คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : レインコート 13
レインコート
`raincoat
13
เสียงปรบมือดังขึ้น
ดูเหมือนคู่ของเขากับแทฮยองจะได้รับความสนใจอยู่พอตัว
เขาได้ยินเสียงคนพูดคุยลอยเข้าหูบ้าง ประมาณว่า – ไม่น่าพลาดเลย,นี่ใช่หลานเจ้าของโรงฝึกคนนั้นไหม
, มินยุนกินเหรอ , เสียดายแทนจริง ๆ หรือแม้แต่คำว่า เป็นถึงร้านเจ้าของโรงฝึกแต่ก็ดูไม่เห็นเท่าไหร่เลย
ความจริงแล้วคนพวกนั้นเพียงแค่หาข้ออ้างให้ภายในใจตนเองเท่านั้น
ในกรณีถ้าอาจแพ้หรือชนะยุนกิขึ้นมา ต่อให้ยุนกิจะเป็นหลานเจ้าของโรงฝึก
เป็นเชื้อสายของนักดาบ เป็นมาเฟียข้างถนน
หรือแม้แต่เป็นเด็กที่เกิดในครอบครัวซามูไรหรือไม่ก็ตาม – ทุกคนมีโอกาสเก่งหรือไม่เก่งเท่ากันหมด
ในเมื่อก็มีร่างกายครบสามสิบสองประการเหมือนกันและชิไนคนละด้ามเหมือนกัน
การที่เขาเป็นหลานเจ้าของโรงฝึกเคนโด้แล้วมันเป็นยังไง...วะ
ประมาณถ้าพวกเขาแพ้เขาจะบอกว่า
ยุนกิน่ะเป็นร้านเจ้าของโรงฝึกเชียวนะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่งเสียหน่อย ในขณะเดียวกันถ้าคนพวกนั้นชนะเขาจะคิดว่า
เป็นถึงหลานเจ้าของฝึกแท้ ๆ
เขายังเก่งกว่าเลยด้วยซ้ำและแน่นอนว่าพวกเขาจะคิดว่าตัวเองเก่ง
คนเราก็แค่โยนความผิดไปให้คนอื่น
บางทีพวกเขาอาจจะปลอบใจหรือกำลังใจตนเอง การหาข้ออ้างมันแทรกซึมผ่านทุกการกระทำ
สำหรับบางคนมันแทรกซึมไปผ่านทุกความนึกคิดไปแล้วมั้ง
ยุนกิไม่ได้คิดว่ามันผิด
คนเราย่อมทำให้ตนเองสบายใจ แต่บางคนก็พูดมันออกไปเพราะสนุกปาก – บางทีมันก็เก็บไว้สบายใจคนเดียวก็ได้
—บางทียุนกิอาจจะคิดมากไป
อีกอย่างที่เขาสงสัย มันก็แค่ว่า ‘นี่ใช่เรื่องของคนพวกนั้นหรือไงกัน’
อยากตะโกนออกไปใส่คนพวกนั้นว่า
ใครขอให้แสดงความคิดเห็นหรือไง แต่ในตอนนี้เขาทำได้แค่เดินออกมา
ไม่แน่ใจว่าควรเดินไปหาซอกจินหรือเปล่า
แต่พอเห็นอีกคนมองมาแล้วผงกศีรษะเป็นเชิงเรียก ยุนกิจึงวิ่งเหยาะ ๆ ไปหาโดยที่มือกำลังเกะเม็งฮิเมะอยู่
"อีกนิดเดียวแท้
ๆ" ซอกจินส่ายศีรษะเบา ๆ เมื่อยุนกิมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า "รู้ใช่ไหมว่าไม่ควรพลาด"
"ครับ"
ยุนกิตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาถอดเม็งออกมากอดไว้
ใบหน้าขาวก้มลงมองพื้นเพื่อเลี่ยงที่จะสบตากับซอกจิน
"มีสมาธิกับการแข่งหน่อยสิ"
น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยต่อ ยุนกิผงกศีรษะไปให้ก่อนเอ่ยตอบไป
"ขอโทษครับ"
ซอกจินไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาทันที
เขากอดอกมองอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้าหนีเงียบๆ จนทั้งคู่ได้ยินเสียงฝนตกดังชัดเจนยุนกิเม้มปากแน่น
นิ้วมือเกี่ยวสายเชือกจากเม็งไปพลาง
"เอาเถอะ"
ในที่สุดซอกจินก็เอ่ยขึ้น "ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว"
สำหรับยุนกิแล้วมันไม่ได้ดีขึ้นเลย
ถึงเขาจะรู้ว่าที่ซอกจินพูดเพราะอยากให้เขาทำได้ดี
ยุนกิรู้ว่าซอกจินพูดทั้งหมดนี่ก็เพื่อเขา แต่มันก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้
อย่างน้อยพี่ก็ชมผมหน่อยสิ
"เหลือแข่งอีกรอบใช่ไหม
ตั้งใจนะยุนกิ"
เขายอมรับนะว่าตั้งแต่เด็ก
ๆ เขาไม่ค่อยจะตั้งใจนัก แต่เขาก็ ตั้งใจกว่าเดิมมาก
ซอกจินไม่รับรู้บ้างเลยหรือไงกันนะ
"เข้าใจแล้วครับ"
ยุนกิกลืนทุกอย่างที่อยากจะพูดลงคอแล้วพูดไปเท่าที่เขาคิดว่าควรจะพูด
"ไปเตรียมตัวสำหรับรอบต่อไปเถอะ"
ร่างเล็กหมุนตัวเดินออกมาจากซอกจิน
เดินออกมาตรงด้านข้างที่ไม่ใช้เป็นสนามทดสอบ จีมินเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มของเจ้าตัว
ยุนกิพยายามขยับยิ้มไปให้
"ฉันว่านายทำได้ดีเลยนะ
ดีใจหน่อยเถอะ" จีมินเอ่ยขึ้น ยุนกิผงกศีรษะไปให้
"แต่ฉันก็ไม่น่าพลาดจริง
ๆ" ยุนกิข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ จีมินเห็นเพื่อนเป็นเช่นนี้ไปก็ทำตัวไม่ถูก
ทั้ง ๆ ที่มันออกจะน่าดีใจแท้ ๆ – ยุนกิกดดันตัวเองเกินไปหรือเปล่า
"ไม่แพ้เจ้าแทฮยองมันแล้วนี่หว่า"
กีฮยอนที่เพิ่งออกจากสนามวิ่งมาหา
มือที่ยังสวมโคเทะอยู่แตะลงที่กลางหน้าผากของยุนกิเป็นเชิงล้อขณะที่จองกุกกับชานอูเดินเข้ามาหา
"ทสึกิเมื่อกี้ก็ใช้ได้เลย"
"อ่า
ช่างมันเถอะ"
"ถ้าโดนเต็ม
ๆ มีหวังหงายอ่ะ" กีฮยอนยังคงพูดต่อ
ยุนกิเองก็รู้ว่ามันจะเป็นไปได้สวยแค่ไหนถ้าเขาทำให้มันโดนตรงกึ่งกลางได้พอดี
"โหย
ผมไม่เห็นดูออกว่ามันเต็มไม่เต็มยังไง ดูออกแค่ว่ามันโดนทสึกิอ่ะ"
จองกุกพูดออกมา เขาหัวเราะต่อท้ายเล็กน้อยขณะที่จีมินพยักหน้าเห็นด้วยจีมินก็ดูเคนโด้มาบ้างเพราะไปกับยุนกิบ่อย
ๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับแยกได้หรอกว่ามันโดนเต็ม ๆ ไหม
"แต่ก็เกือบไม่ได้แต้มนะ"
ยุนกิเถียงไปเบา ๆ ชานอูกับจองกุกรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
ก็แบบนี้ไม่สมกับเป็นพี่ยุนกิตัวแสบที่พวกเขารู้จักเลยนี่
"คิดมากไปหรือเปล่าครับ
ผมดูยังไงก็ว่าได้แต้มนะ" จองกุกไม่ได้หัวเราะต่อท้ายแล้ว
เขาเอ่ยมันอย่างจริงจังมากขึ้น
"มันดีแล้วที่เป็นแบบนี้น่ะ"
ยุนกิพึมพำขึ้นมา จีมินอ้อมไปด้านหลังเขาแล้วนวดที่ไหล่จนยุนกิหลุดขำออกมา
ว่าแต่แทฮยองไปไหน...
