ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS จบแล้ว] レインコート `raincoat ❥ vga & kookmin .

    ลำดับตอนที่ #13 : レインコート 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.76K
      40
      11 ต.ค. 58

    レインコート

    `raincoat

     

     

    13
     

     




     

                เสียงปรบมือดังขึ้น ดูเหมือนคู่ของเขากับแทฮยองจะได้รับความสนใจอยู่พอตัว เขาได้ยินเสียงคนพูดคุยลอยเข้าหูบ้าง ประมาณว่า ไม่น่าพลาดเลย,นี่ใช่หลานเจ้าของโรงฝึกคนนั้นไหม , มินยุนกินเหรอ , เสียดายแทนจริง ๆ หรือแม้แต่คำว่า เป็นถึงร้านเจ้าของโรงฝึกแต่ก็ดูไม่เห็นเท่าไหร่เลย

                ความจริงแล้วคนพวกนั้นเพียงแค่หาข้ออ้างให้ภายในใจตนเองเท่านั้น ในกรณีถ้าอาจแพ้หรือชนะยุนกิขึ้นมา ต่อให้ยุนกิจะเป็นหลานเจ้าของโรงฝึก เป็นเชื้อสายของนักดาบ เป็นมาเฟียข้างถนน หรือแม้แต่เป็นเด็กที่เกิดในครอบครัวซามูไรหรือไม่ก็ตาม ทุกคนมีโอกาสเก่งหรือไม่เก่งเท่ากันหมด ในเมื่อก็มีร่างกายครบสามสิบสองประการเหมือนกันและชิไนคนละด้ามเหมือนกัน การที่เขาเป็นหลานเจ้าของโรงฝึกเคนโด้แล้วมันเป็นยังไง...วะ

                ประมาณถ้าพวกเขาแพ้เขาจะบอกว่า ยุนกิน่ะเป็นร้านเจ้าของโรงฝึกเชียวนะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่งเสียหน่อย ในขณะเดียวกันถ้าคนพวกนั้นชนะเขาจะคิดว่า เป็นถึงหลานเจ้าของฝึกแท้ ๆ เขายังเก่งกว่าเลยด้วยซ้ำและแน่นอนว่าพวกเขาจะคิดว่าตัวเองเก่ง

                คนเราก็แค่โยนความผิดไปให้คนอื่น บางทีพวกเขาอาจจะปลอบใจหรือกำลังใจตนเอง การหาข้ออ้างมันแทรกซึมผ่านทุกการกระทำ สำหรับบางคนมันแทรกซึมไปผ่านทุกความนึกคิดไปแล้วมั้ง

                ยุนกิไม่ได้คิดว่ามันผิด คนเราย่อมทำให้ตนเองสบายใจ แต่บางคนก็พูดมันออกไปเพราะสนุกปาก บางทีมันก็เก็บไว้สบายใจคนเดียวก็ได้

                บางทียุนกิอาจจะคิดมากไป อีกอย่างที่เขาสงสัย มันก็แค่ว่า นี่ใช่เรื่องของคนพวกนั้นหรือไงกัน

                อยากตะโกนออกไปใส่คนพวกนั้นว่า ใครขอให้แสดงความคิดเห็นหรือไง แต่ในตอนนี้เขาทำได้แค่เดินออกมา ไม่แน่ใจว่าควรเดินไปหาซอกจินหรือเปล่า แต่พอเห็นอีกคนมองมาแล้วผงกศีรษะเป็นเชิงเรียก ยุนกิจึงวิ่งเหยาะ ๆ ไปหาโดยที่มือกำลังเกะเม็งฮิเมะอยู่

                "อีกนิดเดียวแท้ ๆ" ซอกจินส่ายศีรษะเบา ๆ เมื่อยุนกิมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า "รู้ใช่ไหมว่าไม่ควรพลาด"

                "ครับ" ยุนกิตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาถอดเม็งออกมากอดไว้ ใบหน้าขาวก้มลงมองพื้นเพื่อเลี่ยงที่จะสบตากับซอกจิน

                "มีสมาธิกับการแข่งหน่อยสิ" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยต่อ ยุนกิผงกศีรษะไปให้ก่อนเอ่ยตอบไป

                "ขอโทษครับ"

                ซอกจินไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาทันที เขากอดอกมองอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้าหนีเงียบๆ จนทั้งคู่ได้ยินเสียงฝนตกดังชัดเจนยุนกิเม้มปากแน่น นิ้วมือเกี่ยวสายเชือกจากเม็งไปพลาง

                "เอาเถอะ" ในที่สุดซอกจินก็เอ่ยขึ้น "ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว"

                สำหรับยุนกิแล้วมันไม่ได้ดีขึ้นเลย ถึงเขาจะรู้ว่าที่ซอกจินพูดเพราะอยากให้เขาทำได้ดี ยุนกิรู้ว่าซอกจินพูดทั้งหมดนี่ก็เพื่อเขา แต่มันก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้

                อย่างน้อยพี่ก็ชมผมหน่อยสิ

              "เหลือแข่งอีกรอบใช่ไหม ตั้งใจนะยุนกิ"

                เขายอมรับนะว่าตั้งแต่เด็ก ๆ เขาไม่ค่อยจะตั้งใจนัก แต่เขาก็ ตั้งใจกว่าเดิมมาก ซอกจินไม่รับรู้บ้างเลยหรือไงกันนะ

                "เข้าใจแล้วครับ" ยุนกิกลืนทุกอย่างที่อยากจะพูดลงคอแล้วพูดไปเท่าที่เขาคิดว่าควรจะพูด

                "ไปเตรียมตัวสำหรับรอบต่อไปเถอะ"

                ร่างเล็กหมุนตัวเดินออกมาจากซอกจิน เดินออกมาตรงด้านข้างที่ไม่ใช้เป็นสนามทดสอบ จีมินเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มของเจ้าตัว ยุนกิพยายามขยับยิ้มไปให้

                "ฉันว่านายทำได้ดีเลยนะ ดีใจหน่อยเถอะ" จีมินเอ่ยขึ้น ยุนกิผงกศีรษะไปให้

                "แต่ฉันก็ไม่น่าพลาดจริง ๆ" ยุนกิข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ จีมินเห็นเพื่อนเป็นเช่นนี้ไปก็ทำตัวไม่ถูก ทั้ง ๆ ที่มันออกจะน่าดีใจแท้ ๆ ยุนกิกดดันตัวเองเกินไปหรือเปล่า

                "ไม่แพ้เจ้าแทฮยองมันแล้วนี่หว่า" กีฮยอนที่เพิ่งออกจากสนามวิ่งมาหา มือที่ยังสวมโคเทะอยู่แตะลงที่กลางหน้าผากของยุนกิเป็นเชิงล้อขณะที่จองกุกกับชานอูเดินเข้ามาหา "ทสึกิเมื่อกี้ก็ใช้ได้เลย"

                "อ่า ช่างมันเถอะ"

                "ถ้าโดนเต็ม ๆ มีหวังหงายอ่ะ" กีฮยอนยังคงพูดต่อ ยุนกิเองก็รู้ว่ามันจะเป็นไปได้สวยแค่ไหนถ้าเขาทำให้มันโดนตรงกึ่งกลางได้พอดี

                "โหย ผมไม่เห็นดูออกว่ามันเต็มไม่เต็มยังไง ดูออกแค่ว่ามันโดนทสึกิอ่ะ" จองกุกพูดออกมา เขาหัวเราะต่อท้ายเล็กน้อยขณะที่จีมินพยักหน้าเห็นด้วยจีมินก็ดูเคนโด้มาบ้างเพราะไปกับยุนกิบ่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับแยกได้หรอกว่ามันโดนเต็ม ๆ ไหม

                "แต่ก็เกือบไม่ได้แต้มนะ" ยุนกิเถียงไปเบา ๆ ชานอูกับจองกุกรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ก็แบบนี้ไม่สมกับเป็นพี่ยุนกิตัวแสบที่พวกเขารู้จักเลยนี่

                "คิดมากไปหรือเปล่าครับ ผมดูยังไงก็ว่าได้แต้มนะ" จองกุกไม่ได้หัวเราะต่อท้ายแล้ว เขาเอ่ยมันอย่างจริงจังมากขึ้น

                "มันดีแล้วที่เป็นแบบนี้น่ะ" ยุนกิพึมพำขึ้นมา จีมินอ้อมไปด้านหลังเขาแล้วนวดที่ไหล่จนยุนกิหลุดขำออกมา

                ว่าแต่แทฮยองไปไหน...

