คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : レインコート 12
レインコート
`raincoat
12
ยุนกิยังคงกระวนกระวายเพราะจีมินยังไม่มาเสียที
– เพราะนั่นคือพัคจีมินไม่ใช่จองโฮซอกเสียหน่อยถึงจะได้มาสาย
ครั้งล่าสุดที่จีมินมาสาย เขาไปตามที่บ้าน น้องชายตัวดีของเพื่อนรักเอารองเท้าของจีมินทุกคู่ไปซ่อน
"ทำไมยังไม่มาเนี่ย" ยุนกิบ่นอุบอิบ เขาไม่ได้หงุดหงิด
มันน่ากังวลมากกว่า แต่จะให้เขาออกไปหาตอนนี้เลยก็ไม่ได้อีก เขาเลยได้แต่ยืนพิงผนัง
แขนทั้งสองข้างกอดอก ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นวางยันผนังไว้ด้วย
ขณะปากคอยบ่นออกมาเป็นระยะ "นี่มันนานแล้วนะ"
"เอาน่า ใจเย็น ๆ สิ อาจจะเป็นเพราะวันนี้ฝนตก"
กีฮยอนที่นั่งกอดชิไนอยู่บนพื้นเอ่ย ยุนกิกระแทกลมหายใจออก
เขายอมพยักหน้าไปให้กีฮยอน
"เราต้องทำอะไรต่อเหรอครับ" ชานอูถามขึ้น
นักกีฬาที่มารายงานตัวทั้งหมดเปลี่ยนเป็นใส่ชุดกีฮากาม่าเรียบร้อยแล้วและกำลังนั่งกันอยู่เป็นกลุ่ม
ๆ
"แข่งไง โค้ชจะดูความสามารถของนายจากการแข่งน่ะ" ยุนกิตอบ
"ที่ว่าจะให้ฉันเล่นเดี่ยวมันก็ไม่แน่ว่าจะเป็นแบบนั้นหรอก"
"แต่จะบอกอะไรไว้ให้นะ โรงฝึกเราน่ะเจ๋งสุดแล้ว" กีฮยอนเอียงตัวไปกระซิบบอกชานอู
คนเป็นรุ่นน้องขำออกมาเล็กน้อย แทฮยองกับจองกุกยิ้มกว้าง – ที่ได้ยินมามันก็เป็นแบบนั้นจริง
ๆ มีเพียงยุนกิที่ทำหน้างอ
"งั้นฉันคงเป็นจุดบอด" ยุนกิทำน้ำเสียงแดกดัน
แทฮยองรีบส่ายหน้าไปให้ในขณะที่กีฮยอนหัวเราะออกมาเสียงดัง
"แกมันชอบโดดซ้อม"
"ตอนนี้ก็ไม่โดดแล้วไง!!" ยุนกิหันไปตวาดใส่แต่กีฮยอนยังคงยิ้มร่า
"แบบว่า... มันเป็นภาพลักษณ์ติดตัวนาย"
น้ำเสียงแสดงความหยอกล้อออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"คิดว่าฉันแคร์หรือไง"
"ใช่ – นายโคตรจะแคร์" กีฮยอนตอบมันในทันที
รุ่นน้องจากโรงฝึกได้แต่นั่งตัวเกร็งมองรุ่นพี่ทั้งสองเถียงกัน
"ไม่!!"
