเค้าใช้บอกเลิกหรอหะ? เออ ใช่ซี่ อีพ่อคนดี เทพบุตร คิดว่ามึงหล่อมากหรอถึงทำแบบนี้ได้ ความรักที่กูเคยให้มึงไปคงไม่ได้สัมผัสเลยสินะ เสียแรงชิบหายที่กูมัวเอาเวลาไปคิดถึงมึงเนี่ย ตอนอยู่โรงเรียนก็มีคนมาจีบกูเยอะแยะแต่กูกลับไม่สน เวรเอ้ย อีหอยหลอด แล้วไอ้รองเท้าที่มึงให้กูเนี่ย...” ไม่ทงไม่ทนละ ผมถอดรองเท้าผ้าใบที่แสนจะหวงนักหวงหนาออก เล่นอย่างนี้เลยนะอันแจฮยอน ได้...ได้รู้ฤทธิ์ของมินยุนกิแน่
“จุดยงจุดยืนพ่อมึง ไอ้ส้นตีน เอาคืนไปเลย ฟั**********ยู!!!”
ผลัวะ!!!
ผมปารองเท้าไปโดนหัวไอ้หมอนั่นอย่างแรง แล้วรีบวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิตว่าจะโดนรถชนหรือวิ่งชนหมาแต่อย่างใด ผมไม่ได้กลัวว่าจะถูกด่าหรือโดนตอกหน้า ผมแค่ไม่อยากให้น้ำตามันไหลออกมาต่อหน้าแจฮยอน ฮือออออออออ น้ำตาไหลแล้วเว้ย อะไรก็ไม่เสียใจเท่านี้มาก่อน แงงงงงงงงงงงงง
.
.
.
.
วิ่งเท้าเปล่า ร้อนตีนชิบหัยยยยยยยยยยยยยยส์ T____________T
และเวลาที่ผมมีเรื่องเสียใจ ผมมักจะดื่มนมกล้วย อือใช่ นมกล้วยนี่แหละที่สามารถช่วยผมได้(แค่5นาที) ผมผลักประตูร้านมินิมาร์ทเก่าๆออกแล้วเดินพุ่งตรงไปยังโซนขายนม โว้ยยยย มองอะไรกันนักหนา! ไม่เคยเห็นคนไม่ใส่รองเท้าออกจากบ้านรึไง? อายนะฮุ่ย - -
รีบหอบนมกล้วย1แพ็คไปจ่ายที่เคาน์เตอร์อย่างรวดเร็วก่อนที่จะออกมาและเดินไปยังจุดมุ่งหมายต่อไป...
สวนสาธารณะ
คิดถึงมี๊ งือ ทำไมชีวิตที่อยู่ในกรอบจะต้องมานั่งเรื่อยเปื่อยบนพื้นหญ้าแบบนี้ด้วย ถ้ามี๊รู้ มี๊คงได้บ่นขี้หูทะลุแน่ๆ
ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ด ด ด ด ด ด ด ด
และแล้วนมกล่องที่3ก็หมดไป เหลืออีก3กล่องสินะ...
“ต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว! ความรงความรักบ้าบอ!!” ตะโกนใส่หูสุนัขจรจัดที่มานั่งตรงหน้าตั้งแต่ที่ผมเลือกจะนั่งตรงนี้ตั้งแต่แรก มันแลบลิ้นใส่ผมแถมยังทำหางกระดิกอีกด้วย สะใจแกหรอห๊า?
เหมือนคนบ้าเลยว่ะ...
ผมนั่งชันเข่าขึ้นแล้วกอดเอาไว้เมื่อรู้สึกว่าท้องของตัวเองนั้นรับนมกล่องต่อไปไม่ไหวแล้ว ไอ้เท้านี่ก็แสบจังเล้ย แดงหมดแล้วเนี่ย ขืนเดินกลับบ้านเท้าเปล่ามีหวังเท้าพังแหงๆ ทำไงดี?
“นี่” จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังผม คิดยังไงถึงได้มาทักคนที่เพิ่งอกหัก(วะ)!