                "แล้วที่พลาดตอนท้ายน่ะ" จีมินเอ่ยขึ้น พอได้ยินเรื่องนี้แล้วดวงตาคู่เล็กของยุนกิก็ไหววูบ มันเป็นความรู้สึกที่ย้ำอยู่ในสมองซ้ำ ๆ ว่าไม่น่าพลาด อีกนิดเดียวแล้วแท้ ๆ น่าเสียดาย

                "ฉันเสียสมาธิไปนิดหน่อย" ยุนกิกดเสียงต่ำจนมันฟังดูแหบ ๆ จีมินเลิกนวดไหล่ให้เขาแล้วมายืนอยู่ข้าง ๆ แทน

                "เอาหน่าพี่ แทฮยองมันก็ไวเองด้วย" จองกุกพูดต่อ "เอ่อ... แล้วพี่โกรธมันหรือเปล่า"

                "ไม่" ยุนกิตอบออกมาทันที "ไม่หรอก ฉันพลาดเองนี่"

                ว่ากันตามตรงจองกุกไม่ชินแบบนี้เลย เขาหันไปมองหน้าจีมินที่ดูจะลำบากใจไม่น้อย คงไม่ใช่แค่เขาที่ไม่ชิน ถ้าเป็นปกติยุนกิน่าจะพูดว่า เจ้าบ้านั่นมันน่าหงุดหงิดชะมัดประมาณนี้มากกว่า

                "ยุนกิ..." จีมินเรียกขึ้นเมื่อเจ้าของชื่อนิ่งไป ยุนกิหันมาหัวเราะแหะ ๆ ให้ก่อนจะขยับตัวเดินไป

                "ขอไปห้องน้ำนะ เดี๋ยวคงต้องแข่งต่ออีกรอบแล้ว"

                "พี่ยุนกิเป็นอะไรไปเหรอครับ" ชานอูที่ทนสงสัยไม่ไหวถามขึ้น กีฮยอนกับจีมินมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วก็ส่ายหน้ามาให้

                "ปกติมันเป็นแบบนี้นะ ปีที่แล้วมันก็โวยวายแต่ว่าจะกลับบ้าน" กีฮยอนตอบ "ฉันเองก็ไม่ค่อยชินนักหรอก"

                "เฮ้อ" จีมินถอนหายใจออกมา จองกุกหันไปมองรุ่นพี่ตัวเล็กที่ยังสวมเสื้อยืดคนเดียวในกลุ่มที่ยืนอยู่ มือหนายกขึ้นบีบที่ไหล่อีกคนเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ

                เออ! ยอมรับก็ได้ว่าเขาไม่ได้บริสุทธิ์ใจนักหรอก พอเห็นจีมินหันมายิ้มพร้อมกับเอ่ยขอบคุณมาให้ใจเขามันก็พองโตอย่างอดรู้สึกปลื้มไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่เวลาก็เถอะ!

                ลองชอบใครสักคนดูจะรู้ว่าแค่ปลายนิ้วโดนชายเสื้อเขายังเก็บมายิ้มได้เป็นวัน ๆ เลยด้วยซ้ำ

     

                ในอ้อมแขนของยุนกิยังกอดเม็งเอาไว้ขณะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขาเห็นคนที่เขาไม่ค่อยอยากจะยอมรับนักว่ากำลังมองหาล้างหน้าอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ยุนกิกัดริมฝีปากล่างก่อนจะคลายออก เขาวางเม็งไว้ตรงขอบอ่างที่มีพื้นที่มากพอจะวางไว้ แล้วแทฮยองก็เงยหน้ามามองเขา

                "พี่ยุนกิ" เสียงทุ้มเรียกชื่อของเขา แทฮยองยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วปิดก๊อกน้ำ ยุนกิพยักหน้าตอบไปแล้วก้มมองที่อ่างล้างหน้าเบื้องหน้าตนเอง "แผลที่มือเป็นยังไงบ้างครับ เจ็บหรือเปล่า"