"เอาเลย ตามสบาย แล้วแต่มินยุนกิจะแก้ตัวเลย"
น้ำเสียงยังฟังดูยียวน แทฮยองสาบานได้เขาเห็นอาการคล้าย ๆ กับว่าขาของยุนกิจะกระตุก
ถ้าที่นี่เป็นโรงฝึกของลุงตนเอง เชื่อได้เลยว่าขานั่นจะไม่ได้แค่กระตุกแต่มันจะเหยียดออกไปเตะกีฮยอนเลยแหละ
วีรกรรมมินยุนกิขึ้นชื่อจะตายไป ก่อนที่แทฮยองจะรู้จักยุนกิเขาก็คิดว่ายุนกิเป็นหลานเจ้าของโรงฝึกที่ถูกจับมาเล่นอย่างไม่เต็มใจ
ที่ได้แข่งในสนามใหญ่ ๆ ก็เพราะเส้นสาย แต่พอได้รู้จัก เขาถึงได้รู้ว่าที่ได้ยินมานั้นไม่จริงเลย
ถึงยุนกิดูเหมือนจะจำใจเล่น แต่ความจริงแล้ว ลึก ๆ ยุนกิพยายามจะทำมันให้ได้ดีมาตลอด
และมาช่วงหลัง ๆ นี้ยุนกิเล่นดีขึ้นมาก อาจจะเพราะเริ่มเห็นความสำคัญ
พอโตแล้วยุนกิคงคิดว่าอนาคตไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
แต่แน่นอนว่ายุนกิมีความหัวดื้อหัวรั้นสูงอยู่แล้ว ปากเจ้าตัวยังบอกอยู่ปาว ๆ
นั่นแหละว่าไม่อยากเล่นเคนโด้ แถมยังมีความกังวลกับสิ่งที่โดนว่ามาตลอดว่าเล่นไม่เก่ง
จนยุนกิอาจจะคิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่งเข้าจริง ๆ และคิดว่ามันยาก
แล้วจากที่แทฮยองเห็น เขาคิดว่ายุนกิกำลังลังเลใจ
"มาจับฉลากได้แล้ว" เสียงโค้ชคนหนึ่งประกาศ
พวกเขาทุกคนจึงลุกเดินไปต่อแถวจับเอากระดาษที่พับอยู่มาคนละชิ้น "พวกนายจะต้องแข่งสองครั้งก่อน
– คนที่พวกนายจับชื่อได้ กับคนที่จับได้ชื่อพวกนาย เข้าใจใช่ไหม"
เสียงขานรับดังก้อง
โรงฝึกถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนสำหรับผู้หญิงฟากหนึ่งและผู้ชายอีกฟาก
ยุนกิแกะกระดาษออกมาดูชื่อด้วยท่าทางไร้ความกระตือรือร้นก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไปจนจองกุกที่หันมาเห็นพอดีต้องแปลกใจ
"พี่ทำหน้าเหมือนเห็นผี" จองกุกว่า
ยุนกิรีบส่ายหน้าไปให้ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ไม่ใช่ – แค่แทฮยอง"
"ผมเหรอ" แทฮยองที่ได้ยินชื่อตนเองก็ถามขึ้นอย่างฉงน
ยุนกิหันมามองเขาตาเขียวปั๊ดจนเขาอดตกใจไม่ได้ นี่ไปทำอะไรให้ไม่ถูกใจอีกนะ
"ชื่อนายไง – ฉันต้องแข่งกับนาย"
แน่นอนว่ายุนกิทำหน้าเหมือนทุกครั้งที่โดนซอกจินเรียกให้เป็นแข่งกับแทฮยอง
แทฮยองไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย – เขารู้สึกว่ามันเป็นปัญหาโลกแตกพอ
ๆ กับที่ยุนกิคงกำลังรู้สึก คนผิวขาวกอดอกเดินดุ่ม ๆ แยกไปจากแทฮยองแล้ว เขารู้ว่ายุนกิกำลังเครียด
การที่ซอกจินบอกให้ยุนกิแข่งประเภทเดี่ยวไม่ได้แปลว่ายุนกิจะได้เล่นเดี่ยว
แต่มันคือโจทย์ – โจทย์ที่ยุนกิต้องทำให้ได้
ยุนกิไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง ยิ่งเมื่อตอนนี้ตัวเขาเริ่มหวังเองแล้ว
มือเขานั้นไม่กล้าปล่อยชิไนตามที่แทฮยองว่า แต่มันช่างกดดันเหลือเกิน...
