ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรซ่อนพยัคฆ์ ตอน ปฐมบทแห่งมังกร

    ลำดับตอนที่ #7 : ผลกระทบที่คาดไม่ถึง

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 51


    1)           ผลกระทบที่คาดไม่ถึง

     

    มีดในมือจ้วงแทงเล้งอย่างไม่ยั้ง แต่มันก็หาได้ทำอันตรายเล้งได้ ตรงกันข้ามคนที่ถูกไล่แทงกลับสวนกลับด้วยอาวุธทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก จนคนไล่แทงออกอาการสะบัคสะบอม

    ฮันมองเล้งอย่างแค้นใจ ไอ้บ้านี่มันเป็นใคร ทำไมฝีมือมันถึงได้ดีอย่างนี้

    จากสภาพที่เห็นเล้งบอกกับตัวเองว่าฮันคงไม่สู้กับเค้าต่ออีกเป็นแน่ ลูกน้องสองคนของฮันกำลังตรงเข้าประครองปีกลูกพี่ให้ลุกขึ้นจากพื้น 

    กลับไปบอกลูกพี่ลื้อด้วยว่า ต่อไปนี้ที่นี่จะไม่จ่ายค่าคุ้มครองอีกแล้ว

    เล้งประกาศกร้าว  

     

    เฮ้ย... เบาๆ หน่อยซิโว้ย เจ็บนะโว้ย หนังคนนะโว้ยไม่ใช่หนังควาย

    ชิวร้องขึ้นเสียงเมื่อเล้งที่นวดน้ำมันให้กดที่รอยช้ำ

    ก็แส่หาเรื่องไม่เข้าท่า

    ใครหาเรื่อง ชิวว่าเสียงหลง นี่อั๊วอุตส่าห์ช่วยลื้อนะเนี่ย

    เล้งอมยิ้มขำเพื่อน

    เฮียไม่น่าไปตอแยกับพวกมันเลย เหมยเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี  

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหล่อนเป็นกังวล เพราะคนที่มีเรื่องด้วยเป็นคนของพรรคธงแดง

    แล้วจะให้พวกมันมาขูดรีดขูดเนื้อกับพวกเราแบบนี้อย่างงั้นเหรอ

    ก็แค่พันเดียวจ่ายๆ ไปก็หมดเรื่อง

    ไปยอมมันได้ยังไง ไอ้พวกนี้มันพอซะที่ไหน ได้คืบมันจะเอาศอก ถ้ามีขอสองพันก็ต้องให้มันอย่างนั้นเหรอ

    แต่อั๊วว่า ลื้อน่าจะจ่ายๆ พวกมันไปเหมือนอย่างที่อาเหมยว่า

    ชิวเสริมมาอีกคน

    ทำไมต้องกลัวมันด้วย  มันใหญ่มาจากไหนกัน

    ก็นั้นมันไอ้ฮัน ลูกน้อง หลง ท่าอิญ หัวหน้าแก็งค์เสือขาว น้องชาย เล่าต๋า หัวหน้าธงแดง  หนึ่งในสามเจ้าพ่อใหญ่ไตรภาคีเชียวนะโว้ย

    เหมยล่ะกลัวจริงๆ เกิดมันเอาเรื่องขึ้นมา หญิงสาวบอกอย่างหวั่นใจ  

    มันเอาแน่ ชิวบอก

    ไม่ต้องกลัว... ถ้ามันกล้ามาหาเรื่องก็ลองกับมันสักตั้ง บ้านเมืองมีขื่อมีแปร มันจะกล้าอยู่เหนือกฏหมายก็ให้มันรู้ไปเล้งบอกอย่างไม่กลัว  

    แต่นั่นกับยิ่งทำให้เหมยหนักใจ

     

    หลีหลงออกอาการไม่พอใจ เมื่อเห็นสภาพลูกน้องที่สะบักสะบอมกับมา

    พวกลื้อมันเลี้ยงเปลืองข้าวสุก ไปกันเป็นฝูง กับอีแค่คนๆเดียวยังสู้ไม่ได้

    หลงตวาดใส่ลูกน้องเสียงเขียว

    แต่มันไม่ธรรรมดานะเฮีย ฮันว่า

    ก็ไหนพวกลื้อบอกว่ามันเป็นแค่หลงจู้โรงสีไง

    ใช่ครับ แต่...