                มือข้างซ้ายที่วางตรงขอบอ่างขยับเล็กน้อย ยุนกิหันไปมองนิ้วที่แปะพลาสเตอร์ยาไว้ "ไม่แล้ว"

                "ระวังอักเสบนะครับ"

                "ก็บอกว่าไม่เจ็บแล้วไง" ยุนกิเถียงออกไปทันทีแม้ว่าพอสนใจที่แผลแล้วจะทำให้รู้ว่ายังเจ็บ แม้ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าที่แผลมันเต้นตุ้บ ๆ

                "พี่โกรธผมเหรอ"

                ยุนกินิ่งไป เขาเกลียดที่แทฮยองเหมือนจะรู้ทันเขาไปทุกเรื่อง ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เขาโกรธ แต่ที่แทฮยองพูดแบบนี้เพราะรู้ว่าเขาโกหกที่บอกว่าไม่เจ็บ

                "ทำไมล่ะ ถ้าบอกว่าเจ็บ นายจะเป่าให้หรือไง" ยุนกิหันไปพูดแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่าแทฮยองมองนิ่ง ๆ กลับมา

                จู่ ๆ เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น กลัวแทฮยองจะเป็นเหมือนพี่ซอกจิน...

                "ให้ผมเป่าไหมล่ะ" แทฮยองเอ่ยขึ้นต่อ สีหน้ายังคงนิ่งเฉย ส่วนแววตานั่นยุนกิไม่กล้ามองเข้าไป เขาไม่กล้าค้นหามันหรอก

                ยังไม่ทันที่ยุนกิจะคิดคำตอบอะไรไปทัน แทฮยองก็ฉวยมือข้างซ้ายของเขาไปเสียก่อน ยุนกิยืนตัวแข็งทื่อในตอนที่แทฮยองถอดโคเทะออกแล้วก้มหน้าเป่าลงที่แผลอย่างแผ่วเบาแม้ว่ามันจะถูกแปะด้วยพลาสเตอร์ไว้ก็ตาม

                "เดี๋ยวก็หายแล้วครับ" แทฮยองว่า เขาปล่อยมือของยุนกิลง เจอแบบนี้เข้าไปยุนกิเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ดวงตาคู่รีหลุบลงอย่างเลิ่กลั่ก ลืมไปหมดแล้วว่าก่อนหน้านี้รู้สึกอย่างไรแต่ผ่านไปสักพักความรู้สึกแย่ ๆ ก็กลับมา ในทุกเรื่องที่แย่สำหรับเขาในตอนนี้ไม่เกี่ยวกับแทฮยองสักนิด

                ยุนกิเงยหน้าขึ้น เขาเห็นช่องหน้าต่างอยู่สูงแทบติดเพดาน แทฮยองไม่ได้พูดหรือทำอะไร อีกฝ่ายก็คงจะทำตัวไม่ถูกนักหรอก ร่างเล็กเม้มปาก ไล่สายตาจากหน้าต่างลงตามตามผนังก่อนจะปีนขึ้นไปตรงขอบอ่างล้างหน้ายาว

                "เฮ้ยพี่!" แทฮยองอุทานอย่างตกใจที่เห็นยุนกิปีนขึ้นไปแบบนั้น ถึงยุนกิจะตัวเล็กและอ่างล่างหน้านี้ดูแข็งแรงแต่มันก็อดห่วงว่าอีกคนจะลื่นตกลงมาไม่ได้

                "ไม่เป็นอะไรหรอกน่า" ยุนกิหันมาเอ็ดแล้วเดินบนบริเวณขอบอ่างไปที่ผนัง แทฮยองมองยุนกิไปไม่วางตาด้วยความเป็นห่วง ยอมรับว่ายุนกิดูจะใจกล้าแต่ท่าทางกลับดูงุ่มง่ามไม่น้อย ประมาณว่าน่าจะอยู่ในอันดับสุดท้ายในเรื่องความคล่องตัวของบุคคลทั้งหมดที่กล้าปีนอ่างล้างหน้า

                แล้วยุนกิก็เอานิ้วไปเกาะอยู่ขอบหน้าต่างเล็ก ๆ เขย่งปลายเท้าแล้วเอาจมูกยื่นไปตรงหน้าต่าง "ฉันคิดว่าฉันรู้สึกแย่" ยุนกิพึมพำออกมา เขาหลับตาลงแล้วสูดหายใจเอาอากาศด้านนอกที่มีละอองฝนปะปนมา มันทำให้เขาเย็นลง "สดชื่นจัง"

