ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : มัดมือชก
1. มัดมือชก
แล้วสิ่งที่เล้งกับชิวเพิ่งคุยกันก็เกิดขึ้นจริงๆ
เมื่อเห็นพิมพาภรรยาของเค้ากำลังนั่งคุยอยู่กับสามอาวุโสและสมาชิกระดับผู้นำของธงเหลืองและธงขาวพร้อมหน้ากันที่โต๊ะประชุมหน้าหีบศพสองอดีตผู้นำ
เล้งออกอาการประหลาดใจ แต่ไม่แปลกใจเพราะคาดถึงเรื่องนี้เอาไว้แล้วเหมือนกันแต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
“มันเรื่องอะไรกันหรือพิม”
“ก็เรื่องตำแหน่งประธานสมาคมไง” คนเป็นภรรยาว่า “พิมกับทุกคนลงมติกันแล้วว่าจะให้เฮียเป็นประธานสมาคมคนใหม่”
“ก็เราตกลงกันแล้วว่าจะรอให้เสร็จงานศพไปก่อน”
“จะต้องรอทำไมในเมื่อทุกคนเห็นด้วย”
“แต่นี่มันแค่สายธงเหลืองกับธงขาว ยังขาดพวกธงแดงของเล่าต๋า” เล้งพยายามแย้ง
“จะต้องรอมันทำไม ในเมื่อสายธงเหลืองกับธงขาวสนับสนุนลื้อ แค่นี้ก็พอแล้ว”อาเทียนหนึ่งในสามอาวุโสสำทับมา
“จริงด้วยอาเล้ง หรือลื้อจะปล่อยให้มันขึ้นมาเป็นใหญ่” ตงอีกหนึ่งในสามอาวุโสเสริมขึ้นมาอีกคน
“ถ้าไอ้เล่าต๋ามันขึ้นมา มีหวังไตรภาคีที่อาเล็กกับอาเฮงอุตส่าห์สร้างขึ้นมา ต้องแหกในมือมันแน่” หลีบอกอย่างกังวล
“หรือลื้อจะยอมให้มันขึ้นมา” อาเทียนว่า “ถ้าลื้อทำแบบนั้นก็เลิกคบกัน ตายก็ไม่ต้องมาเผาผีกัน”
ประโยคหลัง คนว่ายื่นคำขาดหนักแน่น
“เปล่า... อาเทียนผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เล้งบอกอย่างหนักใจ
“งั้นก็อย่าบ่ายเบี่ยงอีกเลยอาเล้ง ลื้อต้องรับตำแหน่งแทนพ่อบุญธรรมลื้อ”
“ต่อหน้าศพป๊ากับโกเล็ก เฮียก็บอกมาเลยซิว่าจะเอายังไง” พิมพาโพล่งออกมาอย่างไม่พอใจผู้เป็นสามีที่เอาแต่บ่ายเบี่ยง
เล้งได้แต่ถอนใจ เค้าคงไม่มีทางเลี่ยงอีกต่อไป
“ลื้อว่าอาเล้งมันรับเป็นประธานสมาคมแล้วอย่างงั้นเหรอ”
เล่าต๋าคำรามลั่นอย่างไม่พอใจ เมื่อรู้เรื่อง
“ใช่คับเฮีย...”
ว่านซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทยืนยัน
“มันบอกกับเฮียว่า มันจะไม่รับตำแหน่ง แล้วกลับคำแบบนี้ มันเป็นพวกเราเป็นอะไร”
ว่านบอกอย่างไม่พอใจ ก่อนหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนคอยท่าอยู่
“ไปบอกพวกเราให้เตรียม ไปถล่มมันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย”
“อย่าเพิ่ง...” เล่าต๋าขัดขึ้น
“ทำไมล่ะเฮีย วัดดวงกับให้แตกหักกันไปข้างหนึ่งเลยกว่า”
“ยังไม่ถึงเวลา” คนเป็นหัวหน้าบอก
“แล้วจะปล่อยให้มันได้ใจแบบนี้เหรอเฮีย”
“น้ำเชี่ยวอย่าเอาเพิ่งเอาเรือไปขวาง มันกำลังได้สามแก่หนุน ไปชนกับมันตอนนี้ก็มีแต่เจ็บตัวเปล่าๆ ไม่ได้อะไรขึ้นมา”
“แล้วเมื่อไรจะถึงทีของเรา”
“อดใจอีกนิด รับรอง ไม่นานเกินรอแน่ๆ”
เล่าต๋าบอกพร้อมรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม เค้ามีแผนเล่นงานเล้งอยู่ในใจอยู่แล้ว
“อะไรนะ เล้งรับเป็นประธานไตรภาคีอย่างงั้นเหรอ”
สารวัตรทวนคำอย่างไม่เชื่อหูเมื่อคนเป็นสายเล่าให้ฟัง
“แล้วไอ้เล่าต๋ามันไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรบ้างเหรอ”
“มันก็ออกอาการไม่พอใจเหมือนกัน แต่ไม่เห็นมันเต้นหรือแปลงฤทธิ์แผลงเด็ดเหมือนอย่างที่เคย”
คนเป็นสารวัตรอึ้งไป
“ผมว่าแบบนี้ไม่ดีแน่” คนเป็นสายว่า
“ทำไม”
“ก็... ผมกลัวว่ามันจะเป็นคลื่นลมสงบก่อนพายุใหญ่นะซิครับ” คนเป็นสายบอกอย่างหวั่นใจ
เล้งที่กำลังเอนหลังพักสายตารู้สึกตัวขึ้นเมื่อมีคนมานั่งอยู่ตรงหน้า
คนมาคือวินัยนั่นเอง
“นอนต่อก่อนก็ได้ครับ...” คนเป็นลูกน้องบอกพร้อมกับยิ้มใหญ่ เกือบเดือนแล้วที่เล้งรับตำแหน่งประธาน
