ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS จบแล้ว] レインコート `raincoat ❥ vga & kookmin .

    ลำดับตอนที่ #25 : レインコート 25 END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.82K
      65
      28 ก.ค. 59

    レインコート

    `raincoat

     

     

    25







     

     

    ทั้งสี่คนนั่งอยู่บนโต๊ะในโรงอาหารเป็นปกติ ยุนกิบ่นเรื่องที่บิบิมบับของตนเองใส่แตงกวาดองมากเกินไป

    เอามานี่โฮซอกได้ยินยุนกิบ่นงึมงำ ๆ เลยแกล้งยื่นตะเกียบไปคีบแตงกวาดองในถ้วยของอีกคน

    อย่ามายุ่งนะ!!” เสียงต่ำ ๆ ของคนตัวเล็กโวยวายพร้อมกับปัดตะเกียบของเพื่อนออกทันที

    อ้าว ก็มันเยอะไปไม่ใช่เหรอ

    ฉันกินได้!”

    พี่นี่โวยวายตลอดเลยนะครับจองกุกทักเสียงใสหลังจากที่เดินมาถึงโต๊ะของพวกเขา คนตัวเล็กตวัดสายตามองทันที

    ยุ่งจริง

    จองกุกเพียงแค่ยิ้มโดยไม่ได้เถียงอะไรต่อ

    นี่น้ำนะครับมือเรียววางขวดน้ำไว้ตรงข้าง ๆ จานอาหารของจีมิน คนตัวเล็กที่กำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ หันมายิ้มแฉ่งให้เขาก่อนจะรีบกลืนข้าวลงคอ

    ขอบใจมาก

    เอาอะไรอีกไหมครับจองกุกถาม จีมินส่ายหน้าเป็นคำตอบเพราะเขาตักอาหารอีกคำเข้าปากพอดี งั้นผมไปนะ

    บายจีมินเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับยกมือโบกให้คนที่ยืนอยู่ จองกุกค้อมศีรษะให้รุ่นพี่คนอื่นเล็กน้อยก่อนจะเดินผิวปากออกไปอารมณ์ดี

    น่าอิจฉาจังน้าฮยอนอูเอ่ยพลางยกนิ้วสะกิดจีมินเบา ๆ เป็นเชิงหยอก

    ไม่หรอกน่าจีมินส่ายหน้าเบา ๆ จีมินไม่ได้เขินจนทำตัวไม่ถูกแล้วแหละ ก็จองกุกเล่นมาทุกวันแบบนี้ แล้วเวลาโดนถามหรือโดนแซวจีมินก็เริ่มจะชินแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ค่อยถูกกับการเป็นเป้าสายตาเท่าไหร่ โชคดีที่จองกุกก็ดูจะเข้าใจ

    แล้วนายล่ะเป็นยังไงบ้างฮยอนอูหันไปถามทางยุนกิ

    ฉันเหรอ ก็ไม่รู้สึกระบมอะไรแล้วแกล้งทำไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวตอบไม่ตรงกับคำถามที่เพื่อนต้องการจริง ๆ ก่อนจะก้มหน้ากินบิบิมบับต่อ

    ใช่ที่ไหนเล่า!” ฮยอนอูโวย แต่ยุนกิก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียอย่างนั้น

    ว่าแต่ไม่เป็นอะไรแน่แล้วเหรอโฮซอกเป็นคนถามขึ้น ยุนกิเคี้ยวข้าวจนหมดปากแล้วจึงเอ่ยตอบไป

    ใช่แล้ว พี่ซอกจินลากไปตรวจร่างกายมาอีกที ก็ไม่เป็นอะไร

    แล้ว... ได้แข่งหรือเปล่า หมายถึงแข่งเดี่ยวน่ะจีมินถามอย่างเป็นห่วง

    คือตอนนี้มันเหลือเวลาสามอาทิตย์ก่อนแข่ง อาทิตย์หน้าต้องคอนเฟิร์มรายชื่อ ก็อีกไม่กี่วันนี้ฉันก็ต้องลองแข่งกับนักกีฬาในจังหวัดก่อน ถ้าทำได้ดีกว่าฮยอนดูก็คงได้แข่งแหละ

