คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เรื่องที่คาดไม่ถึง ฉบับปรับปรุง
เรื่องที่คาดไม่ถึง
สวนหย่อมหน้าโรงแรม ที่ถูกประดับประดาเอาไว้อย่างสวยงามถูกตกแต่งด้วยไฟประดับจำนวนหลายพันดวงเพื่องานเลี้ยงคืนนี้โดยเฉพาะ แต่บรรยากาศไม่ช่วยให้ใจคนดีขึ้นเลย แก้วตาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่เอาแต่จ้องเธอด้วยสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ สถานการณ์แบบนี้ทำให้แก้วตาอยากจะหายตัวไปจากโลกใบนี้ ทำไมเธอถึงได้กลัวผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้นะ สายตาที่หญิงสาวตรงหน้าจ้องมองเธอยังกับสายตาเหยี่ยวจ้องมองอาหาร แค่ขยับแม่จะฉกทันที่ ในความรู้สึกของแก้วตาเธอคิดว่าทรายแก้วเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวคนหนึ่ง อาทิตยะมักจะพูดถึงน้องสาวเขาให้เธอฟังเสมอๆ เขามักจะพูดเสมอว่า " แซนด์เป็นเด็กน่าสงสาร เกิดมาพ่อแม่ก็ลาจากโลกไปแล้ว น้องโชคดีมากที่ไม่ได้จากไปเหมือนพ่อกับแม่ในอุบัติเหตุ181ปีที่แล้ว ผมเหลือแซนด์คนเดียวเท่านั้น ผมต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ยังทิ้งน้องเอาไว้ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้ว่าผมยังมีคนในครอบครัวเหลืออยู่ แก้วอย่างโกรธแซนด์เลยน่ะครับ" เธอรู้ว่าอาทิตยะเหลือทรายแก้วเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ เป็นคนในครอบครัวคนเดียวที่อาทิตยะเหลืออยู่ เพราะอุบัติเหตุเมื่อ18ปีที่แล้วทำให้เขาต้องเสียบุพการีทั้งสองไป โชคดีมากที่ทรายแก้วผู้ที่อยู่ในอุบัติเหตุครั้งนั้นรอดปลอดภัยเพียงคนเดียว ทุกครั้งที่ทรายแก้วไปก่อกวนหรือสร้างความวุ่นวายให้กับเธอ ชายคนรักมักจะบอกกับเธออย่างนี้เสมอ ว่าเขาเหลือน้องเพียงคนเดียวในครอบครัว
" คุณแซนด์มีอะไรจะพูดกับแก้วค่ะ " แก้วตาเอ่ยทำลายความเงียบ แต่ก็ยังไม่กล้าจะสบตาทรายแก้วอยู่ดี
" ฉันอยากให้เธอเลิกยุ่งกับพี่ซัน " ทรายแก้วพูดอย่างตรงไปตรงมา จะอ้อมไปทำไปให้เข้าใจยากเอาตรงๆอย่างนี้แหละเข้าใจง่าย ถ้าไม่โง่พอคงจะเข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร
" ทำไมค่ะคุณแซนด์ แก้วรักคุณซันนะค่ะ " แก้วตาบอกทั้งน้ำตา ถึงจะพยายามกลั่นไม่ให้มันไหลแค่ไหนแต่สุดท้ายน้ำตาเจ้ากรรมก็ต้องไหลออกมายังกับสายน้ำ
" ฉันไม่ชอบเธอ " เหตุผลสั้นๆง่ายๆ ทำเอาคนฟังถึงกลับงงเป็นไก่ตาแตกเลย "เหตุผลแค่นี้เองเหรอ แค่ไม่ชอบ แค่นี้ถึงกลับต้องให้เธอไปจากเขา" แก้วตาคิดอย่างสบสนมึนงง
" แต่แก้วรักคุณซันจริงๆนะค่ะ คุณแซนด์ให้โอกาสแก้วได้พิสูจน์ตัวเองได้ไหมคะ" แก้วตาพยายามขอร้องอ้อนวอนให้หญิงสาวเห็นใจ ขอเพียงทรายแก้วให้โอกาสเธอก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ทรายแก้วเห็น ว่าเธอก็รักอาทิตยะไม่ได้น้อยไปกว่าหญิงสาวเลย
