คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Adrenaline 4 - 100%
- 4 -
ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิทห้องโถงของบ้านแฮร์โรว์ถูกจับจองด้วยสองหนุ่มฮันเตอร์จุนฮเวและปริ๊นซ์บีไอซึ่งกำลังนั่งเล่นเกมส์จอยกันอย่างดุเดือดเพียงแค่สองคนโดยคนอื่นในบ้านต่างเข้าห้องของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“บอกว่าให้กลับไปไม่ได้ยินรึไง อย่ามาทำตัวแกะกะได้มั้ย?”
“ไม่ได้ครับ คุณเจบีต้องทำแผลก่อนนะคุณทำแผลเองไม่ได้หรอก”
“ฉันทำเองไม่ได้มันก็เรื่องของฉันสิวะ”
จุนฮเวกับบีไอหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน เสียงโวยวายดังขึ้นพร้อมร่างของพี่ชายที่เขาทั้งสองคนรู้จักดีกำลังถอดรองเท้าด้วยท่าทางหงุดหงิดใบหน้ามีรอยแผลสดเป็นบางจุดแขนแกร่งก็คอยสะบัดอะไรบางอย่างออกไปด้วย
“อ่าวพี่ ไปทำอะไรม …”
จุนฮเวกดปุ่มสต็อปเกมส์แล้วทำท่าจะลุกขึ้นไปหาผู้เป็นพี่แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขาเห็นร่างของใครบางคนเดินตามหลังมาด้วย
“เดี๋ยวหน้าคุณก็มีแผลเป็นหรอก … อ .. เอ่อ … สวัสดีครับ” คนแปลกหน้าทำท่าตกใจนิดหน่อยก่อนจะรีบก้มหัวทักทายอีกสองคนในห้องโถงทันที
“สวัสดีครับ … พี่เจบีนี่คือ …”
“อะไร!?”
เจบีตะคอกถามเสียงดังจนจุนฮเวถึงกับเงียบกริบไปโดยปริยาย เขาแค่กะจะถามซักหน่อยว่าผู้ชายร่างบางหน้าตาน่ารักที่เดินมาด้วยเป็นใครเท่านั้นเอง แต่ท่าทางคงจะต้องเก็บคำถามไว้ตอบในใจคนเดียวแล้วหล่ะมั้ง
ป้าบ!
“ตอบคนอื่นดีๆสิครับ บ้านเดียวกันแท้ๆ” มือบางฟาดเข้าให้ที่แผ่นหลังกว้างคิ้วขมวดเข้าหากันมองคนตรงหน้าด้วยสายตาตำหนิ
“เฮ้ย! นี่นายกล้าตีฉันหรอ!? จะมากไปละนะ”
คนตัวเล็กไม่สนใจคนขี้โวยวายก่อนจะก้มหัวให้ทั้งสองคนแล้วดันเจบีให้เข้าห้องของเจ้าตัวไป และแล้วสงครามขนาดย่อมๆภายในห้องโถงก็จบลงโดยที่ทั้งสองคนยังคงมึนงงกับเหตุการณ์อยู่
ปัง ..
หลังจากประตูปิดลงคุณเจบีก็สะบัดตัวออกจากมือผมทันทีประหนึ่งผมเป็นเชื้อโรคร้ายแรงที่ไม่ควรเข้าใกล้ยังไงอย่างนั้น
“กล่องปฐมพยาบาลอยู่ไหนครับ?” ผมถามขึ้นพลางมองการกระทำของอีกคนไปด้วย คุณเจบีถอดเสื้อโค้ทออกก่อนจะโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจตามด้วยเสื้อสูทเนคไทและ ….
“ ….. ”
“เอ่อ …”
คุณเจบีหันมามองผมด้วยปลายตาก่อนจะเอ่ยปากไล่ “ยังไม่ออกไปอีก .. จะดูฉันถอดเสื้อรึไง?”