เขาเกลียดความรู้สึกสิ้นหวังของตนเองพอ ๆ
กับที่เกลียดความคาดหวังของคนอื่น – ลามไปถึงตัวเขาเองด้วยในตอนนี้
มันจำเป็นที่จะต้องซ้อมหนักแต่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอเขาไว้
คำพูดที่เคยพูดมาตลอดว่าไม่อยากเล่นเคนโด้
แย่จริง ๆ
ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ จีมินก็เข้ามาในโรงฝึกพอดี
ถึงจะแก้ไขสถานการณ์ไม่ได้แต่ก็ทำให้ยุนกิเบาใจไปอย่างหนึ่ง
ร่างเล็กในชุดเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสามส่วนนั่งลงที่พื้นข้าง ๆ โต๊ะที่ใช้รับเอกสารนักกีฬาที่ตอนนี้ไม่มีคนนั่งประจำแล้ว
"คิมแทฮยอง มินยุนกิ – สนามที่สอง"
เสียงตะโกนเรียกดังขึ้น จองกุกตบไหล่เป็นเชิงให้กำลังใจ เขารู้ว่าแทฮยองไม่ได้อยากชนะยุนกิ
แต่การจะอ่อนให้มันก็เป็นการดูถูกกัน ซึ่งแน่นอนว่ายุนกิไม่มีทางชอบ
ทั้งแทฮยองและยุนกิต่างไปที่ข้างสนามคนละฝั่ง
นั่งใส่โบกุกันให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปตรงกลางสนาม
"ยุนกิที่เป็นหลานคุณโซฮยอกใช่ไหม" คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินถามถึงลุงของยุนกิ
แทฮยองพยายามมองสีหน้าของยุนกิที่มีเม็งบังอยู่
ช้ากว่าที่ยุนกิควรจะตอบไปแต่สุดท้ายยุนกิก็ตอบไปเบา ๆ
"ครับ..."
ยุนกิอยากเป็นใครก็ได้ในตอนนี้ที่ไม่ใช่มินยุนกิ เขากำชิไนแน่นขึ้น แต่มันก็เป็นเรื่องที่ตัวเขารู้ดีอยู่แล้วว่าเขาจะต้องแพ้แทฮยอง
ในเมื่อแทฮยองจับจุดเขาได้ทุกอย่าง
หรือต้องเปลี่ยนวิธีเล่น
ความคิดในหัวของยุนกิยังคงแล่นอยู่ในสมองแม้ในตอนที่ย่อกายให้กันเรียบร้อยและเข้าสู่การแข่งขัน
ยุนกิขยับเท้าไปทางซ้าย เขาระวังการเคลื่อนไหวมากกว่าทุกครั้งที่เล่นกับแทฮยอง
ช่วงปลายของชิไนกระทบกันเป็นการหยั่งเชิงก่อนที่ยุนกิจะตบเท้าไปข้างหน้าแล้วเงื้อชิไนขึ้นฟาด
"เม็ง!"
ปั๊ก
แทฮยองยกชิไนของตนมากันไว้ได้
ทั้งคู่โดดถอยหลังแยกจากกันก่อนที่จะอ้าปากร้องออกมาแล้ววิ่งเข้าหากันอีกหน
ปั๊กปั๊ก
"ย๊า!!" ยุนกิออกแรงที่แขนเพื่อดันให้แทฮยองออกไปแต่อีกคนกลับกดชิไนมาด้วยแรงที่มากกว่า
แทฮยองมองดวงตาฉายแววแข็งกร้าวของยุนกิ
"ทำให้เต็มที่ก็พอครับ" เขากระซิบออกมาเบาๆ
พอให้ได้ยินกันสองคน ยุนกิถลึงตาใส่
เขาอยากจะตะโกนออกไปใส่อีกคนเหลือเกินว่าอย่ามาสั่งสอนเขา แต่ที่นี่เขาทำตามใจตนเองไม่ได้
ด้วยความที่เล่นมานานยุนกิจึงสามารถคาดเดาเวลาในสนามได้คร่าว ๆ
ครั้งนี้เล่นสามนาที ถ้าโชคดีหน่อยเขาคงไม่แพ้แทฮยองสองแต้มก่อนเวลาหมด
สำหรับเขาแล้วสามหรือห้านาทีในสนามเคนโด้ไม่เคยน้อย
พลาดก็พลาดไปเพียงไม่กี่วินาที ในการจะได้แต้มนั้นก็ใช้โอกาสไม่กี่วินาทีเช่นเดียวกัน
ยุนกิกำด้ามชิไนแน่นจนรู้สึกเจ็บที่แผล มันแห้งไปค่อนข้างมาก
ไม่ได้เป็นสีออกม่วง ๆ หรือมีอาการบวมอะไรแล้ว
ถึงอย่างนั้นมันก็ยังน่ารำคาญใจสำหรับการจับชิไนอยู่ดี
ปั๊ก..!