                "ผมขอโทษนะ" แทฮยองที่เงียบไปสักพักเอ่ยขึ้น

                "นายต้องขอโทษฉันเรื่องอะไรเหรอ" ยุนกิหันมาก้มมองแทฮยองที่ยืนอยู่ที่พื้น "ถ้าเรื่องที่นายทำตัวหงุดหงิดน่าหมั่นไส้ นายต้องขอโทษฉันทุกวินาทีที่นายยืนอยู่ต่อหน้าฉันเลยแหละ"

                น้ำเสียงจริงจังเกินเหตุกับการขมวดคิ้วทำเครียด ๆ นั่นทำให้แทฮยองต้องส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม "พี่ไม่อยากให้ผมยืนต่อหน้าพี่เหรอ"

                ความจริงแล้วแทฮยองคิดว่ามันไม่น่าถามแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อปากไวกว่าความคิดที่ว่ามันไม่ควรถามออกไปแล้ว ยุนกิหันมามองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเอาจมูกยื่นที่ขอบหน้าต่างตามเดิม

                "ไม่ได้หมายถึงแบบนั้นเสียหน่อย" ตอบออกมาเสียงแผ่ว ๆ แต่แทฮยองได้ยินชัดเจน "นายมีหน้าที่ฟังฉันด้วยนะ"

                "ครับ?" 

                "ทำไม ไม่โอเคหรือไง แต่นี่ฉันสั่งนะ" ยุนกิเอ่ยต่อโดยที่ยังเขย่งตัวมองไปนอกบานหน้าต่าง

    "ไม่ใช่ไม่โอเคครับ" แทฮยองรีบตอบ "แค่... ตกใจนิดหน่อย"

    "ตกใจอะไรอ่ะ" น้ำเสียงติดหาเรื่องอย่างไม่จริงจังถามขึ้น ยุนกิละสายตาจากบานหน้าต่างมามองแทฮยองที่ยังจ้องเขาอยู่ – ทำเหมือนกับว่าเขาพร้อมจะตกมาทุกเมื่ออยู่นั่นแหละ

    "ไม่รู้สิ พี่เพิ่งบอกเหมือนว่ารำคาญผม แต่— "

    "ฉันบอกให้ทำก็ทำไปเหอะน่า" ยุนกิขัดขึ้นก่อนที่แทฮยองจะพูดจบ เขาอยากจะกอดอกหรือเท้าเอวพูดใส่อีกเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าที่ที่เขายืนอยู่จะไม่สะดวกเท่าใดนัก

    "พี่ลงมาก่อนเถอะครับ ผมใจไม่ดีเลย" แทฮยองตัดสินใจเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงกึ่งขอร้องเมื่อเห็นยุนกิยืนอยู่บนอ่างแบบนั้น เขาไม่รับประกันหรอกนะว่าถ้ายุนกิพลาดลื่นลงมาแล้วเขาจะช่วยอะไรได้

    "ก็ได้ ๆ" ยุนกิยอมย่อตัวลงมาอย่างติดรำคาญ เขาทิ้งกายลงนั่งห้อยขาลงบนขอบอ่างล้างหน้า แทฮยองก้าวถอยหลังไปเพื่อเว้นที่ให้อีกนั่งห้อยขาสบาย ๆ

    "คือ... เรื่องแต้มนั่น" แทฮยองเป็นคนเปิดปากขึ้นก่อน ยุนกิมองหน้าเขาแล้วพยักหน้าให้ก่อนจะย้ายสายตาไปมองที่กีของแทฮยองแล้วแกว่งขา เขาทำเหมือนคนสบาย ๆ ไม่ได้คิดมากเรื่องใด แต่แทฮยองรู้ว่ามันไม่ใช่ "พอโคเทะแล้วก็หมดเวลาเลย ไม่รู้สิ ผมแค่คิดว่าไม่น่าตีเลย"