" พิสูจน์ยังไงละ เธอจะพิสูจน์อะไรให้ฉันเห็น ฉันมีพี่ชายคนเดียวฉันอยากให้พี่ชายฉันเจอคนที่ดีและรักพี่ซันด้วยใจจริง อีกอย่างคนนั้นก็ต้องเป็นคนที่ฉันชอบและที่แน่ๆ มันก็ไม่ใช่เธอ" ทรายแก้วชี้ไปที่แก้วตา เพื่อบ่งบอกให้แก้วตารู้ว่า เธอไม่มีทางยอมรับหรือเปิดทางให้แก้วตาอย่างแน่นอน
"หวังว่าเธอจะเข้าใจที่ฉันพูดนะ เพราต่อให้เธอจะดีแค่ไหนฉันก็ไม่เปิดทางให้หรอก เพราะฉันไม่ชอบเธอ" ทรายแก้วกอดอกพูดอย่างคนที่ไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น
"เหตุผลแค่นี้เหรอคะ ที่คุณอยากให้แก้วไปจากคุณซัน คุณมันคนไม่มีหัวใจ ไร้ซึ่งความรู้สึก สักวันคุณจะเสียใจที่ทำร้ายพี่ชายตัวเอง และพอถึงวันนั้นคุณจะไม่เหลือใครเลยสักเดียว" แก้วตาที่เก็บความรู้สึกต่อหญิงสาวตรงหน้าไม่ไหว ในเมื่อต่อให้ทำดีหรือดีแค่ไหนยังไงๆทรายแก้วก็คงไม่มีทางให้ความรักของเธอและอาทิตยะสมหวังได้ เธอจึงเลือกที่จะระบายความรู้สึกออกมา
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แก้วตาอยากบอกทรายแก้ว ปราการ และพ่อของลูกเธอ ลูกที่เกิดจากความรักของเธอและอาทิตยะ เธอจะทำยังไงดีในเมื่อหญิงสาวตรงหน้าผู้ที่เป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของชายคนรักเธอไม่ยอมรับในตัวเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถให้ลูกที่กำลังจะลืมตาดูโลกในไม่ช้ากลายเป็นเด็กไม่มีพ่อได้ เธอจะตอบคำถามลูกยังไงถ้าลูกถามหาพ่อ ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล หรือว่าเธอควรจะบอกเรื่องนี้ให้ทรายแก้วรู้เผื่อเธอจะเห็นใจและเข้าใจว่าหลานที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของอาทิตยะกำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลก
" ชีวิตฉันไม่ต้องการใครทั้งนั้น นอกจากพี่ซันคนเดียว และต่อให้เธอจะพูดยังไงฉันก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจยอมรับเธอได้หรอก ไปจากพี่ซันซะ ชีวิตฉันมีแค่พี่ซันคนเดียวฉันไม่อยากให้พี่ซันเห็นใครสำคัญไปกว่าฉัน " ทรายแก้วพูดอย่างคนเห็นแก่ตัว เธอจะทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะทำให้แก้วตาออกไปจากชีวิตพี่ชายเธอ ใครจะว่าจะคิดยังไงก็ตาม ครอบครัวของเธอเหลือเพียงอาทิตยะคนเดียวเท่านั้น ทรายแก้วยิ้มหวานให้แก้วตา ก่อนจะเดินข้ามถนนเพื่อนที่จะกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง รอยยิ้มของเธอเหมือนจะถูกเคลือบด้วยยาพิษเพราะคนที่ได้รับกลับรู้สึกเจ็บปวดทรมาน จะล้มทั้งยืนอยู่ลอมล่อ
แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึงอีกฝั่ง ถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากของใครบางคนถึงกับทำให้ร่างบางชาไปทั้งตัว เท้าที่กำลังจะเก้าต่อหยุดชะงักทันที
" คุณมันใจร้ายมาก คุณไม่อยากให้พี่ชายเจอลูกที่กำลังจะเกิดมาเลยเหรอค่ะ จะพรากพวกเราพ่อแม่ลูกจากกันเหรอค่ะ งั้นคุณคงต้องพรากชีวิตแก้วเท่านั้น แก้วถึงจะเลิกรักคุณซันได้ " ถ่อยคำที่ออกมาจากปากของแก้วตาทำเอาทรายแก้วแทบจะล้ม ร่างบางของทรายแก้วหันกลับไปมองแก้วตาอีกครั้ง ผู้หญิงตรงหน้าเธอกำลังตั้งท้องลูกของพี่ชายเธอ......