“แล้วไม่บอกหล่ะครับ! แต่ยังไงก็ต้องทำแผลด้วยนะ”
คุณเจบีไม่ตอบอะไรนอกจากบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พอมือหนาเริ่มปลดกระดุมด้านบนเท่านั้นแหละครับผมก็รีบปลีกตัวออกมาจากห้องของเขาทันที
ถึงจะมีอะไรเหมือนกันแต่ก็ใช่ว่าจะมองกันง่ายๆนะครับ ยิ่งกับคุณเจบีแล้วผมว่าเขาก็เป็นคนที่หุ่นดีมากๆคนนึงเลยแหละ เอ๊ะ … แล้วผมจะชมเขาทำไมหล่ะเนี่ย บ้าไปแล้ว
ผมค่อยๆเดินเบาๆเพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนคนอื่นสายตากวาดมองกล่องปฐมพยาบาลไปด้วย จะว่าไปบ้านนี้ทั้งใหญ่ทั้งหรูหรากว่าบ้านของผมหลายเท่าเลยแฮะ แต่ห้องไม่ได้เยอะเท่าบ้านผมคงเพราะบ้านนี้มีคนอยู่กันแค่ห้าคนด้วยหล่ะมั้ง?
“เฮ้ย / เหี้ย!!”
แน่นอนว่าเสียงแรกมันต้องเป็นของผมแน่นอน ส่วนเสียงที่สองนั้นเป็นเสียงของคนหน้าหล่อคนนึงที่เพิ่งออกมาจากห้องใกล้ๆ ตอนนี้กำลังเบิกตากว้างมองผมอยู่ด้วยความตกใจซึ่งผมเองก็ตกใจไม่ต่างกัน
“นายเป็นใครเนี่ย?” ดูท่าคนคนนี้จะหายตกใจแล้วหล่ะครับ จากท่าทางที่เก็กขรึมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด นี่ไม่คิดจะกลัวบ้างรึไงครับ ถ้าเกิดผมเป็นขโมยขึ้นมาเขาจะมายืนถามแบบนี้รึป่าวนะ
“ผมปาร์คจินยองจากบ้านอาร์เธน่าครับ … พอดีคุณเจบีเขาบาดเจ็บนิดหน่อยผมเลยมาทำแผลให้เขา รบกวนด้วยนะครับ”
“อ๋องั้นหรอกหรอครับ? ผมโอเซฮุนหนึ่งในบ้านนี้แหละ แล้วคุณมาทำอะไรแถวนี้หรอ?”
“ผมออกมาหากล่องปฐมพยาบาลหน่ะครับ คุณพอจะรู้มั้ยว่ามันอยู่ไหน?” คุณเซฮุนทำหน้านึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร้องอ๋อออกมา
“ผมว่าผมมีอยู่ในห้องนะครับ เข้ามาสิ” คุณเซฮุนเปิดประตูก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน ผมค่อยๆกระดึ๊บเข้าไปด้านในด้วยความเกรงใจ แหม จู่ๆก็มารบกวนเขาแบบนี้ไม่โดนเอาเท้าแนบหน้าก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก กันเองๆ” คุณเซฮุนหันมายิ้มกับท่าทางผมนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปค้นของในห้องตัวเองต่อ “เจอแล้ว .. ลองตรวจดูของข้างในสิว่าครบมั้ย”
ผมรับกล่องปฐมพยาบาลสีขาวจากอีกคนก่อนจะเปิดออกเช็ค ดูท่าคนคนนี้จะไม่เคยเจ็บตัวนะดูจากกล่องที่ใหม่เอี่ยมและของด้านในที่ไม่ได้ผ่านการใช้งานเลย
“ขอบคุณมากนะครับ ช่วยได้เยอะเลย” ผมเงยหน้ายิ้มให้อีกคนจนตาปิด แอบรู้สึกแย่นิดๆครับที่ต้องเงยหน้าให้กับทุกคนแบบนี้ เกิดมาเตี้ยก็เจ็บหัวใจแบบนี้แหละครับ
ก็อกก็อก
แอดดด …
“ไอ้เซฮุน มึงมี ….”
ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของคุณเจบีที่อยู่ในชุดนอนที่เป็นเพียงเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขายาวสบายๆ เขามองมาที่ผมกับคุณเซฮุนเพียงชั่วครู่สายตาของเขาที่ตอนแรกยังเป็นปกติอยู่ตอนนี้กลับกลายเป็นแววตานิ่งๆเหมือนเขาเริ่มจะอารมณ์ไม่ดีอีกครั้ง
“พลาสเตอร์รึป่าว” น้ำเสียงของคุณเจบีต่ำลงจนคนฟังอย่างผมถึงกับขนลุกขนชันด้วยความรู้สึกกลัวแปลกๆไหนจะสายตาแบบนั้นอีก
“เอ่อ … ก็อยู่ในกล่องนี้แหละ” คุณเซฮุนชี้ที่กล่องที่ผมถืออยู่ คุณเจบีเดินเข้ามาหาก่อนจะดึงแขนและลากผมออกจากห้องของคุณเซฮุนโดยไม่พูดอะไรซักคำ
“นี่คุณปล่อยก่อนสิ อะไรของคุณเนี่ย?”
“อยากทำนักไม่ใช่หรอไงแผลหน่ะ ก็ทำดิ” คุณเจบีปล่อยมือที่จับแขนผมอยู่ออกเมื่อมาถึงห้องของเขาก่อนจะนั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่
ผมมองอีกคนด้วยความไม่เข้าใจ อะไรของเขากัน? ก่อนจะมาถึงนี่ยังโวยวายแทบตายว่าไม่ให้ผมมาที่นี่ แต่ไหงตอนนี้กลับทำท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนรอผมทำแผลให้ซะงั้น
ยิ่งรู้จักก็ยิ่งแปลกคน …
ผมนั่งลงบนเตียงตามคุณเจบีก่อนจะลงมือเปิดกล่องปฐมพยาบาลแล้วหยิบแอลกอฮอล์ขึ้นมาเปิดฝาเทลงบนสำลีขาวสะอาดเพื่อทำการล้างแผลของอีกคนเสียก่อน
“แสบนะครับ”
“จะแสบแค่ไหนเชียว” คุณเจบีพูดเบาๆคนเดียว ผมจับคางของเขาก่อนจะเริ่มใช้สำลีที่ชุบแอลกอฮอล์เช็ดบริเวณแผลสดบนใบหน้าเบาๆ
“โอ๊ย .. โอ๊ย! แสบนะโว้ยเบาๆดิวะ”
“ไหนว่าไม่แสบไงครับ อยู่นิ่งๆเลยอย่าดิ้น เผลอกดแผลคุณเข้าผมไม่รู้ด้วยนะ” ผมขมวดคิ้วปรามอีกคนด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังดุเด็กเล็กอยู่ คุณเจบีฟึดฟัดอยู่นิดหน่อยแต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆตามที่ผมบอก
ให้ตายเหอะครับ นี่ผมกำลังทำแผลให้เด็กอยู่รึป่าว? เผลอๆเด็กเล็กยังพูดง่ายกว่าคนคนนี้เสียอีก
เนื่องจากแผลบนใบหน้าเขามีอยู่หลายแผลและการที่ผมต้องทำมือเบายิ่งกว่าสำลีทำให้เวลาในการทำแผลใช้เวลาค่อนข้างนาน และมันคงนานจนเจ้าของรอยแผลเริ่มที่จะเบื่อดูจากการที่มือของเขาเริ่มขยุกขยิกอยู่ไม่สุข
“ผมบอกให้อยู่นิ่งๆไงครับ”
“งั้นหยิบโทรศัพท์ตรงนั้นให้หน่อยดิ”
คุณเจบีชี้ไปที่โต๊ะตรงหัวเตียงที่มีโทรศัพท์เครื่องหรูของเจ้านอนคว่ำอยู่ ผมลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะยื่นให้เขาโดยไม่คิดอะไร
“ขวดน้ำตรงนั้นด้วย”
“ถุงขนมตรงโต๊ะข้างหลัง”
“แล้วก็ …”
“นี่คุณ! ผมมาทำแผลนะครับไม่ใช่คนรับใช้” ผมกระทืบเท้าด้วยความโมโหเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนหลอกใช้ให้หยิบของเข้าให้ คุณเจบีหัวเราะเยาะในความโง่ของผมนิดหน่อยก่อนจะแกะขนมใส่ปากอย่างชิลๆ
“หยิบรีโมทมาให้ด้วยนะ”
ไม่ทำแล้วครับแผล เพิ่มแผลให้แทนได้มั้ย?
