ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {AuFic KHR} Dead land ต่อให้ตายก็จะขอเคียงข้างเธอตลอดไป

    ลำดับตอนที่ #4 : Dead land : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 55


    Chapter 1...         

     

                    “แอ๊ด แอ๊ด แอ๊ด

     

                    เสียงแหลมเล็กจากสัตว์ปีกสีขาว นกนางนวลดังก้องกังวานทั่วบริเวณของเกาะๆหนึ่งซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแผ่นดินใหญ่เพียงไม่กี่ตารางเมตร นกนางนวลฝูงเล็กๆเหล่านั้นร่อนลงมาให้เท้าของมันแตะกับผิวน้ำก่อนจะอาศัยแรงลมขึ้นไปยืนอยู่บนเกาะที่ถูกปกคลุมไปด้วยผืนทรายสีขาวสะอาด...แต่เต็มไปด้วยโครงกระดูกที่คาดคะเนได้ง่ายๆว่าเป็นของมนุษย์....รอบๆเกาะนั้นคือทะเลที่มีสีแดงสด มีกลิ่นคาวเลือดอยู่จางๆ ..ลึกเข้าไป..บนเกาะนั้นมีคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งดีไซน์แบบโบราณตั้งเด่นอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของเกาะปริศนานี้ก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมโดยรอบจะดูมีแต่ความหายนะ..แต่ทว่าคฤหาสน์หลังใหญ่หรูหรานั่นกลับดูสะอาดสะอ้านเหมือนกับได้รับการดูแลอย่างดี

     

                    เหตุผลนั้นก็คือ คนรับใช้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวที่มีใครบางคนได้จ้างพวกเขามาในค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร  พวกเขาทำงานอย่างขยันขันแข็ง  โดยไม่รู้เลยว่า  สิ่งที่รอพวกเขาอยู่นั้นคืออะไร

     

     

     

                    และแล้ว  จุดเริ่มต้นจากเรื่องราวจึงได้ถูกเริ่มขึ้น

     

                    เรือขนาดใหญ่ของกลุ่มบริษัทจอดเทียบท่าเรือไว้ ผู้โดยสาร7คนได้ลงมาจากเรือ เกาะที่เขาได้มาพักร้อนคือเกาะที่เล่ากันว่า  เป็นที่อาศัยของแม่มดแห่งทองคำ  แน่นอน ว่าพวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระอย่างหนึ่ง

     

                    "เกาะนี้เหม็นคาวเลือดจังนะ" ชายหนุ่มหัวสีเพลิง มีรอยสักรูปเปลวเพลิงใต้ตาพูดพร้อมทำหน้าบูดเต็มที่ ชายหนุ่มก้าวลงจากเรือด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว  คนรู้จักเขาในนามว่า......จี

     

                    “ใจเย็นเถอะน่า  จี อย่างไงซะก็คงเป็นกลื่นปลาล่ะชายหนุ่มผมสีเหลืองทองพูดด้วยรอยยิ้มเช่นเคย เขาดูเป็นคนมีความเป็นมิตรสูง และมีความเป็นกันเองอยู่สูง เขาชื่อว่า จีอ๊อตโต้

     

                    “นุฟุฟุ ผมว่านะครับ  ดีไม่ดี คืนนี้เราอาจจะเจอผีแม่หม้ายมานอนกอดก็ได้นะครับเสียงหัวเราะน่าสยองขวัญของเขา ในดวงตาสีน้ำเงินอ่อนเหมือนท้องฟ้าแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา นามของเขาคือ เดม่อน

     

                    “พูดอะไรไร้สาระ  ผีน่ะ  ไม่มีจริงหรอกเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นพร้อมใบหน้าเรียบเฉย เขาคงไม่มีอะไรจะพูดกับเพื่อนของตนไปมากกว่านี้แล้ว เพราะตามนิสัยที่ไม่ชอบอยู่เป็นกลุ่มๆของเขาทำให้ถูกมองว่า เป็นคนเย็นชา อเลาดิ...นั้นคือชื่อของเขา

     

