ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Encyclopedia Earth

    ลำดับตอนที่ #60 : นูมิเดีย(Numidia) : อาณาจักรโบราณแห่งแอฟริกาเหนือ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 52


    นูมิเดีย(Numidia) : อาณาจักรโบราณแห่งแอฟริกาเหนือ

    เมื่อพูดถึงคาร์เธจในบล็อคที่แล้ว ก็อดที่จะพูดถึงอาณาจักรนูมิเดียไม่ได้ครับ นูมิเดียเป็นอาณาจักรโบราณ ตั้งอยู่ที่ทางภาคเหนือของทวีปแอฟริกา(ปัจจุบันดินแดนแห่งนี้เป็นประเทศแอลจีเรีย (Algeria)) มีเมืองหลวงคือเมือง เซอร์ต้า(Cirta : เมืองคอนสแตนติน(Constantine)ในปัจจุบัน) ชาวเมืองเป็นชนเผ่าแอฟริกาเชื้อสายเบอร์เบอร์*(Berber) ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าอาณาจักรนูมิเดียถูกสร้างขึ้นเมื่อปีใดแต่น่าจะอยู่ราวๆ 600 ปีก่อนคริสตกาล นักประวัติศาสตร์บางท่าน นับรวมว่านูมิเดียเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของอาณาจักรคาร์เธจด้วย

    อาณาจักรแห่งนูมิเดีย


    ในปี 206 ก่อนคริสตกาล ขณะที่โรมันกับคาร์เธจ ทำสงครามต่อกัน ทางนูมิเดียเองก็ได้แบ่งออกเป็นสองอาณาจักรคือ นูมิเดียตะวันตก(Massaesyli) และนูมิเดียตะวันออก(Massyli) ทางตะวันตกมี ไซแฟ็กส์(Syfax) เป็นกษัตริย์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของคาร์เธจ ส่วนฝั่งตะวันออกมี มาซินิสซ่า(Masinissa) เป็นกษัตริย์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของโรมัน ในช่วงแรกของสงครามพิวนิคครั้งที่สอง ไซแฟ็กส์ซึ่งมีกำลังมากกว่า ได้ร่วมมือกับ ฮันนิบาล(Hannibal) ของคาร์เธจ ทำศึกเอาชนะโรมันและนูมิเดียตะวันออกของมาซินิสซ่าได้หลายครั้ง แต่ต่อมา ไซแฟ็กส์ได้พ่ายแพ้ต่อ ไกอุส แลลิอุส(Gaius Laelius) ขุนศึกของฝั่งโรมัน ได้ถูกนำตัวไปคุมขังที่โรม และได้เสียชีวิตเมื่อปี 202 ก่อนคริสตกาล (ประเทศตูนิเซียได้ให้เกียรติแก่เกษัตริย์ผู้นี้โดยการนำชื่อของไซแฟ็กซ์มาเป็นชื่อเมือง Sfax ในปัจจุบัน)

    ไซแฟ็คซ์ พันธมิตรของคาร์เธจ


    มาซินิสซ่า ราชันย์แห่งนูมิเดีย


    จากการตายของไซแฟ็กส์ ทำให้อาณาจักรนูมิเดียได้รวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง โดยมีมาซินิสซ่าเป็นกษัตริย์ภายใต้การสนับสนุนของโรมัน เมื่อสงครามพิวนิคครั้งที่สาม มาซินิสซ่าได้ให้ความช่วยเหลือแก่ พุบลิอุส คอร์เนลิอุส สคิปิโอ เอมิลิอานุส อาฟริกานุส (Publius Cornelius Scipio Aemilianus Africanus) กงสุลจากกรุงโรมโดยการนำทัพไปปิดล้อมเมืองคาร์เธจในปี 149 ก่อนคริสตกาล และเป็นสาเหตุที่ทำให้คาร์เธจขาดเสบียงและกำลังสนับสนุนจนต้องเสียเมืองในที่สุด มาซินิสซ่าตายในปี 148 ก่อนคริสตกาล มิซิปซ่า(Micipsa)ได้ขึ้นครองราชย์แทน และได้เนรเทศ จูเกอร์ธ่า(Jugurtha) ลูกชายคนโตซึ่งเป็นลูกนอกสมรสของมาซินิสซ่าไปที่สเปน และที่นั่นทำให้จูเกอร์ธ่าได้เห็นจุดอ่อนของพวกโรมัน นั่นคือความจงรักภัคดีที่ซื้อได้ด้วยเงิน

    พุบลิอุส คอร์เนลิอุส สคิปิโอ เอมิลิอานุส อาฟริกานุส ผู้พิชิตคารเธจ


    มิซิปซ่าตายในปี 118 ก่อนคริสตกาล นูมิเดียถูกแบ่งออกเป็น 2 ดินแดนอีกครั้งภายใต้การนำของทายาทของมิซิปซ่าทั้งสอง เฮมซาล(Hiempsal) และ อัดเฮอร์บาล(Adherbal) จูเกอร์ธ่ายกทัพจากสเปนเข้าตีนูมิเดีย เฮมซาลถูกสังหาร ส่วนอัดเฮอร์บาลหนีไปที่กรุงโรม ทางโรมซึ่งในขณะนั้นปกครองนูมิเดียอยู่ ได้เรียกตัวจูเกอร์ธ่ามาที่กรุงโรมเพื่ออธิบายถึงเหตุการที่เกิดขึ้น จูเกอร์ธ่าได้ใช้สินบนต่อขุนนางและสมาชิกสภาซีเนต ซึ่งทำให้เขาถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด โรมแบ่งนูมิเดียออกเป็นสองดินแดนอีกครั้งโดยให้จูเกอร์ธ่าปกครองฝั่งตกวันตกซึ่งอุดมสมบูรณ์กว่า ส่วนอัดเฮอร์บาลให้ปกครองส่วนตะวันออก