"แล้วที่พลาดตอนท้ายน่ะ"
จีมินเอ่ยขึ้น พอได้ยินเรื่องนี้แล้วดวงตาคู่เล็กของยุนกิก็ไหววูบ
มันเป็นความรู้สึกที่ย้ำอยู่ในสมองซ้ำ ๆ ว่าไม่น่าพลาด อีกนิดเดียวแล้วแท้ ๆ – น่าเสียดาย
"ฉันเสียสมาธิไปนิดหน่อย"
ยุนกิกดเสียงต่ำจนมันฟังดูแหบ ๆ จีมินเลิกนวดไหล่ให้เขาแล้วมายืนอยู่ข้าง ๆ แทน
"เอาหน่าพี่
แทฮยองมันก็ไวเองด้วย" จองกุกพูดต่อ "เอ่อ... แล้วพี่โกรธมันหรือเปล่า"
"ไม่"
ยุนกิตอบออกมาทันที "ไม่หรอก ฉันพลาดเองนี่"
ว่ากันตามตรงจองกุกไม่ชินแบบนี้เลย
เขาหันไปมองหน้าจีมินที่ดูจะลำบากใจไม่น้อย คงไม่ใช่แค่เขาที่ไม่ชิน
ถ้าเป็นปกติยุนกิน่าจะพูดว่า เจ้าบ้านั่นมันน่าหงุดหงิดชะมัดประมาณนี้มากกว่า
"ยุนกิ..."
จีมินเรียกขึ้นเมื่อเจ้าของชื่อนิ่งไป ยุนกิหันมาหัวเราะแหะ ๆ
ให้ก่อนจะขยับตัวเดินไป
"ขอไปห้องน้ำนะ
เดี๋ยวคงต้องแข่งต่ออีกรอบแล้ว"
"พี่ยุนกิเป็นอะไรไปเหรอครับ"
ชานอูที่ทนสงสัยไม่ไหวถามขึ้น กีฮยอนกับจีมินมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วก็ส่ายหน้ามาให้
"ปกติมันเป็นแบบนี้นะ
ปีที่แล้วมันก็โวยวายแต่ว่าจะกลับบ้าน" กีฮยอนตอบ "ฉันเองก็ไม่ค่อยชินนักหรอก"
"เฮ้อ"
จีมินถอนหายใจออกมา จองกุกหันไปมองรุ่นพี่ตัวเล็กที่ยังสวมเสื้อยืดคนเดียวในกลุ่มที่ยืนอยู่
มือหนายกขึ้นบีบที่ไหล่อีกคนเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ
เออ! ยอมรับก็ได้ว่าเขาไม่ได้บริสุทธิ์ใจนักหรอก
พอเห็นจีมินหันมายิ้มพร้อมกับเอ่ยขอบคุณมาให้ใจเขามันก็พองโตอย่างอดรู้สึกปลื้มไม่ได้
ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่เวลาก็เถอะ!
ลองชอบใครสักคนดูจะรู้ว่าแค่ปลายนิ้วโดนชายเสื้อเขายังเก็บมายิ้มได้เป็นวัน
ๆ เลยด้วยซ้ำ
ในอ้อมแขนของยุนกิยังกอดเม็งเอาไว้ขณะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
เขาเห็นคนที่เขาไม่ค่อยอยากจะยอมรับนักว่ากำลังมองหาล้างหน้าอยู่ตรงอ่างล้างหน้า
ยุนกิกัดริมฝีปากล่างก่อนจะคลายออก
เขาวางเม็งไว้ตรงขอบอ่างที่มีพื้นที่มากพอจะวางไว้ แล้วแทฮยองก็เงยหน้ามามองเขา
"พี่ยุนกิ"
เสียงทุ้มเรียกชื่อของเขา แทฮยองยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วปิดก๊อกน้ำ
ยุนกิพยักหน้าตอบไปแล้วก้มมองที่อ่างล้างหน้าเบื้องหน้าตนเอง "แผลที่มือเป็นยังไงบ้างครับ
เจ็บหรือเปล่า"
มือข้างซ้ายที่วางตรงขอบอ่างขยับเล็กน้อย
ยุนกิหันไปมองนิ้วที่แปะพลาสเตอร์ยาไว้ "ไม่แล้ว"
"ระวังอักเสบนะครับ"
"ก็บอกว่าไม่เจ็บแล้วไง"
ยุนกิเถียงออกไปทันทีแม้ว่าพอสนใจที่แผลแล้วจะทำให้รู้ว่ายังเจ็บ
แม้ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าที่แผลมันเต้นตุ้บ ๆ
"พี่โกรธผมเหรอ"
ยุนกินิ่งไป
เขาเกลียดที่แทฮยองเหมือนจะรู้ทันเขาไปทุกเรื่อง ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เขาโกรธ
แต่ที่แทฮยองพูดแบบนี้เพราะรู้ว่าเขาโกหกที่บอกว่าไม่เจ็บ
"ทำไมล่ะ
ถ้าบอกว่าเจ็บ นายจะเป่าให้หรือไง" ยุนกิหันไปพูดแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่าแทฮยองมองนิ่ง
ๆ กลับมา
จู่
ๆ เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น กลัวแทฮยองจะเป็นเหมือนพี่ซอกจิน...
