คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : レインコート 05
レインコート
`raincoat
05
ซ่า...
สายน้ำไหลลงมาจากปากก๊อกตรงอ่างล้างหน้า
ยุนกิมองสายน้ำที่ไหลลงมาไม่ขาดก่อนจะเอื้อมมือข้างที่ไม่มีแผลไปลดความแรงของน้ำ
เขากลัวความแสบ ไม่สิ ไม่ชอบความแสบ แผลโดนบาดขนาดนี้พอโดนน้ำมันต้องแสบมากแน่ๆ
เขาโยนใบมีดโกนลงในอ่าง
ก่อนจะยื่นมือที่มีเลือดไหลเลอะออกไปให้โดนน้ำ
ใบหน้าเหยเกด้วยความแสบอย่างที่คิดไว้เมื่อสายน้ำไหลผ่านแผล เลือดจางๆ
ยังคงไหลซึมมาจากรอยบาด
ถึงจะเป็นมือซ้ายที่คงจะไม่ทำให้ลำบากเวลาจับปากกาเขียนหนังสือ
แต่เขาก็ต้องใช้ทั้งสองมือในการประคองชิไนอยู่ดี – น่าหงุดหงิด
พอดีกับตอนนี้เป็นตอนที่จองกุกเดินมาเข้าห้องน้ำ
เด็กหนุ่มร่างสูงโปรงเห็นรุ่นพี่ตัวแสบเอาแต่ยื่นมือให้น้ำไหลผ่านก็แปลกใจ
เขาขยับเข้าไปใกล้อีกคนจนเห็นว่าที่มือของยุนกิมีเลือดไหลออกมาจากแผลโดนบาดที่นิ้วกลางและนิ้วนาง
"พี่ยุนกิ!"
จองกุกโพล่งออกไปพร้อมกับคว้าข้อมือของร่างเล็กมาดู
ยุนกิสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจก่อนจะรีบดึงมือออกมา
"ไม่เป็นอะไรหรอก"
บอกออกไปแล้วจึงเอามือรองให้น้ำไหลผ่านต่อ
"กดๆ
ไว้สิครับ ให้เลือดมันออกมาก่อน เดี๋ยวติดเชื้อ"
จองกุกว่าขณะที่มองแผลบนนิ้วของยุนกิ คนเป็นรุ่นพี่จิ๊ปากแต่ก็ยอมทำตามที่จองกุกแนะนำ
"ไปโดนอะไรมาครับเนี่ย เลือดไม่ใช่น้อยเลย"
"ใบมีดคัตเตอร์น่ะ"
"ไปทำท่าไหนเข้าล่ะครับ"
"ฉันพลาดเอง"
ยุนกิพึมพำตอบออกมา
จองกุกเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับท่าทางใจเย็นของอีกคน
เขานึกว่าจะโวยวายออกมาเสียอีก
"เจ็บหรือเปล่า"
ไม่รู้ทำไมเขาถึงถามออกไปแบบนั้น เขาอาจจะแค่อยากให้แน่ใจว่ายุนกิไม่ได้ไม่สบาย
เพราะแบบนี้มันไม่สมกับเป็นเด็กตัวแสบในโรงฝึกเคนโด้ที่ทำให้ซอกจินปวดหัวได้เลย
"ไม่เจ็บ
– สักนิด"คำตอบที่ออกมาจากปากของยุนกิไม่ใกล้เคียงกับที่จองกุกคิดไว้เลยแม้แต่น้อย
มันต้องแบบ... ตาบอดหรอ ไม่เห็นหรือไงแผลขนาดนี้ ก็เจ็บสิโว้ย!!
