ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf กันริท38 special*

    ลำดับตอนที่ #7 : รักริทรอริท

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


     


    “โหยริท ทำไมเมิงเลือกแต่เพลงเศร้าวะ ทำไมไม่มีเพลงโจ๊ะๆให้กุร้องบ้างวะ?” ริทมองหน้าไอ้แขกรับเชิญสุดกากแล้วอยากจะเบิร์ดกระโหลกมัน แต่มืออีกคนไวกว่าความคิดเขาตบเพี๊ยะที่หัวทุยของไอ้คนกวนให้แล้ว

     

    “ไอ้กัน นี่งานคอนอำลาไอ้ริทนะเว้ย ไม่ใช่งานวัดเมิงจะเอาสามช่าเลยไหม?” พี่ชายพูดติดตลก คนที่โดนตบหัวมองเคืองๆ

    “กันก็รู้ว่าคอนนี้เป็นคอนอำลา แต่กันไม่อยากเศร้านี่” พูดเหมือนเอาแต่ใจ แต่มันคือความเป็นจริงที่ทั้งสามคนรู้กันดี.......พวกเราไม่อยากแยกจากกัน

     

    โตโน่มองน้องชายทั้งสองคนที่นั่งมองหน้ากัน ก่อนจะตบบ่าทั้งสองคน

    “ไปเหอะ ครูแหม่มเรียกแล้ว” เปลี่ยนเรื่องแล้วดึงน้องชายให้ลุกขึ้นตาม

     

     

                แม้ต้องทำงานทั้งวันรวมถึงต้องอ่านหนังสือสอบทำให้คนผิวเข้มมีอาการมึนๆ แต่เขาก็ยังยินดีที่จะมาซ้อมร้องเพลงกับเพื่อนสนิท คนตัวเล็กมองคนที่เหนื่อยล้าไม่แพ้เขา

    “กันเหนื่อยไหม?” กระซิบถาม ช่วงนี้ทั้งเขาและกันไม่มีเวลาแม้แต่จะบีบีหากันหรือคุยโทรศัพท์ ทั้งๆที่หลังจากจบละครเวทีน่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้แต่กลายเป็นว่าทั้งคู่ต่างยุ่งมากกว่าเดิม

     

    “เจอริทกันก็ไม่เหนื่อยแล้ว แล้วริทล่ะเหนื่อยไหม?” ยิ้มให้คนถาม คนตัวเล็กแอบเขินเล็กน้อย

    “ตอนแรกเหนื่อยแต่ตอนนี้ไม่เหนื่อยแล้ว” ส่งยิ้มกลับให้คนผิวเข้ม

     

    “เฮ้ย ไอ้กัน ไอ้ริทมาซ้อมได้แล้ว เมิงจะมาหวานอะไรให้เสียเวลาพวกกุ” โตโน่ทำหน้าเหวี่ยงใส่น้องชายทั้งสองคน ถามกันอยู่นั่นแหละเหนื่อยไหม?.........ทีกุก็เหนื่อยทั้งวันมันยังไม่ถามกุเลยTT^TT

     

    “เพลงลูกอม ชื่อแม่งน่ารักว่ะความหมายก็ดี” โตโน่มองเนื้อเพลงที่ต้องซ้อมวันนี้

    “อืม เพลงนี้กันโครตชอบเลยเขาแต่งให้คนรักของเขาในวันแต่งงาน” คนผิวเข้มพูดอย่างอารมณ์ดี

    “แล้วทำไมเมิงไม่ร้องกันแค่สองคนวะ? เอากุไปขัดด้วยทำไม?”โตโน่ถามน้องชาย

    “บ้าดิพี่โน่ ขืนเอาไปร้องคอนริทได้กลายเป็นงานแต่งอีกรอบแน่” คนตัวเล็กเถียงหน้าแดง

    “55555555555+ที่จริงก็น่าร้องคู่นะริท จะได้เป็นเพลงครบรอบ1ปีงานแต่งเราไง?” ไอ้คนที่หัวเราะร่าเสนอ แต่คนรับความคิดเห็นกลับตีเผี๊ยะเข้าที่แขนอย่างหมั่นไส้

    “เออว่ะ ใกล้ครบรอบงานแต่งของพวกเมิงแล้วนี่หว่า?”เซนที่นั่งฟังมานานพูดขึ้น

    “ครบรอบงานแต่งอะไรกันไอ้เซน โอ๊ยกุไม่คุยด้วยแล้วไปซ้อมต่อดีกว่าไร้สาระ” คนตัวเล็กทนไม่ไหวต้องรีบชิ่งออกจากวง