มันทำให้เค้าไม่มีเวลาว่าง ไหนจะงานบริษัท ไหนจะงานสมาคม
ทั้งสองอย่างกำลังอยู่ในระหว่างก่อร่างสร้างตัว
“ไม่เป็นไร อั๊วแค่พักสายตาเฉยๆ”
“เฮียตามผมมีอะไรหรือครับ”
“อั๊วอยากให้ลื้อตามดูแลคุณนายหน่อย”
“ทำไมล่ะครับเอีย”
“อั๊วกลัวไอ้เล่าต๋ามันจะเป็นหมาลอบกัด”
“ได้ครับไม่มีปัญหา” คนว่าบอกยินดี
ทัดใดนั้นเอง ก็มีลูกน้องคนหนึ่งเปิดประตูพรวดเข้ามาด้วยท่าทางหน้าตาตื่น ก่อนตรงเข้ากระซิบข้างหูเล้ง ก่อนสีหน้าของเล้งจะออกอาการตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นครับ...”
วินัยรีบถามขึ้นเพราะแน่ใจจากอาการตกใจของเล้งว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดี
“อาชิวถูก เล่าต๋าจับตัวเอาไว้”
ผีพนัน
เล้งกับวินัยรีบไปที่บ่อนของเล่าต๋าโดยเร็วที่สุด นั่นก็เพราะความเป็นห่วงชิวนั่นเอง ด้วยรู้ว่าเพื่อนตายกำลังตกที่นั่งลำบาก
ใครๆ ก็รู้ว่าเล่าต๋าโหดขนาดไหน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่กินเส้นกัน
แม้นจะรีบอย่างที่สุดแล้วก็ตาม แต่เล้งก็ไม่อาจไปได้ทันเวลาที่จะช่วยชิว
สภาพของชิวเมื่อเล้งไปถึงถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้ ถูกซ้อมหน้าตาบวมบูดจนแทบจำไม่ได้ โดยมีเล่าต๋านั่งจิบเหล้าจีนอยู่กับว่านลูกน้องคนสนิทอย่างสบายใจ
เล้งหันไปพยักหน้ากับวินัยที่ตามหลังมาให้รีบเข้าไปช่วยเหลือชิว
สนุมของว่านเข้ามาขวางเอาไว้
วินัยยังคงตรงปรี่เข้าจะแก้มัดให้ชิว นั่นเองที่เร่งให้สมุนของอาการขัดขวางมากขึ้นกว่าเก่า วินัยจึงหันกลับไปมองเล้งเป็นเชิงถามว่า “จะให้ทำยังไงต่อไป”
แต่ยังไม่ทันที่เล้งจะตอบคำ เล่าต๋าก็พยักหน้าสมุนที่คุมเชิงอยู่ว่าให้ปล่อยให้ วินัยแก้มัดให้ชิว
“มันเรื่องอะไร ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย”
เล้งถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ก็มันเล่นเสียแล้วไม่จ่าย พอทวงก็ชักปืนเอามาแทงแทนเงิน จะให้ทำยังไง”
เล้งหันมองชิวที่ถูกวินัยหิ้วปีกกลับมา
ใจหนึ่งเค้านึกตำหนิเพื่อนตาย หากอีกใจก็สงสารเมื่อสภาพที่สะบักสะบอม
“ก็น่าจะพูดกันดีๆ ก็ได้นี่น่า” เล้งบอก
“ก็พูดดีๆ มันไม่ฟังนี่หว่า” เล่าต๋าว่าพร้อมกับว่าจ้องตาเล้งเหมือนจะเอาเรื่อง
“แล้วจะเอายังไง”
“ก็ไม่มีอะไรแค่อยากจะสั่งสอน ไม่ใช่ถือตัวเองว่ามีคนถือหางแล้วจะเที่ยวมาทำซ่าในบ้านคนอื่นเค้าได้”
เสียงเล่าต๋าบอกเยาะๆ
เล้งรีบพาชิวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
“คนไข้ไม่เป็นอะไรมากครับ นอกจากซีกโครงที่หักแล้ว ก็มีแค่รอยฟกช้ำเท่านั้น อีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์แผลก็หาย”
คนเป็นหมอสรุปอาการคนไข้ที่กำลังนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงก่อนจะขอตัวจากไป
“อั๊วเคยบอกลื้อแล้วใช่มั้ยว่า อย่าเสียการพนัน” เล้งเอ็ดขึ้นเสียงเขียว
“ก็แค่เล่นสนุกๆเท่านั้น”
“สนุกจนต้องมานอนแหมบอยู่แบบนี้”
พร้อมกับว่าเล้งเอามือกระทุ้งเข้าที่ชายโครงที่ใส่เผือกเอาไว้อย่างจงใจ ชิวร้องขึ้นเสียงหลงเพราะความเจ็บ
“เจ็บนะโว้ย” คนป่วยโวย
“เจ็บซิดี มันจะได้รู้สำนึกซะบ้าง” เล้งบอก “ถ้าอั๊วไปไม่ทันลื้อตายห่าไปแล้ว”
“อั๊วไม่ได้ไปบังคับให้ลื้อมานี่หว่า” คนป่วยบอกอย่างไม่พอใจ
“นี่ลื้อกล้าพูดกับอั๊วแบบนี้เหรอ”
“ก็เออซิว่ะ ทำไมจะไม่กล้า” ชิวบอกอย่างไม่พอใจ “อ้อ...ลืมไป เดี๋ยวนี้ลื้อมันเป็นเจ้าพ่อใหญ่แล้วนี่ ขอโทษครับ...”