"ให้ผมเป่าไหมล่ะ"
แทฮยองเอ่ยขึ้นต่อ สีหน้ายังคงนิ่งเฉย ส่วนแววตานั่นยุนกิไม่กล้ามองเข้าไป
เขาไม่กล้าค้นหามันหรอก
ยังไม่ทันที่ยุนกิจะคิดคำตอบอะไรไปทัน แทฮยองก็ฉวยมือข้างซ้ายของเขาไปเสียก่อน
ยุนกิยืนตัวแข็งทื่อในตอนที่แทฮยองถอดโคเทะออกแล้วก้มหน้าเป่าลงที่แผลอย่างแผ่วเบาแม้ว่ามันจะถูกแปะด้วยพลาสเตอร์ไว้ก็ตาม
"เดี๋ยวก็หายแล้วครับ"
แทฮยองว่า เขาปล่อยมือของยุนกิลง เจอแบบนี้เข้าไปยุนกิเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
ดวงตาคู่รีหลุบลงอย่างเลิ่กลั่ก ลืมไปหมดแล้วว่าก่อนหน้านี้รู้สึกอย่างไรแต่ผ่านไปสักพักความรู้สึกแย่
ๆ ก็กลับมา ในทุกเรื่องที่แย่สำหรับเขาในตอนนี้ไม่เกี่ยวกับแทฮยองสักนิด
ยุนกิเงยหน้าขึ้น
เขาเห็นช่องหน้าต่างอยู่สูงแทบติดเพดาน แทฮยองไม่ได้พูดหรือทำอะไร
อีกฝ่ายก็คงจะทำตัวไม่ถูกนักหรอก ร่างเล็กเม้มปาก
ไล่สายตาจากหน้าต่างลงตามตามผนังก่อนจะปีนขึ้นไปตรงขอบอ่างล้างหน้ายาว
"เฮ้ยพี่!" แทฮยองอุทานอย่างตกใจที่เห็นยุนกิปีนขึ้นไปแบบนั้น
ถึงยุนกิจะตัวเล็กและอ่างล่างหน้านี้ดูแข็งแรงแต่มันก็อดห่วงว่าอีกคนจะลื่นตกลงมาไม่ได้
"ไม่เป็นอะไรหรอกน่า"
ยุนกิหันมาเอ็ดแล้วเดินบนบริเวณขอบอ่างไปที่ผนัง
แทฮยองมองยุนกิไปไม่วางตาด้วยความเป็นห่วง
ยอมรับว่ายุนกิดูจะใจกล้าแต่ท่าทางกลับดูงุ่มง่ามไม่น้อย – ประมาณว่าน่าจะอยู่ในอันดับสุดท้ายในเรื่องความคล่องตัวของบุคคลทั้งหมดที่กล้าปีนอ่างล้างหน้า
แล้วยุนกิก็เอานิ้วไปเกาะอยู่ขอบหน้าต่างเล็ก
ๆ เขย่งปลายเท้าแล้วเอาจมูกยื่นไปตรงหน้าต่าง "ฉันคิดว่าฉันรู้สึกแย่" ยุนกิพึมพำออกมา
เขาหลับตาลงแล้วสูดหายใจเอาอากาศด้านนอกที่มีละอองฝนปะปนมา มันทำให้เขาเย็นลง "สดชื่นจัง"
"ผมขอโทษนะ"
แทฮยองที่เงียบไปสักพักเอ่ยขึ้น
"นายต้องขอโทษฉันเรื่องอะไรเหรอ"