ผมปารีโมทใส่ร่างหนาหวังให้มันปลิวไปโดนหน้าเขาเพื่อเพิ่มแผลซักแผลสองแผลแต่ก็ไม่ทันคุณเจบีที่รู้ตัวก่อนและรับรีโมทไว้ได้ทันพอดี
“จะชนะฉันอีกสิบปียังเร็วไป”
จ่ะ … พ่อคนเก่ง
ผมทำหน้าบูดบึ้งพลางกลับมานั่งแหมะบนเตียงเหมือนเดิมโดยมีคุณเจบีมองตามพลางยิ้มเยาะอย่างสนุกสนาน สนุกมากมั้ยครับพ่อคนเก่ง? อย่าให้ถึงตาของปาร์คจินยองบ้างแล้วกัน
คุณเจบีเปิดทีวีจอแบนขนาดใหญ่เท่าครึ่งของกระดานในห้องเรียนเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆพลางหยิบขนมกินไปด้วย โดยมีผมคอยติดพลาสเตอร์บนใบหน้าเขาให้
สุขสบายเหลือเกินชีวิตเจ้าชายเนี่ย ถ้าไม่ติดว่าแผลพวกนี้มาจากที่เขาช่วยนี่ผมไม่มีทางก้าวขามาที่นี่หรอก
“หือ? ข่าวอะไรเนี่ย … ” คุณเจบีขมวดคิ้วเพ่งเล็งไปที่หน้าจอทีวีเรียกให้ผมต้องหันไปมองตาม
หรือว่าจะเป็น ….
ปึก!
“กลับแล้วนะครับ ฝากเอากล่องนี่คืนคุณเซฮุนแทนผมด้วย”
“อ่าว”
ผมเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างลงก่อนจะปิดกล่องปฐมพยาบาลด้วยความรวดเร็วโดยมีคุณเจบีมองตามอย่างงงๆ ผมส่งยิ้มกว้างให้อีกคนจนตาปิดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
ไหนๆก็จะกลับแล้วก็ขออำลาหน่อยแล้วกัน
“คุณเจบีครับ”
“อะไร?”
“คุณเป็นคนน่ารักม๊ากมากเลยนะครับ” ผมยกนิ้วโป้งให้คนบนเตียงเพื่อเป็นการยืนยันว่าที่พูดมานั้นเป็นความจริงก่อนจะปลีกตัวออกมาจากห้องทันที
เจบียังคงมองอยู่ตรงประตูไม่ละไปไหน ภายในหัวผุดภาพของคนร่างบางเมื่อตะกี้ที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าจนเจ้าตัวต้องเผลออมยิ้มตาม
คงเป็นเพราะเรื่องในวันนี้หล่ะมั้ง
‘สวัสดีค่ะดิฉันนักข่าวจากช่องxxx จะขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านพักคนชราหน่อยนะคะ’
‘อ๋อ ได้ค่ะ’
เสียงคนคุยกันในทีวีที่ดังออกมาเรียกสติที่กำลังฟุ้งซ่านของคนบนเตียงให้หันกลับมาสนใจจอตรงหน้าอีกครั้ง
‘เรื่องในวันนี้มันเป็นมายังไงคะช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยค่ะ’
‘มันเป็นเรื่องประหลาดสำหรับดิฉันมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่ดิฉันเห็นเด็กนักเรียนมาตัวคนเดียวพร้อมข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือแถมยังบริจาคเงินก้อนโตให้ทางบ้านพักอีกด้วยค่ะ’
‘จริงหรอคะ? ว้าว! สุดยอดไปเลยนะคะ … แล้วทราบมั้ยคะว่าเด็กคนนั้นเป็นใครมาจากไหน?’