     

                คนผิวเข้มมองตามเจ้าสาวของตัวเองแล้วอมยิ้มจนคนตาตี่ทนไม่ได้ตบหัวมันอีกรอบ

    “เอ้ย พี่โน่ตีกันทำไมเนี่ย?” มือลูบบริเวณที่โดนตีป้อยๆ

    “กุหมั่นไส้ มีปัญหาไรไหม?” พี่ชายพูดจาหาเรื่อง...........ก็แม่งเล่นหวานต่อหน้ากุกุยิ่งไม่มีใครอยู่

    “เออกันแล้วเพลงที่เมิงแต่งน่ะ ตกลงเมิงแต่งให้ริทมันใช่ไหม?”เซนถามเรื่องที่สงสัย

    “ชู่วส์ อย่าพูดดังดิเซน ไอ้ริทมันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย? มันรู้แค่ว่ากันจะออกเพลงใหม่แต่ยังไม่รู้ว่ากันแต่งเอง” ตัวพ่อรีบห้ามเพื่อนสนิท

    “อ้าวแล้วทำไมเมิงไม่บอกไอ้ริทวะ?” โตโน่ถาม

    “ผมอยากเซอร์ไพรส์มันพี่ โชคดีที่ตอนนี้มันซ้อมแต่คอนมันเลยไม่ได้อัพเดทข่าวเลยไม่รู้ว่าเพลงที่ผมจะปล่อยผมแต่งเอง” น้องชายตัวดีบอก

    “เออ แล้วเพลงเกี่ยวกับอะไรวะ?” โตโน่ถามซัก

    “ความลับ” กันยิ้มยักคิ้วให้พี่ชายตัวเอง จนคนมองอดหมั่นไส้อีกรอบไม่ไหวตบหัวอีกที

     

     

     

     

     

     

    ……..อีกไม่นานจะถึงเวลาขึ้นคอนเสิร์ตของเพื่อนสนิท ซึ่งอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ขึ้นกับเพื่อนคนนี้ เพื่อนที่เขารัก เพื่อนที่พิเศษ เพื่อนที่ต้องห่างกัน.......ไกล?

     

                มือเรียวยาวยกขึ้นปิดตาตัวเองไว้ .....ไม่ไหวน้ำตามันจะไหลอยู่ตลอดเวลา

     

    “เฮ้ย ไอ้กันเป็นไงบ้างวะ?” พี่ชายคนสนิทและเพื่อนสนิทอีกคนเดินเข้ามาถามอาการ

    “กันว่ากันร้องเพลงไม่ได้” เริ่มพูดเสียงเครือ เสียงของคนที่ทำให้เขาร้องไห้ยังคงดังอยู่บนเวที เจ้าของเสียงยังเฮฮาร่าเริงพูดคุยกับแฟนคลับ

    “ใจเย็นไอ้กัน เมิงทำเหมือนตอนซ้อมก็พอตอนนี้เมิงต้องทำหน้าที่เป็นแขกรับเชิญเป็นเพื่อนที่แสนดีของไอ้ริทมันก่อน” โตโน่ตบบ่าน้องชายผิวเข้ม

    “อืม”พยักหน้ารับ

     

     

    บนเวทีคอนเสิร์ต รักหนึ่งคำจดจำตลอดไป

     

                ขึ้นคอนเสิร์ตมาตั้งหลายหน ไม่เคยมีครั้งไหนที่สั่นขนาดนี้ แต่ที่สั่นไม่ใช่เพราะตื่นเวทีแต่เพราะเห็นหน้าคนที่เป็นเจ้าของคอนเสิร์ตต่างหาก

     

    เพลงเพื่อดาวดวงนั้น ร้องมานับครั้งไม่ถ้วน แอบลอบมองคนตัวเล็กว่าจะหันมามองเขาไหม?...ริทจะรู้ไหมว่าตอนนี้เขาคิดถึงครั้งแรกที่ได้ร้องเพลงนี้ เพลงที่ได้ร้องในบ้านดาว สถานที่ที่ทำให้เราได้รักกัน

     

    โน่ริท โน่ริท โน่ริท !!!!!

