ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรซ่อนพยัคฆ์ ตอน ปฐมบทแห่งมังกร

    ลำดับตอนที่ #4 : เรื่องของเหมย

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 51


           

    บ่ายนี้มีเรือลำใหม่มาขนข้าว หลงจู้เส็งที่มานั่งทำบัญชีอยู่นานชักออกอาการง่วง จึงหันไปเรียกชิวให้มาทำงานแทน

    มานับติ้วลงบัญชีแทนอั๊วหน่อยซิ  อั๊วจะไปงีบสักหน่อย

    ครับ... คนเป็นหลานรับคำอย่างเสียมิได้

    แล้วอย่านับผิดเหมือนคราวที่แล้วอีกล่ะ

    หลงจู้เส็งกำชับดักคอ เพราะคราวที่แล้วชิวนับพลาดไปเกือบสิบกระสอบ หากเค้าไม่ได้นับไว้ก่อนคงขาดทุน

    แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อพ่อของชิวก็เป็นหุ้นส่วนของโรงสีนี้เหมือนกัน และที่ลงชิวมาก็เพื่อจะให้เค้าช่วยสอนงาน หากไม่ให้ทำก็จะไม่ก้าวหน้า

    เอาน่า... ถือว่าผิดเป็นครู

    หลงจู้เส็งบอกตัวเอง... เพื่อไม่ให้หนักใจกับหลานชายคนนี้

    ครับ... คนเป็นหลานรับคำ 

    ทั้งที่ไม่อยาก แต่ชิวก็ทำตามคำสั่ง แต่นั้นก็เฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าหลงจู้เส็งเท่านั้น

    หากพอหลับหลังเค้าก็ร้องเรียกหาให้คนมาช่วย

    เล้งๆ

    ชายหนุ่มที่กำลังแบบข้าวหยุดหันมามอง 

    มานับติวลงบัญชีแทนให้หน่อยซิ อั๊วจะไปธุระ

    ธุระที่โต๊ะถั่วนะซะ คนเป็นเพื่อนดักคอ

    ชิวยิ้มแหยงๆ เมื่อถูกรู้ทัน

    แต่อั๊วต้องแบกข้าวนะ

    เอาน่า... ลื้อมาแจกติ้ว แล้วก็ลงบัญชีแทนอั๊วนี่เป็นคำสั่ง

    คนเป็นเพื่อนใช้อำนาจบังคับ เล้งจึงจำต้องยอมทำตามอย่างจำใจ 

     

    ชิวเดินนับเงินที่เล่นพนันมาได้อย่างอารมณ์ดี

    วันนี้เค้าดูจะดวงดีเป็นพิเศษ... ถอนทุนที่เล่นเสียไปทั้งอาทิตย์ได้กลับคืนมา 

    ชิวชอบเล่นพนัน และติดมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เค้าไม่ได้ติดใจว่าจะเรื่องได้เสีย แต่ติดความลุ้นความจะแพ้หรือชนะ มันซะใจเวลาที่ได้ลุ้น

    ถ้าเล่นได้อย่างนี้ทุกวันมีหวังรวยเลอะ  ชิวบอกกับตัวเองขณะเดินผ่านประตูเข้าเขตโรงสี

    คนงานคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาเค้า  

    เฮียชิวๆๆๆ

    อะไร

    เกิดเรื่องใหญ่แล้วคนงานบอกหน้าตาตื่น  

    เรื่องอะไรว่ะ

     

    ที่ห้องรับแขกในตัวตึก เมื่อชิวเข้าไปถึงก็พบว่าหลงจู้เส็งนั่งคอยเค้าอยู่ที่นั่น

    นี่มันอะไร

    หลงจู้เส็งถามขึ้นเสียงเข้มเมื่อเห็นหน้าคนเป็นหลานชาย พร้อมกับโยนสมุดบัญชีลงบนโต๊ะ

    ชิวหน้าเจื่อนหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนหันมองสบตาเล้งที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่ข้างๆ หลงจู้เส็งนั่นเอง  

    มันมีอะไรผิดหรือครับอาเจ๊ก

    ชิวทำใจดีสู้เสือ

    ลื้อก็ดูเองซิ คนว่าบอกเสียงแข็งเช่นเดิม

    ชิวหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาเปิดดู พลางหันมองสบตาเล้งเป็นเชิงถามว่ามีอะไรผิดปกติ