‘เอ … เขาไม่ได้บอกรายละเอียดนะคะว่าเป็นใคร เขาบอกแค่ว่าเป็นตัวแทนมาบริจาคกับทางเราพร้อมกับยื่นจดหมายอันนี้มาเท่านั้น’
หลังจากสัมภาษณ์ผู้หญิงดูมีอายุคนนึงเสร็จภาพก็ตัดไปที่จดหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีตัวหนังสือที่ถูกเขียนไว้ด้วยลายมือสวยงามแม้จะไม่ได้ยาวมากนักแต่กลับดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่มีแม้แต่รอยลบซักจุด
เจบีกดปุ่มหยุดภาพไว้ก่อนจะตั้งใจอ่านข้อความในจดหมายทีละคำ
จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากทางเราเห็นความลำบากของคนเฒ่าคนแก่ที่ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง ทางเราจึงขอมอบเครื่องนุ่งห่มอุปกรณ์ช่วยเหลือและยารักษาโรคต่างๆและเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ทางบ้านพักคนชราแห่งนี้ ทางเราหวังว่าผู้ดูแลส่วนช่วยเหลือจะนำสิ่งของและเงินเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่คนในบ้านอย่างสูงสุด
ขอให้ทุกๆคนในบ้านพักมีสุขภาพแข็งแรงและมีกำลังใจที่ดี
ลงนาม
อิมแจบอมแห่งริปเปอร์จากบ้านแฮร์โรว์
“เฮ้ย! นั่นมันฉันนี่”
เจบีร้องออกมาด้วยความตกใจมือรีบกดปุ่มเพลย์เพื่อให้ทีวีดำเนินรายการตรงหน้าต่ออย่างใจจดใจจ่อว่าต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้น
‘ถึงดิฉันจะรู้แค่ชื่อเท่านั้น แต่ดิฉันก็อยากจะขอบคุณคุณอิมแจบอมที่ช่วยบริจาคสิ่งของและเงินทองผ่านข่าวช่องนี้นะคะ มันมากมายจนดิฉันไม่รู้จะตอบแทนยังไง ขอบคุณจริงๆค่ะ’
หญิงสาวมีอายุโค้งขอบคุณให้กับกล้องก่อนที่ภาพจะตัดกลับไปเป็นห้องส่งของข่าวช่องนั้นแทน
เจบีนั่งกำรีโมทนิ่งอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคเลื่อนดูข้อความที่ส่งมาอย่างรวดเร็ว
คุณได้ชำระเงินจากร้าน xxx เมื่อเวลา 14:04 PM ทั้งหมด KRW 10,000,000 by black card.
คุณได้ถอนเงินจากธนาคาร xxx เมื่อเวลา 14:32 PM ทั้งหมด KRW 50,000,000 by black card.
……
‘คุณเป็นคนน่ารักม๊ากมากเลยนะครับ’
“ปาร์คจินยอง ไอ้ตัวแสบ!!!!!!!”
65%
“นี่ๆจินยอง เมื่อวานได้ดูข่าวภาคค่ำปะ?”