"โคเทะ" คราวนี้เป็นแทฮยองที่แทบจะวิ่งเข้ามาใส่บ้าง
ร่างสูงเงื้อชิไนลงแล้วพยายามจะฟาดไปที่เกราะตรงข้อมือของยุนกิเพื่อทำแต้ม
แต่ยุนกิก็ยังหลบได้ คนตัวเล็กกว่าเบี่ยงมือทั้งสองไปทางซ้ายก่อนจะเหวี่ยงชิไนกลับมาเพื่อปัดที่ชิไนของแทฮยองที่ยังหมายฟาดมาที่ข้อมือเขาอีก
มันไม่ได้ยากเย็นหรือต้องใช้แรงเยอะ แทฮยองไม่ได้ฟาดลงมาแรงแบบหวังจะให้เขาเจ็บข้อมือ
ที่แทฮยองตั้งใจไว้ก็แค่จะให้เกิดเสียงพอให้ได้แต้มตามการแข่งเท่านั้น
ยุนกิเองก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีหรือรู้สึกแย่ แทฮยองไม่ได้จงใจอ่อนให้ก็จริง
เขายังเดินหน้าพยายามทำแต้มตามปกติ แต่การที่ไม่จงใจจะฟาดมาแรง ๆ
ก็มีผลที่จะทำให้ยุนกิปัดป้องได้ง่ายขึ้น
ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าห่วงเสียหน่อย ยุนกิน่ะเคยชินกับการแข่งจริง ๆ จัง
ๆ จะตาย เคยโดนฟาดเต็มแรงมาที่ไหล่จนยกแขนแทบไม่ขึ้นมาแล้วด้วยซ้ำ
นึกรำคาญเส้นผมสีส้มคล้ายสนิมที่ลงมาระถึงดวงตาเพราะไม่เก็บไปใต้ผ้าที่โพกศีรษะให้ดีขึ้นมา
เขาพยายามเพ่งมองเพื่อหาช่องว่างในการทำแต้ม
ไม่ใช่เพื่อการที่จะฟาดแทฮยองให้หายหมั่นไส้เหมือนทุกครั้ง ยุนกิงัดชิไนปะทะกันอยู่หลังจากที่อีกฝ่ายหมายจะฟาดไปที่โคเทะอีกหนขึ้น
นั่นแหละ... แล้วเดี๋ยวแทฮยองจะต้องก้าวถอยหลังไปตั้งตัวใหม่ก่อนจะโจมตีต่อ
ยุนกิคาดไว้จากที่แทฮยองทำบ่อย ๆ
อย่างน้อยก็ต้องวิ่งถอยหลังแยกไปมากกว่าสามก้าวสั้น ๆ
"ย๊า!!" ยุนกิร้องออกมาหลังจากร่างสูงถอยหลังไปได้เพียงสองก้าว
เขายอมทุ่มสุดตัว – นี่เป็นช่องว่างเดียวที่เขาเห็นในตอนนี้ ยุนกิใช้ปลายเท้ายันพื้นเป็นแรงถีบส่งตัวให้พุ่งไปข้างหน้า
สายตาจับจ้องไปที่เกราะซึ่งบังช่วงคอของแทฮยองไว้อย่างแน่วแน่ เขายกชิไนขึ้น
แทงไปที่จุดรูปตัวเอ็กซ์บนเกราะส่วนคอหอยซึ่งเป็นอีกจุดที่สามารถทำแต้มได้ "—
ทสึกิ!"
แต่ก่อนที่ปลายชิไนจะโดนจุดทำคะแนนเต็ม ๆ
ความคิดวูบหนึ่งโผล่ขึ้นมาในสมอง ชั่ววินาทีเดียวเท่านั้น แต่ยุนกิก็ลังเล
ทสึกิ– ตำแหน่งคอหอยเชียวนะ
ถ้าพลาดล่ะ...