"พี่โอเคนะ"
"ไม่มีอะไรนี่ แค่โดนมีดคัตเตอร์บาด"ยุนกิยักไหล่
พอเลือดที่ไหลซึมออกนั่นหยุดเขาก็ปิดก๊อกน้ำแล้วเอามือที่เปียกน้ำเช็ดกับเสื้อนักเรียน
เขาหยิบเอาใบมีดที่ทิ้งไว้ในก้นอ่างขึ้นมาโยนใส่ถังขยะใต้อ่าง "ฝากไปบอกแทฮยองทีสิว่าวันนี้ให้ไปเก็บขยะที่สวนป่าหลังโรงเรียนคู่กับซอนอูแทนฉันหน่อย"
"หา?"
"จะมาหาอะไรล่ะ อย่าลืมสิ
ฉันใช้อะไรเพื่อนนายก็ต้องทำ"ยุนกิหันไปยักคิ้วให้คนตัวสูงกว่าอย่างจงใจกวนประสาท
"ครับๆ คุณมินยุนกิสั่งมา
เดี๋ยวผมจะบอกแทฮยองมันให้" จองกุกผงกศีรษะให้อีกคน ยุนกิฉีกยิ้มกว้างให้อย่างพอใจก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำเลย
จองกุกเอี้ยวคอตามร่างขาวๆ
ของยุนกิไปอย่างอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ถึงจะไม่ได้สนิทสนมกันมากแต่ก็เห็นกันบ่อยๆ
แถมยังโดนอีกคนเหวี่ยงใส่มาก็หลายหน
เขาใช้ขาเขี่ยถังขยะที่ส่วนใหญ่เป็นพวกซองขนมกับแก้วน้ำออกมาจากใต้อ่างล้างหน้า
ยุนกิก็ปาเจ้าใบมีดโกนลงไปแรงใช่ย่อย คงจะหงุดหงิดอยู่ไม่ใช่น้อยที่โดนมันบาดเข้า
ไม่รู้ทำไมเข้าถึงได้อยากเห็นนัก ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดข้อความอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจะใช้ปากกาเขียนไว้บนตัวใบมีด
อ่อน
"เฮ้ย..." แบบนี้มันน่าจะเกิดจากการจงใจแกล้งแล้ว
จองกุกหยิบเอาใบมีดโกนนั้นขึ้นมาเขม่นมองอยู่สักพักก่อนจะเอามันห่อลงในผ้าเช็ดหน้า
เขายัดมันลงในกระเป๋ากางเกง ต้องรีบกลับไปที่ห้อง เขาออกมาได้สักพักแล้ว
ขืนครูเข้ามีหวังโดนดุอีกแน่ๆ เรื่องพวกนี้ค่อยเอาไปบอกแทฮยอง
อย่างน้อยหมอนั่นก็น่าจะอยากรู้บ้างแหละ...
"มาแล้วหรอ"
โฮซอกถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าขาวๆ ของยุนกิลอยมาแต่ไกล
ใบหน้านั้นมุ่ยลงเมื่อได้ยินคำถามของเพื่อน
"ก็เออดิ
งั้นจะเห็นหรือไง" ตอบพลางกับทิ้งกายลงนั่ง ยกมือขึ้นเป่าตรงแผลเบาๆ เพราะบังเอิญเอามือไปโดนกับเก้าอี้จนรู้สึกเจ็บๆ
แสบๆ ขึ้นมา จีมินสังเกตเห็นแผลนั้นก็รีบถอดหูฟังออกแล้วขยับเข้าดูแผลด้วยความเป็นห่วง
"ไปทำอะไรมา"
"ก็...
ไปโดนอะไรมาไม่รู้แฮะ แต่แผลแค่นี้เดี๋ยวก็หาย" ยุนกิตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ขืนบอกความจริงมีหวังกลายเป็นเรื่องแน่ๆ เขาหุบปากไว้ดีกว่า
แล้วเดี๋ยวเขาค่อยจัดการเอง...
