คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 12. เขยเจ้าพ่อ
1. เขยเจ้าพ่อ
แล้วข่าวที่เล้งบุกเดี่ยวเข้าไปช่วยพิมพาก็ดังไปทั่วทั้งไตรภาคี มีแต่คนโจทย์จันท์ถึงความกล้าหาญของเล้ง
ไม่เพียงเล้งจะมีชื่อเสียง แม้นแต่เฮียเฮงซึ่งเป็นลูกพี่ก็พลอยมีหน้ามีตาไปด้วย
เฮียเฮงประกาศให้เงินค่าไถ่ทั้งหมดเป็นรางวัลแก่เล้งแต่กลับถูกปฏิเสธท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน
“อะไรนะ ลื้อจะไม่เอาเงินห้าล้านที่อั๊วให้อย่างงั้นเหรอ”
เฮียเฮงทวนคำอย่างแปลกใจเมื่อถูกเล้งปฏิเสธซึ่งหน้า
“ครับ” คนว่าพยักหน้ายืนยัน
“ลื้อแน่ใจเหรอว่าจะไม่เอาจริงๆ” เฮียถามซ้ำอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ “เงินตั้งห้าล้านเชียวนะ”
“ครับ” คำยืนยันยังหนักแน่เช่นเดิม
“แล้วอยากได้อะไรว่ามา ถ้าอั๊วให้ได้อั๊วจะให้”
เล้งยิ้มพรายก่อนเอยขึ้นว่า “ผมขอแต่งงานกับคุณพิม”
ประโยคนี้ของเฮียเฮงถึงกับอึ้งไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
ไม่ใช่ว่าเค้าตกใจในสิ่งที่เล้งขอ แต่เค้าตกใจที่เล้งกล้าขอมากกว่า
เพราะเดิมทำใจเอาไว้แล้วว่าลูกสาวคนนี้คงไม่มีโอกาสออกเรือน
พี่ใหญ่แห่งธงขาวอมยิ้มอย่างยินดี “ถ้าลื้อปราบพยศมันได้ก็เอาไปเลย”
งานแต่งงานของเล้งกับพิมพามีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางความยินดีของคนในไตรภาคี แต่ไม่ใช่ทุกคน เพราะยังมีคนที่ต้องหนาวๆ ร้อนๆ เพราะแผนการที่วางกับหลีหลงพลาดจนหลีหลงต้องจบชีวิตลง
นั่นก็คือ “เล่าต๋า”
เล่าต๋าไม่เพียงต้องเสียลูกน้องที่เป็นเหมือนแขนขาอย่างหลีหลง ความดังเพียงชั่วข้ามคืนของเล้งยังกลบรัศมีความดังของเค้า
พรรคธงแดงที่เคยยิ่งใหญ่เทียบรัศมีของธงขาวและธงเหลืองต้องตกต่ำ
เล่าต๋ารู้สึกเหมือนตัวเองเสียหน้าเพราะไอ้เด็กเมื่อวานซืน
หากปล่อยไปเช่นนี้เค้าคงไม่มีที่ยืนในไตรภาคีเป็นแน่
แต่ดูเหมือนเทพีแห่งโชคลาภกำลังเข้าข้างเล้ง เพราะนอกจากเล้งจะได้เป็นเขยขวัญของเฮียเฮงแล้ว เฮียจั๊วแห่งพรรคธงเหลืองยังเมตตารับเล้งเป็นลูกบุญธรรม
มันทำให้ฐานะของเล้งในไตรภาคียิ่งกว่าก้าวกระโดด
และแน่นอนว่าเล้งถูกคาดหวังว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานรุ่นต่อไปของไตรภาคี
ซึ่งแน่นอนว่ายอมไม่เป็นที่พอใจของเล่าต๋า ที่จ้องจะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งนี้อยู่เช่นกันอย่างแน่นอน
แต่การที่เล้งมีฐานะยิ่งใหญ่ในไตรภาคีอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้ก็ใช่จะเป็นเรื่องดีเสมอไป
เล้งพบว่าการเป็นคนธรรมดาเหมือนเมื่อก่อนมีความสุขกว่า