"เธอว่าอะไรนะ" หวังว่าสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเธอแค่หูแว่วไปเอง แต่พระเจ้าคงไม่เห็นใจเธอหนักเพราะสิ่งที่ย้ำออกมาจากปากของผู้หญิงตรงหน้านั้น เหมือนก้อนหินที่ถูกปาออกมากระแทกหน้าอย่างแรงทำเอาชาไปทั้งตัว
" แก้วท้องค่ะ และเด็กที่อยู่ในท้องแก้วก็เป็นลูกของคุณซัน" คำตอบที่ออกมาจากริมฝีปากบางๆ ทำเอาคนฟังขาอ่อนแทบจะล้มพลับกลางถนน
" เธอโกหกใช้ไหม บอกมาสิว่าเธอโกหก " ทรายแก้วถึงกับน้ำตาร่วงหล่นลงมาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย นี่เธอกำลังแพ้ใช่ไหม เธอกำลังแพ้ให้กับผู้หญิงตรงหน้า เธอกำลังแพ้ต่อความรักของคนสองคนที่มีพยานรักบ่งชี้ให้รู้ว่า ไม่ว่าจะต้องแยกจากกันไป ผู้หญิงคนนี้และอาทิตยะก็มีพยานรักต่อกัน และเธอก็ไม่ใจร้ายพอที่จะพรากลูกพรากเมียพี่ชายตัวเองได้ หลานเธอที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลกกำหลังจะกลายเป็นเด็กกำพร้าเพราะฝีมือเธอ เธอกำลังทำร้ายชีวิตพี่ชายตัวเอง กำลังจะทำร้ายหลานตัวเอง เธอแพ้แล้วแพ้จริงๆแพ้ต่อความรักของพวกเขา
ทรายแก้วถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้นโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร่างบางสั่นเทาด้วยแรงสะอื้น เธอกำลังรู้สึกผิดที่กำลังจะทำร้ายพี่ชายตัวเองและหลานตัวเอง เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย ไม่สามารถสั่งให้น้ำตาหยุดไหลได้ ความเข้มแข็งที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้หายไปหมดไม่เหลือเลยสักนิด
" ฉันแพ้แล้ว ฉันแพ้เธอแล้ว " ทรายแก้วพยายามจะบังคับน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้มันสั่น แต่แล้วก็ไม่สามารถทำได้ แต่กับสั่นมากกว่าเดิม
" คุณแซนด์ " แก้วตายิ้มออกมาทั้งน้ำตา ความรักของเธอและอาทิตยะกำลังจะสมหวัง เธอและเขาจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนกับที่เคยฝันไว้ ความรักของเธอทำให้เธอฝ่าฟันอุปสรรมาจนได้ "ขอบคุณลูกที่ทำให้พ่อกับแม่ได้อยู่ด้วยกัน ลูกต้องรักอาแซนด์ให้มากๆนะ อาแซนด์จะได้รู้ว่ายังมีใครอีกหลายคนยังรักเธออยู่" คนกำลังจะเป็นแม่ยิ้มทั้งน้ำตาพร่ำบอกลูกในใจ
แต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีรถหรูคันหนึ่งวิ่งเข้ามาในโรงแรมด้วยความเร็วสูง รถคันนั้นตรงเข้ามายังร่างเล็กของทรายแก้วที่นั่งร้องไห้อยู่กลางถนน แสงไฟจากหน้ารถสาดส่องเข้าไปในดวงตาของร่างเล็กที่นั่งแข็งเป็นหิน ร่างเล็กคิดอะไรไม่ออกเลยร่างกายแข็งทื่อไปหมด สมองหยุดสั่งงานไปชั่วขณะ ในตอนนั้นสิ่งเดียวที่เธอคิดได้ก็คือ พ่อกับแม่จะมารับเธอไปอยู่ด้วยเหมือนอย่างที่เธอรอคอยมาตั้งแต่จำความได้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาค่อยๆหลับตาลงอย่างยอมรับสิ่งที่พระเจ้ามอบให้