    ต้องแข่งกับแทฮยองไหมจีมินถามต่อ

    แน่นอน จองกุกด้วย

    ถ้าแพ้แทฮยองแกจะโวยน้องเขาอีกไหมเนี่ยโฮซอกเอ่ยขำ ๆ

    พูดเรื่องนี้แล้วก็หมั่นไส้แทฮยองมันจริง ๆยุนกิว่า เขายกน้ำดื่มอึกใหญ่แล้วกระแทกแก้วพลาสติกลงบนโต๊ะ แกคิดว่าฉันจะชนะมันได้ไหมล่ะ

    ไม่ได้โฮซอกตอบทันที แต่เขาก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอก ถ้ายุนกิจริงจังมันก็ไม่แน่

    ได้สิยุนกิแทบจะหันไปตะคอกใส่เพื่อน แต่ก็ต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่นใหม่หมดเลย

    ยังไงเหรอจีมินถาม

    ปกติฉันเป็นฝ่ายโจมตีก่อน แทฮยองตั้งรับและหาช่องว่างน่ะ

    แกวิเคราะห์ได้ขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ยโฮซอกเอ่ยแซว

    ได้ตั้งนานแล้วโว้ย แต่ไม่ได้ไล่ตีหัวมันก็ไม่สะใจน่ะสิ พยายามจะตั้งใจเล่นทีไร พอลงสนามแล้วเห็นหมอนั่นก็อารมณ์ขึ้นทุกทียุนกิบ่นออกมาก่อนจะถอนหายใจ เขาเองก็ยอมรับด้วยว่าเพราะตัวเขามันรั้นเองนี่แหละ

    อยากดูจังแหะโฮซอกพึมพำออกมา เขาชอบเคนโด้อยู่พอตัว เพราะมีนักกีฬาที่ต้องตามไปเชียร์ด้วยอยู่บ่อย ๆ อย่างยุนกิ และแน่นอนว่าเมื่อคนที่เชียร์เอาจริงเอาจังแบบนี้ มันก็น่าสนุกจะตายไป

    เห็นขัดเพื่อนตลอดแบบนี้พอยุนกิแข่งจริง ๆ เขาก็เชียร์ขาดใจเลยนะ

    มาดูดิ แต่ก็ไม่รู้จะชนะไหมนะ จริง ๆ ต่อให้แพ้แทฮยองก็ไม่เป็นไรหรอก ที่น่ากังวลจริง ๆ คือภาพรวมมากกว่า

    ก็จริง...” โฮซอกพยักหน้ารับ แข่งวันไหนก็บอกด้วยแล้วกัน

    โอเค

    ฉันลืมเอาชีทครูชเวให้จองกุกมันแหะจีมินที่กำลังเปิดกระเป๋าเอาขวดน้ำใส่ลงไปเหลือบไปเห็นแฟ้มสีเขียวที่เขาเอามาให้จองกุก เมื่อกี้ก็ลืมเสียสนิท

    เอาไปให้สิ เดี๋ยวฉันเก็บจานให้ฮยอนอูว่า เขาเอื้อมมือไปเลื่อนจานตรงหน้าเพื่อนมา จีมินส่งยิ้มเกรงใจ ๆ ไปให้เพื่อนแต่ฮยอนอูก็เอ่ยออกมาเช่นเดิม เอาไปให้เถอะน่า แล้วเจอกันที่ห้องแล้วกัน

    งั้น... เดี๋ยวฉันมานะจีมินลุกขึ้นพร้อมกับกดโทรศัพท์ส่งข้อความหาจองกุก

    พออีกคนตอบมาเรียบร้อยแล้วว่าจะไปเจอกันที่ไหน จีมินก็รีบตรงดิ่งไปทันที

    อ้าว พี่จีมินมาแล้วเป็นจุนฮเวที่นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือทักขึ้น ยังไม่ทันที่จีมินจะได้แม้แต่ส่งยิ้มไปให้รุ่นน้องที่นั่งอยู่กับพื้น จุนฮเวก็ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมต่อเสียแล้ว