"แทฮยองว่าไง
เรื่องที่ให้ไปเก็บขยะแทนน่ะ" โฮซอกถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"มันบอกว่าไม่ว่างวะ
ต้องไปเก็บเอง"ยุนกิแสร้งทำเป็นหงุดหงิดผ่านทั้งน้ำเสียงและสีหน้า
นึกอยากจะเอาอะไรสักอย่างที่ไกลมือฟาดลงกลางหน้าผากของโฮซอกที่ขำก๊ากออกมาอย่างไม่นึกเกรงใจเขาเลยสักนิด
"ไหนว่าใช้ได้ไง"
พูดไปก็ขำหน้าหงิกๆ ของยุนกิไป
"ก็อันนี้เห็นว่าไม่ได้ก็ปล่อยไป
ยังมีให้ใช้อีกเยอะ" พูดพลางก้มหน้าลงมองชีทเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะของตนเอง
ความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นเข้าไปอีกเมื่อเห็นลายมือของจีมินที่เขียนด้วยดินสอไว้ตรงมุมกระดาษว่า
พรุ่งนี้ทดสอบเก็บคะแนน
เหอะ
เอาอีกแล้ว
"แกจะอ่านเลยหรอ"
จีมินถามขึ้นเมื่อเห็นยุนกิหยิบเอาปากกาเน้นข้อความจากกระเป๋าตนเองออกมา
"เออ
เพื่อตอนเย็นมีเรื่องวุ่นๆ"ยุนกิตอบก่อนจะก้มหน้าลงอ่านชีทนั่น
เขาไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ถ้าฟังเพลงตอนนี้เขาจะต้องอยากวิ่งไปรอบๆ ให้อารมณ์ร้อนๆ
ในอกหายไปแน่ๆ
บางทีอาจจะวิ่งไปต่อยหน้าไอ้นั่น
มีอยู่คนเดียวที่ยุนกินึกออก
ต่อให้จะปากร้ายและอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ
หาเรื่องแกล้งคนอื่นไปเรื่อยแต่ก็ใช่ว่าจะมีเรื่องร้ายแรงกับใครเยอะแยะที่ไหน
อย่างแทฮยองที่เขาไม่ชอบหน้าอยู่ก็ใช่ว่าเขาจะอยากวิ่งไปต่อยหน้าตอนที่แพ้หมอนั่นเสียหน่อย
แต่คนนี้นี่เกลียดจริงๆ
ยุนกิเงยหน้าขึ้นมองจีมินที่นั่งฟุบลงกับแขนตนเองเช่นเดิมอยู่ที่โต๊ะข้างๆ
โฮซอกกับฮยอนอูกำลังอ่านหนังสือการ์ตูนที่เพิ่งไปยืมมาได้ ลมหายใจค่อยๆ ถูกผ่อนออกมา
– จีมินอา ขอโทษนะ
- - - - -
จีมินเก็บของลงกระเป๋านักเรียนหลังจากที่ทุกคนในห้องเรียนกลับไปแทบหมดแล้ว
ยุนกิต้องรีบไปสวนป่าหลังโรงเรียน โฮซอกก็น่าจะไปเล่นบาสเกตบอลกับฮยอนอู เขาที่นั่งเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ
อยู่บนห้องเลยเพิ่งจะเก็บของ
มีเวลาเหลือเฟือสำหรับเขาในการกลับบ้าน
และบางครั้งบ้านก็ไม่ใช่สถานที่ที่น่ากลับไปใช้เวลาที่นั่น
มันไม่ใช่ที่ที่ทำให้เขาผ่อนคลายเลยสักนิด
"อ้าว... พออ่านจบแล้วก็ลืมทิ้งไว้เลยหรอเนี่ย"
หันไปเห็นชีทที่ยุนกิอ่านจบไว้แล้วถูกลืมทิ้งไว้บนโต๊ะของเจ้าตัวก็พึมพำออกมาคนเดียว
เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เวลานี้ยุนกิก็น่าจะยังอยู่ที่สวนป่าหลังโรงเรียน
เดี๋ยวเขาเอาไปให้เลยแล้วกัน เผื่อยุนกิอยากจะอ่านทวนอีกรอบ
ตัดสินใจได้แล้วจีมินก็ยกเป้ขึ้นพาดบ่า
เอาชีทของยุนกิมาถือแล้วแล้วเดินออกไปจากห้อง เขาลงบันไดไปเรื่อยๆ
อย่างไม่รีบร้อนนัก เดินผ่านสถานที่ต่างๆ
ในโรงเรียนรวมไปถึงโรงอาหารซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่มีนักเรียนอยู่ค่อนข้างเยอะในเวลาหลังเลิกเรียน
เขามีเวลาทักทายเพื่อนๆ หรือรุ่นน้องบ้าง ยุนกิคงไม่ทำเวรเสร็จเร็วนักหรอก
"หื้ม– พี่จีมิน?"