    "ฉันจะฆ่านาย" สีหน้าของยุนกิเรียบนิ่งไปในทันที แทฮยองเหวอไปเล็กน้อยก่อนยุนกิจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเอื่อย ๆ แทน "ถ้านายตั้งใจจะไม่ทำ ฉันเอานายตายแน่ ๆ – เห็นฉันเป็นคนน่าสมเพชมากเลยหรือไง"

    "ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ"

    "ฉันพลาดเองแหละ" ยุนกิพึมพำออกมาราวกับจะย้ำเตือนตนเองไปด้วย แทฮยองมองใบหน้าของยุนกิที่ตอนนี้ก้มลงอีกแล้ว เพราะยุนกิโทษตัวเอง  เขาถึงได้โทษตัวเองที่ทำให้ยุนกิเป็นแบบนั้น

    "พี่เสียสมาธิเหรอครับ" แทฮยองถามออกไป ยุนกิชะงักไปก่อนจะพยักหน้าเนือย ๆ "พี่ซอกจิน ใช่ไหมครับ"

    คราวนี้ยุนกิชะงักจนเรียกว่านิ่งไปเลย แทฮยองเม้มปากลง เขามองเห็นหน้ายุนกิใต้เม็งไม่ถนัดนักแต่ก็รู้ได้ว่าตอนนั้นยุนกิเหมือนจะหันไปหาใครสักคน มันเป็นปฏิกิริยาโดยทั่วไปคล้ายกับการเดินไปตามทางแล้วบังเอิญเจอคนรู้จัก หากแต่ว่าตอนนั้นเป็นการแข่งเคนโด้ สมาธิเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ทุกคนที่จะดึงความสนใจของคนแข่งได้

    "แทฮยอง นายคือคิมแทฮยองใช่ไหม ไปเตรียมตัวแข่งรอบต่อไปได้แล้วนะ"  นักเคนโด้คนหนึ่งเดินเข้ามาในบริเวณห้องน้ำแล้วเอ่ยขึ้น ยุนกิรีบกระโดดลงจากขอบอ่างล้างหน้า แทฮยองพยักหน้ารับไปให้คนที่ยืนอยู่ตรงประตูก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะออกไปก่อน ร่างสูงเดินไปหยิบโคเทะกับเม็งของตนเองที่วางไว้ เขาหันไปมองยุนกิเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่ายุนกิคิดอะไรอยู่แล้วเขาก็หันเดินออกไปเตรียมตัว

    แต่ยังไม่ทันออกไปพ้นประตูห้องน้ำยุนกิก็วิ่งมาคว้าชายแขนกีของเขาไว้ แทฮยองหันไปมองคนตัวเล็กที่มีท่าทางอึกอักอย่างฉงน "คือ... ฉันค่อนข้างกังวลเวลาพี่ซอกจินดูอยู่"

    "อ่า... ผมเข้าใจครับ" แทฮยองพยักหน้ารับ

    "นายเข้าใจจริง ๆ ใช่ไหม ฉันกลัวจะโดนว่า กลัวพี่จินจะโกรธ กลัวพี่เขาจะผิดหวัง กลัวคำพูดของพี่จิน ถึงจะรู้ว่าพี่จินหวังดีก็เถอะ" ยุนกิกระซิบทั้ง ๆ ที่ก้มหน้าไว้ เขาเลียริมฝีปากก่อนจะเอ่ยต่อ "เพราะแบบนั้น –อ่ะ"

    ยังพูดไม่ทันจบยุนกิก็ต้องอุทานออกมาเสียก่อนเมื่อโดนแทฮยองดึงเข้าไปกอด

    ก็สั่งแล้วแท้ ๆ ว่าอย่ามากอดแบบนี้...

    "หยุดพูดเถอะครับ" แทฮยองเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนแรง ยุนกิแอบกัดกระพุ้งแก้มตนเองเบา ๆ พอให้ตนเองรู้สึกได้ถึงแรงขบนั้น ไม่ใช่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เขาควรจะผลักแทฮยองออก แต่ก็...