    มันเป็นแบบนี้แหละครับ ถ้าเป็นพี่ยุนกินะ พี่แกโวยวายตายจองกุกว่าพลางเหล่ไปมองแทฮยอง คนผิวแทนส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็อย่างที่จองกุกบอกนั่นแหละ สองคนนี้เจอกันทีไร เขาปวดหัวทุกที

    งั้นเหรอจีมินพยักหน้ารับ เขาวางเป้บนโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมของห้องเคมีที่ใช้สำหรับปฏิบัติแล้วจึงหยิบแฟ้มสีเขียวให้จองกุก

    มีแบตสำรองกันไหมจุนฮเวเงยหน้าขึ้นมาถามเพื่อนหลังจากโทรศัพท์ของเขามันแจ้งเตือนว่าแบตเตอรี่ต่ำ

    ไม่นะ ลองไปถามนัมจุนมันดูดิจองกุกตอบออกไปขณะที่เปิดแฟ้มมาดูชีทที่จีมินให้

    โอเค ๆแล้วจุนฮเวก็ลุกออกไปจากห้องเคมี พวกเขาไม่ได้เรียนกันที่ห้องนี้ แต่แค่มาหาที่เงียบ ๆ ไม่วุ่นวายเหมือนห้องเรียนรอเวลาก็เท่านั้น

    เอ่อ... แทฮยองอาขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่าจีมินถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจนัก แทฮยองถอดหูฟังออกพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ

    เรื่องอะไรเหรอครับแต่คนที่ถามขึ้นดันเป็นจองกุก

    คือ... ฉันแค่สงสัยน่ะ เรื่องใบโคลเวอร์

    ครับ?” แทฮยองเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาจำได้แน่นอนว่าเขาให้ใบโคลเวอร์สี่กลีบกับยุนกิไป ที่เขาแปลกใจคือทำไมจีมินถึงถามถึง

    นายรู้ความหมายมันหรือเปล่า

    ก็...โชคดีไงครับแทฮยองตอบออกไป

    ไม่ ๆ อีกความหมาย

    แทฮยองหันไปมองหน้าจองกุกที่มองเขากับจีมินสลับกัน จองกุกยักไหล่เป็นการตอบกลับมาเพราะเขาเองก็ไม่รู้ เขาไม่ค่อยจะรู้นักหรอกว่าดอกไม้นี้สื่อถึงอะไร ใบนี้แปลว่าอย่างนี้นะ จำนวนเท่านี้คืออย่างนี้ แล้วอย่างแทฮยอง... แค่รู้ว่าใบโคลเวอร์สี่กลีบหมายถึงโชคดี ก็นับว่าเก่งแล้วแหละ

    มันมีอีกความหมายน่ะจีมินยกมือมาปิดปากหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นรุ่นน้องทั้งสองคนมองมาอย่างสงสัย ...เป็นของฉันนะ

    โหยยยยย ใช่เล่นนะคนเราจองกุกยกมือขึ้นตบที่ไหล่ของแทฮยองจนคนที่กำลังนั่งอึ้งอยู่แทบล้มลงมาจากโต๊ะ

    ละ แล้วพี่ยุนกิรู้ไหมครับ

    รู้สิ เหมือนดูในหนังหรืออ่านเจอที่ไหนสักที่ด้วยกันนี่แหละจีมินตอบออกไป แทฮยองหน้าเหวอยิ่งกว่าเก่า นี่เขาให้ไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอะไรเลยเนี่ยนะ

    แต่ยุนกิคิดว่านายคงไม่รู้แหละจีมินเอ่ยยิ้ม ๆ เขารูดซิปปิดกระเป๋าเป้ของตนเองแล้วยกขึ้นสะพายไหล่ แต่ตอนนี้รู้แล้วนะ

