ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การผจญภัยของบักลอด

    ลำดับตอนที่ #2 : บักลอดกับการผเชิญหน้ากับสัตว์อสูร

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 66


             “ควายธนู” เป็นสัตว์เทพที่จะอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์หรือบนสวรรค์โดยควายธนูบนสวรรค์จะมีสติสัมปะชัญญะพูดคุยกับสิ่งมีชีวิตอื่นได้จะคอยรับใช้เหล่าเทวดาบนสวรรค์แดนต่างๆ ที่พวกมันอาศัยอยู่ มีคาถาอาคมเก่่งกล้าใน      ระดับหนึ่ง     พละกำลังมหาศาล สามารถผลักภูเขาทั้งลูกให้ขยับได้อย่างง่ายดาย

                   แต่เมื่อพวกมันเริ่มเข้าสู่ด้านมืดหลงไหลในคาถาอาคมมืดนำไปใช้ในทางที่ผิดๆ จนโดนจับได้ก็จะโดนสาปให้ตัวร้อนเป็นไฟรู้สึกเหมือนมีไฟกำลังไหม้อยู่ในร่างกายตลอดเวลาทำให้พวกมันต้องทนกับความร้อนแบบไม่จบไม่สิ้นจนสุดท้ายพวกมันก็กลายเป็น ควายธนูไฟ แต่อย่างไรก็ตามควายธนูไฟไม่สามารถหาตัวได้ง่ายๆเพราะ ควายธนูที่จะใช้   อาคมมืดได้นั่นหายากมากๆจึงทำให้พวกมันมีจำนวนน้อย

          

           เมื่อเอวานำทางบักลอดจนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วพอบักได้เจอเข้ากับควายธนูเขาไฟตัวดังกล่าวเขาก็รู้ทันทีเลยว่า        ควายธนูไฟตัวนี้ไม่ใช่ควายธนูไฟธรรมดาๆเพระบนศรีษะและส่วนเขาของควายธนูไฟตัวนี้มีอัขระอาคมธาตุไฟนั้นจึงหมายควายว่าควายธนูไฟตัวนี้จะไม่รู้สึกแสบร้อนจากไฟในร่างกายของตนเลยแม้แต่นิดเดียวหนำซ้ำยังสามารถนำไฟในร่างกายมาทำเป็นอาวุธได้โดยการพ่นมันใส่ศัตรู

          เมื่อควายธนูไฟได้เห็นบักลอดมันจึงไม่รีรอรีบพุ่งเข้าใส่บักลอดในทันที โชคดีที่บักลอดสามารถหลบได้ทัน เมื่อบักลอดเห็นเช่นนั้นเขาจึงได้ใช้ขวานวิเศษของเขาในการสับไปที่หัวของมันแต่ถว่าควายธนูไฟกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย มันพ่นไฟใส่บักลอดทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส บักลอดจึงขอให้เอวาช่วยใช้ธนูยิงสนับสนุนเขาจากระยะไกลแล้วจากนั้น        บักลอดก็็ได้เริ่มใช้พลังของขวานวิเศษของเขาโดยการเพิ่มพลังทำลายล้างให้กับขวานของเขา แล้วเขาก็ได้กลับเข้าไปสู้กับควายธนูไฟอีกครั้ง

    โดยครั้งนี้บักลอดสามารถต่อสู้กบควายธนูไฟได้อย่างสู้สีต่างฝ่ายต่างเจ็บ เมื่อควายธนูเห็นดังนั้นจึงออกอุบายว่า :

          “โอ้ นักรบผู้เกรียงไกร ข้าขอทราบนามของเจ้าได้หรือไม่”

          “ลอด นามของข้าคือลอด”

           “ลอด เจ้าช่างแข็งแกรงเสียจริงแต่ถ้าหากจะเเอาชนะข้าคงยากเสียหน่อยหนา”

            “แล้วเจ้าจะบอกอะไรกับข้าหรือ”

            “หากเจ้าจะเอาชนะข้าเจ้าต้องเอาหอกของเทพมารในนรกขุมที่3ที่มีนามว่า “กริชเดท” มาแทงที่ขั้วหัวใจของข้า"

            “แล้วทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วยหละ”

            “ข้าเห็นความอ่อนแอขอองเจ้าแล้วข้าก็อดสมเพศมิได้ ข้าเลยบอกทางชนะให้เจ้าหนะ”

            “งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปเอาหอกมาแทงขั้วหัวใจของเจ้าก็แล้วกัน เจ้าก็จงรอข้าสิรอจนกว่าข้าจะกลับมา”

     บักลอดโชว์โง่ไปหนึ่งสเต็ปก่อนจะเดินทางไปยังนรกเพื่อไปเอาหอกกับ กริชเดท และเมื่อ บักลอด ได้หอกมาแล้วเขาจึงได้เดินทางกลับไปยังป่าเอลเดน เพื่อกลับไปต่อสู้กับควายธนูไฟต่อ ถึงก็พบว่าควายธนูกำลลังร่ายอาคมบางอย่าง

    “ อิปิภะวา ระสัมสัมโธ ชาระสัมโห ตะโลวิหะ ตะปุสะมะระสัต!! ”

    ทันใดนั้นก็เกินปรากฏการณ์ “สุริยะคราส” ขึ้นมา เมื่อนั้นทำให้อสูรโผล่ออกมาจากใต้ดิน และทำให้ ควายธนูไฟตนนั้นกลายเป็นสัตว์อสูรเต็มตัว ทำให้พละกำลังเพิ่มขึ้นมหาศาล พลังอาคมแแข็งขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น

    เมื่อมันเห็นบักลอดมันจึงได้ใช้คาถาของมันดึงเอาภูเขาที่อยู่รอบๆมาทับบักลอด บักลอดหลบไม่ทันโดนภูเขาทับเข้าไปเต็มๆแต่บักลอดก็ได้ใช้แรงของตนยกภูเขาสู้ เมื่อตั้งหลักได้ก็ทำการโยนภูเขาใส่ ควายธนูอสูร แล้วทำการเสกให้ภูเขาระเบิดเมื่อสัมผัสกับควายธนูไฟ เมื่อควายธนูไฟสัมผัสกับภูเขาก็ได้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น

     หลังจากระเบิดได้เงียบลงก็ได้เห็นว่าพื้นที่รอบๆนั้นพังพินาศไม่มีชิ้นดี แต่บักลอดกับควายธนูไฟกลับไม่เป็นอะไรเลย เมื่อเห็นเช่นนั้นบักลอดก็เริ่มเบ่งพลังและท่องคาถาปลุกพลังในหอก         กริชเดท ๆก็เริ่มเปร่งแสงออกมาทำให้ควายธนูไฟสัมผัสได้ถึงพลังของหอกนั้น มันจึงไม่รีรอนำตรีของมันขึ้นมาลงอาคมเสริมพลังของมันแล้วจากนั้นการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×