เดินพ้นออกมาจากเขตโรงอาหารได้ไม่นานเขาก็สวนทางกับจองกุกและแทฮยองที่เดินมาจากด้านหลังโรงเรียนพอดี
จองกุกทักเขาเอาไว้เสียก่อนที่จะเดินพ้นกันไป
"อ่า"
จีมินไม่รู้ว่าควรจะพูดทักทายออกไปอย่างไรดีเลยแค่ตอบในลำคออกมาสั้นๆ
จองกุกฉีกยิ้มกว้างมาให้ส่วนแทฮยองนั้นขยับยิ้มเล็กน้อยส่งมาให้
"พี่จะไปไหนหรอ"
เจ้าของรอยยิ้มสว่างไสวเดินมาคุยกับเขาก่อน
คนที่มาด้วยกันอย่างแทฮยองเลยเดินตามยืนข้างๆ โดยไม่พูดอะไรมาก
"ไปสวนป่าน่ะ"
จีมินตอบไปตามจริง จองกุกพยักหน้าให้เขาอย่างกระตือรือร้นจนจีมินได้แต่ยิ้มเกร็งๆ "เออ...
แล้วพวกนาย"
"ว่าจะไปเล่นบอลกับพวกนัมจุนที่สนามหน้าโรงเรียนครับ
นี่ไอ้แทฮยองเพิ่งมาทำเวรแทนพี่ยุนกิเสร็จ" จองกุกรัวคำตอบส่งไปให้
แต่จีมินได้ยินดังนั้นเขาก็เปลี่ยนจากยิ้มเกร็งเป็นขมวดคิ้วด้วยความฉงนแทน
"ไหนยุนกิบอกว่าแทฮยองไม่ว่างเลยต้องไปทำเองไง"
"ครับ?"คนผิวแทนเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
เขาหันไปมองจองกุกที่ก็หันมามองเขาด้วยสีหน้างงๆ
"พี่ยุนกิเป็นคนบอกให้ผมไปบอกแทฮยองเองนะ
แล้วแทฮยองจะไม่ว่างไปได้ไงครับ พี่ฟังผิดหรือเปล่า"
จองกุกหันไปถามรุ่นพี่ตัวเล็ก ซึ่งจีมินเองก็ส่ายศีรษะกลับมาให้
"บอกตั้งแต่เมื่อเช้าเลยนะ
พอตอนเย็นก่อนแยกกันก็บอกว่าจะไปทำเวรกับซอนอู"
"มีแค่ผมกับรุ่นพี่ซอนอูครับ"
แทฮยองว่า "พี่ยุนกิไม่ได้มา"
"...ไปไหนของเขานะ"
จีมินยกมือขึ้นมาแตะตรงใต้ริมฝีปาก จะไปไหนก็บอกกันตรงๆ ก็ได้นี่นา
ทำแบบนี้มันน่าเป็นห่วง
"เออ! ลืมบอกแกไปเลยว่ะแทฮยอง"
จู่ๆ จองกุกก็โพลงขึ้นมา ทั้งจีมินและแทฮยองหันไปมองคนพูดที่รีบล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงนักเรียน
จองกุกหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาคลี่ "เมื่อเช้าฉันเจอพี่ยุนกิล้างแผลที่ห้องน้ำ"
"ใช่...