    รุ่นพี่ตัวเล็กยกมือโบกให้เขาทั้งคู่ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง จองกุกหัวเราะเสียงดังออกมาทันที มันก็ไม่ได้มีอะไรตลกนักหรอก แต่สีหน้าเหวอ ๆ ของแทฮยองตอนนี้มันฮาใช้ได้เลยน่ะสิ

    ว่าแต่ไหน ๆ แล้วก็ใช้ใบโคลเวอร์ให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ กำลังจะขอพี่เขาเป็นแฟนอยู่ไม่ใช่หรือไง

    รู้ได้ไงแทฮยองหันไปถามเพื่อนของตนเอง

    ก็มันควรจะขอได้แล้วน่ะสิ อย่าให้ฉันตัดหน้าน้าพูดจบร่างสมส่วนก็กระโดดลงจากโต๊ะที่นั่งอยู่แล้วเดินออกจากห้องไป แทฮยองยกนาฬิกาข้อมือดูก็พบว่าถึงเวลาเรียนแล้ว เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะระบายยิ้มแล้วลุกเดินไปเข้าห้องเรียนบ้าง

     

    レインコート

     

    วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมินยุนกิ ใช่แล้ว...

    วันนี้เป็นวันทดสอบว่าเขาจะได้แข่งเดี่ยวหรือไม่ และคู่แข่งตรงหน้าเขาคือคิมแทฮยอง

    ร่างเล็กสูดลมหายใจลึก ๆ เขาดูสงบนิ่งกว่าทุกครั้งที่แข่งกับแทฮยองอย่างไม่น่าเชื่อ ซอกจินที่ยืนกอดอกดูอยู่ข้างสนามระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นเช่นนั้น ความคาดหวังที่ยุนกิแบกอยู่อย่างไม่เต็มใจในตอนแรก ยุนกิเอามันอยู่แล้ว

    แค่ความมุ่งมั่นในตอนนี้นี่แหละ ที่จะต่อยอดในอนาคต

    ไม่จำเป็นต้องชนะเสมอไปหรอก

    โดเป็นแทฮยองที่เป็นฝ่ายวิ่งเข้ามาก่อนพร้อมกับหวดชิไนมาที่ข้างลำตัว ยุนกิเม้มปากแน่นก่อนจะยกชิไนปัด แรงของเขาน้อยกว่าแทฮยอง ดังนั้นร่างเล็กจึงรีบกระโดดหลบแล้วฟาดชิไนไป

    โคเทะ!!”

    หวืด...

    ชิทยุนกิสบถออกมา แต่ถึงอย่างนั้นบนใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มนึกสนุกอยู่ ตอนนี้มันเปลี่ยนจากความหงุดหงิดเป็นความท้าทายไปแล้วแหละ...

    แทฮยองฟาดชิไนมาอีกครั้งแต่ยุนกิก็ยังยั้งไว้ได้ ร่างเล็กออกแรงเบี่ยงชิไนไปอีกทางแล้วจึงยกมากันหน้าอีก

    เกมเริ่มมาสักพักแล้วก็ยังไม่มีใครได้แต้ม

    คราวนี้ยุนกิระวังตัวมากกว่าทุกครั้ง ไม่ได้จ้องแต่จะระบายอารมณ์อีกแล้ว

    เสียงชิไนกระทบกันดังเป็นระยะ สลับกับเสียงตะโกนบอกตำแหน่ง แต่ก็ยังไม่มีใครได้แต้ม

    จนกระทั่งจบเกม

    เคารพผู้ตัดสินเอ่ยขึ้น แทฮยองกับยุนกิแยกออกไปคนละฝั่งแล้วโค้งให้กัน

    คิมแทฮยองมินยุนกิ เสมอผู้ตัดสินอีกคนเอ่ยขึ้น พอออกจากเขตสนามแข่งยุนกิก็จัดแจงถอดเม็งออกด้วยใบหน้าเหมือนเด็กงอแง

    ให้ตายสิ

    ทำดีแล้วน่าซอกจินเอ่ยขึ้น ยุนกิรีบหันไปทำตาโตใส่คนเป็นพี่

    พี่ชมผม!!”

