มหาวิทยาลัยที่รัก
เรื่องราวสนุกสนาใน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้เข้าชมรวม
317
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เราเป็นเด็กบ้านนอกนะ แต่มาเรียนในเมือง แล้วต้องการเรียนที่ใหนก็ได้ ขอให้ได้เรียน แต่อยากเรียนเกี่ยวกับศิลปะ อยู่หอไปมาเริ่มมีการไปเล่น ส่วนมากแชทกันทางเนต แต่เจ้าของร้านปิ้งเราแบบว่าไม่อยากเสียตังค่าเนตเยอะ และเขาชอบพาเพื่อนเขามาหาเรา และอยากให้เราแนะนำให้เพื่อน เพื่อนเราก็ไม่ว่าอะไร ดีอีมีคนเลี้ยง
พอเรารู้ว่าจะชวนไปดูหนังเราเริ่มบอกเพื่อนๆ ถึงความน่าจะอันตราย เราก็เลิกไปร้านเกมหันไปกินเนื้อย่าง ส้มตำ เม้าแทน อีกอย่างมันจะเป็นช่วงประกาศผลโควต้าเพื่อสัมพาษณืแล้ว พอห่างมาไม่นาน ก้ได้ข่าวว่าเขาย้ายของกลับบ้านไปโดยไม่บอกคายเลย เราก็ได้แต่สมน้ำหน้าที่ทำเรื่องไม่ดี เราเกีอบได้เป็นเมียน้อยคายก็ไม่รู้เพราะนายคนนั้น แต่เราก็คุ้มนะ แต่ไม่กล้าเข้าร้านนั้นอีกเพราะป้านายคนนั้นมองเรายังกะกะ...ข้างถนน
ผลประกาศโควต้ามาแล้ว ไปดูสิ ทุกคนแห่ไปเปิดเน็ตดูแล้วแต่ความสามารถ เราก็ไปดูให้เพื่อนเปิดให้ ปรากฎว่าเราติดนฤมิตศิลป์ มมส คือติดสัมภาษณ์ เราจะทำไงดีฝีมือก็ไม่ดีทำไงดีนะ อืมๆ ลองๆดู เพื่อนๆ ก็ติดกันถมไป พอบอกแม่เท่านั้นแหละเป้นเรื่องเลย แต่แม่ก็ให้ไปนะแต่ม่ค่อยเต็มใจ ซึ่งเราไปกับเพื่อนไปวันก่อนสัมภาษณ์ 1 วัน ตอนเย็น หนาวมากๆ สัมพาษณ์ที่ ม ใหม่ โอ้วดึกมากหาห้องพักไม่มี ต้องกลับไปใน ม เพื่อไปหารุ่นพี่แต่รุ่นพี่กลับหมดแล้วก็ปาไปสองทุ่มแล้วนี่นา แต่ยังดีมีพี่โรงเรียนและเพื่อนพี่โรงเรียนพาไปนอนด้วย
วันสัมพาษเราก็ตื่นเต้นเพื่อนๆทุกคนมือโปร ยกเว้นเรา 555 เขาให้สอบวาดหุ่นนิ่ง ลบแล้วลบอีก พี่ก็ไม่มาสนใจเรา สนแต่คนสวยๆ พอสอบวาดเสร็จก็รอสัมภาษณ์ ภาพที่วาดได้ B น่าจะอยู่ในเกนฑ์ ดีมั้ง เขาถามเราตอบ แต่เราง่ายๆ สบายๆ นิ่งๆ เขาก็ดูต้อนรับเรา พอลงไปก็ไปซื้อผลไม้กิน เห็นพี่ถาปัตเต้น ได้ยินเสียงตั้งแต่ตอนจะสอบตอนนี้สอบเสดแล้วยังไม่หยุด เราไปมมส ทำให้เรารุ้เลยเราเรียนที่นี่นะ (ถ้าได้) อยากเรียนมากนี่แหละคือเรา เพื่อนบางคน ไม่แม้แต่จะมองใบสมัคร "เรารอโคต้า มข. ดีกว่า" ส่วนเรา มข. หรอโอ้ยใหญ่ก็ใหญ่
ตอนที่ไปติวนะ คนติวกันทั้งที่เป็นการติวแบบเราคือมีอาจารมาสอนเรียนเป็นคลาสเหมือนเรียนทั่วไปเกงข้อสอบ อีกส่วน คือ การติวโดยพี่ๆ ในมข. เขาบอกว่าถูก เข้าใจ แต่เรากลัว พี่ๆมีแต่คนเก่งๆ พอสุดท้ายไกล้จะติวเสด พี่พาไปดูพี่ๆ เชียร์กลางเต้น และแนะนำการเรียน คายอยากเรียนอะไร ก็ไปหาพี่ๆ ที่เรียน เราก็ไปคณะมนุด บ้าง วิทยาศาสตรื ศึกษา แต่ไม่สนใจ แล้วพี่ๆก็พาไปไหว้เจ้าพ่อพี่ๆ บอกว่า อย่าขอ อย่าบน เพราะเจ้าพ่อจะมาเอาชีวิต เราก็ขอให้เจ้าพ่ออยู่ที่นี่ปกปักรักษา คนมข. ประมาณนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะคิดหรอกมข.