ยองแจหันมาหาหลังจากหมดคาบเรียนและอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนวิชาเรียน ผมเงยหน้าจากกองงานของตัวเองและของคนอื่นมองเพื่อนตัวเองก่อนจะยักไหล่หนึ่งที
“ไม่รู้สิ”
“ข่าวนี้ดังมากเลยนะขอบอก จู่ๆอีเกิ้ลแห่งริปเปอร์ก็บริจาคเงินกับของใช้ให้กับบ้านพักคนชราตั้งหกสิบล้านวอนแหน่ะ .. หกสิบล้านวอนเลยนะโว้ย นายไม่คิดว่ามันแปลกหรอ? ถึงบ้านฉันจะมีตังค์แต่บริจาคเยอะขนาดนี้ฉันหล่ะนับถือเขาเลยจริงๆ”
ผมเกือบจะอ้าปากหัวเราะเสียงดังอยู่แล้วเชียวดีนะที่เก็บอาการไว้ทันเลยทำได้แค่กัดปากตัวเองเพื่อกลั้นขำ ดูจากท่าทางที่เพ้อเจ้อของยองแจแล้วเขาคงจะยกย่องคุณเจบีน่าดู แต่ถ้าเกิดรู้เข้าว่าผมนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดเขาคงช็อคน้ำลายฟูมปากแน่ๆที่กล้าทำเรื่องแบบนี้
ก็นะ .. ผมก็คนครับไม่ใช่พระที่จะทนต่อทุกสิ่งทุกอย่างได้ แค่ขีดจำกัดผมมีมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
“ขำไรอะ?” เหมือนยองแจจะจับสังเกตได้ว่าผมพยายามกลั้นหัวเราะอยู่เลยถามขึ้นมา
“ป่าวๆ แล้วทุกคนเขาว่ายังไงกันบ้างอะ?”
“ว่ายังไงหน่ะหรอ? … กระแสตัวเขาก็ดีขึ้นเยอะเลยนะเพราะปกติอีเกิ้ลจะมีลุคน่ากลัวเถื่อนๆใช่มั้ยหล่ะ แต่พอมีข่าวนี้ออกมาคนในโรงเรียนก็ต่างพากันยกย่องนับถือส่วนพวกผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้วก็กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ เห็นว่าทางโรงเรียนก็รับรู้และกำลังทำใบประกาศให้อีเกิ้ลด้วยนะ”
ยองแจสาธยายยืดยาวประหนึ่งปาปารัสซี่กำลังรายงานสดในขณะที่ผมก็พยักหน้าตามไปด้วย ก็ดีแล้วหล่ะครับที่ผลตอบรับออกมาดี อย่างน้อยที่ผมทำมันก็ไม่ได้มีผลแย่ทั้งหมดซะหน่อยเนอะ
ปึง!
เสียงเปิดประตูดังขึ้นจนทุกคนในห้องต่างหันไปมองตรงต้นเสียงรวมทั้งผมและยองแจที่กำลังพูดคุยกันอยู่ด้วย
ขายาวก้าวเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะปรากฏเป็นร่างร่างหนาที่ตัวผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีกำลังยืนทำหน้าตาถมึงทึงสายตาพลางกวาดมองรอบๆห้องไปด้วย
“อีเกิ้ลมา!”
เสียงของใครบางคนตะโกนขึ้นก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันปรบมือเสียงดังเกรียวกราวเพื่อแสดงวคามนับถือยินดีให้แก่คนโด่งดังของโรงเรียน
“ปรบมือกันทำไมเรื่องของฉันมันน่าสนุกนักรึไง!?”
