ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรซ่อนพยัคฆ์ ตอน ปฐมบทแห่งมังกร

    ลำดับตอนที่ #16 : ถูกหลอกใช้

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 51


    1.             ถูกหลอกใช้
    และหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ความสัมพันธ์ของชิวกับเล้งก็ไม่เหมือนก่อน
    ทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างหนัก เพราะเรื่องที่เล้งพยายามห้ามชิวเล่นการพนัน
    แต่ผีพนันที่สิงชิวมันเฮี้ยนจนเกินจะเยียวยา ชิวไม่เพียงมีปัญหากับเล้ง แต่กับทางบ้านด้วย เกือบเดือนแล้วที่ชิวไม่กลับบ้าน
    และแน่นอนว่าที่เดียวที่จะหาเค้าได้คือ “บ่อน”
    “ต่ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
    เสียงเชียร์ที่กำลังดังลั่นโต๊ะไฮโลอยู่ในขณะนี้นั้น จะเป็นของใครไปไม่ได้นอนจากชิวนั่นเอง  
    “หนึ่ง สาม สาม เจ็ดแต้มต่ำ”
    เจ้ามือบอกหลังเปิดถ้วยที่คว่ำครอบลูกเต๋าอยู่
    ชิวเฮขึ้นเสียงดัง เพราะแทงถูกอย่างจัง
    “จ่ายมาๆ ... “
    วันนี้เค้าดวงดีเป็นพิเศษ แค่เพียงจะเที่ยงคืน เค้าก็ถอนทุนที่เสียไปทั้งอาทิตย์มาได้ แถมยังได้กำไรติดไม้ติดมือมาอีกเกือบแสน
    หากพอชิวจะเอื้อมมือไปเก็บมันขึ้นจากโต๊ะ มือหนึ่งกับยื่นมาหยิบตัดหน้าไปเสียก่อน
    “เฮ้ย...” 
    เมื่อหันมองก็เห็นว่าเป็นสมุนคนสนิทของเล่าต๋านั่นเอง
    “เงินกูนะโว้ย ไอ้ว่าน” 
    “แล้วใครเถียงว่าไม่ใช่เงินมึง”
    “แล้วมึงจะเอาไปไหน”
    “ก็หักใช้หนี้ของเก่าไง”
    “อะไรว่ะ”
    ชิวเริ่มไม่พอใจ ออกอาการฮึดฮัดจะเอาเรื่อง สมุนของว่านที่คุมเชิงก็ปรี่เข้าประกบข้างชิวเอาไว้   
    ชิวทำท่าจะขัดขืน แต่พอชายฉกรรจ์เอาปากกระบอกปืนที่ถือซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมกระทุ้งเอว ชิวจึงจำต้องหยุดอาการขัดขืนนั้น
     