     ก็แน่สิ คนทำดีก็ต้องชมซอกจินตอบกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของยุนกิ

    ผมต้องหูฝาดแน่ ๆยุนกิพึมพำ เขาหันไปเห็นจีมินโบกมือมาให้พอดีเลยขอตัวไปหาเพื่อน ๆ ก่อน

    ไม่ชนะแต่ก็ทำได้ดีเลยนี่โฮซอกเอ่ยขึ้น ยุนกิยักคิ้วใส่เพื่อนเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อย

    แต่ก็ได้แข่งเดี่ยวแล้วแหละครับ เพราะชนะพี่ฮยอนดู ส่วนผมที่เสมอพี่ก็ชนะพี่ฮยอนดูเหมือนกันแทฮยองเอ่ยพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ยุนกิ

    ชนะผมด้วยเถอะจองกุกที่นั่งอยู่ก่อนเอ่ยยานคาง ให้ตาย... นี่เขาแพ้ทั้งแทฮยองและยุนกิต่อหน้าจีมินเลยนะ

    ทำดีแล้วน่าจีมินชูนิ้วโป้งให้อีกคน แน่นอนว่ามันทำให้จองกุกหัวใจพองโตได้ไม่ยาก ฉันไปซื้อน้ำเย็น ๆ ให้ดีกว่า

    ผมไปด้วยจองกุกรีบลุกขึ้นทันทีด้วยท่าทีกระตือรือร้น

    เหนื่อย ๆ อยู่นะ นั่งรอก็ได้จีมินว่าแต่จองกุกส่ายหน้ารัว ๆ พร้อมกับเดินไปยืนข้าง ๆ จีมิน

    นั่งพักเมื่อกี้แล้วครับ

    งั้นก็ตามใจจีมินพยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปนอกตัวโรงฝึก

    พวกเขาเดินออกไปด้วยกัน ไม่ไกลจากตรงนี้มีมินิมาร์ทตั้งอยู่ จีมินเดินอย่างสบาย ๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรนัก แต่จองกุกดูจะทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะต้องคอยห่วงว่าชายฮากาม่าจะเปื้อนฝุ่นบนถนนหรือเปล่า

    นายนี่น้าจีมินส่ายหน้าอย่างอดเอือมไม่ได้ จองกุกหันมาส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้

    ก็ผมอยากอยู่ข้าง ๆ พี่นี่นา

    พอจองกุกพูดออกมาแบบนั้นจีมินก็รีบก้มหน้างุด ร่างสูงยิ้มออกมาทันทีที่เห็นท่าทีของอีกคน

    ไปอยู่กับป้าแล้วโอเคใช่ไหมครับ

    อื้ม ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ถามทุกวันเลยนะนายเนี่ยจีมินตอบออกไปทั้งที่ยังก้มหน้ามองปลายเท้าของตนเอง

    รำคาญหรือเปล่าครับ

    ไม่หรอก ใครจะไปรำคาญได้กันจีมินเอ่ยออกมาเบา ๆ สำหรับเขาแล้ว คำถามด้วยความเป็นห่วงเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับเขา...

    เขาเรียกร้องอะไรไม่ได้มาก แต่เขาเชื่อว่าแม่ของเขาก็รักเขาไม่น้อยไปกว่าซอนบิน แทนที่จะเลือกเรียกร้อง จีมินเลือกที่จะรับเท่าที่ได้และอยู่กับมันให้ได้มากกว่า

    สิ่งที่เขาได้รับ มันดีมากพออยู่แล้ว

    พี่จีมินครับจองกุกเอ่ยขึ้นมา เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกไป เรื่องของเรา... มันเริ่มแล้วใช่ไหมครับ

    เริ่มแล้วแหละ...” จีมินตอบ จองกุกยังรู้สึกได้ถึงความไม่แน่ใจในน้ำเสียงนั้น ร่างสูงยิ้มออกมา แต่สำหรับตอนนี้ มันหมายความว่าจีมินเปิดใจให้เขาอย่างแน่นอนแล้ว

    พี่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ใช่ไหมครับ

    มะ ไม่ใช่นะจีมินรีบเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน ให้ตายสิพัคจีมิน...