ยุนกิบอกว่าไปโดนอะไรบาดมาก็ไม่รู้" จีมินเสริม
"พี่เขาจะไม่รู้ได้ไงว่าโดนอะไรบาด"
จองกุกเอ่ยขัดจีมินไป เขาเอาใบมีดสำหรับใส่ในคัตเตอร์ออกมา
แต่แทนที่เขาจะยื่นให้แทฮยองดูเขากลับยื่นไปให้จีมินแทน "พี่เขาโยนไอ้ใบมีดนี่ลงขยะเองกับมือ"
มือเล็กรับใบมีดไปดูก่อนจะเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ
ถึงจะจางๆ ไปบ้างแต่รอยปากกาที่เขียนไว้นั้นชัดเจนเพียงพอที่จะให้เขาอ่านมันออก
"อ่อน– นี่จงใจหาเรื่องหรือเปล่าครับ"
จองกุกว่า แทฮยองยื่นหน้าไปอ่านมันบ้าง พอเห็นสีหน้าเป็นกังวลของจีมินเขาก็นึกเป็นห่วงยุนกิขึ้นมา
"ใครครับ"
แทฮยองถามออกไป จีมินหันมามองหน้าเขาเล็กน้อยเหมือนจะหยุดคิดไปชั่วครู่ "พี่บอกผมมาก่อนว่าใคร
เขาอาจจะทำอะไรพี่ยุนกิก็ได้นะครับ"
"น่าจะ...
ซอนบิน คิมซอนบิน" จีมินตอบออกไป
แทฮยองพยักหน้ารับแล้วจึงออกวิ่งไปจากตรงนั้น
"แทฮยอง! ไปไหนวะ" จองกุกตะโกนไล่หลังเพื่อนของตนที่วิ่งออกไปก่อนแล้ว
แทฮยองไม่ได้หันมาตอบ แต่ถึงอย่างนั้นจองกุกก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว เขาหันกลับมามองจีมินที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายถึงยุนกิ
แทฮยองพอจะรู้จักคิมซอนบินบ้างว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่คนละห้องกับเขา
แม้จะไม่เคยคุยกันแต่นิสัยของอีกคนก็เป็นที่พูดถึงในหมู่นักเรียน
ทั้งนักเรียนหญิงด้วยใบหน้าและนิสัยออกจะเถื่อนๆ ของเขา รวมไปถึงนักเรียนชายในเรื่องพฤติกรรมของซอนบิน
ขายาวก้าวไวๆ
ไปตามทางอย่างรีบร้อน หันไปมองซ้ายมองขวาเผื่อว่าจะเจอรุ่นพี่ผิวซีดๆ
จอมอวดเก่งคนนั้น นึกไปถึงใบหน้าของยุนกิ แผลตรงมุมปากจากการชกต่อย
กับรอยช้ำเล็กน้อยที่แก้ม ถึงจะเป็นนิสัยเสียแค่ไหนแต่เขาก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่ายุนกิจะไปมีเรื่องกับพวกกลุ่มอันธพาลแบบนั้น
เขาคิดถึงสถานที่ไม่กี่อย่าง
สวนป่าหลังโรงเรียนที่นักเรียนมักจะชอบมีเรื่องบ่อยๆ นั้นเขาเพิ่งออกมา
ใกล้จากตรงนั้นหน่อยก็เป็นหอประชุม– แทฮยองก้มลอดใต้ประตูม้วนที่ถูกดึงลงมาแทบถึงครึ่งตัว
ภายในอาคารกว้างค่อนข้างมืด เขากวาดสายตาไปรอบๆ
ก่อนที่จะได้ยินเสียงบางอย่างด้านหลังเวทีตรงส่วนในสุดของอาคารหอประชุมแทฮยองรีบวิ่งไปตรงบันไดขึ้นเวที
เสียงบทสนทนาดังชัดขึ้นพร้อมกับเสียงหมัดหนักๆ และ – เสียงร้องของยุนกิ
"โอ๊ย!!"
