ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรซ่อนพยัคฆ์ ตอน ปฐมบทแห่งมังกร

    ลำดับตอนที่ #2 : ถูกหลอกเพราะความซื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 51


      

     

    โธ่เอ้ย... เรื่องแค่นี้เอง

    ชิว สะพานขาวบอกเมื่อได้ฟังเรื่องจากเล้ง

    ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวอั๊วช่วยลื้อหาบ้านญาติให้เอง

    แว๊บเล้งยิ้มออกด้วยความดีใจ...

    แต่ไม่มีที่อยู่แล้วจะหาเจอได้ยังไง

    ชิว สะพานขาวอมยิ้ม

    ไม่ต้องมีที่อยู่หรอก แค่บอกว่าชื่อร้านอะไรก็พอ

     

    แล้วก็จริงอย่างชิวว่า... ไม่ถึงสองชั่วโมงเค้าก็ช่วยเล้งตามหาบ้านของอากู๋จงจนเจอ 

    ลื้อก็อยู่ช่วยที่ร้านของอั๊วแล้วกัน

    อากู๋จงว่า

    แล้วอากู๋จะให้ผมทำอะไรล่ะครับ

    ก็... คนว่านึกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนบอกต่อ ทำอะไรได้ก็ทำ ร้านอั๊วเป็นร้านค้าส่ง ส่วนใหญ่ก็คงต้องส่งของให้ลูกค้าแถวใกล้ๆ นี่แหละ

    เล้งพยักหน้ารับคำ

     

    เค้าได้ห้องพักเป็นห้องเก็บห้องเล็กๆ หลังร้าน

    มีเตียงเล็กๆ สำหรับเอาไว้นอนพักที่ด้านหนึ่งของห้อง แค่นี้ก็พอให้เค้าได้ซุกหัวนอนแล้ว

    เล้งเริ่มลงมาช่วยงานที่ร้านตั้งแต่วันแรกที่เค้ามาถึง

    แม่เค้าสอนไว้ว่า อยู่บ้านท่านอย่านั่งดูดาย

    งานที่ร้านของอากู๋จงไม่ได้หนักหนาอะไรมากหนัก หากเทียบกับทำไร่สัปปะรดที่ศรีราชา

    แต่มันก็ทำให้เค้าเหงื่อท่วมตัวได้เหมือนกัน

    ความที่มันมีแต่ตึกปลูกติดๆ กันเป็นแถวจึงแทบไม่มีช่องให้ลมผ่าน

    อากาศจึงค่อนข้างร้อนเมื่อเทียบกับที่บ้านเค้า

    เล้งจึงลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ มันจะได้คลายร้อนขึ้นมาบ้าง

    ความที่ดึกแล้ว เล้งจึงถือวิสาสะนุ่งกางเกงขาสั้นที่เค้าเคยใส่ซ้อมมวยออกมาจากห้องพัก

    ผ้าขาวม้าพาดไหล่เดินตัวปลิวเค้ามายังห้องน้ำที่อยู่ด้านในร้าน

    แต่ขณะที่เค้ากำลังจะเดินถึงห้องน้ำ เสียงหนึ่งก็เรียกให้เค้าชะงัก

    มันเป็นเสียงของอะไรบางอย่างล้มในความมืดของร้าน

    สมองสั่งการว่า.. ขโมย

    เล้งรีบปรี่เข้าในเงามืด เมื่อเห็นเงาตะคุ่มๆ กำลังปรี่มาทางเข้า และเมื่อมันผ่านเข้ามาใกล้เค้าก็คว้าแขนมันเอาไว้

    ว้าย

    เสียงมันร้องด้วยความตกใจ...

    ผู้หญิง

    แล้วไฟก็สว่างขึ้น... เล้งจึงเห็นว่าคนที่เค้าจับตัวไว้เป็นหญิงสาวหน้าตาดี

    อาหมวย

    ที่แท้เจ้าหล่อนก็คือลูกสาวคนโตของอากู๋จงนั่นเอง

    เจ้าหล่อนแอบหนีเที่ยวแล้วแอบย่องกลับเข้ามา หากไม่มาเจอเค้าเข้าก่อนเจ้าหล่อนก็คงรอดเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