                    แต่นอกจากพวกเขาสี่คนที่ออกมาดูบรรยากาศภายนอกแล้ว...ยังมีเด็กหนุ่มอีกสามคนที่ถูกลาก(?)มาพักร้อนด้วยอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจด้วยเหตุผลต่างๆกันไป

     

                    "เจ้าพวกสัตว์กินพืชนี่น่าเบื่อชะมัด.." น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและหยิ่งยโสดังขึ้นมาอย่างดื้อๆ เจ้าของประโยคนั้นคือเด็กหนุ่มที่ดูจะอ่อนกว่าชายหนุ่มสี่คนแรกอย่างสิ้นเชิง เขามีเรือนผมสีดำรัตติกาลและนัยน์ตาที่คมดุจเหยี่ยวสีดำขลับ ซึ่งตอนนี้กำลังฉายแววเบื่อหน่ายอยู่ 'ฮิบาริ เคียวยะ' อยู่ในชุดของกรรมการคุมกฎแห่งนามิโมริเช่นเดิม ด้วยนิสัยรักโรงเรียนยิ่งชีพ(?)

     

                    "หวา!? จะมีผีแม่หม้ายออกมาจริงๆหรอครับ!?" และตามด้วยเสียงไร้เดียงสาดูอ่อนแอของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเปลือกไม้ที่ฟูฟ่องคล้ายๆกับจีอ๊อตโต้ ดวงตาที่เบิกโตขึ้นเล็กน้อยจากความกลัวที่ได้รับจากคำพูดสยองขวัญไร้สาระ(?)ของเดม่อนนั้นเป็นสีน้ำตาล ดูจะตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ชื่อของเขาคือ 'ซาวาดะ สึนะโยชิ'

     

                    "คึหึหึหึ...กลิ่นเลือดแรงดีจังนะครับ" และไม่ทันไรประโยคอันแสนน่าขนลุกก็ดังขึ้นอีกครั้งจากเด็กหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีออดอาย โดยข้างซ้ายเป็นสีน้ำเงินปกติ แต่ทว่าข้างขวานั้นเป็นสีแดงและมีตัวอักษรญี่ปุ่นประทับอยู่อย่างผิดมนุษย์ เรือนผมสีไพลินที่ถูกจัดเป็นทรงแบบแปลกๆคล้ายหัวสับปะรด(?) ทำให้เด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์ 'โรคุโด มุคุโร่' ดูแปลกจากมนุษย์ปกติโดยสิ้นเชิง..ถึงแม้ว่าลักษณะท่าทางจะดูดีมีสง่าก็ตาม

     

                    “นุฟุฟุ  พวกคุณเห็นนู้นไหมครับ....เดม่อนชี้ไปยังทะเลสาบฝั่งตรงข้าม ปกติแล้ว น้ำทะเลจะเป็นสีน้ำเงินสวยงาม  แต่ ณ ตอนนี้มันกับกลายเป็นสีแดงดั่งโลหิต

     

                    “วะ  ว้ากก!! ละ  เลือด  เลือด!สึนะกระโดดไปกอดคอจีอ๊อตโต้(?)ทันทีเมื่อเห็นเลือดสีแดงฉานที่ลอยมาตามน้ำ

     

                    “อย่าโวยวายได้ไหมเจ้าสัตว์กินพืช  มันก็คงเป็นน้ำแดงล่ะฮิบาริ เคียวยะพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆแล้วเดินเข้าไปในป่า

     

                    “เดี๋ยวสิ..อเลาดิเดินตามน้องชายของตนเข้าไปติดๆ เพราะเริ่มจะรำคาญกลุ่มเพื่อนของตนเหมือนกัน

     

                    “ให้ตายสิ  ไม่ไหวเลยนะพวกนายนี่จีอ๊อตโต้พยุงสึนะที่เข่าอ่อนแล้วลาก(?)เข้าไปในป่า

     