ยุนกิหันมาก้มมองแทฮยองที่ยืนอยู่ที่พื้น "ถ้าเรื่องที่นายทำตัวหงุดหงิดน่าหมั่นไส้
นายต้องขอโทษฉันทุกวินาทีที่นายยืนอยู่ต่อหน้าฉันเลยแหละ"
น้ำเสียงจริงจังเกินเหตุกับการขมวดคิ้วทำเครียด
ๆ นั่นทำให้แทฮยองต้องส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม "พี่ไม่อยากให้ผมยืนต่อหน้าพี่เหรอ"
ความจริงแล้วแทฮยองคิดว่ามันไม่น่าถามแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อปากไวกว่าความคิดที่ว่ามันไม่ควรถามออกไปแล้ว
ยุนกิหันมามองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเอาจมูกยื่นที่ขอบหน้าต่างตามเดิม
"ไม่ได้หมายถึงแบบนั้นเสียหน่อย"
ตอบออกมาเสียงแผ่ว ๆ แต่แทฮยองได้ยินชัดเจน "นายมีหน้าที่ฟังฉันด้วยนะ"
"ครับ?"
"ทำไม
ไม่โอเคหรือไง แต่นี่ฉันสั่งนะ"
ยุนกิเอ่ยต่อโดยที่ยังเขย่งตัวมองไปนอกบานหน้าต่าง
"ไม่ใช่ไม่โอเคครับ"
แทฮยองรีบตอบ "แค่... ตกใจนิดหน่อย"
"ตกใจอะไรอ่ะ"
น้ำเสียงติดหาเรื่องอย่างไม่จริงจังถามขึ้น
ยุนกิละสายตาจากบานหน้าต่างมามองแทฮยองที่ยังจ้องเขาอยู่ – ทำเหมือนกับว่าเขาพร้อมจะตกมาทุกเมื่ออยู่นั่นแหละ
"ไม่รู้สิ
พี่เพิ่งบอกเหมือนว่ารำคาญผม แต่— "
"ฉันบอกให้ทำก็ทำไปเหอะน่า"
ยุนกิขัดขึ้นก่อนที่แทฮยองจะพูดจบ เขาอยากจะกอดอกหรือเท้าเอวพูดใส่อีกเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนว่าที่ที่เขายืนอยู่จะไม่สะดวกเท่าใดนัก
"พี่ลงมาก่อนเถอะครับ
ผมใจไม่ดีเลย"
แทฮยองตัดสินใจเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงกึ่งขอร้องเมื่อเห็นยุนกิยืนอยู่บนอ่างแบบนั้น
เขาไม่รับประกันหรอกนะว่าถ้ายุนกิพลาดลื่นลงมาแล้วเขาจะช่วยอะไรได้
"ก็ได้
ๆ" ยุนกิยอมย่อตัวลงมาอย่างติดรำคาญ
เขาทิ้งกายลงนั่งห้อยขาลงบนขอบอ่างล้างหน้า แทฮยองก้าวถอยหลังไปเพื่อเว้นที่ให้อีกนั่งห้อยขาสบาย
ๆ
"คือ...