    ยังไม่ทันที่ฮันจะแก้ตัว หลงก็สวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

    ไม่มีแต่โว้ย  ถ้าพวกลื้อแก้หน้าคืนไม่ได้ไม่ต้องกลับมาให้อั๊วเห็นหน้าอีก

    หลงยืนคำขาด... หากไม่เอาคืนรู้ไปถึงไหน อายเค้าถึงนั่น 

     

    เล้งกำลังยืนคุมคนงานขนข้าวลงจากรถเมื่อส่งข้าวให้ลูกค้าขายส่งรายใหญ่รายหนึ่งที่อยู่ท้ายตลาด เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนร่วมสาบานตะโกนเรียกดังมาแต่ไกล

    อาเล้งๆ  อาเล้งโว้ย

    เมื่อหันมองก็เห็นหน้าตื่นๆ ของที่วิ่งเข้ามา

    อะไร

    ชิวหยุดหอบ... พูดไม่ออก เพราะวิ่งมาใกล้  

    เดี๋ยว... เหนื่อยพูดไม่ออก  ก่อนจะรีบบอกเมื่ออาการทุเลา เกิดเรื่องใหญ่แล้วไอ้เล้ง

    เรื่องอะไร

    ก็ไอ้หลงลูกพี่ไอ้ฮันมันประกาศว่า ถ้าไอ้ฮันแก้หน้าเอาคืนลื้อไม่ได้จะถูกเล่นงาน

    เล้งได้ยินตกใจ

    ลื้อรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไร   

    เมื่อกี้นี่เอง  

    โดยไม่ต้องพูดอะไรอีก เล้งรีบออกวิ่งในทันที  

    เฮ้ย... จะไปไหน

    กลับบ้าน เหมยอยู่บ้านคนเดียว

     

    และในเวลาเดียวกันนั้นเองที่โรงสี  เด็กหญิงกำลังเล่นตังเตอยู่กับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่ลานหน้าโรงสีเพราะเป็นช่วงปิดเทอมจึงไม่ต้องไปโรงเรียน  แต่ทั้งกลุ่มมีอันต้องหยุดการละเล่นที่กำลังเล่นอยู่นั้น เมื่ออยู่ๆ ก็มีรถคนหนึ่งแล่นเลี้ยวเข้ามาในลานกว้างของโรงสี

    เด็กหญิงจำเจ้าคนที่นั่งมาข้างหน้าได้ดี

    มันคือคนที่ถูกพี่เขยของเจ้าหล่อนเล่นงานไปเมื่อสองวันก่อน

    เด็กหญิงรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านเพื่อบอกกับคนเป็นพี่สาว 

    เจ๊... เจ๊  ๆๆๆๆ

    เหมยที่กำลังเลี้ยงลูกชายหันมองเมื่อคนเป็นน้องสาววิ่งตะโกนเสียงดังเข้าไป

    เบาๆ  น้องนอนอยู่

    ไอ้คนวันนั้น มันมาอีกแล้ว

    คนวันไหน

    คนที่ชกกับเฮียเล้งวันไหว้เจ้าไง

    ประโยคหลังของน้องสาว  เรียกให้เหมยสำเนียกถึงอันตราย

    เฮียกับคนงานส่วนใหญ่ไม่อยู่ด้วย

     

    จากช่องหน้าต่าง ภาพที่เหมยเห็นอยู่ตรงหน้าคือ ภาพของฮันกับลูกน้องที่พร้อมอาวุธครบมือกำลังไล่ตะเบิดบรรดาคนงานที่ท่าน้ำกับในโรงสีให้ออกไป

    ใครไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง ถอยไป

    ฮันประกาศกร้าว

    ปิดบ้านเร็ว 

    หญิงสาวออกคำสั่งคนเป็นน้องสาว  เด็กหญิงรีบทำตามวิ่งไปปิดประตูใหญ่  มันทันเวลาก่อนที่ฮันและพวกจะปรี่เข้ามาที่ตึก

    พวกมันพยายามจะพังประตูเข้ามา แต่ไม่สามารถทำได้

    ประตูไม้บานใหญ่สองบานที่ลั่นดานแข็งแรงเกินกว่าพวกมันจะพังเข้ามาได้

    หน้าต่างที่ติดลูกกรงเหล็กทุกบานทำให้พวกมันไม่สามารถผ่านเข้ามาในตึกได้

    เฮ้ย...เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ

    มันร้องขู่เข้ามา

    เฮ้ยเปิดประตูเดี๋ยวนี้  แน่จริงหมุดหัวอยู่ในบ้านทำไมล่ะ เปิดประตูซิโว้ย  ไม่แน่จริงนี่หว่า  หดหัวอยู่ในบ้านทำไมว่ะ

    พี่ไอ้หลงจู้คนนั้น มันไม่อยู่ อยู่แต่เมียมัน ลูกน้องคนหนึ่งที่เพิ่งผละจากคนงานเดินเข้ามารายงาน  

    หรือ...