    อยู่อย่างนี้มันก็ดี

    "ผมเข้าใจทุกอย่างแล้วจริง ๆ เพราะแบบนั้น พี่ไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้วครับ" เสียงของแทฮยองดังอยู่ใกล้หูของเขาจนทำให้ยุนกิได้ยินมันชัดเจน น้ำเสียงของแทฮยองทำให้ยุนกิไม่โวยวายอย่างที่ตัวเขามักจะเป็นเมื่อถูกขัดใจ

    "ก... ก็ดี แต่ปล่อยก่อนเถอะ รีบไปแข่งได้แล้ว" ยุนกิเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับตัวเล็กน้อย เขาต้องเกร็งคอแทบตายไม่ให้หน้าซบลงกับไหล่ของแทฮยอง

    ร่างสูงปล่อยอ้อมแขนที่ยกขึ้นโอบอีกคนไว้ ยุนกิเบนสายตาหนีอีกคนไปทางอื่น ทั้ง ๆ ที่ด้านนอกฝนตกหนักจนทำให้อุณหภูมิลดต่ำแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าแก้มของตัวเองมันร้อนวูบวาบอย่างไรก็ไม่รู้

    แทฮยองก้าวออกไปจากตรงที่ยืน เขาดูเงียบกว่าปกติจนยุนกิแปลกใจ นิ้วมือข้างซ้ายแตะไปที่ขอบแขนเสื้ออีกข้างเล็กน้อยขณะที่สายตามองตามคนที่เดินออกไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรเพิ่ม แทฮยองเหมือนคนที่จมอยู่กับความคิดของตนเอง เขาดูหนักอึ้งอย่างประหลาด

    "อย่าแพ้แล้วกัน" ยุนกิเอ่ยด้วยเสียงที่ดังกว่าตอนคุยกัน คนที่กำลังเดินพ้นประตูห้องน้ำไปหยุดฝีเท้าลง ยุนกิจึงเอ่ยต่อ "คือ... ก็นายเสมอกับฉันเนอะ เสมอใช่ไหมล่ะ ถ้านายไปแพ้... มันก็ ฉันก็จะดูอ่อนไง"

    พูดจบก็จิ๊ปากไปอย่างไม่มีเสียง ทำไมเขาต้องรีบพูดจนแทบไม่เป็นประโยคแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้

    "เพราะ เอ่อ... สู้ ๆ นะ"

                ฮู่... แค่จะบอกแทฮยองว่าสู้ ๆ แค่นี้ทำไมมันยากจังนะ

                "ครับ" แทฮยองตอบรับคำด้วยเสียงที่ดังจนยุนกิแทบสะดุ้ง เขานึกว่าอีกคนจะผงกศีรษะรับแล้วเดินออกไปเท่านั้น ดวงตาคู่โตคมของเด็กหนุ่มชายแววดีใจจนปิดแทบไม่มิด แถมยังรอยยิ้มนั้นอีก มันมีอะไรให้ดีใจนักหนากันนะ "พี่ก็สู้ ๆ นะครับ"

                พูดจบแทฮยองก็ยืนยิ้มออกไปเลย ทิ้งยุนกิเอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ อาการหนักอึ้งของแทฮยองนั้นหายไปแล้ว...

                เขาไม่ใช่คนไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยหรอกนะถึงจะได้ไม่รู้ว่าแทฮยองเป็นอะไร รู้ด้วยว่ามันเป็นเพราะ... ตัวเขาเอง

                เพราะมินยุนกิ

                "อ่า... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน" ยุนกิย่อตัวลงไปนั่งแล้วยกมือขึ้นแนบแก้มของตัวเอง ใบหน้าขาวส่ายไปมาจนผ้าที่โพกศีรษะไว้อีกชั้นแทบหลุด ตอนที่โดนแทฮยองกอดเขาพออธิบายให้ตนเองได้ว่าอะไรใจเต้นแรงนั้นเป็นธรรมดาที่อาจจะเกิด แต่ตอนนี้...