    เจ้าหล่อนถึงอากู๋จงดุ และกักบริเวณไม่ให้ออกจากบ้านเป็นเวลาหนึ่งเดือน

    มันทำให้เล้งไม่สบายใจที่ทำให้เจ้าหล่อนต้องถูกลงโทษเช่นนั้น

    และยิ่งยามเมื่อสายตาของเจ้าหล่อนมองเค้าอย่างไม่พอใจ มันยิ่งทำให้เค้ารู้สึกไม่ดี 

    อาหมวย

    เล้งเอยขึ้นเมื่อเห็นเจ้าหล่อนกำลังนั่งอ่านหนังสือยู่ตามลำพัง

    หญิงสาวเหลือบมองด้วยหางตา

    มีอะไร

    อั๊วจะมาขอโทษลื้อที่ทำให้ลื้อต้องถูกอากู๋ลงโทษ เล้งบอกอย่างสำนึกผิด

    ขอโทษแล้วมันช่วยให้อั๊วไม่โดนลงโทษหรือไง

    หญิงสาวบอกเสียงแข็ง...อย่างไม่เป็นมิตร

    เล้งหน้าเสียที่หญิงสาวไม่ยอมยกโทษให้

    หากครู่หนึ่งเจ้าหล่อนกลับหันมามองสบตาเค้า แล้วบอกว่า

    แต่ถ้านายช่วยอะไรชั้น ชั้นอาจจะยกโทษให้นาย

    หญิงสาวบอกยิ้มๆ

    และสิ่งที่เจ้าหล่อนขอก็คือ เล้งต้องช่วยให้เจ้าหล่อนแอบหนีออกไปเที่ยวตอนกลางคืนนั่นเอง 

    เล้งได้ยินจากชิวว่าแถวถนนราชดำเนินมีไนต์คลับ ที่พวกหนุ่มๆ สาวๆ ชอบไปเต้นรำ  ชิวเคยชวนเค้าไปเปิดหูเปิดตาอยู่หลายครั้ง แต่เล้งปฏิเสธ...

    เพราะเงินเดือนที่ได้ต้องส่งให้แม่กับน้องที่ศรีราชา เล้งจะเจียดเงินนิดหน่อยไว้ใช้สอยสำหรับตัวเองเท่าที่จำเป็น

    §     

    เกือบสองเดือนแล้วที่เล้งมาอยู่กรุงเทพ

    และความสัมพันธ์ของเค้ากับอาหมวยก็เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ

    ระยะหลังเจ้าหล่อนมักจะมีขนมติดไม้ติดมือหลังเลิกเรียน

    เล้งแอบดีใจ...ที่หญิงสาวมีน้ำใจ แต่เค้าก็เจียมตัวและหัวใจ เพราะรู้ดีว่าดอกฟ้าไม่อาจคู่กับหมาวัด

    อาหมวยเรียนอยู่ม. 8 เจ้าหล่อนกำลังจะจบในปีการศึกษานี้ และอากู๋จงจะส่งเจ้าหล่อนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง เพื่อเรียนปริญญาตรีต่อ

    เล้งฝันอยากมีโอกาสแบบนั้นมั่ง แต่มันเป็นแค่ความฝัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเค้า เล้งไม่เคยเรียนภาษาไทยเพราะพ่อที่เป็นเล่าซือสอนให้แต่ภาษาจีน เค้าแตกฉานทั้งอ่านออกและเขียนได้ในขั้นดีทีเดียว

    แต่ถึงกระนั้นเค้าก็พยายามหัดอ่านภาษาไทยอยู่เนืองๆ 

    หากแต่ระยะหลังมานี่เล้งสังเกตเห็นเจ้าหล่อนดูซึมๆ ไปเหมือนมีอะไรในใจ แต่เล้งไม่กล้าถามเจ้าหล่อน

    แล้วคืนหนึ่งขณะที่เค้ากำลังนอนอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทยที่ขอมาจากร้านกาแฟข้างๆ เพื่อเอามาหัดอ่าน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหน้าห้อง

    เล้งแปลกใจเมื่อเจออาหมวยยืนอยู่หน้าห้อง

    เจ้าหล่อนมีสีหน้าอมทุกข์อย่างเห็นได้ชัด

    มีอะไรเหรออาหมวย

    เล้งถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

    ขอชั้นเข้าไปหน่อยได้มั้ย หญิงสาวบอก

    เล้งรู้สึกอึดอัดในคำขอของหญิงสาว หากแต่สีหน้าอมทุกข์ของเจ้าหล่อนทำให้เล้งไม่อาจขัดใจได้

