ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรซ่อนพยัคฆ์ ตอน ปฐมบทแห่งมังกร

    ลำดับตอนที่ #11 : มังกรอันตราย

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 51


    1.             มังกรอันตราย
    สถานที่นัดพบในครั้งนี้คือ บ้านร้างกลางทุ่งแห่งหนึ่งแถบชานเมือง
    เล้งกระชับกระเป๋าเงินในมือพร้อมกับสูดลมหายใจเรียกสมาธิ เมื่อถึงเวลาที่เค้าต้องเดินเข้าไปยังบ้านร้างหลังนั้นซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบครึ่งกิโลกลางทุ่งเพียงคนเดียวลำพัง 
    ซึ่งขณะเดียวกันภายในบ้าน... พิมพาซึ่งถูกมัดไขว้หลังติดอยู่กับเก้าอี้พร้อมกับมีผ้าผูกปากไว้ไม่ให้ส่งเสียงพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ 
    เสียงขาเก้าอี้ที่กระแทกพื้นห้องทำให้พวกหลีหลงกับสมุนที่กำลังล้อมวงเขย่าไฮโลอยู่ห่างออกมาหันมอง
    มันมองหญิงสาวอย่างไม่พอใจ
    ทั้งๆที่ตกอยู่ในกำมือมัน แต่หญิงสาวที่ถูกจับตัวมาเรียกค่าไถ่จ้องตาตอบอย่างไม่กลัว 
    เจ้าหล่อนเริ่มดิ้นต่ออีกครั้งเหมือนจงใจจะท้าทาย
    นั่นเองที่ทำให้หลีหลงที่ทนฟังเสียงเจ้าหล่อนดิ้นอยู่นานหมดความอดทน
    มันพรวดลุกขึ้นปรี่เข้าไปหาเจ้าหล่อนอย่างไม่พอใจ มือใหญ่ของมันตบหน้าเจ้าหล่อนฉาดใหญ่
    หน้าสวยสะบัดตามแรง เลือดสีแดงไหลซิบที่ริมฝีปากบาง หากแต่มันไม่ได้ทำให้คนถูกตบกลัวเกรงแต่อย่างไร เจ้าหล่อนหันกลับมาจ้องตามัน
    “ดิ้นอีกซิมึง” มันตะคอกใส่
    หญิงสาวทำตามคำท้าอย่างไม่กลัว เมื่อนั้นเองมือใหญ่ของมันจึงตบเข้าที่ปากเจ้าหล่อนอีกฉาด  
    คราวนี้เลือดแดงไหลกลบปากหญิงสาว ก่อนมือใหญ่ของมันจะจิกหัวเจ้าหล่อนให้เงยขึ้นกับมาสบตามัน
    “อยากลองดีใช่มั้ยมึงเดี๋ยวให้ได้เงินค่าไถ่ก่อนเถอะ กูจะให้ลูกน้องกูเรียงคิวซะให้หายอยาก”
    ขาดคำมันก็แลบลิ้นเลียหน้าหญิงสาว
    มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรมากกว่ากันระหว่าง “ความน่ารังเกียจ” กับ “ความขะยักแขยง”
    เธอเคยเกลียดและกลัวกิ้งกือไส้เดือน แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะนี้มันยิ่งกว่า
    จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นเอาปากประกบปากที่กลบไปด้วยเลือดของเจ้าหล่อน
    นั่นเองที่เป็นโอกาสให้เจ้าหล่อนตอบโต้มัน
    หลีหลงร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อถูกปากที่มันกำลังจูบอยู่นั้นกัดเอา
    มันดิ้นพล่านเมื่อฟันขาวเล็กจิกเข้าไปในเนื้อของมัน เพื่อให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดที่ได้รับ เท้าใหญ่ของมันยันยอดอกหญิงสาวจนหงายหลังทั้งเก้าอี้
    มันยกมือขึ้นกุมปากที่กำลังเลือดไหล... เลือดสีแดงเร่งทวีความโกรธที่กำลังลุกโชนอยู่ในใจมัน มันปรี่ตามเข้าไปเล่นงานหญิงสาวที่กองอยู่กับพื้น มือใหญ่ของมันตบหน้าเจ้าหล่อนอย่างไม่ยัง
    แต่ก่อนที่หญิงสาวจะแหลกคามือมัน ลูกน้องของมันคนหนึ่งก็ปรี่เข้ามากระซิบข้างหูมัน เรื่องที่คนเป็นลูกน้องรายงานทำให้มันหยุดมือแล้วรีบลุกตามขึ้นไป
     
    จากหน้าต่างภาพที่หลีหลงเห็นอยู่ตรงหน้าในขณะนี้คือ ภาพของชายคนหนึ่งกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
    แน่นอนว่ามันจำเจ้าคนที่ถือกระเป๋านั่นได้เป็นอย่างดี
    มันแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม...