    ไม่เป็นไรเสียหน่อยครับ พี่ไม่ต้องรีบหรอกจองกุกเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ผมรอพี่ได้อยู่แล้ว ค่อย ๆ รู้สึกไปเถอะครับ

    จีมินนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามอีกคนต่อ นาย... โอเคกับแบบนี้จริง ๆ เหรอ

    ใช่ครับจองกุกตอบออกมาในทันที ผมชอบเลยแหละ

    จองกุกอา...”

    ผมชอบพี่มาก มากจริง ๆ นะครับ ไม่ใช่แค่ว่าอยากจะได้พี่มาเป็นแฟนเสียหน่อย ไม่รู้สิ... ผมชอบนะ เรื่องพวกนั้นก็ค่อย ๆ ให้มันเป็นไปดีกว่า

    ฉะ ฉันก็ชอบนายนะจีมินเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ จองกุกมองใบหน้าอีกคน จีมินไม่ได้หน้าแดงด้วยความเขิน แต่มีรอยยิ้มจาง ๆ ที่แสดงออกว่าเจ้าตัวกำลังมีความสุขมาก ๆ

    งั้นก็แปลว่า...เรื่องของเราเริ่มแล้วนะครับ

    จีมินไม่ได้เอ่ยตอบอะไรไปนอกจากพยักหน้าเบา ๆ

    นี่สินะความรัก... มันทำให้หัวใจพองโตได้ขนาดนี้เลยเหรอ... พ่อกับแม่ก็เคยรู้สึกต่อกันแบบนี้ใช่ไหมนะ แม่ถึงได้คอยพูดเสมอว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จีมินเป็นลูกของพวกท่าน เกิดจากความรักของพวกท่าน แม้ว่าพ่อจะจากไปแล้ว แต่ความรักของพ่อก็ยังคงจะล่องลอยอยู่รอบตัวเขาแน่ ๆ เขาถึงได้มีความรักเต็มเปี่ยม รอแค่ว่าเขาจะได้ให้ใครสักคน

    ความรู้สึกที่เขาพยายามละทิ้งมาตลอด

    แล้วจองกุกก็ข้ามผ่านจักรวาล ท่ามกลางดวงดาวมากมาย จีมินก็ได้ให้มันกับใครสักคน

    ความรักของเขา

     

    レインコート

     

    ฝนตกลงมาอีกแล้ว ยุนกิควานกระเป๋าเพื่อหาร่มอยู่ใต้ถุนอาคารก่อนจะต้องถอนหายใจออกมาเมื่อไม่พบสิ่งที่ต้องการ เขานึกขึ้นได้พอดีว่าเมื่อวานกางตากให้แห้งไว้หลังจากที่กลับมาจากโรงฝึก ตอนเช้าเขารีบ ๆ เลยลืมไว้น่ะสิ

    มือขาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดส่งข้อความไปหาแทฮยอง ถึงจะไม่มีเรื่องให้ต่อรองแทฮยองเองก็ดูจะยอมเด็กเอาแต่ใจคนนี้อยู่แล้ว หลังจากส่งข้อความไปไม่นานเขาก็เห็นร่างสูงเดินมาในเสื้อกันฝนสีน้ำเงินเข้ม

    อยู่ตรงนี้ก็โดนละอองฝนสิครับแทฮยองเอ่ยทักเขาที่ยืนอยู่ริมใต้อาคารพอดี ทำให้ละอองฝนกระเด็นมาถึงคนตัวเล็ก

    ก็เย็นดียุนกิตอบอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

    ต้องไปซ้อมต่อ เดี๋ยวก็ป่วยหรอกครับแทฮยองส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ แต่ถ้ายุนกิจะทำแบบนั้นใครจะห้ามได้กันล่ะ