    “เฮ้ย... เบาๆ ซิโว้ย”
    ชิวบอกอย่างไม่พอใจเมื่อถูกคุมตัวผ่านประตูหนึ่งเข้ามาในห้องหนึ่งซึ่งเป็นส่วนของสำนักงานของบ่อน
    ที่นั่นเล่าต๋านั่งรออยู่โซฟากำลังจิบบรั่นดีรอท่าอยู่
    ว่านที่เดินคุมมาเดินเอาเงินที่ชิวเล่นได้ไปส่งให้เล่าต๋า
    “วันนี้เล่นได้เยอะนี่หว่า” เล่าต่าบอกหลังคะเนเงินในมือด้วยสายตา
    “ก็นิดหน่อย” 
    “งั้นก้ขอหักไว้ใช้นี้เก่าแล้วกัน”
    “เฮ้ยอะไรว่ะ เล่นได้แล้วเอาคืนหรือ” ชิวเสียงดังขึ้นอย่างไม่พอใจ
    “ใช้หนี้โวย” 
    ว่านบอกพร้อมกับว่าอัดเข้าชายโครงชิวด้วยความหมั่นไส้
    ชิวตัวงอเป็นกุ้งหันมองหน้าว่านตาเขม็ง แต่เพราะไอ้ปืนสองกระบอกที่จ่ออยู่ข้างเอวทำให้เค้าไม่อาจตอบโต้ได้
    “แล้วที่เหลือเมื่อไรจะเอามาให้ นานแล้วนะ” เล่าต๋าถาม
    “ยังไม่มีโว้ย” ชิวบอกเสียงสะบัด
    “ไม่มีไม่เป็นไร ทำงานใช้ก็ได้เหมือนกัน” เล่าต๋าว่าพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก  
    “เรื่องอะไรกูต้องทำให้มึง”
    “ได้... ไม่ทำก้ได้ แต่สวัสดิภาพทางบ้านเอ็งรับผิดชอบเอาเองแล้วกัน” เล่าต๋ายื่นคำขาด
    “มึงกล้าหรือ”
    “คราวที่แล้วถ้าไม่ติดไอ้เล้ง มึงได้กลายเป็นผีเฝ้าบ่อนไปแล้ว”
    ชิวอึ้งไปชั่วขณะ เพราะสำเนียกในน้ำเสียงของเล่าต๋าว่า “เอาจริง”
    “มึงจะให้กูทำอะไร”
    “ก็งานง่ายๆ แค่ขนของไปส่งแค่นั้นเอง”
     
    ที่โกดังซึ่งเป็นของกลุ่มมังกรทอง คนกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยกันขนของอยู่อย่างวุ่นวายทั้งที่เลยเวลาทำงานไปนานแล้ว
    ของที่ขนเป็นเป็นลังไม้ขนาดไม่ใหญ่นัก กำลังทยอยขนขึ้นรถบรรทุกคันเล็กที่จอดอยู่ในมุมมืด โดยมีชายฉกรรจ์หลายคนยืนคุมเชิงอยู่ด้วย
    ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของชิว
    คนงานคู่หนึ่งที่กำลังขนของพลั้งมือทำลังที่กำลังขนหลุดมือล่วงลงกับพื้น
    แรกกระแทกกับพื้นทำให้ลังไม้แตกออก ของที่อยู่ข้างในหล่นออกมา
    มันเป็น “มัดฝิ่น” ที่กำลังจะส่งไปขายต่อยังต่างประเทศ
    “ระวังหน่อยซิโว้ย” ชิวที่คุมการขนถ่ายหันมาตวาด
    คนงานรีบเก็บของเข้าลัง
    และแทบจะในวินาทีเดียวกันนั้นเอง แสงไฟก็สว่างขึ้นรอบๆ บริเวณที่กำลังขนถ่ายของกัน
    “นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ... ขอให้ทุกคนยอมให้จับแต่โดยดี”
    สารวัตรทวีประกาศก้องผ่านโทรโข่ง   
    ขาดคำเสียงปืนก็กัมปนาทขึ้นจากบรรดาชายฉกรรจ์ที่คุมเชิงอยู่
    การปะทะกันของตำรวจกับกลุ่มค้ายาจึงเกิดขึ้น
    ชิวยิงพรางหนีพราง เพราะรู้ดีกว่ายอมให้จับตัวไม่ได้
    เพราะคดียาเสพติด... หนักเอาการอยู่เหมือนกัน  
     
    เสียงเคาะประตูทำให้คนเป็นเจ้าบ้านกับภรรยาต้องตื่นขึ้นมา
    เล้งลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องที่กำลังถูกเคาะเรียก
    “มีอะไร”
    “ตำรวจมาเต็มบ้านเลยค่ะ...” คนรับใช้บอกตื่นๆ
    คำบอกเล่าของคนใช้ทำให้เล้งงงๆ 
    มันเรื่องอะไรกัน ตำรวจมาบ้านเค้ากลางดึกทำไม 
    แต่อย่างหนึ่งที่แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่
     