    เล้งส่ายหน้าตอบกลับมาเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน

    มันผิดตรงไหนเหรอครับ

    หลงจู้เส็งหยิบมันขึ้นมาเปิดให้ดูบัญชีหน้าที่เพิ่งทำวันนี้

    ชิวอึ้งมองเมื่อเห็นมัน... ตัวหนังสือที่เขียนอยู่ในนั้นสวยงามราวกับของบัณฑิต เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามกว่าที่หลงจู้เส็ง ซึ่งเป็นอาเจ๊กของเค้าทำเสียอีก

    นี่ฝืมือใคร หลงจู้เส็งถาม

    ชิวอึ้งเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบสายตาหลงจู้เส็งที่เพ็งมองมาอย่างคาดคั้น

    ผมเองครับ เล้งโพล่งออกมาในที่สุด

    หลงจู้เส็งหันมองพร้อมกับจ้องหน้าเล้งตาเขม็ง

    ลื้อเป็นคนทำเหรอ

    ครับ  เล้งพยักหน้ารับอย่างรับผิด  แต่ผมตรวจทานดีแล้วนะครับว่ามันไม่ผิด

    หน้าที่ตีขรึมมาตลอดของหลงจู้เส็งจึงยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก  

    ก็แค่นั้น หลงจู้เส็งบอกอย่างอารมณ์ดี

    ชิวกับเล้งพากันมองสบตากันอย่างงงๆ

    งั้นต่อไปก็ให้อาเล้งทำบัญชีแทนอั๊วก็แล้วกัน

    หลงจู้เส็งบอกก่อนเดินร้องเพลงงิ้วออกไปอย่างอารมณ์ดี หากแต่พอจะพ้นออกจากประตู อยู่หลงจู้เส็งก็หยุดเดินหันกลับมาหาทั้งสองคน             

    แล้วภาษาไทยลื้ออ่านออกเขียนได้บ้างหรือเปล่า

    พอได้นิดๆ ครับ...

    งั้นเดี๋ยวเย็นๆ หลังเลิกงาน อั๊วจะอาเหมยอีกสอนลื้อ ลื้อจะได้ทำบัญชีภาษาไทยได้

    หลงจู้เส็งบอกก่อนจะเดินร้องเพลงงิ้วอย่างอารมณ์ดีจากไป  

     

    วันนี้เป็นวันแรกที่เค้าจะได้เรียนหนังสือกับเหมยลูกสาวคนโตของหลงจู้เส็ง

    เค้ารีบอาบน้ำแต่งตัวใหม่เมื่อเสร็จงาน เพราะไม่อยากให้กลิ่นเหงื่อที่ทำงานมาทั้งวันรบกวนเจ้าหล่อน

    นักเรียนใหม่นั่งรอการมาสอนของคุณครูอยู่อย่างใจจดใจจ่อ เค้าสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เค้าอยากดูดีในสายตาของคุณครู

    เล้งรีบยืดตัวขึ้นนั่งตัวตรงเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา

    แต่คนที่เข้ามาในห้องกลับเป็น เด็กหญิงหน้าแป้นวัยสิบขวบ เจ้าหล่อนคือ หลิว ลูกสาวคนเล็กของหลงจู้เส็งนั่นเอง

    คุณเหมยล่ะ

    เล้งถามขึ้นอย่างแปลกใจ เมื่อไม่เห็นคุณครูคนสวยของเค้าตามเข้ามา  

    เจ๊ให้มาบอกว่า ท่องอันนี้ได้ก่อนแล้วเจ๊ถึงจะมาสอน

    เด็กหญิงบอกพร้อมกับยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้

    เล้งรับมันมาดูถึงเห็นว่าเป็นหนังสือแบบเรียนชั้นประถม ประถม ก.กา

    ความจริงเล้งท่องมันได้ตั้งแต่ตอนอยู่บ้านที่ศรีราชาแล้ว

    มันจึงไม่มีปัญหาสำหรับเค้า

     

    เหมยสำรวจความเรียบร้อยของชุดนักศึกษาของเธออีกครั้ง ก่อนจะหยิบน้ำหอมที่ซื้อมาจากย่านบางลำพูแตะที่ต้นคอ

    เจ้าหล่อนกำลังจะไปมหาลัยที่ท่าพระจันทร์

    หญิงสาวอดชะเง้อมองไปที่กลุ่มกุลีที่ออกันอยู่หน้าโรงสีไม่ได้ แต่ไม่มีคนที่เจ้าหล่อนกำลังมองหา เค้าไปอยู่ไหนน๊า