                "ยุนกิยา เฮ้ย ยุนกิเป็นอะไร" จีมินที่โผล่เข้ามาห้องน้ำเพื่อเรียกให้เพื่อนตนเองไปแข่งร้องขึ้นเมื่อเห็นยุนกินั่งอยู่อย่างนั้น คนตัวขาวรีบลุกขึ้นพร้อมกับโบกมือปัดอย่างร้อนรน

                "ปะ เปล่านะ มะ ไม่"

                "นายเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ" จีมินเดินเข้ามาหาอย่างแปลกใจกับอาการแตกตื่นของเพื่อน ตอนแรกเขาก็นึกว่ายุนกิคิดมากจนลงไปนั่งอย่างนั้น แต่ก็ไม่ให้ต้องรนขนาดนี้เลย

                "ไม่เป็นอะไรเลย ช่างมัน ๆ" ยุนกิเอ่ยไว ๆ ก่อนจะกระโจนกลับที่อ่างล้างหน้าตรงจุดที่วางโคเทะข้างซ้ายแล้วรีบใส่มัน พยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ "ต้องไปแข่งแล้วใช่ไหม"

                "อ่า ใช่ ๆ" จีมินพยักหน้า เขาเดินไปหยิบเม็งที่วางไว้บนขอบอ่างล้างหน้าไปให้ยุนกิ อีกคนรีบหยิบมันขึ้นไปสวม

                "โอ๊ย ลืมไปเลยว่ามัดไม่ได้" ยุนกิบ่นอุบอิบออกมาแต่ก่อนจะถอดโคเทะก็รู้สึกถึงแรงที่กระตุกเชือกตรงเม็งไปมัดให้ พอมองผ่านกระจกถึงได้เห็นว่าเป็นซอกจิน

                "มีสติหน่อยสิ" เสียงนุ่มเอ่ยออกมาอย่างราบเรียบ ยุนกิกำลังจะพยักหน้าตอบรับแต่ก็นึกได้ว่าอีกคนกำลังมัดให้อยู่อาจทำให้ไม่สะดวกเลยขานรับไปแทน

                "ครับ"

              "ตั้งใจด้วยนะ" พอมัดให้เสร็จซอกจินก็ถอยหลังออกไป ยุนกิหันหน้ากลับผงกศีรษะไปให้ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง พยายามทำให้เหมือนแทฮยองเมื่อครู่

                "ผมจะสู้ครับ"

                "อืม ไปได้แล้ว" ซอกจินเอ่ยไว้เท่านั้นก่อนจะเดินออกไปก่อน ยุนกิยกมือขึ้นขยับเม็งเล็กน้อย อาการหนึบ ๆ ในใจตีตื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

                "ยุนกิยา สู้ ๆ" จีมินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเป็นกำลังใจให้

                "อื้อ!" ยุนกิพยายามทำให้มันดูแข็งขันก่อนจะเดินออกไป เขาหยิบชิไนของตนเองขึ้นแล้วเดินไปที่สนาม คู่ทดสอบของเขากำลังสวมเม็งอยู่ ยุนกิผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อรวบรวมสติ

                มันอดน้อยใจไม่ได้จริง ๆ นี่นา

                พี่ก็บอกผมหน่อยไม่ได้เหรอ สู้ ๆ หรืออะไรก็ได้ที่เป็นกำลังใจให้ได้มากกว่านี้

                ยุนกิต้องการกำลังใจจากคิมซอกจินนะ

                ก็เขาน่ะเป็นพี่ชายของยุนกิเลยนะ

     

    TBC

     

    ถึงจะมีร่มแต่ก็เป็นได้แค่พี่ชายนะคะ5555555555555คุณเสื้อกันฝนของพวกเรามีหวังแล้ววววววววววว แต่ก็ไม่รู้นะคะ คึคึ แค่พี่ชายจริงๆหรือเปล่านะน้องกิ กิๆๆๆ

    เราหายไปนานนนนนนนนนนนนนนมาก ขอโทษนะคะ ปรับตัวมหาลัยนิดหน่อย....จริงๆก็ไม่นิดแหะ555555 จะพยายามมาต่อนะคะ เวลาไม่มีเลย เรียนก็ยาก แง้ๆๆๆๆๆๆ ฮรึบบบ เป็นกำลังใจให้ซูชริ๊กับคุณเสื้อกันฝนด้วยน้า ถ้ายังมีคนอ่านก็เม้นต์บอกกันหน่อยน้า หายไปนานจนคนอ่านลืมหมดแล้วแน่เลย55555 ฝากด้วยนะคะ เลิ้บ #ฟิคเรนโค้ท

    แต๊งกิ้วน้องเบลน้าา พรูฟมาให้ทุกตอนเลย น่ารักมั่กๆๆๆ

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×