ประโยคหลังจงใจประชด
เล้งออกอาการไม่พอใจที่เพื่อนรักประชดประชันความหวังดีของเค้า
“อั๊วขอเตือนลื้อเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าลื้อยังขืนเล่นพนันอีก อั๊วจะไม่ช่วยลื้อแล้ว”
“ไม่ช่วยก็ไม่ช่วยซิว่ะ ใครง้อ” คนว่าบอกอย่างไม่กลัว “ตอนนี้ใหญ่โตแล้วนี้ ไม่เห็นหัวไอ้เพื่อนคนนี้แล้ว ตอนลื้อเข้ากรุงเทพใหม่ๆ ใคร ใครเป็นคนช่วยลื้อ ถ้าไม่ได้อั๊วลื้อจะมีวันนี้เหรอ ถึงฝั่งก็ถีบหัวเรือส่ง แบบนี้เนรคุณนี่หว่า”
เล้งสะอึกนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เพราะนึกไม่ถึงว่าเพื่อนตายคนนี้จะพูดกับเค้าเช่นนี้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เค้ากับชิว เป็นยิ่งกว่าพี่น้อง ตายแทนกันได้
แม้นวันนี้เค้าเป็นพี่ใหญ่แห่งไตรภาคี แต่ความรู้สึกที่เค้ามีต่อชิวยังเหมือนเดิม และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
วินัยนิ่งใคร่ครวญอยู่นานก่อนจะตัดสิ้นใจถามขึ้น เมื่อนั่งรถกลับจากโรงพยาบาลพร้อมกับเล้ง
“ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับเฮีย”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ในเมื่อเฮียไม่อยากเป็นพี่ใหญ่ ทำไมเฮียไม่สละตำแหน่งล่ะครับ”
เล้งแสยะยิ้มอย่างเอ็นดู
“วินัย คนเรานะบางครั้ง ตัวเราเองไม่ใช่ของเรา จะทำตามใจเราทุกอย่างไม่ได้”
“แล้วถ้ามันเป็นความสุขของเราล่ะครับ”
เล้งหันมาสบตากับมือขวาก่อนจะยิ้มขึ้นอย่างเยาะโชคชะตาของตัวเอง
“บางครั้งคนเราก็ต้องเลือกระหว่างความสุขของเรา กับคนที่เรารัก”
วินัยฟังอึ้งคิด... กับคำพูดของเล้ง
เล้งมองวินัยอย่างเอ็นดูก่อนเป็นฝ่ายถามขึ้นบ้าง
“แล้วถ้าแกเป็นชั้นล่ะ แกจะทำยังไง”
วินัยอึ้งคิด... มันเป็นคำถามที่ตอบอย่างที่สุดในชีวิตอีกคำถามหนึ่ง
“ผมก็คงตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันครับ” คนเป็นหนอนบอกเสียงอยู่ในลำคอ
เล้งยิ้มเอ็นดู “แล้วสักวันแกจะเข้าใจ...วินัย ว่าทำไมชั้นถึงตัดสินใจแบบนี้”
วินัยพยักหน้ารับ แม้นจะไม่ค่อยเข้าใจความคิดเล้งก็ตาม แต่เค้าแน่ใจว่าคนอย่าง “มังกรอันตราย” ต้องมีเหตุผลที่ดีแน่นอน
“อ้อ... แล้วก็จับตาดูอาชิวด้วย อย่าให้ไปก่อเรื่องขึ้นมาอีก”
“ครับ” วินัยรับคำ
“ผีอะไรก็พอแก้ได้ แต่ผีพนันนี่ซิ มันสิงเมื่อไรก็ฉิบหาย มีเท่าไรก็หมด” เล้งบอกขึ้นเปรยๆ
วินัยนิ่งฟังอย่างเห็นด้วย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น