ถ้าโดนเต็ม ๆ ขึ้นมา มันจะอันตรายหรือเปล่า แทฮยองจะเป็นอันตรายไหม..?
ไม่มีเวลาให้ยุนกิคิด มันเป็นแค่ความคิดที่แว่บขึ้นมาในสมอง
แล้วเขาก็เลือกที่จะเบี่ยงปลายชิไนจากส่วนที่เล็งไว้
ปั๊ก..!
ไม่แน่ใจว่าโดนพอดีที่จะได้แต้มหรือเปล่า
ยุนกิยกแขนชูชิไนขึ้นแล้วเบี่ยงตัววิ่งเลยแทฮยองออกมาก่อนจะทิ้งตัวล้มลงนั่ง
มันเป็นธรรมดาที่จะต้องล้มหลังจากทำแต้ม แต่นี่เพราะเขาพยายามไม่ให้โดนแทฮยองเต็มแรง
เลยกลายเป็นว่าตอนที่ถลาวิ่งเลยแทฮยองออกมานั้น เขาเสียหลักไปหน่อย
"ได้แต้มไหมครับ"
เสียงตะโกนจากคนที่ดูอยู่ข้างสนามตะโกนถามเข้ามา ยุนกิเงยหน้าไปมองผู้ตัดสินทั้ง ๆ
ที่ยังนั่งอยู่ ริมฝีปากสีสดเม้มแน่นด้วยความเจ็บ – บ้าจริง ๆ
พลาดเอาเข่าลงก่อนจะหงายตัวลงไปนั่งได้ยังไงนะยุนกิ
ในการแข่งขันจริง ๆ จะมีผู้ตัดสินถึงสามคนในสนาม
หากตัดสินสองในสามยกธงให้ฝ่ายใดฝ่ายนั้นจะได้คะแนน
แต่ในการทดสอบของพวกเขามีเพียงแค่คนเดียว
"เหมือนมันจะไม่โดนตรงกลางทสึกิเต็ม ๆ" เขาพึมพำออกมา
ยุนกิผ่อนลมหายใจอย่างนึกปลง ก็เขาเลี่ยงออกมาเองนี่ "แต่มันก็น่าจะได้แต้ม"
โดยทั่วไปการทำแต้มที่ทสึกิไม่น่าห่วงแม้จะเป็นจุดที่อันตรายอยู่พอตัว
แต่นี่ระยะมันใกล้เกินไป แรงก็ยิ่งมาก – มีโอกาสถึงตายเลยด้วยซ้ำ
เขาเองก็เคยโดนไปหลายครั้ง
หนักสุดคือหลังจากโดนแรงกระทุ้งที่ทสึกิไปเต็ม ๆ ก็ทำเอานั่งไอโขลกใหญ่จนหน้าแดง
เอ่อ... แต่พอคิดไปคิดมาแรงของเขามันก็ไม่น่าทำให้ถึงตายนะ...
"ชิท" ยุนกิพึมพำอย่างแผ่วเบา
– ก็เมื่อกี้มันเป็นห่วงนี่หว่า
"ยุนกิได้แต้ม"
สุดท้ายผู้ตัดสินก็ตัดสินใจชูธงสีแดงซึ่งเป็นของยุนกิขึ้น
คนตัวขาวยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืน จะยังไงก็ช่างมันเถอะ
อย่างน้อยเขาก็ได้แต้มแล้ว ขอแค่อีกแต้มเดียวหรือเวลาครบสามนาทีก่อนเขาก็ชนะแล้ว
เขากลับไปยืนตรงจุดของตัวเอง
เผชิญหน้ากับแทฮยองอีกครั้งแล้วตั้งชิไนขึ้น
แอบลองคิดดูว่าที่ทำแต้มได้เมื่อครู่แทฮยองจะชมเขาไหม แต่ก็คงไม่หรอกมั้ง...