เรื่องแต้มนั่น" แทฮยองเป็นคนเปิดปากขึ้นก่อน
ยุนกิมองหน้าเขาแล้วพยักหน้าให้ก่อนจะย้ายสายตาไปมองที่กีของแทฮยองแล้วแกว่งขา
เขาทำเหมือนคนสบาย ๆ ไม่ได้คิดมากเรื่องใด แต่แทฮยองรู้ว่ามันไม่ใช่ "พอโคเทะแล้วก็หมดเวลาเลย
ไม่รู้สิ ผมแค่คิดว่าไม่น่าตีเลย"
"ฉันจะฆ่านาย"
สีหน้าของยุนกิเรียบนิ่งไปในทันที
แทฮยองเหวอไปเล็กน้อยก่อนยุนกิจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเอื่อย
ๆ แทน "ถ้านายตั้งใจจะไม่ทำ ฉันเอานายตายแน่ ๆ –
เห็นฉันเป็นคนน่าสมเพชมากเลยหรือไง"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ"
"ฉันพลาดเองแหละ"
ยุนกิพึมพำออกมาราวกับจะย้ำเตือนตนเองไปด้วย แทฮยองมองใบหน้าของยุนกิที่ตอนนี้ก้มลงอีกแล้ว
เพราะยุนกิโทษตัวเอง – เขาถึงได้โทษตัวเองที่ทำให้ยุนกิเป็นแบบนั้น
"พี่เสียสมาธิเหรอครับ"
แทฮยองถามออกไป ยุนกิชะงักไปก่อนจะพยักหน้าเนือย ๆ "พี่ซอกจิน – ใช่ไหมครับ"
คราวนี้ยุนกิชะงักจนเรียกว่านิ่งไปเลย
แทฮยองเม้มปากลง
เขามองเห็นหน้ายุนกิใต้เม็งไม่ถนัดนักแต่ก็รู้ได้ว่าตอนนั้นยุนกิเหมือนจะหันไปหาใครสักคน
มันเป็นปฏิกิริยาโดยทั่วไปคล้ายกับการเดินไปตามทางแล้วบังเอิญเจอคนรู้จัก
หากแต่ว่าตอนนั้นเป็นการแข่งเคนโด้ สมาธิเป็นสิ่งสำคัญ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะดึงความสนใจของคนแข่งได้
"แทฮยอง
– นายคือคิมแทฮยองใช่ไหม
ไปเตรียมตัวแข่งรอบต่อไปได้แล้วนะ"
นักเคนโด้คนหนึ่งเดินเข้ามาในบริเวณห้องน้ำแล้วเอ่ยขึ้น
ยุนกิรีบกระโดดลงจากขอบอ่างล้างหน้า แทฮยองพยักหน้ารับไปให้คนที่ยืนอยู่ตรงประตูก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะออกไปก่อน
ร่างสูงเดินไปหยิบโคเทะกับเม็งของตนเองที่วางไว้ เขาหันไปมองยุนกิเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่ายุนกิคิดอะไรอยู่แล้วเขาก็หันเดินออกไปเตรียมตัว
แต่ยังไม่ทันออกไปพ้นประตูห้องน้ำยุนกิก็วิ่งมาคว้าชายแขนกีของเขาไว้
แทฮยองหันไปมองคนตัวเล็กที่มีท่าทางอึกอักอย่างฉงน "คือ...
ฉันค่อนข้างกังวลเวลาพี่ซอกจินดูอยู่"
"อ่า...
ผมเข้าใจครับ" แทฮยองพยักหน้ารับ
"นายเข้าใจจริง
ๆ ใช่ไหม ฉันกลัวจะโดนว่า กลัวพี่จินจะโกรธ กลัวพี่เขาจะผิดหวัง
กลัวคำพูดของพี่จิน ถึงจะรู้ว่าพี่จินหวังดีก็เถอะ" ยุนกิกระซิบทั้ง ๆ
ที่ก้มหน้าไว้ เขาเลียริมฝีปากก่อนจะเอ่ยต่อ "เพราะแบบนั้น –อ่ะ"
ยังพูดไม่ทันจบยุนกิก็ต้องอุทานออกมาเสียก่อนเมื่อโดนแทฮยองดึงเข้าไปกอด
ก็สั่งแล้วแท้ ๆ ว่าอย่ามากอดแบบนี้...
"หยุดพูดเถอะครับ"
แทฮยองเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนแรง ยุนกิแอบกัดกระพุ้งแก้มตนเองเบา ๆ
พอให้ตนเองรู้สึกได้ถึงแรงขบนั้น ไม่ใช่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
เขาควรจะผลักแทฮยองออก แต่ก็...
อยู่อย่างนี้มันก็ดี
"ผมเข้าใจทุกอย่างแล้วจริง
ๆ เพราะแบบนั้น พี่ไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้วครับ" เสียงของแทฮยองดังอยู่ใกล้หูของเขาจนทำให้ยุนกิได้ยินมันชัดเจน
น้ำเสียงของแทฮยองทำให้ยุนกิไม่โวยวายอย่างที่ตัวเขามักจะเป็นเมื่อถูกขัดใจ
"ก...