    เมื่อนั้นเองที่รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮัน

    มันกำลังคิดแผนบางอย่างอยู่ในใจ 

     

    อีกด้านหนึ่งภายในบ้าน  เหมยที่มือหนึ่งอุ้มลูกชาย มือหนึ่งจูงน้องสาวเอาไว้ เงี่ยหูฟังด้วยความแปลกใจ เมื่อเสียงภายนอกที่อึกกระทึกอยู่เมื่อครู่เงียบหายไป

    เหมยที่ขยับเท้าจะย่องออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก ต้องชะงักเมื่อถูกน้องสาวที่กำลังตื่นกลัวรั้งแขนเอาไว้

    เจ๊จะไปไหน เด็กหญิงถามขึ้นเสียงสั่นเครือ  

    คอยอยู่นี่นะ เจ๊จะไปดูว่าพวกมันไปกันหรือยัง

    คนเป็นพี่สาวบอก... เด็กหญิงจึงค่อยๆ ปล่อยมือที่เกาะกุมมือพี่สาวเอาไว้

    เหมยค่อยๆ ย่องเข้าหาช่องหน้าต่างที่ยังเปิดค้างไว้  

    หากพอจะถึงเจ้าหล่อนก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่ออยู่ไม่อยู่ คบไฟอันหนึ่งก็ทิ่มพรวดเข้ามาเกือบโดนหน้าเจ้าหล่อน

    เหมยรีบผงะถอยกลับเข้ามายังจุดเดิมที่เธออยู่ก่อนหน้านี้  

    ว่าไงจ๊ะคนสวย ปิดบ้านอยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอจ๊ะ

    มันเป็นเสียงของฮันที่โผล่หน้ามาทางช่องหน้าต่าง มันแสยะยิ้มให้หญิงสาว

    เหมยรีบดันน้องสาวถอยหลังไปจนชิดผนังด้านที่อยู่ตรงข้ามกับมัน  

    อ้าว...นึกว่าอยู่คนเดียว

    มันบอกเมื่อเห็นหลิวที่อยู่ด้วยกันกับเจ้าหล่อน

    ไม่ต้องกลัว ไม่ต้อง มันเข้ามาทำอะไรเราไม่ได้หรอก เหยมหันไปปลอบคนเป็นน้องสาวซึ่งบัดนี้ยืนตัวสั่นอยู่หลังเจ้าหล่อน

    ใช่ อั๊วเข้าไปทำอะไรลื้อไม่ได้ หรอก แต่ไฟนี่เข้าไปได้

    พร้อมกับว่า มันโยนคบไฟอันหนึ่งเข้าไป

    เด็กหญิงกรีดร้องขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อคบไฟที่ถูกปาเข้ามาตกลงตรงหน้า  

    เหมยรีบดึงมาปลอบ

    ไม่ต้องกลัวๆ

    หากยังไม่ทันขาดคำ ไฟก็ลุกขึ้นรอบบ้านพร้อมๆ กันด้วยน้ำมือของลูกน้องฮันนั่นเอง  

    หญิงสาวตะลึงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    นี่พวกมันคิดจะเผาเจ้าหล่อนทั้งเป็นอย่างนั้นหรือ

     

    ขณะเดียวกันที่ด้านนอก ฮันถอยห่างออกมายืนมองดูไฟที่กำลังโหมกระหน่ำตัวบ้านก่อนจะหัวเราะขึ้นเสียงดัง

    ดูซิคราวนี้จะมุดหัวอยู่แต่ในบ้านได้ก็ให้มันรู้ไป ฮันคำรามลั่นหลังสั่งให้ลูกน้องวางเพลิงเผาตัวตึก

    แม้นจะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแต่เมื่อเจอน้ำมัน มันก็ติดไฟ และเริ่มโหมลุกขึ้น และหนักขึ้นเมื่อติดเนื้อไม้ที่เป็นส่วนประกอบของบ้าน

    ควันเริ่มมาขึ้นจนคนที่อยู่ในบ้านเริ่มสำลักมัน

    เหมยที่มือหนึ่งอุ้มลูก มือหนึ่งจูงน้องพาวิ่งหาที่ซึ่งพอจะให้เจ้าหล่อนได้หายใจ

    แต่ควันมันก็คลุ้งไปจนทั่วบ้าน หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปมีหวังต้องสำลักควันตายแน่ หญิงสาวนึกหาทางออก

    และทางเดียวที่จะรอดได้คือออกไปจากบ้าน...

