ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Encyclopedia Earth

    ลำดับตอนที่ #143 : สงครามเย็นคืออะไร ? (3- วิกฤตการณ์คิวบา : เมื่อนิวเคลียร์เกือบล้างโลก -ปฐมบท )

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 52


    สงครามเย็นคืออะไร ? (3- วิกฤตการณ์คิวบา : เมื่อนิวเคลียร์เกือบล้างโลก -ปฐมบท )

    ปูมหลัง

    คิวบาเป็นเกาะขนาดใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของทะเลแคริเบียน และทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ฯ ใกล้แหลม Florida คิวบาตกเป็นเมืองขึ้นของสเปน ตั้งแต่ปี 1511และ ปี 1898 เกิดสงครามระหว่างอเมริกาและสเปนเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ เหนือหมู่เกาะแคริเบียน สหรัฐ ฯ เอาชนะสเปนได้และครอบครองคิวบาเป็นเวลาสั้น ๆ คือแค่สี่ปีก่อนจะให้อิสระแก่คิวบาแต่ตัวเองยังคุมอยู่ในหลาย ๆ ด้าน สหรัฐ ฯ ยังเช่าพื้นที่ของคิวบาที่เรียกว่า อ่าว Guantanamo ด้วยราคาถูกแสนถูก (ไม่นานมานี้สหรัฐ ฯได้นำตัวนักโทษที่จับได้จากการทำสงครามกับตาลีบันของอาฟกานิสถานมาขังไว้จนถูกโจมตีว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน)

    (แผนที่ของคิวบา)




    ในปี 1933 นายสิบนามว่า Fulgencio Batista ได้ก่อขบถนายสิบ โค่นล้มรัฐบาลชั่วคราวที่ถูกตั้งขึ้นหลังจากจอมเผด็จการ Gerardo Machado ก้าวลงจากอำนาจบาติสต้าได้เป็นผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดและได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ในปี 1940 แต่อีกสี่ปีต่อมาก็ถูกผลักดันออกจากอำนาจ (และลี้ภัยไปอยู่ที่ฟลอริด้า) ก่อนจะกลับมาทำรัฐประหารและครองอำนาจอีกครั้งในปี 1953 คิวบาก็มีความสัมพันธ์กับสหรัฐ ฯแนบแน่นยิ่งขึ้น เปิดให้บริษัทข้ามชาติของสหรัฐ ฯเข้ามากอบโกยทรัพยากรเป็นจำนวนมากพร้อมกับการเฟื่องฟูของแหล่งท่องเที่ยวในคิวบา และ บาติสต้ายังถูกโจมตีว่ารัฐบาลของเขาเต็มไปด้วยความฉ้อฉล และมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกมาเฟีย ทำให้ชนทุกชั้นในคิวบาร่วมใจกันต่อต้านเขา จนในที่สุดอดีตนายสิบผู้นี้ก็ต้องพลาดท่าเสียทีให้กับหัวหน้ากองโจร ที่ชื่อว่า Fidel Castro โดยมีอดีตนายแพทย์หนุ่มนามว่า Che Guevara หรือเช กูวาร่าเป็นผู้ร่วมขบวนการคนสำคัญ (ที่ชาวไทยแลนด์คุ้นเคยกับหน้าของเขาผ่านสติ๊กเกอร์หลังรถสิบล้อ) ถ้าท่านนึกภาพการปฏิวัติไม่ออก ก็ลองหันกลับไปดูเรื่อง Godfather ภาคสองที่ Michael Corleone เดินทางไปเจรจาเรื่องการค้าที่คิวบาและเกิดการรัฐประหารขึ้นจนต้องพลัดจากพี่ชาย

    เมื่อคาสโตรขึ้นเป็นประธานาธิบดี สหรัฐ ฯซึ่งกอบโกยผลประโยชน์จากคิวบามาตลอดเวลา ก็ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ทันที (ทั้งที่เคยสนับสนุนบาติสต้ามาก่อน เป็นนัยว่าใครจะใหญ่กูไม่สน ขอมีเอี่ยวด้วยก็พอใจ) คาสโตรยังเคยเดินทางไปอเมริกาและพบปะกับ Richard Nixon ซึ่งขณะนั้นเป็นรองประธานาธิบดี แต่แล้วความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก็เสื่อมโทรมลงเมื่อคิวบาปรากฏโฉมเป็นคอมมิวนิสต์ ยึดทรัพย์สินของบริษัทข้ามชาติที่เป็นสัญชาติอเมริกันและนำมาเป็นสมบัติของชาติตามแบบสังคมนิยม ทำให้อเมริกาโกรธมาก ประธานาธิบดี Dwight D. Eisenhower ซึ่งไม่เคยชอบขี้หน้าคาสโตรเลยประกาศห้ามการซื้อน้ำตาลจากคิวบาและไม่ยอมขายน้ำมันให้ จนคิวบาหันซื้อน้ำมันจากสหภาพโซเวียตแทนในปี 1960 สหรัฐ ฯ จึงประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับคิวบาในอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น ทำให้คาสโตรหันไปซบอกเหี่ยว ๆของ Nikita Krushchev แทน จึงได้รับการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการทหารอย่างไม่อั้น



    คิวบาซึ่งอยู่ใกล้สหรัฐ ฯ จึงกลายเป็นเวทีที่สำคัญที่สุดเวทีในสงครามเย็นระหว่างสหรัฐ ฯและสหภาพโซเวียต