ก็ดี แต่ปล่อยก่อนเถอะ รีบไปแข่งได้แล้ว" ยุนกิเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับตัวเล็กน้อย
เขาต้องเกร็งคอแทบตายไม่ให้หน้าซบลงกับไหล่ของแทฮยอง
ร่างสูงปล่อยอ้อมแขนที่ยกขึ้นโอบอีกคนไว้
ยุนกิเบนสายตาหนีอีกคนไปทางอื่น ทั้ง ๆ
ที่ด้านนอกฝนตกหนักจนทำให้อุณหภูมิลดต่ำแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าแก้มของตัวเองมันร้อนวูบวาบอย่างไรก็ไม่รู้
แทฮยองก้าวออกไปจากตรงที่ยืน
เขาดูเงียบกว่าปกติจนยุนกิแปลกใจ นิ้วมือข้างซ้ายแตะไปที่ขอบแขนเสื้ออีกข้างเล็กน้อยขณะที่สายตามองตามคนที่เดินออกไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรเพิ่ม
แทฮยองเหมือนคนที่จมอยู่กับความคิดของตนเอง – เขาดูหนักอึ้งอย่างประหลาด
"อย่าแพ้แล้วกัน"
ยุนกิเอ่ยด้วยเสียงที่ดังกว่าตอนคุยกัน
คนที่กำลังเดินพ้นประตูห้องน้ำไปหยุดฝีเท้าลง ยุนกิจึงเอ่ยต่อ "คือ... ก็นายเสมอกับฉันเนอะ
เสมอใช่ไหมล่ะ ถ้านายไปแพ้... มันก็ – ฉันก็จะดูอ่อนไง"
พูดจบก็จิ๊ปากไปอย่างไม่มีเสียง
ทำไมเขาต้องรีบพูดจนแทบไม่เป็นประโยคแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้
"เพราะ
เอ่อ... สู้ ๆ นะ"
ฮู่... แค่จะบอกแทฮยองว่าสู้ ๆ แค่นี้ทำไมมันยากจังนะ
"ครับ"
แทฮยองตอบรับคำด้วยเสียงที่ดังจนยุนกิแทบสะดุ้ง
เขานึกว่าอีกคนจะผงกศีรษะรับแล้วเดินออกไปเท่านั้น
ดวงตาคู่โตคมของเด็กหนุ่มชายแววดีใจจนปิดแทบไม่มิด แถมยังรอยยิ้มนั้นอีก
มันมีอะไรให้ดีใจนักหนากันนะ "พี่ก็สู้ ๆ นะครับ"
พูดจบแทฮยองก็ยืนยิ้มออกไปเลย
ทิ้งยุนกิเอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ อาการหนักอึ้งของแทฮยองนั้นหายไปแล้ว...
เขาไม่ใช่คนไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยหรอกนะถึงจะได้ไม่รู้ว่าแทฮยองเป็นอะไร
รู้ด้วยว่ามันเป็นเพราะ... ตัวเขาเอง
เพราะมินยุนกิ
"อ่า...
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน" ยุนกิย่อตัวลงไปนั่งแล้วยกมือขึ้นแนบแก้มของตัวเอง
ใบหน้าขาวส่ายไปมาจนผ้าที่โพกศีรษะไว้อีกชั้นแทบหลุด
ตอนที่โดนแทฮยองกอดเขาพออธิบายให้ตนเองได้ว่าอะไรใจเต้นแรงนั้นเป็นธรรมดาที่อาจจะเกิด
แต่ตอนนี้...