    ต่อให้กางร่ม ยังไงก็ต้องโดนละอองฝนอยู่ดีอ่ะ

    แต่ผมไม่มีร่มหรอกนะ พี่จะให้ผมไปเอาที่บ้านพี่ก่อนไหมล่ะครับแทฮยองเสนอ วันนี้พวกเขาไม่มีเรียนคาบพิเศษเลยออกมาได้ก่อนเวลา

    เอาแบบนั้นเหรอ...” ยุนกิพึมพำ นี่... คราวหน้าพกร่มเผื่อไว้หน่อยสิ

    ร่มมันหนักกระเป๋านะครับ

    แค่นี้เองนะ!” ยุนกิโวยวายขึ้นมาด้วยใบหน้ามุ่ย ๆ แต่แทฮยองก็ดูไม่ได้เดือดร้อนอะไร ถ้าแทฮยองขึ้นลง ๆ ตามยุนกิมีหวังได้เหนื่อยใจตายพอดี แล้วเขาก็เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว 

    เขากับยุนกิแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรด้วยซ้ำ

    ก็เคยบอกไปแล้วนี่ครับว่าร่มมันหนักแทฮยองเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ ต่างกับยุนกิที่รู้สึกมีน้ำโหขึ้นมา

    แค่นี้ก็เอาอกเอาใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง!!

    แต่ถ้าเสื้อกันฝนสองตัวคงไม่มีปัญหาคำพูดต่อมาของแทฮยองทำให้ยุนกิชะงัก ถึงจะเป็นคำพูดที่ไม่มีอะไรมากแต่กลับทำให้คนตัวเล็กต้องแอบกลั้นยิ้มเอาไว้ได้ไม่ยาก แต่วันนี้มีตัวเดียวอ่ะครับ

    แทฮยองว่าพลางเดินเข้าใต้อาหารแล้วถอดเสื้อกันฝนออก

    เฮ้ยยย นายใส่ไปเหอะยุนกิร้องบอกพลางโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธ แต่แทฮยองกลับเดินมาแล้วยกเสื้อกันฝนคลุมศีรษะของเขาและเจ้าตัวไว้

    ใจเต้นแรงอีกแล้ว

    เฮ้อ... แทฮยองนี่เก่งจริง ๆ เลย

    ไปแบบนี้โอเคหรือเปล่าครับแทฮยองเอ่ยยิ้ม ๆ และนั่นทำให้ยุนกิกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

    เม็ดฝนตกกระทบกับเสื้อกันฝนที่ใช้คลุมทั้งคู่ขณะก้าวเดินออกไปด้วยกัน ละอองน้ำที่ทำให้รู้สึกเย็นแต่ก็ไม่ได้ถึงกับทำให้เปียกโชกสร้างความสดชื่นได้อย่างน่าประหลาด เสียงกระทบของหยดน้ำอยู่ใกล้ใบหูจนได้ยินชัดไปหมด กลิ่นไออันเป็นเอกลักษณ์โชยคลุ้งไปทั่ว

    พี่ยุนกิ...” แทฮยองเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ เงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อย รอยยิ้มน่ารักยังคงประดับอยู่บนใบหน้าขาว แทฮยองรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที เขาสูดหายใจลึก ๆ เขาคิดว่าตอนนี้นี่แหละที่เหมาะจะพูด...

    ก็เขาชอบไปหมดทุกอย่างเลย สายฝน กลิ่นไอ อากาศเย็น ๆ แบบนี้ แล้วก็คนที่เขารักใต้เสื้อกันฝนที่เขาชอบ

    สำหรับเขาแล้วการที่ชอบฝนตกนั่นไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่พยายามกันตนเองจากสายฝนอย่างเดินตากฝนเสียหน่อย แต่เป็นการจะอยู่กับสายฝนอย่างไรให้มีความสุขที่สุดต่างหาก

    ยุนกิเป็นสายฝน บางครั้งบางคราวก็ตกลงเพราะความแปรปวน ดังนั้นแล้วเขาจะเป็นเสื้อกันฝน