    โดยไม่ทันตั้งตัว ใครคนหนึ่งก็โผล่เข้ามาตรงหน้า มันทำให้เจ้าหล่อนสะดุ้งด้วยความตกใจ

    นักเรียนของเจ้าหล่อนนั่นเอง

    มองหาใครอยู่เหรอครับคุณเหมย  เล้งถามขึ้น

    เปล่าสักหน่อย เจ้าหล่อนแกล้งไฉไปเรื่องอื่น อยู่ๆ ก็โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียตกใจหมด

    ประโยคหลังบอกอย่างตำหนิ

    ชายหนุ่มอมยิ้มที่มุมปาก

    ขอโทษครับ..  คือผมจะมาบอกว่าผมท่องที่คุณให้ท่องได้แล้ว วันนี้ผมจะไปสอบกับคุณครูตอนเย็น อย่าลืมมาคุมสอบนะครับ

    ขาดคำ... ชายหนุ่มก็เดินจากไป

    หญิงสาวอึ้งมองตามอย่างแปลกใจ... ก็ไหนบอกว่าได้นิดหน่อยไง ทำไมท่องได้เร็วจัง

     

    เหมยถึงกับอึ้งเมื่อเล้งท่องสิ่งที่เธอสั่งให้ได้อย่างคล่องแคล่ว เด็กมหาลัยบางคนยังท่องไม่ได้อย่างเค้าด้วยซ้ำ

    ก็ไหนเตี่ยว่านายแค่อ่านออกเขียนได้นิดหน่อยไง แต่ที่นายท่องให้ชั้นฟังมาจะหมดเล่มอยู่แล้วเนี่ย

    เล้งอมยิ้มเพราะถือว่านั่นเป็นคำชม

    ตกลงนายเรียนจบชั้นไหนมาแน่  หญิงสาวถามอย่างแปลกใจ

    ผมไม่เคยเรียนโรงเรียนไทยครับ เคยเรียนแต่ภาษาจีนกับพ่อที่เป็นเล่าซือ

    งั้นนายท่องพวกนี้ได้ยังไง

    เล้งอึ้งไปนิดก่อนจะตอบด้วยเสียงเล็กๆ ในคำคอ

    ผมแอบเรียนจากที่โรงเรียนข้างบ้านครับ

    แว๊บนั้น เล้งเห็นรอยยิ้มพอใจในคำตอบบนใบหน้าหญิงสาว

    นอกจากนี้แล้วนายยังท่องอะไรได้อีก

     

    บัดนั้นพระยาพิเภกยักษ์ศรี    เห็นพระองค์ทรงโศกโศกี

    อสุรีกราบลงกับบาทา            อันว่าพระลักษณ์สุริยะวงศ์

    ยังไม่ปลงชีวันสังขาร            อันโมขะศักดิ์อสุรา พรมาประสิทธิ์ประสาทไว้

     

    เหมยแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง... เมื่อเล้งท่องบทละครรามเกียรติ์ ที่นักเรียนชั้นประถมสี่และประถมห้าต้องท่องได้

    ตกลงนายเรียนถึงชั้นไหนกันแน่นี่

    หญิงสาวบ่นขึ้นอย่างงงๆ

    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ... ผมว่างวันไหน ผมก็แอบไปฟังเค้าเรียนวันนั้น

    คำตอบของเล้งกลับทำให้หญิงสาวงงยิ่งขึ้นไปอีก  แล้วเธอจะเริ่มสอนเค้ายังไงดีล่ะ

    เอาอย่างนี้แล้วกัน ชั้นจะให้นายเรียงความมาส่งชั้น หญิงสาวบอกขึ้น เอาหัวข้อ ความฝันของข้าพเจ้าแล้วกัน ชั้นจะได้รู้ว่าความรู้เรื่องภาษาไทยนายมีขนาดไหน ส่งพรุ่นนี้นะ

    หากแต่พอถึงเวลานัดหญิงสาวกับต้องงงกว่าเก่าเพราะไอ้สิ่งที่เล้งเขียนมามันอ่านไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

    ที่แท้ความจำของชายหนุ่มดีนั่นเอง... ที่เค้าว่าไปเข้าเรียนก็คือไปแอบฟังเค้าเรียนโดยไม่เห็นสิ่งที่ครูเขียนบนกระดาน ดังนั้นไม่ว่าอะไรที่เป็นบทท่องจำ เล้งจึงสามารถท่องได้ขึ้นใจนั่นเอง