     

                โตโน่มองไปยังน้องชายผิวเข้มซึ่งยังยืนยิ้มแบบฝืนๆ

     

    “ผมจะรักพวกคุณหากเรียก โน่ริทกัน”

     

                ริทมองพี่ชายรู้สึกขอบคุณที่ช่วยแก้สถานการณ์ให้ แล้วมองคนผิวเข้มที่หันมายิ้มให้เขาบางๆ ก่อนที่เขาเองจะหลบตาคมนั้น.......กันจะรู้ไหม?ว่าริทไม่กล้ามองหน้ากัน แค่เพียงวิเดียวที่สบตาน้ำตามันก็จะไหลซะให้ได้

     

               

     

    จากนั้นเราทั้งสามคนก็เริ่มทำตามที่ซ้อมกันไว้ เรื่องบางอย่างก็อยู่นอกเหนือที่ซ้อมเช่นการจิกกัดรุ่นน้องเดอะดาวดวงใหม่  แซวกันพอขำๆ แต่ติดที่ไอ้คนกากแกล้งทำเจ้าชู้ใส่น้องเล็กเดอะดาว8อีกแล้ว แม้จะรู้ว่าอีกคนเล่นมุขแต่ก็อดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้จนต้องประเคนรอยเท้าใส่มัน

     

    เข้ามาเปลี่ยนชุดแล้วได้ยินเสียงพี่ชายกับเพื่อนสนิทร้องเพลงคู่กัน ตอนแรกไอ้พี่ชายและไอ้คนกากไม่ยอมบอกว่าจะร้องเพลงอะไร นี่คงไปแอบซ้อมกันสองคนเพื่อมาเซอร์ไพรส์เขา เพลงความหมายดีแนวร็อคๆ ทำให้คนที่ฟังยิ้มกริ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอคิดถึงเพลงต่อไปก็รู้สึกใจหาย..... “ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน” เพลงความหมายดีอีกเพลงที่เขาตั้งใจเลือก

     

    เพราะเนื้อหาในเพลงทำให้เขาต้องลอบมองเพื่อนสนิทเป็นระยะ......ริทจะรู้ไหมว่ากันไม่อยากร้องเพลงนี้ไม่อยากให้เราเป็น “ครั้งหนึ่งที่เราเคยรักกัน” แต่กันอยากเป็น “คนที่ริทรักตลอดชีวิต”

     

     

    จังหวะที่โอบกอดกันสามคน ทำให้คิดถึงวันเวลาตอนที่ประกวดวันที่เฮียออก วันที่เราสามคนต้องแยกจากกัน แต่ตอนนั้นกันยังมีริท เหลือริทกับกันเป็นสองคนสุดท้ายได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน แต่ตอนนี้กอดนี้ของเราสามคนคือกอดที่ต้องแยกย้ายกันอีกครั้งและกลายเป็นริท.......ที่ต้องห่างไกลออกไป

     

    “เมิงจำไว้นะริทกุจะไม่ลืมมึง”โตโน่พูดเสียงสั่น บอกน้องชายในอ้อมกอด

    “กุก็จะรักมึงคนเดียว กุสัญญา” กันกระซิบบอกคนตัวเล็ก

    “กูรักมึงกับพี่โน่มากกุจะไม่มีวันลืม” คนตัวเล็กเสียงสั่นไม่แพ้กัน

     

    คลายอ้อมกอดลงถึงเวลาลาจาก

     

                คนตาตี่กับคนผิวเข้มลงเวทีมายืนฟังเพลงสุดท้ายของเจ้าของคอน รักหนึ่งคำจดจำตลอดไป ที่คนร้องไม่สามารถร้องได้จนจบ เพราะน้ำตา เสียงแฟนคลับดังระงมช่วยกันร้อง

     

                ถึงตอนนี้คนที่เข้มแข็งแบบเขาและไอ้น้องชายสุดกากไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ โตโน่โอบไหล่กันเอาไว้ น้ำตาไหลออกมาไม่ต่างกับคนบนเวที

     

     

     

                หลังให้สัมภาษณ์สื่อ คนที่ขี้แยเหมือนกันขอตัวลากลับ เขารู้ว่าเขาอยู่ตอนนี้ก็ได้แต่ร้องไห้ และคนตัวเล็กยังต้องพบแฟนๆแล้วก็ขึ้นเวทีต่ออีก

     

    “เมิงจะกลับแล้วหรือกัน?” คนตัวเล็กที่เข้ามาข้างในห้องเห็นเพื่อนสนิทตัวเองกำลังสะพายกระเป๋า

    “อืม เด๋วต้องกลับไปอ่านหนังสือต่อ เด๋วเมิงต้องขึ้นคอนต่ออีกใช่ไหม?”