    การบุกรุก อ่าวหมู Bay of Pigs invasion

    สหรัฐ ฯเห็นว่าการปกครองของคาสโตรเหมือนเป็นหอกข้างแคร่ เพราะเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงแท้ ๆ แต่ดันเป็นสังคมนิยมและนิยมโซเวียต จึงคิดแผนชั่วโค่นล้มคาสโตร แผนการนี้ริเริ่มในสมัยของประธานาธิบดี Eisenhower ก่อน โดยรองประธานาธิบดีนิกสันและ CIA ( ผู้อำนวยการคือ Allen Dulles) เป็นคนจัดการดูแล อย่างเงียบ ๆ ไม่ให้ใครรู้ นั่นก็คือไปเอาชาวคิวบาผลัดถิ่นจำนวนมากมาฝึกแบบทหาร แต่รัฐบาลของไอเซนฮาวก็หมดวาระลงและ John F. Kennedy ก็ก้าวขึ้นมาแทนโดยการได้รับชัยชนะเหนือรองประธานาธิบดีนิกสันด้วยคะแนนที่เฉียดฉิวที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1960 เคนนาดี้ จึงรับสานต่อภารกิจนี้ ในวันที่ 15 เมษายน 1961 CIAได้ ส่งชายฉกรรจ์ จำนวนหนึ่งพันห้าร้อยนาย ภายใต้ชื่อกองพัน 2506 พร้อมอาวุธครบมือ เข้าเทียบชายฝั่งทางใต้ของอ่าวหมู (หรือภาษาคิวบาคือ Playa Giron) และก่อนหน้านี้ยังได้ส่งเครื่องบินภายใต้ธงของคิวบาเองเข้าโจมตีสนามบินเพื่อทำให้การเทียบฝั่งของทหารเหล่านั้นปลอดภัย แต่ว่าเหมือนพวกคิวบาจะรู้เลยแอบเอาเครื่องบินไปไว้ที่อื่น

    ปฏิบัติการณ์เช่นนี้ถือว่าแยบยลเพราะสหรัฐ ฯ จะได้ไม่โดนประณามว่ารังแกคิวบาซึ่งเป็นประเทศเล็กกว่า สมมติว่าพวกคิวบาพลัดบาพลัดถิ่นประสบความสำเร็จ ชาวโลกจะได้มองว่าพวกคิวบาเล่นกันเอง

    ถึงแม้พวกคิวบาผลัดถิ่นจะไม่มากแต่สหรัฐ ฯ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากชาวคิวบาจำนวนมากที่ไม่พอใจนโยบายแบบสังคมนิยมของคาสโตร แต่ในชั่วโมงแรกแห่งการต่อสู้ สหรัฐ ฯก็พบว่าตัวเองคิดผิดถนัด ถึงแม้พวกกองพล 2506 ทำท่าจะแพ้และนักบินของสหรัฐ ฯถึงสี่คนถูกฆ่าและถูกจับกุม เคนนาดี้สั่งให้ระงับการโจมตีทางอากาศและไม่ยอมส่งกองทัพสหรัฐ ฯเข้าไปช่วยเพราะจะทำให้แผนปูดแก่ชาวโลก เมื่อการสู้รบสิ้นสุดลงในในวันที่ 19 ผลก็คือ ชาวคิวบาผลัดถิ่น ร้อยสิบสี่คนถูกฆ่าตาย นอกนั้นถูกจับกุม และถูกตัดสินจำคุกถึงคนละ สามสิบปีในข้อหาทรยศต่อชาติ สหรัฐ ฯ ต้องใช้เวลาถึง 20 เดือนในการเจรจากว่ารัฐบาลคิวบาจะยอมปล่อยพวกนักโทษโดยแลกกับอาหารและยาเป็นมูลค่ากว่า 35 ล้านเหรียญ

    (พวกคิวบาพลัดถิ่นที่เฮก่อนจ๋อย)



    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวอเมริกันทั้งประเทศและยังทำให้รัฐบาลเคนนาดี้อับอายมากถึงกลับไล่คนที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ CIA ออก (ในสารคดีของเรื่อง JFK ที่สร้างโดย Oliver Stone บอกว่า เคนนาดี้พูดแบบไม่เป็นทางการว่า ดูเลส ผอ.ซีไอเอหลอกตน) ส่วนคาสโตรยิ่งระวังตัวหนัก หันไปสมัครสมานกับโซเวียตยิ่งขึ้นไปอีก

    เคนนาดี้ยังไม่เข็ดกับเหตุการณ์นี้ เขายังวางแผน Cuban Project (ภายใต้ชื่อ Operation Mangoose) นั่นคือแผนการณ์ล้มคาสโตรโดยการปลุกระดมชาวคิวบาให้โค่นล้มคาสโตรในทุกวิธีทาง ประกอบด้วยแผนการย่อย ๆ ร่วมสามสิบแผน รวมไปถึงการใช้หน่วยทหารพิเศษในการก่อวินาศกรรม หรือแม้แต่แผนสังหารคาสโตร

    (ภาพของ เคนนาดี้และดูเลสส่วนคนซ้ายสุดคือ John McCone ผู้อำนวยการ CIA ต่อจากดูเลส)



    ถึงแม้ทั้งสองแผนการณ์นี้จะไม่สำเร็จแต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์คิวบาในปี 1962 ซึ่งเกือบจะทำให้โลกทั้งโลกต้องพังพินาศ โปรดติดตามตอนต่อไป

    (ขอบคุณ Wikipedia.com สำหรับข้อมูล)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×