    ความแค้นกำลังจะได้ชำระ
     
    เล้งชะงักเมื่อลูกสมุนสองคนโผ่ลออกมาจากพุ่มไม้ข้างทาง เมื่อเค้ากำลังใกล้จะถึงตัวบ้าน
    ทั้งสองตรงเข้าค้นตัวเค้าในทันที
    ปืนสั้นในมือทั้งสองทำให้เล้งจำต้องทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข
    พวกมันไม่พบอะไรในตัวเล้ง นอกจากระเป๋าเงินที่เค้าถือมาให้พวกมัน
    หนึ่งในสองหันไปผิวปากส่งสัญญาณให้พวกที่อยู่ด้านในเมื่อเห็นว่าทุกอย่างปลอดภัย
    ประตูบ้านค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับ การปรากฏตัวของหลีหลงที่ออกมายืนจังก้าอยู่หน้าประตู
    สายตาที่มันมองเค้า... ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
    แต่มันไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มกลัว
    เล้งก้าวผ่านประตูเข้าสู่ด้านในของตัวบ้าน แล้วต้องตกใจอย่างที่สุดเมื่อเห็นสภาพของพิมพา
    หญิงสาวยิ้มดีใจเมื่อเห็นหน้าเล้ง  
    เค้าปรี่เข้าไปพยุงเจ้าหล่อนลุกขึ้นจากพื้น แต่ถูกหลีหลงขวางเอาไว้
    “พวกมึงซ้อมคุณหนูทำไม”
    เล้งตวาดใส่หลีหลงอย่างไม่พอใจ
    “ก็มันไม่อยากอยู่นิ่งๆ เองนี่หว่า” เสียงบอกกวนๆ
    นั่นยิ่งทำให้พายุในใจเล้งโหมลุกขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ
    แต่ตอนนี้เค้าไม่อาจระบายความโกรธนั่นออกมาได้...
    “เงินล่ะ”
    “อยู่นี่”
    พร้อมกับว่าเล้งยกกระเป๋าที่ถือมาด้วย
    หลีหลงเอื้อมมือจะคว้ากระเป๋าจากมือเล้ง แต่เล้งเหวี่ยงมันหลบไม่ให้หลีหลงแย่งเอาไว้
    “มึงจะทำอะไร”
    “ปล่อยคุณหนูไปก่อนแล้วกูจะให้มึง” เล้งยืนคำขาด
    “นี่มึงกล้าต่อรองกับกูเหรอ”
    “หรือพวกมึงไม่อยากได้เงิน” 
    พร้อมกับว่าเล้งหันจะเดินออก ก็ถูกลูกน้องคนหนึ่งของหลงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เต๊ะเข้าที่ขาพับ    
    เล้งแค่เสียหลักนิดๆ แต่ไม่พับล้มลงอย่างที่มันตั้งใจ คนเต๊ะตกใจมองด้วยอาการตะลึงอย่างคิดไม่ถึง
    เล้งหันมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง  
    เมื่อนั่นเองที่ หลงเอาด้านปืนสั้นในมือกระแทกเข้าที่กกหูเล้งอย่างแรงจนเล้งผงะเซลงไปคุกเข่ากองอยู่กับพื้น
    “เก่งนักหรือมึง” มันตะคอกใส่อย่างสะใจ 
    พิมพามองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความตกใจ...