เจบีตะเบงเสียงใส่ทุกคนจนเสียงปรบมือที่ยังดังอยู่เมื้อตะกี้หายไปในพริบตาไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยใดๆทั้งสิ้น มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำงานอย่างเป็นปกติอยู่เพียงเท่านั้น
“ฉันมาที่นี่เพราะมีใครบางคนมันยังไม่รู้ว่าการท้าทายอีเกิ้ลมันต้องเจอกับอะไร”
ระหว่างที่คุณเจบีกำลังพูดนั้นเขาก็มองมาที่ผมด้วยสายตาที่ยากจะเดาออกแต่มันดูน่ากลัวซะจนผมถึงกับต้องแอบหลบสายตาแกล้งทำเป็นมองอย่างอื่นแทน
ร่างสูงเดินผ่านคนอื่นๆที่ต่างหลีกทางให้เขาได้เดินเข้ามาอย่างง่ายๆและใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็มาหยุดอยู่ที่โต๊ะตรงหน้าผมซะแล้ว
“เอ่อ .. มีอะไรกับผมหรอครับ?” ผมเงยหน้ามองอีกคนพลางตีหน้าซื่อใสๆเหมือนกับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
“หึ เพิ่งรู้นะว่าคนอย่างนายก็เล่นละครตบตาคนอื่นได้เก่งเหมือนกัน”
“ก็เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันนี่ครับ ผมเลยต้องถามคุณว่ามีอะไรกับผม … โอ๊ย!”
คุณเจบีกระชากแขนผมอย่างแรงจนผมต้องลุกขึ้นด้วยความเจ็บ แรงบีบที่ต้นแขนทำเอาผมต้องกัดฟันกรอดมือก็พยายามดึงแขนแกร่งไปด้วยแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงของคนตรงหน้านั้นมีมหาศาลเหลือเกิน
“มีสิ นายกับฉันหน่ะ … มีเรื่องต้องเจรจากันยาวแน่”
คุณเจบีเน้นย้ำคำพลางแสยะยิ้มร้ายก่อนจะฉุดลากผมให้ออกจากห้องไปพร้อมสายตาของคนทั้งห้องและนอกห้องที่มายืนมุงมองกันเต็มไปหมด มองกันทำไมครับ? ไม่เคยเห็นประธานบ้านโดนนักเลงหาเรื่องหรอ? ฮึ่ย!!
ว่าแต่คุณเจบีในวันนี้โหดกว่าเดิมขึ้นเยอะเลยอะ จะตีหน้าซื่อสู้ไม่ไหวแล้วนะครับ กลัว! L
“นี่คุณ! จะลากกันก็ลากให้มันเบาๆหน่อยสิผมเจ็บนะ โอ๊ย!”
ผมล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อจู่ๆคุณเจบีก็ผลักผมออกราวกับเป็นสิ่งของบนห้องของเขาในบ้านพักของแฮร์โรว์ นี่มันสุดยอดของคำว่านักเลงจริงๆเลยครับ เอะอะก็ใช้กำลังนี่ขนาดยังไม่ทันจะคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวยังต้องเจ็บตัวขนาดนี้ อีกซักพักคงได้มีแผลกลับบ้านซักสองสามแผลอะครับ
“ทำไมฉันต้องอ่อนโยนให้กับคนอย่างนายด้วย”
“ก็เพราะผมอุส่าห์สร้างชื่อเสียงในด้านดีๆให้คุณหน่ะสิ แทนที่คุณจะทำแบบนี้คุณควรขอบคุณผมเสียด้วยซ้ำ”
“เหอะ .. ฉันต้องขอบคุณคนที่เอาตังฉันไปหกสิบล้านเพื่อบริจาคให้กับบ้านพักคนชราโดยไม่ปรึกษาอย่างนายหน่ะหรอ? ฝันรึป่าว?”
คุณเจบีมองลงมาด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลน ผมกำหมัดแน่นก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้าด้วยความไม่ยอมแพ้ เอาสิครับ .. ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างผมมันก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหมือนกัน
“แล้วที่ผมทำมันไม่ดีตรงไหน?”
"งั้นนายคิดว่าคนอย่างนายจะมีปัญญาชดใช้เงินหกสิบล้านให้ฉันรึป่าวหล่ะ?”
ผมสะอึกกับคำพูดของเขาไปครู่นึง แน่นอนว่าผมไม่มีปัญญาชดใช้ให้หรอกเงินมากมายขนาดนั้นใครจะหามาให้ได้ พ่อแม่ผมไม่ใช่เศรษฐีเงินพันล้านเหมือนเขานี่ครับ
ไม่ได้ครับ งานนี้ต้องแถ … แถอย่างเดียว!