การเป็นเขยธงขาว และลูกบุญธรรมธงเหลือง ทำให้เค้าต้องมีหน้าที่รับผิดชอบกิจการต่าง ๆของสมาคมมากมาย ซึ่งแน่นอนว่างานแต่ละงาน กิจการแต่ละกิจการที่เป็นของไตรภาคีเกินกว่าครึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ทั้งบาร์ บ่อน สถานบริการ และโรงฝิ่น ซึ่งล้วนแล้วแต่ผิดกฏหมายทั้งสิ้น
และเมื่อมันผิดกฎหมายย่อมหมายถึงว่า “ไม่มีกฎ”
ใครพอใจทำอะไรก็ทำ
ทำให้การปกครองและควบคุมเป็นไปได้ยาก
ภายในสมาคมที่แบ่งเป็นสามธงใหญ่ๆแล้ว ในแต่ละธงยังแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าอีกมาย มีทั้งที่ถูกกันและไม่ถูกกัน
จึงมันมีเรื่องมาให้เล้งต้องจัดการไม่เว้นแต่ละวัน
ทั้งยังต้องคอยจัดการเคลียร์ปัญหากับพวกตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่คอยหากินกับเรื่องผิดกฎหมายของสมาคม
และเรื่องที่เป็นปัญหาที่สุดก็คือ “เงิน” ที่ต้องแบ่งสันปันส่วนให้ธงต่างๆ
แต่ถึงกระนั้นเล้งก็มีความตั้งใจว่าจะ “บูรณาการ” มันเสียใหม่ เพื่อลดความขัดแย้งที่มี
“อะไรนะจะปรับวิธีการจ่ายเงินใหม่”
เฮียเฮงทวนคำอย่างไม่แน่ใจเมื่อเล้งบอกความตั้งใจที่จะทำ
“ทำแบบนี้ไอ้พวกที่มันคุมอยู่เก่ามันจะยอมเหรอ” เฮียจั๊วถามขึ้นอย่างสงสัย
“แต่ถ้าเราไม่ทำแล้วปล่อยให้เป็นอยู่แบบนี้ พวกที่เสียเปรียบก็จะคิดว่าถูกเอาเปรียบยิ่งทำให้เกิดความแตกแยก”
“แล้วถ้าไอ้พวกที่มันครองอยู่เดิมมันไม่ยอมล่ะ”
“ผมเชื่อว่ายอม เพราะถ้าเราบูรณาการใหม่แล้วรายได้เฉลี่ยที่แต่ละคนจะได้รับจะมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่รายได้ส่วนใหญ่ไปกองอยู่ที่หัวพี่เบิ่มทั้งหลาย แต่พวกลิ้วล้อที่ทำงานแทบตายกลับแทบไม่ได้อะไรเลย”
สองพี่ใหญ่แห่งธงขาวและธงเหลืองหันมองสบตากันอย่างชั่งใจ
“บ้างครั้งเราก็ต้องยอมเสียแขนเพื่อรักษาขาเอาไว้เดินต่อเหมือนกัน”
เล้งบอกสรุปสุดท้าย
เค้ารู้ดีว่าเรื่องต้องมีผลกระทบและมันอาจร้ายแรงอย่างที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้
แผนการบูรณะการของเล้งเป็นที่ถูกใจสมาชิกสมาคมส่วนใหญ่ เพราะต่างได้รับผลตอบแทนที่ยุติธรรมขึ้นหลังจากที่อดยากปากแห้งมานาน
คงมีแต่เล่าต๋ากับพวกที่เหมือนถูกหักหน้าซ้ำสอง
แม้นจะต้องสูญเสียผลประโยชน์ก้อนโต แต่ในเวลานี้ เวลาที่ไตรภาคีตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของพรรคธงขาวและเหลืองเช่นนี้ การโต้ตอบหรือไม่ยอมเป็นต้นอ้อที่ลู่ตามลม อาจทำให้ต้องล้มไม่มีที่อยู่ก็เป็นได้
เล่าต๋าเองก็ตระหนักดีในข้อนี้... และเค้าก็ฉลาดพอที่จะยอมอ่อนตาม
วันพระไม่ได้มีหนเดียว วันข้างหน้าจะต้องเป็นทีของเค้า
และเมื่อวันนั้นมาถึง เค้าจะตอบแทนมันที่ทำกับเค้าอย่างสาสม
ความคิดเห็น