"ยุนกิยา
เฮ้ย ยุนกิเป็นอะไร"
จีมินที่โผล่เข้ามาห้องน้ำเพื่อเรียกให้เพื่อนตนเองไปแข่งร้องขึ้นเมื่อเห็นยุนกินั่งอยู่อย่างนั้น
คนตัวขาวรีบลุกขึ้นพร้อมกับโบกมือปัดอย่างร้อนรน
"ปะ
เปล่านะ มะ ไม่— "
"นายเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ"
จีมินเดินเข้ามาหาอย่างแปลกใจกับอาการแตกตื่นของเพื่อน ตอนแรกเขาก็นึกว่ายุนกิคิดมากจนลงไปนั่งอย่างนั้น
แต่ก็ไม่ให้ต้องรนขนาดนี้เลย
"ไม่เป็นอะไรเลย
ช่างมัน ๆ" ยุนกิเอ่ยไว ๆ ก่อนจะกระโจนกลับที่อ่างล้างหน้าตรงจุดที่วางโคเทะข้างซ้ายแล้วรีบใส่มัน
พยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ "ต้องไปแข่งแล้วใช่ไหม"
"อ่า
ใช่ ๆ" จีมินพยักหน้า เขาเดินไปหยิบเม็งที่วางไว้บนขอบอ่างล้างหน้าไปให้ยุนกิ
อีกคนรีบหยิบมันขึ้นไปสวม
"โอ๊ย
ลืมไปเลยว่ามัดไม่ได้" ยุนกิบ่นอุบอิบออกมาแต่ก่อนจะถอดโคเทะก็รู้สึกถึงแรงที่กระตุกเชือกตรงเม็งไปมัดให้
พอมองผ่านกระจกถึงได้เห็นว่าเป็นซอกจิน
"มีสติหน่อยสิ"
เสียงนุ่มเอ่ยออกมาอย่างราบเรียบ ยุนกิกำลังจะพยักหน้าตอบรับแต่ก็นึกได้ว่าอีกคนกำลังมัดให้อยู่อาจทำให้ไม่สะดวกเลยขานรับไปแทน
"ครับ"
"ตั้งใจด้วยนะ"
พอมัดให้เสร็จซอกจินก็ถอยหลังออกไป
ยุนกิหันหน้ากลับผงกศีรษะไปให้ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
พยายามทำให้เหมือนแทฮยองเมื่อครู่
"ผมจะสู้ครับ"
"อืม
ไปได้แล้ว" ซอกจินเอ่ยไว้เท่านั้นก่อนจะเดินออกไปก่อน
ยุนกิยกมือขึ้นขยับเม็งเล็กน้อย อาการหนึบ ๆ ในใจตีตื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"ยุนกิยา
สู้ ๆ" จีมินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเป็นกำลังใจให้
"อื้อ!" ยุนกิพยายามทำให้มันดูแข็งขันก่อนจะเดินออกไป
เขาหยิบชิไนของตนเองขึ้นแล้วเดินไปที่สนาม คู่ทดสอบของเขากำลังสวมเม็งอยู่
ยุนกิผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อรวบรวมสติ
มันอดน้อยใจไม่ได้จริง
ๆ นี่นา
พี่ก็บอกผมหน่อยไม่ได้เหรอ
– สู้ ๆ
หรืออะไรก็ได้ที่เป็นกำลังใจให้ได้มากกว่านี้
ยุนกิต้องการกำลังใจจากคิมซอกจินนะ
ก็เขาน่ะ– เป็นพี่ชายของยุนกิเลยนะ
TBC
ถึงจะมีร่มแต่ก็เป็นได้แค่พี่ชายนะคะ5555555555555คุณเสื้อกันฝนของพวกเรามีหวังแล้ววววววววววว
แต่ก็ไม่รู้นะคะ คึคึ แค่พี่ชายจริงๆหรือเปล่านะน้องกิ กิๆๆๆ
เราหายไปนานนนนนนนนนนนนนนมาก ขอโทษนะคะ ปรับตัวมหาลัยนิดหน่อย....จริงๆก็ไม่นิดแหะ555555 จะพยายามมาต่อนะคะ เวลาไม่มีเลย เรียนก็ยาก แง้ๆๆๆๆๆๆ ฮรึบบบ เป็นกำลังใจให้ซูชริ๊กับคุณเสื้อกันฝนด้วยน้า ถ้ายังมีคนอ่านก็เม้นต์บอกกันหน่อยน้า หายไปนานจนคนอ่านลืมหมดแล้วแน่เลย55555 ฝากด้วยนะคะ เลิ้บ #ฟิคเรนโค้ท
แต๊งกิ้วน้องเบลน้าา พรูฟมาให้ทุกตอนเลย น่ารักมั่กๆๆๆ
ความคิดเห็น