    สารวัตรทวีที่ยืนรออยู่ห้องรับแขกหันมองเมื่อเล้งเดินลงมาจากชั้นบน
    เล้งจำได้ในทันทีที่เห็นว่านั่นเป็นสารวัตรกองปราบที่ไม่กินเส้นกับเค้านั่นเอง ไอ้หมอนี่พยายามเบ่งกินฟรีในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเค้า แต่เล้งไม่ยอม ทำให้มันเสียหน้า และตั้งแต่นั้นมามันก็พยายามจับเค้าตั้งแต่นั่นมา   
    “นี่มันเรื่องอะไรกันสารวัตร”
    “เราสงสัยว่าคุณมีส่วนพัวพันธ์ในคดีค้ายาเสพติด อยากเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพัก”
    คนว่าแสยะยิ้มบอกพร้อมกับว่ายื่นหมายศาลส่งให้
    เล้งหันกลับไปสบตากับพิมพาที่เดินตามหลังมาด้วยความตกใจ
     
    “คุณสารภาพมาซะดีๆ ดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา”
    คนเป็นสารวัตรพยายามคาดคั้นให้เล้งรับสารภาพ  
    “ก็ผมไม่ทำ จะให้ผมสารภาพได้ยังไงล่ะครับคุณตำรวจ”
    “แต่หลักฐานมันเห็นๆกันอยู่”
    คนเป็นสารวัตรวางรูปถ่าในมือลงตรงหน้าเล้ง   
    มันเป็นรูปถ่ายการจับกุมที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
    แต่เล้งกลับไม่แสดงท่าทีสนใจมันสักนิด...  
    “นึกว่าเป็นนักเลงแล้วจะมาทำใหญ่บนโรงพักได้หรือไง” คนเป็นสารวัตรบอกอย่างไม่พอใจกับท่าทีที่เล้งแสดงออก
    เล้งหันมองสบตาคนว่า
    ตาของเค้ายามดีดูเหี้ยมเกรียมอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน มันซ่อนความกระหายเลือดเอาไว้บนใบหน้าได้รูปนั่นอย่างประหลาด จนคนถูกจ้องรู้สึกเสียววาบที่ท้อง ก่อนต้องรีบหลบตา
    นี่แหละมั้งที่เค้าเรียก “ตบะ” ที่แก่กล้าผิดกัน
     
    “อะไรนะ.. ไม่ให้ประกันตัว” พิมพาทวนคำอย่างไม่เชื่อหู
    “ครับ... ตำรวจเค้าบอกว่าเป็นคดีอุฉกรรจ์” 
    “ใส่ความกันนี้อีแบบนี้” พิมพาบอกอย่างไม่พอใจ “แล้วเฮียจะเอายังไง”
    เล้งอึ้งคิดอยู่อึดใจก่อนถามขึ้น
    “มันไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคุณทนาย” 
    “มันก็ไม่เชิงครับ” คนเป็นทนายว่า “มันก็มีอยู่วิธีหนึ่งที่พอจะประกันตัวคุณเล้งออกมาได้ แต่มันออกจากยากอยู่สักหน่อย”
    “แล้วทำไมไม่รีบบอกตั้งแต่แรก” พิมพาเสียงเขียวไม่พอใจ
    “ใจเย็นๆ ซิพิม ก็คุณทนายเค้ากำลังจะบอกอยู่นี่ไง”
    แต่พิมพาก็ยังออกอาการขัดใจตามประสาคนเคยถูกตามใจ
    เล้งได้แต่ส่ายหัวในความเอาแต่ใจของภรรยา ก่อนหันกลับมาหาทนายอีกครั้ง
    “วิธีอะไรหรือคุณทนาย”
    “คือถ้าเราหาคหบดีที่มีชื่อเสียงใสวงสังคมมาร่วมลงชื่อเพื่อค้ำประกันว่าคุณเล้งจะไม่หนีประกันได้ เราก็ประกันตัวได้”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×