"เฮ้
พี่ยุนกิ พี่เป็นคนรักเพื่อนนะ แต่ทำไมเขาถึงให้พี่โดนรุมอยู่คนเดียวล่ะ"
น้ำเสียงกร้าวเอ่ยขึ้น แทฮยองชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูด้านหลัง เขาให้เวลาตัวเองในการแอบฟังอยู่หลังประตูแค่นิดเดียว...
อย่างน้อยก็อีกแค่หมัดเดียว
"อึก...
ไอ้เลวเอ๊ย" เสียงของยุนกิเต็มไปด้วยความเจ็บใจ ต้องเจ็บมากแน่ – แทฮยองกำมือแน่น ลังเลว่าควรจะเข้าไปเลยไหม
มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องอยากรู้ไปมากกว่านี้ แต่เขากลับต้องการที่จะรู้ว่าเพราะอะไรยุนกิถึงมีเรื่องชกต่อย
ถ้าถามตรงๆ ยุนกิไม่มีทางบอกแน่
"ที่พี่เจ็บตัวแบบนี้เพราะตัวพี่เอง
ถ้าพี่โดนคัตเตอร์นั่นแล้วพี่ปล่อยมันไปพี่ก็จะแค่โดนคัตเตอร์บาด แต่นี่..."
"ทั้งๆ
ที่ก็มีสายเลือดเดียวกันแท้ๆ ทำไมนิสัยมันถึงต่างกันขนาดนี้วะ โอ๊ย..! หยุดนะโว้ย"
"เจ็บหรอ
ฮ่าๆ ตลกเป็นบ้า พี่กำลังจะร้องไห้หรอ ไหนร้องสิ"
"ซี๊ด...
ปล่อย!!"ยุนกิซี๊ดปากออกมาด้วยความเจ็บ
ไม่รู้ทำไมความอดทนของแทฮยองถึงได้ลดฮวบ เขาอยากเหวี่ยงหมัดออกไปใส่ไอ้สารเลวนั่นทั้งๆ
ที่มันไม่ใช่เรื่องของเขาเลย
อย่างน้อยยุนกิก็เป็นหลานชายของโรงฝึกเคนโด้ที่ฝึกให้เขามาได้เก่งขนาดนี้
แล้วตอนนี้ยุนกิก็รักษาความลับให้เขา อ๋อ... เขาเป็นคนใช้ของยุนกิด้วยนี่
"จีมินไม่ใช่พี่ชายผม
ผมไม่นับว่าเขาเป็นสายเลือดเดียวกัน แล้วก็อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้
จะเป็นพระเอกหรือไง"
"โอ๊ย!!!!"
พอแล้วแหละ
แทฮยองผลักประตูให้เปิดออก
คนที่อยู่ในห้องหันมามองเขาเป็นตาเดียวรวมถึงมินยุนกิด้วย ใบหน้าหวานมีรอยฟกช้ำสดๆ
ที่เพิ่งโดนต่อย มันโคตรไม่เหมาะเลย...
"พวกนายชกต่อยกันในโรงเรียนนี่"
"เหอะ"
คนที่แทฮยองจำได้ว่าชื่อซอนบินสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาปล่อยมือข้างซ้ายของยุนกิที่กำไว้ออก
แทฮยองสังเกตเห็นว่ามันมีแผลช้ำๆ ม่วงๆ นี่น่ะหรอที่จองกุกบอกว่ายุนกิโดนบาด
หมอนั่นคงกดแผลนี้...
ทำไมต้องโกรธขนาดนี้วะ...
แม่งเอ๊ย!!