    ลูกน้องคนหนึ่งของหลงกระชากกระเป๋าไปจากเล้งแล้วเปิดมันออกดู ทันทีที่กระเป๋าเปิดออกควันกลุ่มหนึ่งก็ฟุ้งออกมาจากกระเป๋า ทำเอาพวกกันพากันปิดจมูก
    มันเป็นควันของแก๊สน้ำตาที่ถูกติดตั้งอยู่ในกระเป๋านั่นเอง 
    มันเป็นสิ่งที่เล้งเสนอกับพี่ใหญ่แห่งธงขาว หากจะให้เค้าเป็นคนถือกระเป๋าเงินไปไถ่ตัวพิมพา
    ที่เล้งทำเช่นนี้ก็เพราะเชื่อว่า... หากถือเงินไปให้พวกมันเค้าคงไม่มีโอกาสรอดกลับมาแน่ พวกมันคงหมกเค้ากับพิมพาไว้ที่บ้านร้างนั่น         
    ฤทธิ์ของแก็สที่พุ่งออกมาทำให้พวกมันแสบตาในทันที
    เล้งก็เช่นกัน แต่มันไม่ใช่เวลาที่เค้าจะมาห่วงเรื่องของตัวเอง
    สิ่งที่เค้าต้องทำคือ หาอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองและคุณหนูอันเป็นที่รักของเค้า
    เล้งรีบฉวยโอกาสตรงเข้าแย่งปืนจากมือหลง แต่มันไม่ง่ายอย่างที่เค้าคิด หลีหลงไม่ยอมปล่อยให้ปืนหลุดจากมืดโดยง่าย
    ทั้งสองปล้ำกอดรัดกันเพื่อแย่งปืน
    แว๊บหนึ่งปากกระบอกปืนถูกชี้มาที่เล้ง หลีหลงพยายามเอานิ้วเข้าโก่งไกเมื่อยิง แต่เล้งรีบขวางเอาไว้ แต่สุดท้ายหลีหลงก็ทำสำเร็จ มันระเบิดกระสุนใส่หน้าเล้ง มันเฉียดข้างหูเล้งไปเส้นยาแดงผ่าแปด
    โชคดีที่เล้งหลบมันทัน ไม่งั้นเค้าคงไปเฝ้ายมบาลแล้ว แต่ถึงกระนั้นเสียงปืนที่กัปนาทขึ้นห่างหูเค้าไม่ถึงคืบ ก็ทำให้หูของเล็งดับไปเหมือนกัน
    “ยิงมันซิโว้ย”
    เสียงหลีหลงตะโกนสั่งลูกน้องที่กำลังยืนเก้ๆกังๆ คุมเชิงอยู่
    หากแต่คนเป็นลูกน้องกลับไม่กล้าทำอย่างที่สั่ง เพราะกลัวจะพลาดไปถูกลูกพี่ของพวกมัน
    “กูบอกให้ยิงมัน หูแตกหรือไง”
    หลีหลงตะโกนสั่งเป็นครั้งที่สอง
    นั่นเองที่ทำให้คนเป็นลูกน้องยอมทำตาม มันระเบิดกระสุนใส่คนที่กำลังปล้ำแย่งปืนกัน
    หากแต่กระสุนนั่นกลับเฉียดหลังหลีหลงไปอย่างหวุดหวิด
    “ไอ้ฉิบหาย กูให้มึงยิงมัน”
    หลีหลงตวาดใส่เจ้าคนยิงเสียงเขียว
    และนั่นเองที่เปิดโอกาสให้หลงแย่งปืนจากมือมันมาได้ แต่กระสุนนับสิบก็ปลิวเข้าหาเล้งในทันที
    เล้งกลิ้งตัวหลบเข้าหาที่กำลัง ก่อนจะยิงสวนสู้ออกไปหนึ่งนัด กระสุนถูกเจ้าคนที่ยืนจังก้ายิงใส่เค้าทางขวาอย่างจัง มันล้มทั้งยืน