“ผมไม่ผิดนะ! คุณนั่นแหละที่มากลั่นแกล้งผมก่อน วันนั้นผมแค่มาขอบัตรนักเรียนดีๆแท้ๆ แต่คุณก็เข้ามาก่อกวนชีวิตของผมจนปั่นป่วนไปหมด”
“แต่ที่นายทำมันทำให้ฉันสามารถแจ้งตำรวจเพื่อมาจับได้นะอย่าลืม”
“คุณไม่ทำหรอก”
คุณเจบีเลิกคิ้วมองก่อนจะอมยิ้มนิดหน่อย ในมือถือโทรศัพท์คู่ใจก่อนจะปลดล็อคกดหมายเลขสามสี่หลักพลางแนบเข้ากับใบหูตัวเอง
“ฮัลโหล คุณตำรวจหรอครับ? .. พอดีผมอยากจะแจ้งจับคนร้ายที่ขโมยเงินหน่ะครับ”
“เฮอะ มุขละครแบบนี้ใช้กับผมไม่ได้หรอกนะครับ”
คุณเจบีเบะปากยักไหล่อย่างชิลๆก่อนจะยื่นโทรศัพท์ของเขาให้ ผมรับมันมาอย่างงงๆก่อนจะเอามาแนบหูตัวเองบ้าง
‘ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยนะครับ ทางเราจะได้ดำเนินการจับคนร้ายได้อย่างถูกต้อง’
ตื๊ด!
“คุณมันใจร้ายที่สุด!”
ผมรีบกดวางสายใส่คุณตำรวจรัวๆก่อนจะตะโกนใส่หน้าร่างสูงด้วยความเหลืออด นี่เขาจะเอาจริงใช่มั้ย? จะไม่ไหวแล้วนะ! … จะสู้เขาไม่ไหวแล้วเนี่ย!!
“ใช่ฉันมันใจร้าย ... และก็ร้ายมากเกินกว่าที่นายจะคิดไว้ด้วย"
คุณเจบีดันผมจนชิดติดกำแพงก่อนจะเท้าแขนกั้นทางไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ ใบหน้าเรียวคมยื่นเข้ามาใกล้มากเสียจนผมต้องหันหน้าหนีแล้วหลับตาแน่นอย่างคนหมดทางสู้ บริเวณแก้มสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดอยู่อย่างแผ่วเบาแต่ก็ทำให้ใบหน้าของผมรู้สึกร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ
"อย่างนายหน่ะก็เหมือนลูกแมวซื่อบื้อที่รนเข้ามาหาที่ตายในถ้ำเสือเอง ลูกแมวเข้ามาในถ้ำแล้วไม่มีสิทธิ์หนีออกไปได้หรอกนะ ... เพราะอะไรรู้มั้ย?”
เสียงเข้มกระซิบเบาข้างๆหูชวนขนลุกซู่ มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนมาจับปลายคางมนของลูกแมวในกำมือให้หันมามองก่อนจะเอ่ยคำพูดต่อด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจที่พร้อมจะเล่นงานคนที่อ่อนแอกว่าได้ทุกเมื่อ
“เพราะกว่าที่ลูกแมวจะหนีออกไปได้ … มันก็โดนเสือในถ้ำจับกินเสียแล้วหน่ะสิ”
ช่วยด้วย! ผมเกลียดคุณเจบี!!!
-----------------------------------------------
จะพยายามอัพให้ต่อเนื่องนะคะ แต่ช้าบ้างก็อย่าว่ากันเลย
พูดคุยกันผ่านแท็กได้นะที่ -> #ADNL9494
พร้อมกับเหล่าสหายร่วมรบ...
#ODN9397 #LTNS9490 #ฮันเตอร์จุนฮเว
ความคิดเห็น