ร่างสองร่างกระเด็นไปคนละทางร่างหนึ่งโดนผลักออกไปจากกลางถนน ส่วนอีกร่างถูกกระแทกอย่างแรงด้วยแรงอัดของรถทำให้ร่างนั้นกระเด็นออกไปไกล ไปกระแทกกับเสาไฟประดับอย่างแรงเลือดที่ไหลออกมาจากร่างเล็กที่สติเรือนรางนั้นนองไปทั่วพื้น ชุดสวยของร่างบางที่สวมใส่นั้นกลายเป็นสีแดงทันที และทันทีที่เจ้าของรถรู้ตัวว่าชนคนเข้า ก็รีบรนร่านขับรถหนีไปทันที
ทรายแก้วพอมีสติร่างบางที่มีร่องรอยการถลอกเพราะถลาไปกับพื้นถนน จึงทำให้ร่างบางๆของทรายแก้วมีทั้งแผลถลอกและร่องรอยการบอกช้ำ ร่างบางตรงไปยังร่างที่ไร้สถิตของแก้วตาทันที่ ภาพตรงหน้าทำให้หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกได้แต่มอง ก่อนจะเดิมโซเซไปยังร่างนั้น
" แก้วตา! " เธอพยายามเดินเข้าไปหาร่างที่ไร้สติ เธอรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้ร่างบางที่ไรสตินี้ ต้องเจอะเจอเหตุการณ์อย่างนี้
"เธออย่าเป็นอะไรนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับฉันก่อน แก้วตา! ตื่นสิ ตื่นๆ ฮือๆๆ ตื่นขึ้นมานะ ฮือๆ " ร่างบางของทรายแก้วพยายามจะปลุกร่างที่ไร้สติไปแล้วให้รู้สึกตัว แต่ถึงจะร้องเรียกหรือเขย่าตัวสักแค่ไหน ร่างนั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบเสนอกลับมาเลย ตอนนี้รอบข้างทั้งสองร่างเต็มไปด้วยผู้คนที่อยากรู้อยากเห็น
ร่างสูงสองร่างวิ่งมาด้วยความเร็ว เมื่อคนในงานพูดถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหน้าโรงแรม พวกเขาก็รีบวิ่งออกมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล กลัวเหลือเกิดว่าคนที่สบอุบัติเหตุครั้งนี้จะเป็นคนที่พวกเขารัก ทันทีที่มาถึงก็เจอเหล่าไทยมุงที่ต้องการรู้เห็นเหตุการณ์ เสียงซุบซิบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเบากว่าเสียงสะอื้นไห้ ของใครบ้างคน ปราการเป็นคนแรกที่แหวกฝูงชนเข้าไป เขามองเห็นร่างเล็กของใครบางคนในชุดสีแดงที่เพียงแค่มองด้านหลังก็รู้ว่าใคร เท่านั้นแหละหัวใจของชายหนุ่มเหมือนล่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร่างกายแข็งทื่อเมื่อมองเห็นว่าร่างที่นอนจมกองเลือดคือใคร หัวใจคนเป็นพี่แทบจะแตกสะลาย ใบหน้างามตอนนี้ซีดเผือก มีบาดแผลเต็มร่างกาย เลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดทำให้มันนองเต็มพื้น
" แก้ว " คนเป็นพี่เอ่ยคำพูดออกมาได้แค่นั้น ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาร่างที่ไร้สติ ชายหนุ่มผลักร่างบางของใครอีกคนให้ออกห่างออกจากน้องสาวเขา ผู้หญิงคนนี้ถึงกับต้องทำร้ายน้องสาวเขาถึงขนาดนี้เลยเหรอ ชายหนุ่มตั้งคำถามในใจ เขามองร่างบางที่สั่นเทาเพราะความเสียขวัญด้วยสายตาเกลียดชัง ก่อนที่จะช้อนร่างที่ไร้สติขึ้นมาแนบอก
" แก้วอย่าเป็นอะไรนะ พี่อยู่นี้แล้ว ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลหน่อย " ชายหนุ่มพูดกับคนเป็นน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่ประโยคหลังจะหันไปตะคอกสั่งคนที่มุ่งดูเหตุการณ์