    หลีหลงที่เสียท่าเล้ง ปรี่เข้าไปคว้าแย่งปืนจากคนเป็นลูกน้องมากระหน่ำยิงใส่เล้งที่หลบอยู่หลังเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งอย่างไม่ยั้ง
    กระสุนทั้งหกนัดในลูกโม่ยิงถูกเก้าอี้แต่ไม่ทะลุ
    โอกาสของเล้งจึงมาถึง... เค้ายิงสวนสู้ออกมาอีกนัด แต่มันได้แค่เฉียดหลีหลงไป
    เล้งรีบผละออกจากหลังเก้าอี้ตัวนั้น เพราะมันกำลังกลายเป็นเป้า
    แต่ไม่มีที่ให้เล้งหลบอีกต่อไป เล้งจึงจำเป็นต้องส่งกระสุนออกไปเพื่อสกัดพวกของหลีหลงที่กำลังรุมกินโต๊ะเค้า แต่เล้งก็ทำได้แค่นัดเดียวเท่านั้น แล้วเค้าก็ตกเป็นเป้าอีกครั้ง
    หากแต่คราวนี้เค้าไม่มีที่หลบอีกแล้ว
    แต่ก่อนที่พวกมันจะทันระเบิดกระสุนปืนใส่เค้า เสียงปืนก็กัมปนาทขึ้นกึกก้องจากด้านนอกบ้าน 
    เสียงปืนที่ดังขึ้นมาจากชิวกับลูกน้องอีกหลายคนที่แอบย่องเงียบตามหลังเล้งเข้ามา
    มันทันเวลาพอดี
    พวกของหลีหลงที่กำลังรุมกินโต๊ะ จำต้องหันไปยิงสู้กับพวกของชิว
    เสียงปืนกัมปนาทขึ้นกึกก้องอยู่อึดใจ ก่อนจะเงียบเสียงลง
     
    ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง... ที่ปลายถนนสุดทางห่างออกไปจากบ้านร้างอันเป็นที่ซ่อนตัวประกัน
    เสียงปืนที่ดังขึ้นกึกก้อง ทำให้คนที่รอฟังข่าวต่างพากันตกใจ
    และยิ่งเมื่อเสียงปืนเงียบไป คนที่รอฟังข่าวยิ่งใจไม่ดี
    “ผมว่าเราบุกเข้าไปเลยดีกว่า” สารวัตรทวีเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ 
    “ยัง” พี่ใหญ่แห่งธงขาวบอก
    “แต่มันยิงกันขนาดนี้ ผมว่าเราอย่ารออีกเลยดีกว่า”
    พร้อมกับว่า คนเป็นสารวัตรทำท่าจะขยับตัวสั่งลูกน้องให้เคลื่อนตัวเข้าไป แต่เฮียเฮง คว้ามือห้ามเอาไว้
    “รออีกแปล็บหนึ่งสารวัตร”
    “แต่..
    ”คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในนั้นคือลูกสาวผม ผมรู้ว่าควรทำยังไง” เฮียเฮงสวนขึ้นก่อนทีคนเป็นสารวัตรจะได้ทันพูดอะไรออกมา
    แล้วในอึดใจนั่นเอง... ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าก็ทำให้เฮียเฮงยิ้มออกด้วยความดีใจ
    เพราะภาพที่ปรากฏอยู่ในสายตาของพี่ใหญ่แห่งธงขาวในขณะนี้คือ ภาพของลูกสาวกำลังถูกคนเป็นลูกน้องของเค้าอุ้มออกมาจากบ้านร้าง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×