พวกมันมีสามคนแต่แทฮยองรู้จักคนเดียว เขามองไปที่ยุนกิ
ร่างเล็กพยายามประคองตัวเองไม่ให้ล้ม มือข้างหนึ่งกุมที่ท้องไว้เพราะอาการจุก
ยุนกิสะบัดหน้าหนีเขาในขณะที่คนอื่นๆ เดินผ่านไหล่ของแทฮยองไป
เขาไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ไม่ใช่เพราะอ่อนแอแต่เพราะเขามีเหตุผลเพียงพอและไม่ค่อยชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยว
เขาไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย
พวกนั้นออกไปหมดแล้ว
แทฮยองยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ มือหนากำหมัดแน่น สายตายังคงจับจ้องไปที่มินยุนกิ
ร่างขาวเซเล็กน้อยก่อนจะทรุดลงนั่งชันเข่ากับพื้น ตัวก็เล็กกว่าพวกนั้นแท้ๆ
"หุบปาก"
"ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย" แทฮยองเอ่ยออกไปเบาๆ
หลังจากที่ยุนกิเอ่ยมาทั้งทีเขาไม่ทันได้ปริปากอะไรเลยแม้แต่น้อย
ยุนกิงอขาเข้าไปวางหน้าผากลงกับหัวเข่า เสียงแหบๆ เอ่ยขึ้นมาอีกหน
"กันไว้ก่อน"
ตลกแล้ว...
แทฮยองส่ายหน้าเบาๆ
เขายกยิ้มขึ้นมาแม้จะรู้ว่าไม่ใช่เวลาที่ควรจะยิ้มเลยแม้แต่น้อย
ยุนกิเงียบไปสักพัก แทฮยองยังคงยืนมองอีกคนอยู่ที่เดิม มือข้างที่ไม่มีแผลโดนใบมืดบาดยังคงกุมอยู่ที่ท้อง
เขาอยากจะถามอีกคนว่าจุกใช่ไหม แต่เพราะยุนกิดักคอไว้แล้วว่าไม่ให้เขาพูด
จะมีสักกี่คนที่เพิ่งโดนรุมต่อยมาแล้วจะมานั่งกอดเข่าอยู่แบบนี้กันนะ
ไม่รู้สิ... ยุนกิดูอ่อนแอ
เท่าที่เขาได้ยินดูเหมือนมันจะเกี่ยวกับรุ่นพี่จีมิน– พี่น้อง? แทฮยองค่อนข้างแน่ใจว่าน่าจะหมายถึงพี่น้องคนละพ่อ
และนั่นคงเป็นเหตุที่ทำให้คนเป็นเพื่อนอย่างยุนกิมีเรื่องกับซอนบิน
ก็นิสัยไม่ยอมใครแบบนี้ด้วยนี่เนอะ
ปล่อยให้ทุกอย่างเงียบไปสักพัก
แทฮยองเอาแต่คิดไปเรื่อยรวมไปถึงสงสัยว่ายุนกิจะยังเจ็บอยู่หรือเปล่า
มีบ้างที่คนที่นั่งอยู่จะครางในลำคอออกมา เขาได้แต่มอง
ช่วยไม่ได้ที่ตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะคิดออกว่าควรทำอย่างไรดี
แล้วไหล่นั่นก็เริ่มสั่น
ไม่มีเหตุเลยสักข้อว่าทำเขาถึงรู้สึกแย่แบบนี้
ให้ยุนกิเงยหน้ามาโวยวายใส่เขาหรือสั่งให้เขาไปวิ่งรอบสนามอย่างไร้สาระยังจะทำให้เขารู้สึกดีกว่าเป็นแบบนี้
สายตาที่เขาใช้มองอีกฝ่ายตอนนี้คงเหมือกับการแก้โจทย์ปัญหาที่ใช้ตรรกะไหนก็แก้ไม่ได้
แทฮยองเกลียดเรื่องวุ่นวาย
แต่ตอนนี้เขาเห็นมวลความวุ่นวายที่จับต้องไม่ได้ก้อนใหญ่อยู่ตรงหน้า
เด็กหนุ่มย่อกายลงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับยุนกิ เขาถอนหายใจออกมาอย่างไร้เสียง
เขาเอื้อมไปคว้ามือข้างซ้ายของยุนกิขึ้นมา
รอยแผลโดนบาดที่ถูกบีบจนช้ำนั่นดูน่ากลัวจนเขาแทบจะไม่อยากมองมันแต่แทฮยองกลับเลือกที่จะยกมันขึ้นมาใกล้ริมฝีปากแล้วเป่าเบาๆ
"อึก..."