ก็เราแข่งกันอยู่นี่
เวลาผ่านมาเกินครึ่งแล้ว ยุนกิหายใจเข้าทางปากช้า ๆ ถึงเวลาจะเหลือน้อยแต่ก็เหลือมากพอที่จะทำให้พลาด
แกร๊ก – ปั๊ก!
พอเริ่ม พวกเขาก็เอาชิไนปัดกันทันทียุนกิเป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปก่อนแล้วเงื้อชิไนขึ้นแล้วออกแรงฟาดไปกลางศีรษะอีกคน
"เม็ง!!" ยุนกิตะโกน แต่แทฮยองออกแรงไปที่โคนดาบของยุนกิ ผลักชิไนไม่ให้ฟาดมาเต็ม
ๆ แล้วเหวี่ยงแขนออกไปบ้าง
กึก
ชิไนฟาดไปที่หน้ากากของเม็ง ยุนกิเงยหน้าหลบไปได้ พวกเขาได้ยินเสียงของคนที่ดูอยู่ข้างสนามบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
ยุนกิเคยชินจนเลิกที่จะไปหงุดหงิดกับมันมาตั้งนานแล้ว
"ย๊า!" ทั้งคู่วิ่งเอาชิไนมาปะทะกันอีก ยุนกิกำด้ามดาบแน่น
เจ็บแผลที่มือเป็นบ้าแต่เขาก็ยังออกแรงจับชิไนดันอีกฝ่ายออก เขาหลับตาลงร้อง ย้าก
ออกมาเสียงดังลั่นพร้อมกับออกแรงมากขึ้นไปอีกจนแทฮยองเซไปด้านหลังเล็กน้อย
แต่ร่างสูงก็ยังออกแรงที่มากกว่าโต้มา
ไอ้แรงควายเอ๊ย!!
แล้วก็ – บัดซบ เขาเจ็บแผลที่มือจนแทบชา แถมแรงแขนก็น้อยกว่า
เขาเป็นพวกถนัดตีแล้ววิ่งมากกว่ามาปะทะแรงตรง ๆ แบบนี้
นี่แหละที่เรียกว่าพลาด
แรงเขาหมดลงดื้อ ๆ โดยที่แทฮยองไม่ทันตั้งตัวยุนกิก็เลิกออกแรง
ส่งผลให้คนที่หยุดแรงไว้ไม่ทันอย่างแทฮยองดันเอายุนกิล้มหงายหลังไป
"พี่ครับ!" แทฮยองร้องออกมาอย่างตกใจ แต่ยุนกิก็รีบลุกขึ้น
ผู้ตัดสินเดินมาดูอาการ
"เออ ๆ"
เขาเอ่ยเสียงงึมงำไปให้แทฮยองก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ผู้ตัดสินเป็นเชิงว่าแข่งต่อได้ไม่มีปัญหา
ขณะที่เดินไปที่จุดเริ่ม ยุนกิปล่อยมือซ้ายออกมาสะบัดบรรเทาความเจ็บ "อู้ย – แสบ ๆ"
แทฮยองมองอยู่ เขานึกเป็นห่วงแผลนั่นขึ้นมา
เขาเป็นคนทำแผลเองทำไมจะไม่รู้ว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน
นี่ก็ยังผ่านมาแค่ไม่กี่วันแถมยุนกิก็ยังใช้มือนั่นแทบทุกวัน
เขาคิดว่าอีกไม่ถึงหนึ่งนาทีคงหมดเวลาแล้ว
แทฮยองพยายามตั้งสมาธิให้อยู่กับการแข่ง เขาเองก็ต้องพยายามทำแต้มเหมือนกัน จะให้ยอมแพ้มันก็คงเป็นการดูถูกอีกฝ่ายเกินไปหน่อย
"เม็ง" แทฮยองกระโดดเข้าไปแล้วฟาดชิไนในขณะที่ยุนกิก็ก้มตัวลงพุ่งมาที่ข้างลำตัวของเขาและเหวี่ยงชิไน
แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่โดนจุดที่ได้แต้ม
ยุนกิรีบหมุนตัวกลับมาแล้วรัวฟาดชิไนใส่อีกคน แทฮยองถอยหลังไปเรื่อย ๆ
ร่างสูงเหลือบมองเส้นขอบสนาม
พอรู้ว่าถอยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วเขาจึงยันชิไนไปแล้วออกแรงผลัก
"โอ๊ย" ยุนกิร้องออกมา
เขาถอยหลังเสียหลักออกมาในขณะที่แทฮยงวิ่งเข้าหาพร้อมกับเงื้อชิไนขึ้น – เปลี่ยนเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียอย่างนั้น
ยุนกิขบกรามแน่น ออกแรงยันตัวให้ถอยออกมาจึงทำให้ชิไนโดนแค่ส่วนหน้ากาก
ไม่เสียแต้ม...