    หญิงสาวจึงจำเค้าหัดเขียน ก ข ค ใหม่

    ชายหนุ่มยอมทำตามด้วยความตั้งใจ และในเวลาไม่นานเค้าก็สามารถเขียนเป็นคำและเป็นประโยคได้ในที่สุด

    ความสามารถในการอ่านเขียนภาษาไทยของเล้งก้าวหน้าขึ้นไปพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเค้ากับคุณครูสาวคนสวย

     

    คืนนี้ฟ้ากระจ่าง  จันทราสว่าง

    ชวนให้คิดถึงหน้านาง

    เพียงแรกพบก็สลักอยู่ในใจมิมีวันลืม

    ใจข้าถวิลหา หายปองคู่เคียงนาง

    หากแต่มิอาจรู้  นางมีใจรับรักตอบด้วยรึเปล่า

    จึงได้แต่วิงวอนสายลมและแสงดาว

    นำรักข้าไปบอกนาง ด้วยที

     

    เหมยอมยิ้มเมื่ออ่านจบ

    มันไม่ใช่การบ้านที่เจ้าหล่อนให้ลูกศิษย์หนุ่มทำสักหน่อย

    ให้คัดลายมือไม่คัด เขียนเพลงรักถึงสาวหญิงสาวแสร้งทำเสียงเข้มกับลูกศิษย์หนุ่ม ไปลอกที่ไหนมา สำนวนหนังสือกำลังภายใน

    เขียนเองครับ คนเป็นเจ้าของรีบบอก

    จริงอ๊ะ ครูสาวทำน้ำเสียงไม่เชื่อ  

    จริงๆ ครับ  ลูกศิษย์หนุ่มยืนยัน

    แล้วจะส่งให้สาวบ้านไหนครูสาวซักต่อ

    เปล่าครับ... แค่เขียนเล่นเฉยๆ

    อ้าว... ไม่ส่งแล้วเค้าจะรู้เหรอ

    ผมกลัวเค้าปฏิเสธ คนว่าบอกซื่อๆ  

    ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ ครูสาวยุส่ง

    งั้นผมจะส่งครับ ลูกศิษย์หนุ่มรับคำ ก่อนหันไปหยิบซองที่เตรียมเอาไว้แล้วฉีกเอากระดาษหน้าที่เขียนกลอนเอาไว้พับใส่ซอง แล้วเขียนจ่าหน้าซองว่า ถึงคุณเหมย ก่อนยื่นส่งให้คุณครูคนสวยของเค้า   

    ตอบด้วยนะครับ

    ลูกศิษย์หนุ่มว่า

    เหมยรับมันมาถือไว้ด้วยใจระทึก ใจสาวเต็นโครมคราม เจ้าหล่อนเขินยิ่งกว่าตอนอ่านมันเสียอีก

     

    เล้งพยายามประครองกระทงขนมถ้วยในมือขณะเดินไปที่ท่าน้ำ

    เค้าเดินไปซื้อมันมาจากเจ้าอร่อยที่ท่าพระจันทร์  เพราะครูสาวคนสวยของเค้าชอบกิน

    ขนมถ้วยครับ ขนมถ้วย

    เล้งร้องบอกเมื่อเดินเข้าไปใกล้เหมยที่นั่งคอยอยู่ที่ท่าน้ำ 

    หากแต่เค้าต้องชะงักเมื่อเห็นว่าครูสาวของเค้ากำลังร้องไห้

    เป็นอะไรอ๊ะ

    ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย ขณะที่คุกเข่าลงไปนั่งลงข้างๆ ครูสาว

    หญิงสาวไม่ตอบ แต่หันกลับมาซบอกกว้างของชายหนุ่มสะอื้นไห้

    และเมื่อไล่เรียงสอบถามความเป็นมาเป็นไปถึงเหตุที่ทำให้ครูสาวของเค้าต้องเสียน้ำตาแล้ว เล้งแทบจะหัวใจหยุดเต้น

    แต่งงาน เล้งทวนคำอย่างไม่เชื่อหู

    เตี่ยจะให้เหมยแต่งงานกับลูกชายเพื่อนเตี่ย เหมยไม่แต่ง

    เสียงบอกสะอื้นไห้

    เล้งหน้าเสีย บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร

    เค้าใจหาย

    มันเหมือนกับตัวตนว่างเปล่า เหมือนกำลังจะถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างยังไงอย่างนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×