" แก้ว" ร่างของอาทิตยะแทบจะล้มลง เมื่อเห็นสภาพของคนรักของตน เข่าอ่อนทันที่ ไม่สามารถที่จะทรงตัวได้เลย น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกโดยไม่รู้ตัว เป็นอีกครั้งที่เขาเสียใจอย่างที่สุด ครั้งสุดท้ายที่เขามีน้ำตาคงจะเป็นวันที่บุพการีทั้งสองจากโลกไป จากนั้นเขาก็ไม่เคยร้องไห้หรือมีน้ำตาให้ใครเลย แต่เธอคนนี้เธอคือคนที่มาเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไป เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ร่างของชายหนุ่มทรุดลงกับพื้น มองภาพคนรักทั้งน้ำตา
" พี่ซัน แซนด์ขอโทษ " ร่างที่สั่นเทาของ ทรายแก้วคลานเข้าไปกอดพี่ชายตัวเอง อย่างต้องการที่พึ่ง
" มันเป็นอุบัติเหตุ แซนด์ขอโทษ " หญิงสาวร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ได้แต่เอ่ยขอโทษคนเป็นพี่เท่านั้น
" จิตใจคุณมันทำด้วยอะไร น้องผมไปทำอะไรให้คุณ " ชายหนุ่มที่กอดร่างไร้สติของน้องสาวตะคอกใส่หน้าร่างเล็กที่กอดพี่ชายที่เป็นที่พึงสุดท้ายด้วยร่างกายที่สั่นเทา
" ฉันไม่ได้ทำ... แซนด์ไม่ได้ทำนะค่ะพี่ซัน แซนด์ไม่ได้ทำ ฮือๆๆ " ร่างเล็กส่ายหัวปฏิเสทไปมา เธอไม่ได้ทำอย่างที่ชายหนุ่มคนนั้นปรับปรำสักนิด เธอพยายามอธิบายให้อาทิตยะเข้าใจ สำหรับคนตัวเล็กแล้วใครจะเข้าใจยังไงเธอไม่สน ขอแค่คนทีเธอรักเข้าใจก็พอ
" แก้ว ผมขอโทษ แก้วคุณตื่นขึ้นมาคุยกับผมหน่อยนะ ผมพร้อมจะแต่งานกับคุณแล้วนะ ผมไม่สนใจใครอีกแล้ว ผมขาดคุณไม่ได้ ได้ยินไหมแก้วผมขาดคุณไม่ได้" ร่างหนาสมชายชาตรีค่อยๆประคองร่างไร้สติของคนรักเข้าสู่อ้อมกอด น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ปราการเองก็อดสงสารไม่ได้ ชายหนุ่มปล่อยให้อาทิตยะโอบกอดร่างไร้สติของแก้วตา ชายหนุ่มบอกตัวเองในใจว่าเพราะสองพี่น้องนี้ทำให้น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาต้องเป็นอย่างนี้ แต่ร่างกายอ่อนแอเกินไปที่จะมองหน้าน้องสาวได้อย่างเต็มตา ชายหนุ่มเลยปล่อยให้ชายคนรักของน้องสาวกอดร่างไร้สติของแก้วตา
" พี่ซัน แซนด์ขอโทษ ฮือๆ คุณแก้วเธอกำลังท้อง แซนด์ขอโทษ ฮือๆ คนที่ควรจะโดนรถชนน่าจะเป็นแซนด์ ฮือๆ" คำบอกเล่าของหญิงสาวร่างสั่นเทา ทำเอาคนสองคนถึงกับหมดเรี่ยวแรงทันที สำหรับอาทิตยะนั้นเขาเหมือนโดนใครสักพันคนเอามีดมาทิ่มแทงหัวใจตอนนี้มันกลายเป็นแผลขนาดใหญ่ยากที่จะเย็บติด น้ำตาคนที่เกือบจะเป็นพ่อคนถึงกลับล่วงล้นลงมาแทบจะเป็นสายน้ำ ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้อยากนัก ส่วนอีกคนเขารู้สึกเหมือนมีคนเอาไม้หน้าสามมาตีแสกหน้า ตอนนี้รู้สึกหน้าชาไปหมดชายหนุ่มมองไปยังร่างที่สั่นราวลูกนกตกน้ำด้วยสายตาชิงชัง ผู้หญิงคนนี้ร้ายกว่าที่คิดรู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวเขากำลังอุ้มท้องลูกของพี่ชายตัวเองแต่ก็ยังทำกันได้ลงคอ แม้แต่หลานตัวเองก็คิดจะกำจัดสินะ....