เขาเอ่ยชมตนเองเบา ๆ ถ้าชนะแทฮยองได้ พี่ซอกจินอาจจะชมเขา
พี่เขาจะรู้ไหมว่ายุนกิอยากฟังคำชมมากกว่า
แม้ถ้อยคำที่ซอกจินติเขาก็เพื่อให้เขาพัฒนาตนเองขึ้นก็เถอะ
ตอนทำทสึกิซอกจินได้มองอยู่หรือเปล่า
พี่จิน...
ยุนกิถอยออกมาแล้วเพ่งหาช่องว่าง
แต่สายตาเจ้ากรรมก็โดนเหลือบไปมองเห็นคิมซอกจินที่ยืนกดดูอยู่ – เหมือนครั้งสุดท้ายที่เขาแพ้แทฮยอง
แล้วความกดดันมากมหาศาลหล่นทับเขา...
สีหน้าของซอกจินเรียบเฉย
จนยุนกิรู้สึกลนลาน ไม่มีเวลาให้คิดมากในสนามเคนโด้ เขาภาวนาให้เวลาหมดลง
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างดูรวดเร็วไปหมดโดยเฉพาะแทฮยอง
กว่าจะตั้งสติรับชิไนที่แทฮยองหวดมาตรงข้อมือ – ทุกอย่างเร็ว เว้นแต่เขา มินยุนกิช้าไป
"โคเทะ!!"
"แทฮยองได้แต้ม" เสียงผู้ตัดสินดังขึ้น แทนที่ยุนกิจะรู้สึกเสียดายที่เสียแต้มไป
เขากลับหันไปมองซอกจิน อีกฝ่ายคงไม่รู้ว่าเขามองอยู่ ร่างสูงส่ายหน้าหน่าย ๆ
ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนที่เป็นโค้ชด้วยกัน
เขารู้สึกแย่... มันไม่ดีเลยจริง ๆ
น่าผิดหวัง—เขารู้ว่าซอกจินจะคิดอย่างไร
แม้ตัวเขาเองยังผิดหวังเลย...
"หมดเวลา– เสมอ" เสียงของผู้ตัดสินดังขึ้น
ยุนกิหยุดปลายเท้าที่กำลังจะเดินไปที่จุดของตนก่อนจะเดินไปต่อ
เขาเผชิญหน้ากับแทฮยองอีกครั้ง ยกชิไนขึ้น
ต่างฝ่ายต่างย่อให้กันแล้วจึงเก็บชิไนมาข้างตัวก่อนจะเดินแยกกันไปคนละฝั่งของสนาม
TBC
ทอล์กกกก : หายไปนานนนนนนนนนมากฮะ ขอใช้สิทธิ์เฟรชชี่ในการอัพช้าค่ะ เหนื่อยมาก เหนื่อยโฮก 555555 ก็... เอาเป็นว่าเราจะอัพช้าขึ้นนะคะ ขออภัยด้วยงับ คงต้องใช้เวลาสักพัก เรียนเช้าทุกวันด้วย โง้ยยยยยยยยยยย
ต้องการพลังงานและกำลังใจฮะ เมนต์โหน่ยยยยยยยยยย กำลังใจสำคัญนะฮับ ฮรึก อ่อออ แท็กที่เราสุ่มส่องเสมอ #ฟิคเรนโค้ท ฮี่ๆ คุณซูชริ๊ขอลาาา บะบายฮับ
ความคิดเห็น