    อาหมวยเดินเข้ามานั่งบนเตียงของเล้ง ก่อนจะเรียกให้เค้ามานั่งข้างๆ เจ้าหล่อน

    เล้งทำตามเพราะไม่กล้าปฏิเสธ เค้ารู้สึกไม่ดีที่ทำเช่นนั้น

    แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะใกล้ชิดหญิงสาวให้มากกว่านี้

    เป็นอะไรเหรอหมวย เล้งถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใย

    เตี่ยจะให้หมวยออกจากโรงเรียน เจ้าหล่อนบอก

    เล้งอึ้งด้วยความตกใจในคำพูดของหญิงสาว

    ทำไมล่ะ

    แทนคำตอบ... เจ้าหล่อนร้องไห้แล้วซบหน้าลงกับอกเค้า

    เล้งตัวแข็งทื่อเพราะไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาวมาก่อน

    หัวใจของเค้าเต็นระรัว... พร้อมกับความรู้สึกหนึ่งพลุ่งพล่านเข้ามา

    เค้ารู้สึกอยากสัมผัสหญิงสาวให้มากกว่านี้ แต่เค้าก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ หมวยเป็นลูกสาวของอากู๋จง เป็นผู้มีพระคุณ

    เค้าจะกินบนเรือนขี้บนหลังคาได้ยังไง

    อย่าเพิ่งร้องนะหมวย บอกเฮียก่อนซิว่าทำไมอากู๋จะให้ลื้อออกจากโรงเรียน

    หมวยไม่รู้จะบอกเฮียยังไง เสียงบอกสะอื้น ก่อนคนบอกจะนิ่งไปครู่หนึ่ง เตี่ยจะให้หมวยแต่งงาน

    ประโยคหลังยิ่งทำให้เล้งตกใจ

    แต่หมวยไม่อยากแต่ง หมวยรักเฮีย

    พร้อมกับว่าอาหมวยผวาเข้ากอดเค้าเอาไว้แน่น มันยิ่งทำให้เล้งตัวแข็งยิ่งกว่าเดิมเมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาว

    เราหนีไปด้วยกันนะ 

    หญิงสาวบอกที่ข้างหูเล้ง

    เล้งอึ้งมองหน้าอาหมวยอย่างไม่เชื่อหู

    แต่ยังไม่ทันที่เค้าจะตอบเจ้าหล่อน ประตูก็ถูกเปิดออกโดยแรง

    และคนที่เปิดมันก็คือ อากู๋จงที่หน้าแดงเป็นเจ้าพ่อกวนอูเพราะอาการโกรธจัด อากู๋จงไม่พูดพล่ำทำเพลงเอาไม้กวาดที่ถืออยู่ในมือไล่ตีเล้งเป็นการใหญ่

    ปากก็พร่ำด่า ไอ้ทรพี กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา

    อั๊วเปล่านะอากู่

    ลื้อทำอาหมวยท้องแล้วยังไม่ยอมรับอึกเหรอ

    เล้งนิ่งอึงเหมือนต้องนะจังงัน

    อาหมวยท้องเพราะเค้าได้ยังไง ก็ในเมื่อเค้ายังไม่เคยล้วงเกินอาหมวยเลยสักนิด

    อย่าว่าแต่ลวงเกินเลย แม้นแต่ปลายนิ้วก้อยก็ยังไม่เคยแตะ

    ยกเว้นเมื่อครู่นี้.. แต่เจ้าหล่อนเป็นฝ่ายกอดเค้าเอง

    ความที่ไม่ทันได้ระวังตัว ด้ามไม้กวาดจึงฟาดลงที่แสกหน้าเล้งเข้าอย่างจัง

    มันทำให้หัวของเล้งแตกเลือดไหลเป็นทางยาว

    อากู๋ที่กำลังเกรี้ยวกราวเพราะความโกรธจึงชะงักมือ

    ผมเปล่านะอากู๋ นั่นเป็นครับแรกที่เล้งแก้ตัวกลับไป

    ลื้อพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ลื้อจะไม่รับผิดชอบอั๊วกับลูกในท้องหรือไง

    อาหมวยพรวดสวนขึ้นมา

    เล้งหันมองหน้าเจ้าหล่อนอย่างไม่เชื่อหู

    และคำพูดของอาหมวยนั่นเองที่กระพือความโกรธกริ้วของอากู๋จงให้กลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับไม้กวาดในมือที่เริ่มไล่ตีเล้งอีกครั้ง

    คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอธิบายในตอนนี้  เพราะอากู๋จงคงไม่ฟัง

    เมื่อหมดทางเลือก เล้งจึงจำต้องออกจากบ้านอากู๋จงก่อนจะถูกตีตายซะก่อน

     

    เล้งมีเพียงกางเกงขาสั้นที่สวมนอนกับเสื้อกล้ามที่เค้าใส่นอนอยู่เป็นประจำ

    ท่ามกลางความมืดของรัตติกาล เล้งไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน

    เรื่องนั้นยังไม่สำคัญ เอาไว้ค่อยคิดทีหลัง

    แต่ตอนนี้เรื่องที่สำคัญกว่าคือ คืนนี้เค้าจะซุกหัวนอนที่ไหน

    เล้งเดินเตร็ดเตร่จนทั่วสำเพ็ง ก่อนจะตัดสินใจเลือกนอนที่แผงขายของแผงหนึ่ง

    อากาศในปลายเดือนตุลาซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้เล้งต้องขดตัวเพื่อบรรเทาความหนาว 

    เสื้อผ้าที่น้อยชิ้นบวกกับความเย็นของอากาศทำให้คางของเค้าสั่นจนฟันกระทบกัน

    โชคยังดีที่แผงขายของยังช่วยบังลมที่จะมาปะทะร่างของเค้าให้ลดลงไปบ้าง

    สิ่งที่เค้าทำได้คือพยายามข่มตาให้หลับจะได้ลืมเรื่องอากาศเย็นไป

    แต่ถึงกระนั้นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็รบกวนจิตใจเค้าอยู่ดี

    เล้งเอาแต่เฝ้าคิดว่าทำไมอาหมวยถึงได้ใส่ความเค้าเช่นนั้น ทั้งๆที่เรื่องจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด

    แต่ยิ่งเล้งพยายามคิดหาคำตอบเท่าไร เค้าก็ยิ่งต้องพบกับความงงงวยมากขึ้นเท่านั้น

    มันไม่มีเหตุผลใดที่อาหมวยต้องทำแบบนั้นยกเว้นเจ้าหล่อนต้องการ แพะรับบาป

    และหากมันเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่า เจ้าหล่อนกำลังตั้งท้องจริงๆ

    ปัญหาคือ แล้วใครเป็นพ่อที่แท้จริงของเด็กในท้องล่ะ

     

    เล้งเผลอตัวหลับไปเมื่อใกล้จะรุ่งสาง...

    เค้ายังหลับไม่เต็มตาเมื่อใครคนหนึ่งมาสะกิดปลุกให้เค้าลุกขึ้น

    มานอนอาไรต้องนี้ว่ะอาตี๋ บ้านช่องมีไม่กลับไปนอน คนบอกเป็นแปะแก่ๆ ที่เป็นเจ้าของแผงขายกาแฟที่เค้าอาศัยนอนอยู่นั่นเอง

    ไปๆ กลับไปนอนที่บ้านลื้อไป

    มันทำให้เล้งจำใจต้องลุกขึ้นทั้งที่ไม่อยาก

    แต่เมื่อเจ้าของที่เค้ามาเปิดร้านเพื่อทำมาหากินแล้ว เค้าจะหน้าด้านอยู่ได้เช่นไร

    เสียงยามเคาะเป็นสัญญาณว่าเพื่อจะตีห้า...

    มีเพียงพวกร้านที่ขายอาหารที่กินกันตอนเช้าเท่านั้นที่ออกมาตั้งแผงขายของ

    เมื่อไม่มีที่ไปเล้งจึงตัดสินใจเดินกลับไปที่ร้านอากู๋จงอีกครั้ง เพื่อจะขอเก็บข้าวของเมื่อร้านเปิด แต่เมื่อไปถึงเล้งกลับพบข้าวของของเค้าวางกองอยู่หน้าร้าน

    เล้งเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างรู้ชะตากรรม

    บัดนี้เค้ากลายเป็นคนไร้บ้านไปแล้ว... ไม่มีที่ซุกหัวนอน

    และไม่มีเงิน เงินสิบบาทสุดท้ายที่เค้าเจียดเก็บไว้จากเงินเดือนซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าแต่เค้าหามันไม่เจอเมื่อค้นดูในกระเป๋า

    นั่นทำให้เค้ากลายเป็นคนไร้เงินไปด้วยอีกอย่าง

    โลกของเล้งเคว้งคว้าง... เค้าไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนดี

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×