                    ณ กลางป่านั้นมีคฤหาสน์สวยงามถูกตัดแต่งไปด้วยสวนดอกไม้ สร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่มทั้ง7คนมาก เพราะเกาะแห่งนี้เป็นเกาะร้าง ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใดมาอยู่ที่นี่นานมากแล้ว  คนที่จะมาอยู่ที่นี่ก็มีแต่นักโบราณคดีที่อยากมาขุดค้นสมบัติแต่ว่า....ก็ไม่เคยมีใครกลับมาได้เลย เพราะอย่างงั้น  พวกพ่อแม่ของพวกเขาเลยซื้อเกาะแห่งนี้จากเจ้าของคนเก่าที่กลายเป็นบ้าไปเพราะเจอสิ่งที่ไม่มีอยู่บนโลกนี้เข้า พวกเขาถูกสั่งให้มาตรวจสอบแล้วถ้าให้ดี  ให้กำจัดสิ่งพวกนั้นทิ้งซะ  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปฎิเสธไป พ่อแม่ของพวกเขาก็ต้องลากให้มาอยู่แล้ว  ก็คงช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี

     

                    “ที่นี่....มีคฤหาสน์ด้วยรึ...จีอึ้งไปหลายวิ

     

                    “นั้นสินะ แล้วจะมีคนอยู่ไหมนะจีอ๊อตโต้ตัดสินใจเดินไปยังหน้าคฤหาสน์ที่เติมแต่งอย่างดี

     

                    “ขอโทษนะครับ  มีใครอยู่ไหมครับจีอ๊อตโต้เคาะประตูสองสามครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามีคนอยู่หรือเปล่า

     

                    เอี๊ยด....

     

                    “ท่านผู้เดินทางสินะขอรับเด็กหนุ่มในชุดพ่อบ้านเดินมาเปิดประตูต้อนรับด้วยความสุภาพแล้วโค้งให้

     

                    “อะ เออ  คุณเป็นใครครับสึนะถามแล้วยังคงหลบอยู่ด้านหลังของจีอ๊อตโต้

     

                    “ขอรับ  กระผมชื่อบาจิล เป็นคนรับใช้อยู่ในคฤหาสน์นี้น่ะขอรับเด็กหนุ่มพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

     

                    “คึหึหึ งั้นคุณเป็นคนของบริษัทสินะ...มุคุโร่ถามด้วยแววตาไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

     

                    “แน่นอนครับ กระผมถูกส่งมาให้ทำความสะอาดที่นี่อยู่ก่อนแล้ว  งั้นเชิญพวกคุณหนูเข้ามาข้างในเลยนะครับพ่อบ้านนามบาจิลโค้งพร้อมเปิดทางให้ชายหนุ่มทั้ง7เข้าไป

     

                    ภายในคฤหาสน์โบราณนั้น..กลับดีไซน์ทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ...พื้นกระจกขัดมันถูกปูทับด้วยพรมสีแดงสด รูปปั้นที่เป็นรูปซาตานถูกตรึงไว้กับไม้กางเขนถูกตั้งไว้ขนาบข้างซ้ายขวาแลดูขลัง(?)ขึ้นเยอะ พ่อบ้านบาจิลเดินนำให้แขกผู้มาเยือนทั้งเจ็ดเดินลึกเข้าไปอีก  เผยให้เห็นห้องรับแขกที่มีโซฟาสามตัวขนาดเล็กใหญ่ มีบันไดที่เลี้ยวไปเลี้ยวมาราวกับงูยักษ์ยาวขึ้นไปเพื่อให้คนที่อยู่อาศัยขึ้นไปชั้นต่อไปได้สะดวก พ่อบ้านผายมือให้ทุกคนเข้าไปนั่งตามสบาย

     

                    "ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์ 'Seven Sins' ครับ" เขาพูดพร้อมกับคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร

     

                    “คฤหาสน์ 'Seven Sins' ?”ชายหนุ่มประสานเสียงพร้อมกันด้วยความงุนงง

     

                    “เอาล่ะครับ เดี๋ยวผมจะให้สาวใช้พาพวกท่านไปยังห้องพักนะครับ อ้อแล้วก็....พ่อบ้านหยุดพูดแล้วหันมามองแขกรับเชิญด้วยรอยยิ้มและเอ่ยขึ้น

     

                “โปรดระวังด้วยนะขอรับ  ตอนกลางคืนกรุณาอย่ามาเดินตามระเบียงนะครับ  ผมเตือนด้วยความหวังดี"



    Creme brulee
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×