    ในปี 112 ก่อนคริสตกาล จูเกอร์ธ่า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บัคคุสที่หนึ่ง(Bacchus I) แห่งเมาเรทาเนีย(Mauretania : อาณาจักรทางตะวันตกของนูมิเดีย ปัจจุบันเป็นประเทศโมร็อคโค) ได้ยกทักเข้าตีนูมิเดียตะวันออกของอัดเฮอร์บาล ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่โรมเป็นอันมาก และได้ส่ง กงสุลเมเทลลุส(Metellus) นำทัพเข้ามาปราบปราม แต่เมเทลลุสไม่สามารถเอาชนะจูเกอร์ธ่าได้ ต่อมา โรมได้เปลี่ยนผู้นำทัพเป็น ไกอุส มาริอุส(Gaius Marius) กงสุลคนใหม่ที่เพิ่งได้รับเลือก มาริอุสได้ส่ง ซุลล่า(Sulla) ไปเจรจากับบัคคุสที่หนึ่ง ในการหยุดให้ความช่วยเหลือแก่จูเกอร์ธ่า ทำให้จูเกอร์ธ่าขาดกำลังสนับสนุนและในที่สุดก็พ่ายแพ้แก่มาริอุส จูเกอร์ธ่าถูกส่งตัวไปกรุงโรม และถูกตัดสินประหารในปี 104 ก่อนคริสตกาล


    จูเกอร์ธ่า เจ้าชายนอกสมรส


    หลังการตายของจูเกอร์ธ่า นูมิเดียตะวันตกถูกผนวกเข้ารวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเมาเรทาเนีย ส่วนที่เหลือให้คนพื้นเมืองปกครองกันเอง

    ในปี 49 ก่อนคริสตกาล เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นที่กรุงโรมระหว่าง จุเลียส ซีซ่าร์(Julius Caesar) กับ ปอมเปย์(Pompey) จูบ้าที่หนึ่ง(Juba I) กษัตริย์ในขณะนั้นของนูมิเดีย ได้เข้าร่วมกับฝ่ายปอมเปย์รบกับซีซ่าร์ ซึ่งซีซ่าร์สามารถเอาชนะทั้งคู่ได้ในปี 49 ก่อนคริสตกาล ที่เมือง ทัปซุส(Thapsus) ภายหลังสงคราม โรมได้รวมอาณาเขตของนูมิเดียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน ต่อมา หลังเหตการณ์สงครามแห่งแอคติอุม**(Battle of Actium) ในสมัยของจักรพรรดิ์ออกุสตุส(Augustus) จูบ้าที่สอง(Juba II : ลูกชายของจูบ้าที่หนึ่ง) ได้ถูกแต่งตั้งให้มาเป็นกษัตริย์ของนูมิเดีย แต่ผ่านไปไม่นาน จูบ้าที่สองก็ทิ้งบัลลังค์นูมิเดียขึ้นเป็นกษัตริย์ของเมาเรทาเนียแทน

    จากเหตุการณ์นี้ทำให้นูมิเดียถูกแบ่งออกเป็นสองการปกครอง ส่วนหนึ่งปกครองโดยอาณาจักรเมาเรทาเนีย อีกส่วนถูกรวมเข้าไปในดินแดนแอฟริกาใหม่(Africa Nova) ปกครองโดยโรมัน

    นูมิเดียถูกปกครองโดยโรมต่อไปอีกหลายร้อยปี แต่พอถึงปี ค,ศ,428 เมื่อโรมอ่อนแอ นูมิเดียก็ถูกชนเผ่าแวนดัลส์***(Vandals) เข้าตีและยึดครองได้สำเร็จโดยที่โรมไม่สามารถเอานูมิเดียคืนมาได้ จนถึงเมื่อคริสตศตวรรต์ที่ 8 นูมิเดียกูถูกมุสลิมอาหรับซึ่งแผ่ขยายอำนาจเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้นเข้าปกครอง ซึ่งสืบเนื่องยาวนานมาอีกกว่าพันปี





    * = เบอร์เบอร์ เป็นชนเผ่าดั้งเดิมของแอฟริกาจะวันตกเฉียงเหนือ ใช้ภาษาเบอร์เบอร์เป็นภาษากลาง ปัจจุบันมีคนเชื้อสายนี้ราวๆ 22 ล้านคนตามประเทศต่างๆทั่วโลกเช่น โมร็อคโค แอลจีเรีย ตูนิเซีย ฝรั่งเศส สเปน อียิปต์ อิสราเอล และลิเบีย
    ** = สงครามแห่งแอคติอุม เป็นสงครามระหว่างฝ่ายออคตาเวียน (ออคตาวิอุส : Octavius) กับฝ่ายมาร์ค แอนโทนี(มาร์คุส อันโตนิอุส : Marcus Antonius) และนางคลีโอพัตรา(Cleopatra) เมื่อปี 31 ก่อนคริสตกาล ผลของสงครามทำให้ทั้งมาร์ค แอนโทนี และนางคลีโอพัตราต้องฆ่าตัวตาย
    *** = แวนดัลส์ เป็นชนเผ่าเชื้อสายเยอรมันเผ่าหนึ่ง บุกรุกเข้ามาในอาณาจักรโรมันเมื่อคริสตศตวรรต์ที่ 5 ชนเผ่าแวนดัลส์ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายทารุณเป็นอย่างมาก

    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crazydogz&month=12-2005&date=26&group=2&gblog=1
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×