     

    คนตัวเล็กพยักหน้ารับ เพราะเพิ่งผ่านเรื่องเศร้าหรือไงไม่รู้ทำให้กันไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรดี

     

    “ไหนว่าตอนแรกจะไม่ร้องไห้ไง?” คนตัวเล็กเปลี่ยนเรื่องแกล้งถามยั่ว

    “กุเห็นพี่โน่ร้องเลยร้องเป็นเพื่อนพี่โน่ต่างหาก” ตอบประสาคนกาก

    “ไม่จริง เมิงร้องไห้ตั้งแต่ขึ้นคอนแล้วไอ้กัน” คนที่รู้ตัวว่าโดนเผาเข้ามาร่วมแจม

    “อะไรพี่โน่เมิงอย่ามั่ว ฝุ่นเข้าตากันต่างหาก” บอกปัด......ไม่อยากเสียฟอร์ม

    “กากเชียวเมิง” ยิ้มหัวเราะอารมณ์ดี....อย่างน้อยตอนนี้อารมณ์เขาก็ดีขึ้นกว่าเมื่อกี้นี้

    “กุกากแหละดีแล้ว.....เมิงจะได้ไม่ลืมกุ” อยู่ๆคนกากก็ดันวกเข้ามาเรื่องนี้อีกจนได้

    “เออออออออออออกากอย่างเมิงต่อให้อยากลืมกุก้อลืมไม่ลงหรอก” หมั่นเขี้ยวหยิกแก้มคนที่ยิ้มจนแก้มขึ้นหลุม

    “5555555555555+”

    “หูยยยยพวกเมิงมาหวานไรอีกแล้วเนี่ย ไปดีกว่าเสียเวลาทำมาหากินกุหมด” โตโน่บอกไอ้สองตัวที่กากกันไม่แคร์เขาเลย

    “พี่โน่มีงานต่ออีกเหรอ?” ริทหันมาถามด้วยความสนใจ

    “ก็งานเปิดตัวเรือข้ามฟากพี่ไง?”โตโน่ตะโกนบอก ทำให้คนที่ได้ยินอีกสองคนหัวเราะร่า เพราะมันคือมุขที่กันใช่แหย่พี่ชายบนเวที

     

    “พี่โน่กันขอตั๋วเรือข้ามฟากพี่สองใบนะ จะไปฮันนีมูนกับริท” ตะโกนบอกพี่ชาย แต่คนข้างๆตีเพี๊ยะที่แขนเข้าให้

    “เออเด๋วกุให้พวกเมิงเหมาลำเลย” บอกน้องชายอย่างอารมณ์ดี

     

    “555555555555555+”

     

                พอพี่ชายเดินกลับไป คนผิวเข้มก็หันมาสนใจกับคนตรงหน้าต่อ  คนตัวเล็กยังคงยิ้มกับคำพูดกวนๆของพี่ชาย ทำให้คนที่มองรอยยิ้มนั้นอดไม่ได้ทีจะจุมพิตเบาๆที่ปากคนที่ยิ้มกว้าง

    “ไอ้บ้ากัน” ทุบอกอีกคน

    “55555+ กันไปแล้วนะ คืนนี้ทำคอนต่อให้ดีนะ”

     

    คนตัวเล็กยืนโบกมือบ๊ายบายคนที่กำลังเดินออกจากห้อง เขาเองก็ต้องออกไปพบแฟนคลับต่อ

    “ริท” เสียงเรียกทำให้คนตัวเล็กต้องหมุนตัวกลับมามองคนเรียก

     

    “รักริทรอริท”

     

    คนผิวเข้มพูดสโลแกนป้ายไฟและแฟนคลับ คนฟังยิ้มทั้งน้ำตา

     

    “อืม”

     

     

    ..........................................................................................................................................................

     

    ไม่ได้ไปดูคอน.......เสียใจมาก แต่เพื่อนๆมาเล่าให้ฟัง เลยมาจินตนาการต่อเอง เวิ่นไวมากกกกกกกกกกกกกกกกก ยิ่งเห็นรูปที่ช่างภาพเอาลงเมื่อคืนยิ่งจินตนาการแจ่มชัดขึ้น

     

    ปล............รักริทรอริท



    ฝากเรื่องยาว พลิกล็อคหัวใจด้วยนะคะ ตอนล่าสุดอัพแล้วนะ ตอนที่29 ความจริง (เชิญเพื่อนๆไปรู้ความจริงกัน)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×