“...” ผมหันไปมองบุคคลปริศนาที่กล้าเข้ามาทักทายผม อ โอ้มายก๊อซ...นี่มันเทพบุตรรึเปล่า? ดวงตาเรียวคม จมูกเป็นสัน ริมฝีปากที่คลี่ยิ้มนิดๆดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และสีผมที่ถูกย้อมกลายเป็นสีม่วง ผมกล้าประกันเลยว่าถ้าหน้าตาไม่ดีจริงนี่ทำไม่ได้แน่ๆ ไปตายแล้วเกิดใหม่ก็ยังไม่สมควรทำอ่ะ แต่คนๆนี้กลับดูดีอย่างเหลือเชื่อ
“พี่เห็นเราตั้งแต่ร้านมินิมาร์ทละ ทำไมไม่ใส่รองเท้าล่ะ?” ....หน้าตาหล่อแล้วเสียงยังหล่ออีกด้วย โอ๊ยยยยยยยยยย
“อ เอ่อ”
“ว่าไงล่ะ?” ม มี๊ น้องยุนกิกลัวผู้ชายแปลกหน้า...กลัวเพราะเค้ามาทำให้หวั่นไหวทั้งๆที่เพิ่งเลิกกับแฟนเก่ามา งื๊ดดดดดดดดดดด
“อ เอาซัดหัวหมาไปแล้ว”
“หื้ม เราหมายถึงเจ้าตัวนี้รึเปล่า?” พี่หัวม่วงนั่งยองๆตรงหน้าผมแล้วเอียงคอถามอย่างน่ารัก สายตานั่นอ่อนโยนมากเลยล่ะ คือผมจะบอกยังไงดี...อธิบายยากมาก ณ จุดนี้
“เปล่านะ ไม่ใช่ตัวนี้หรอก”
“ก็ว่างั้นแหละครับ ถ้าเอารองเท้าปาหัวเจ้านี่จริงๆ มันคงไล่กัดเราไปนานแล้วล่ะ^-^” ยิ้มอีกแล้ววววว ยิ้มทำไมมมม ยุนกิยังไม่อยากผิดคำสัญญากับตัวเองตอนนี้!!! ยุนกิจะไม่มีความร๊ากกกกกกก
“แล้วคุณ...เป็นใคร?”
“ผมกำลังจะขึ้นม.ปลายปีสาม ส่วนชื่อน่ะ ไม่ต้องรู้หรอก ฮ่าๆ” มีแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย? แสดงว่าเป็นรุ่นพี่ของเราสินะ
“อ๋อ...ฮะ”
“อ่ะ เอานี่ไปใส่สิ ฝ่าเท้าแดงหมดแล้วนั่น” มือหนายื่นรองเท้าผ้าใบของตนมาให้ผม นี่อย่าบอกนะว่าที่ตามผมมาเพราะจะเอารองเท้าของตัวเองมาให้ ขอหลงตัวเองหน่อยได้มั้ย? ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
“ทำไม?”
“หน่า ไม่ต้องสงสัยหรอก ไปละนะ”
“อ อ้าว” ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ พี่เค้าก็วางรองเท้าไว้ตรงหน้าแล้ววิ่งออกไปเลย...ด้วยเท้าเปล่าปราศจากรองเท้า ผมก้มลงมองรองเท้าผ้าใบที่ตั้งนิ่งเอาไว้อย่างพิจารณา ของแพงซะด้วยสิ จำได้ว่ารุ่นนี้เป็นลิมิเต็ดเลยนี่หน่า คนบ้าอะไรทั้งหล่อ เสียงดี แถมบ้านยังรวยอีก โหยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ยุนกิว่า...ยุนกิหาจุดยืนใหม่ได้แล้วล่ะมี๊ >______________________<
------------------------------------------------------------------
ทาด๊า!!! ขอฝากตัวด้วยนะคะ สำหรับฟิควีก้าเรื่องใหม่แกะกล่องเลย อู่วววว
บรรยายกากไปหน่อยนะคะ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยฮับ T______T
จากที่ตั้งพล็อตไว้คือไม่น่าจะมาดราม่าเลยล่ะค่ะ ^[+++++]^ Y
และหวังว่า วกชป. จะชอบนะคะ ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านฟิคกากๆเรื่องนี้กันนะค๊า จุ๊บ <3
ปล.ไม่อยากเม้นก็อย่าลืมแท็ก #พี่วีน้องก้า ด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้เค้าได้อัพฟิคไวๆ ฮิ
ปล2. ใครเอ่ยหัวสีม่วง? XD
edit 21/09/14 07;05PM
ความคิดเห็น