    อีกความหมายของใบโคลเวอร์แทฮยองเอ่ยออกมาเบา ๆ ยุนกิยิ้มกว้างมากกว่าเก่าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

    รู้ด้วยหรือไง

    ครับแทฮยองตอบออกไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อยุนกิก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

    จะขอคบหรือไง

    คงงั้นแหละครับแทฮยองตอบออกไป แก้มขาวของยุนกิขึ้นสีเล็กน้อยที่เขาตอบออกไปอย่างมั่นใจแบบนั้น

    จะไม่คบก็คงไม่ได้แล้วแหละเนอะ เฮ้อ... ดันรักไปแล้วนี่นายุนกิแสร้งทำเป็นเหนื่อยใจทั้ง ๆ ที่ยังมีรอยยิ้มที่กลั้นไม่อยู่ฉายชัด แทฮยองหัวเราะออกมา พวกเขาหยุดเดินลงที่ข้างทางเดิน เพราะฝนตกแบบนี้เลยแทบไม่มีผู้คนเลยด้วยซ้ำ

    นั่นแหละครับ งั้นพี่ก็เป็นแฟนผมนะ

    อื้มยุนกิตอบออกมาเบา ๆ

    มันดูธรรมดา ๆ ใช่ไหมล่ะ...

    แต่ก็อย่างที่แทฮยองบอก เขาชอบทุกอย่างในตอนนี้ รวมไปถึงหลงรักในความธรรมดาเหล่านี้ไปเสียแล้ว

    และวันนี้ก็จะเป็นวันที่เขาชอบที่สุด

    ร่างสูงก้มหน้าลง ปลายจมูกของทั้งคู่เฉียดกันอยู่สักพักก่อนที่ยุนกิจะหลับตาลง แทฮยองระบายยิ้มอ่อนโยนก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ ลมหายใจของกันและกันเป็นที่อบอุ่นที่สุดในวันฝนพรำ

    แล้วสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากของยุนกิก็ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกล่องลอย เรื่องราวที่ผ่านมาไหลทะลักเข้ามา อ้อมกอดของแทฮยองในตอนนั้น จูบของแทฮยองในตอนนั้น แทบไม่ต่างกันเลย...

    ถึงใครจะบอกว่าพวกเขาต่างกันยังไงก็ตาม แต่เรื่องที่ผ่านมาทำให้ยุนกิมีข้อแก้ต่างเป็นล้าน ๆ ให้ความต่างทางนิสัย ถึงจะต่างกันแต่พวกเขาก็เข้ากันได้...

    แทฮยองจูบยุนกิอยู่อย่างนั้นสักพัก สายฝนยังคงโปรยปราย

    ใต้เสื้อกันฝน

     

    คิมแทฮยองกับมินยุนกิใต้เสื้อกันฝน


     

     

     

    END

     



    เราจะต้องคิดถึงฟิคเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆแน่ๆค่ะ

    ขอบคุณที่อยู่กันมาจนถึงตอนนี้นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดีเลย เพราะมีคนอ่าน สารถึงมีผู้รับ ขอบคุณที่รับฟังจินตนาการธรรมดาๆของนักเขียนฝึกหัดคนนี้มาจนถึงตอนจบนะคะ

    เรื่องราวของพวกเขาคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆแหละเนอะฮับ เราเอามาเล่าให้ฟังแค่ตรงนี้ค่ะ55555555  คิดๆไว้ว่าอยากทำภาคต่อเป็นมินซูน เป็นรุ่นลูกศิษย์งับ เพราะยังคงรู้สึกมากมายกับสายฝนและเคนโด้อยู่ แค่คิดไว้เล่นๆนะงับบ


    หากใครอยากได้เล่มเรนโค้ทไปเก็บไว้ยังสามารถสั่งได้ถึง31ก.ค.นะงับบ มีตอนพิเศษเล็กน้อยๆที่มีเฉพาะในเล่มอยู่น้าาาา ใครสนใจก็ จิ้มๆ เลยงับบบ


    สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ รักเสมออออ


    เจอกันเรื่องหน้าค่ะ : )

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×