" สะใจแซนด์แล้วใช้ไหม...พอใจแล้วใช้ไหมแซนด์ พอใจแล้วใช้ไหม แซนด์ทำร้ายได้แม้แต่หลานตัวเอง พี่ไม่คิดเลยว่าแซนด์จะเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ " ชายหนุ่มที่กอดร่างไร้สติตะคอกถาม ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความโกรธ หญิงสาวที่ร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำเพราะเสียใจกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงนี้ "ทำไมพ่อกับแม่ใจร้ายขนาดนี้ ทำไมไม่เอาแซนด์ไปอยู่ด้วย ทำไมคนที่โดนชนไม่เป็นแซนด์ พ่อขาแม่ขา แซนด์อยากไปหาพ่อกับแม่" ร่างเล็กได้แต่คิดในใจ ตอนนี้พี่ชายคนเดียวที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายยามเธออ่อนแอ กลับไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดเลย ร่างเล็กสะอื้นไห้อย่างนัก
" แซนด์ไม่ได้ทำ ฮือๆ แซนด์ไม่ได้ทำจริงๆ " คนตัวเล็กพูดเพียงไม่กี่ประโยคกลับไปกลับมาอยู่อย่างเดิม พร้อมเสียงสะอื้นและน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างกับสายน้ำที่ไม่สามารถจะหยุดไหลได้
" แซนด์ " ร่างบางระหงของอริสราวิ่งเข้ามายังร่างที่สั่นเทาของทรายแก้วพร้อมกับมองดูเหตุการณ์รอบตัว เธอถึงกับยกมือขึ้นปิดปากเพราะความตกใจและคาดไม่ถึงว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น
" เดียร์ ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันไม่ได้ทำ เธอต้องเชื่อฉันนะเดียร์ " ร่างเล็กที่สั่นเทาโผเข้ากอดเพื่อนรักอย่างคนเจอที่พึ่งสุดท้าย ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม
" ใจเย็นๆนะแซนด์ ฉันเชื่อเธอ ไม่เป็นไรแล้วนะ" อริสรากอดตอบพร้อมลูบหลังอย่างปลอมประโลมเพื่อนรักให้ดีขึ้น อริสรามองไปยังร่างหนาของพี่ชายเพื่อนที่กอดร่างไร้สติร้องไห้คร่ำคราญอย่างสงสาร แต่เพื่อนเธอคนนี้ก็น่าสงสารเหมือนกัน ทรายแก้วจะทำยังไงต่อไปเมื่อที่พึ่งสุดท้ายอย่างอาทิตยะเข้าใจผิดอย่างนี้ อริสราอดสงสารเพื่อนรักไม่ได้ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่เธอเชื่อว่าทรายแก้วไม่มีทางทำร้ายแก้วตาถึงกลับเลือดตกยางออกแน่
" ฮือๆๆ แซนด์ไม่ได้ทำ ไม่ได้ทามมม " นั้นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่ร่างเล็กที่สั่นเทาของทรายแก้วจะหมดสติไป
" แซนด์ แซนด์ " อริสราพยายามจะปลุกร่างเล็กให้ตื่น หญิงสาวดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด กลัวเหลือเกิดว่าเพื่อนจะเป็นอะไรไป ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะตอนนี้อาทิตยะเองก็อ่อนแอเกินกว่าจะควบคุมสติได้ เขายังคงร่ำไห้คร่ำครวญเรียกชื่อคนรักอยู่ตลอดเวลา ไม่สนใจแม้แต่น้องสาวคนเดียวที่รักยังกับแก้วตาดวงใจว่าตอนนี้ได้หมดสติไปแล้ว
" คุณช่วยไปส่งฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม " อริสราหันไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นอย่าง ภัทรดล เพราะเธอคงไม่สามารถพาร่างบางไร้สติที่อยู่ในอ้อมกอดกลับไปได้ และที่พึ่งสุดท้ายที่หญิงสาวพอจะของความช่วยเหลือได้ก็คืนเขา อย่างน้อยเขาก็รู้จักกับพี่ชายทรายแก้ว คงจะพอไว้ใจได้
" ผมฝากน้องสาวผมทั้งสองคนด้วยนะครับคุณดล " ร่างหนาที่อริสราคิดว่าไม่รับรู้อะไรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ ถึงจะไม่หันมามองแต่ทุกคน ณ ที่แห่งนี้ก็รับรู้ได้ว่าเขายังรักและห่วงน้องสาวเสมอ
" พี่ฝากแซนด์ด้วยนะเดียร์ " อริสราพยักหน้ารับปาก เพราะเธอรู้ดีว่าอาทิตยะก็คงลำบากใจไม่น้อยที่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
"ผมจะดูแลพวกเธอเอง คุณไม่ต้องห่วง " ร่างสูงของภัทรดลช้อนร่างเล็กที่หมดสติขึ้นมาในอ้อมกอด ก่อนจะรีบเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ อริสราเข้าไปกอดพี่ชายที่เธอรักจากข้างหลังอย่างต้องการปลอมใจ ก่อนจะรีบเดิมตามภัทรดลออกไปอย่างติดๆ
ความคิดเห็น