    แต่พวกมันอยู่ข้างนอกนั่น

    ออกก็ตาย ไม่ออกก็ตาย สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าเผื่อมีทางรอด

    ตาสายของหญิงสาวเริ่มมองหาทางออก

    ประตูหน้าไปไม่ได้แล้วเพราะมันกำลังติดไฟลุกโชนอยู่ในขณะนี้

    และที่หน้าต่างก็เช่นกัน กรอบไม้ของมันกำลังคิดไฟ

    แว็บนั้นเองที่เจ้าหล่อนนึกได้ว่าที่ช่องหน้าต่างข้างครัว มีลูกกรงหลุดอยู่อันหนึ่ง

    ไปเร็วหลิวไปในครัว

     

    ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า โชคดีที่มันไม่ติดไฟ

    รีบมุดออกไปเร็วๆ ซิ

    เหมยร้องสั่งคนเป็นน้องสาว เด็กหญิงรีบทำตาม แม้นตัวเจ้าหล่อนจะเล็กนิดเดียว แต่ช่องเหล็กกลับเล็กกว่าหัวเจ้าหล่อน จึงไม่อาจมุดผ่านไปได้

    เจ๊มันติด เด็กหญิงร้องบอก

    เมื่อเห็นเช่นนั้น  หญิงสาวจึงคว้าอวยน้ำมันหมูที่เจียวทิ้งเอาไว้ชโลมหัวคนเป็นน้องสาวก่อนจะออกแรงดันจนเด็กหญิงผ่านช่องแคบนั้นไปได้

    แต่กว่าหลิวจะออกไปได้ไฟก็โหมลุกไล่เข้ามาจึงถึงในบ้านแล้ว  

    เจ๊รีบออกมาเร็ว

    เด็กหญิงร้องบอกขณะหญิงสาวหันไปคว้าเอาลูกชายที่วางไว้ขณะที่ช่วยน้องสาว

    ไฟที่ลุกลามติดห้องเก็บแกลบซึ่งอยู่ติดกับครัวเริ่มส่งผล  มันทำให้คานอันหนึ่งตกลงมาขวางทางเหมยกับช่องแคบนั้น

    แต่ถึงจะไม่มีมันเจ้าหล่อนก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี เพราะขนาดหลิวซึ่งตัวเล็กกว่าหล่อนตั้งแยะยังแทบออกไปไม่ได้ แล้วเจ้าหล่อนซึ่งเป็นผู้ใหญ่คงไม่มีทาง

    เจ๊ๆ ออกมาเร็วๆ ซิ เด็กหญิงร้องเร่งมาทั้งน้ำตา

    หนีไปก่อน ไม่ต้องห่วงเจ๊

    หญิงสาวร้องบอก  

    ไม่เอา หลิวจะรอเจ๊ เด็กหญิงไม่ยอมไป    

    บอกให้ไปไม่ได้ยินหรือไง หญิงสาวตะโกนใส่  ไปตามคนมาช่วยเจ๊ไป...

    หลิวพยักหน้ารับคำ ก่อนรีบวิ่งไปตามสั่ง

     

    ในขณะเดียวกันห่างออกไปตามถนนหน้าพระลาน เล้งกำลังวิ่งสุดฝีเท้าเพื่อกลับบ้าน กลุ่มควันสีดำที่พลวยพลุ่งขึ้นมาจากทิศอันเป็นที่ตั้งของโรงสีทำให้เค้ายิ่งเร่งฝีเท้าอย่างเต็มกำลัง

    เฮ้ยรอด้วยซิโว้ย

    ชิวที่วิ่งตามมาด้านหลังร้องเรียกให้เค้ารอ แต่เล้งไม่อาจทำตามคำขอนั่นได้ เพราะบัดนี้เค้าตระหนักแน่แล้วว่ากลุ่มควันที่กำลังพลวยพลุ่งอยู่นั้น มีต้นตอมาจากโรงสีของเค้านั่นเอง   

     

    แต่เมื่อเล้งไปถึงก็พบว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามดับมันอยู่

    แต่ไฟที่โหมลุกจนท่วมบ้านและโรงสีทำให้ยากต่อการดับมัน  โดยเฉพาะแกลบที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี

    เล้งวิ่งตรงดิ่งจะเข้าไปในตัวบ้านที่กำลังจมอยู่ในกองพระเพลิงเพื่อช่วยลูกกับเมีย แต่พนักงานดับเพลิงกลับขวางเค้าเอาไว้ นั่นก็เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย

    ปล่อยผม ลูกเมียผมอยู่ในนั้น เล้งพยายามบอกขณะดิ้นอย่างสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดจากกันจับกุมของพนักงานดับเพลิง

    แต่ก่อนที่เล้งจะดิ้นหลุดจากการล๊อคของพนักงานดับเพลิง อะไรบางอย่างที่แข็งมากก็ถูกตีใส่เข้าที่ท้ายทอยเค้าอย่างจัง

    เล้งหมดสติกลางอากาศ... และไม่รับรู้เรื่องอันใดอีก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×