ยุนกิเป็นยุนกิเสมอ เขากำลังกลั้นเสียงร้อง มันต้องเจ็บมากแน่ ไหล่เล็กยังสั่นเทาในจังหวะที่ควบคุมไม่ได้
เหมือนกับความรู้สึกโกรธในอกของแทฮยอง
เขาบอกตนอีกครั้งว่าเขาไม่ชอบความวุ่นวาย
เลี่ยงได้เขาจะเลี่ยง แต่...
ทำไม่เขาหาเหตุผลไม่ได้กันนะ
"อย่าทำแบบนี้อีก"
"อะไรของนาย"ยุนกิเถียงออกมาทันทีทั้งที่ยังก้มหน้าไว้บนเข่า
น้ำเสียงอู้อี้เหมือนบี้จมูกลงกับขาตนเองยังไงยังงั้น
"คนอื่นเขาเป็นห่วงนะครับ"แทฮยองปรับเสียงให้อ่อนลงแล้วเอ่ยกับอีกคน
"บอกแล้วช่วยอะไรได้"
แทฮยองลอบกลอกตาอย่างอดหน่ายใจไม่ได้
ทำไมถึงได้ทำให้คนอื่นปวดหัวบ่อยนักนะ
"บอกไปก็ห้าม"
"เพราะไม่มีใครอยากให้พี่โดนแบบนี้ไง"
"แล้วไง
แล้วนายจะให้ฉันยอมหรอ ไอ้หมอนั่นแกล้งจีมินตลอด หาเรื่องฉันทุกครั้งที่เจอหน้า
นายจะให้ฉันอยู่เฉยๆ หรือไง"ยุนกิเงยหน้าขึ้นมาตวาดใส่
มือเล็กสะบัดออกจากแรงประคองนั่น
"พี่ควรทำแบบนั้น"
"เหอะ! ไม่เข้าใจอะไรกันสักอย่าง
เป็นนายนายจะยอมหรือไง"
แทฮยองนิ่งไป
เขาหรอ... แค่ตอนนี้เขายังรู้สึกเลย รู้สึกว่ายอมไม่ได้
ความขุ่นเคืองในใจทำให้เขาควบคุมอารมณ์หงุดหงิดได้ยาก
บางทีเขาคงจ้องปากที่แตกจนเลือดซิบของยุนกิมากเกินไป
"ฉันเป็นของฉันแบบนี้
บอกไปมันก็ไม่มีประโยชน์" ยุนกิกลับไปก้มหน้าแบบเดิม "จะไปทำอะไรได้"
ปกติเขาจะภูมิใจกับความใจเย็นของตัวเองมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ชกหน้าคิมซอนบินไป...
แทฮยองยกมือยุนกิขึ้นมาเป่าที่แผลอีกครั้ง
คำพูดของยุนกิยังคงดังก้องอยู่ในหัว – จะไปทำอะไรได้ ตอนนี้เขาทำได้แค่นี้ แต่ต่อไป... เขาจะทำได้มากกว่านี้
ให้ตาย...
เขายอมรับเรื่องวุ่นวายได้แล้วหรือไง
TBC
ฮู่ววววว มาอัพได้เพราะเราส่งฟิค #วกสตร ไปโรงพิมพ์เรียบร้อยแล้วค่า55555555
เป็นไงบ้างค่ะ ชอบไม่ชอบบอกกันหน่อยเนอะ อย่าลืมคอมเมนต์กันนะฮับบบบ ฝากแท็ก #ฟิคเรนโค้ท ไว้ด้วยยย แสดงตัวให้เรารู้โหน้ยว่ามีคนอ่านนะ55555555
แท็งสึน้องเบล คนอ่านด้วย เริ้บนะยู่ว!!
ความคิดเห็น