พอเราอยู่ได้ซักพักเราก็ไปสอบ ความถนัดนฤมิตศิล สอบความรู้ครู สองอย่าง ซึ่งได้อาจารย์สอนวาดเส้น ที่เราไปเรียนกับเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนี้เขาเรียน ที่ มช แล้ว พี่เขาถามเรารู้อะไรบ้าง ไม่รู้ค่ะ มีอะไรบ้าง ดินสอ กระดาษ ไม่มีค่ะ 555 ไม่มีอะไรเลย พอวาดไปพี่เขามองหน้า แล้วสอนการจับดินสอการลงเงา พอเสร็จ พี่เขาบอกก็ทำได้นี่นา พี่เขาเก่งมาก เป็นศิลปินอิสระ ชื่อเพลิง วัตรสาร
พอผลโควต้าออกก็พอดีเราได้ทุนเรียนดี และเราก็ติดราชภัฎด้วยแบบว่าแค่ไปสอบไม่มีการสัมภาษแล้วประกาศผล แม่บอกว่าเรียนราชภัฎ เราไม่ยอมสุดท้ายต้องมาจ่ายค่าเทอมที่มมส. เราดีใจมากๆ เย้ เราได้เรียนแล้ว 555มีที่เรียนแล้ว
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เราเป็นเด็กบ้านนอกนะ แต่มาเรียนในเมือง แล้วต้องการเรียนที่ใหนก็ได้ ขอให้ได้เรียน แต่อยากเรียนเกี่ยวกับศิลปะ อยู่หอไปมาเริ่มมีการไปเล่น ส่วนมากแชทกันทางเนต แต่เจ้าของร้านปิ้งเราแบบว่าไม่อยากเสียตังค่าเนตเยอะ และเขาชอบพาเพื่อนเขามาหาเรา และอยากให้เราแนะนำให้เพื่อน เพื่อนเราก็ไม่ว่าอะไร ดีอีมีคนเลี้ยง
พอเรารู้ว่าจะชวนไปดูหนังเราเริ่มบอกเพื่อนๆ ถึงความน่าจะอันตราย เราก็เลิกไปร้านเกมหันไปกินเนื้อย่าง ส้มตำ เม้าแทน อีกอย่างมันจะเป็นช่วงประกาศผลโควต้าเพื่อสัมพาษณืแล้ว พอห่างมาไม่นาน ก้ได้ข่าวว่าเขาย้ายของกลับบ้านไปโดยไม่บอกคายเลย เราก็ได้แต่สมน้ำหน้าที่ทำเรื่องไม่ดี เราเกีอบได้เป็นเมียน้อยคายก็ไม่รู้เพราะนายคนนั้น แต่เราก็คุ้มนะ แต่ไม่กล้าเข้าร้านนั้นอีกเพราะป้านายคนนั้นมองเรายังกะกะ...ข้างถนน
ผลประกาศโควต้ามาแล้ว ไปดูสิ ทุกคนแห่ไปเปิดเน็ตดูแล้วแต่ความสามารถ เราก็ไปดูให้เพื่อนเปิดให้ ปรากฎว่าเราติดนฤมิตศิลป์ มมส คือติดสัมภาษณ์ เราจะทำไงดีฝีมือก็ไม่ดีทำไงดีนะ อืมๆ ลองๆดู เพื่อนๆ ก็ติดกันถมไป พอบอกแม่เท่านั้นแหละเป้นเรื่องเลย แต่แม่ก็ให้ไปนะแต่ม่ค่อยเต็มใจ ซึ่งเราไปกับเพื่อนไปวันก่อนสัมภาษณ์ 1 วัน ตอนเย็น หนาวมากๆ สัมพาษณ์ที่ ม ใหม่ โอ้วดึกมากหาห้องพักไม่มี ต้องกลับไปใน ม เพื่อไปหารุ่นพี่แต่รุ่นพี่กลับหมดแล้วก็ปาไปสองทุ่มแล้วนี่นา แต่ยังดีมีพี่โรงเรียนและเพื่อนพี่โรงเรียนพาไปนอนด้วย
วันสัมพาษเราก็ตื่นเต้นเพื่อนๆทุกคนมือโปร ยกเว้นเรา 555 เขาให้สอบวาดหุ่นนิ่ง ลบแล้วลบอีก พี่ก็ไม่มาสนใจเรา สนแต่คนสวยๆ พอสอบวาดเสร็จก็รอสัมภาษณ์ ภาพที่วาดได้ B น่าจะอยู่ในเกนฑ์ ดีมั้ง เขาถามเราตอบ แต่เราง่ายๆ สบายๆ นิ่งๆ เขาก็ดูต้อนรับเรา พอลงไปก็ไปซื้อผลไม้กิน เห็นพี่ถาปัตเต้น ได้ยินเสียงตั้งแต่ตอนจะสอบตอนนี้สอบเสดแล้วยังไม่หยุด เราไปมมส ทำให้เรารุ้เลยเราเรียนที่นี่นะ (ถ้าได้) อยากเรียนมากนี่แหละคือเรา เพื่อนบางคน ไม่แม้แต่จะมองใบสมัคร "เรารอโคต้า มข. ดีกว่า" ส่วนเรา มข. หรอโอ้ยใหญ่ก็ใหญ่
ตอนที่ไปติวนะ คนติวกันทั้งที่เป็นการติวแบบเราคือมีอาจารมาสอนเรียนเป็นคลาสเหมือนเรียนทั่วไปเกงข้อสอบ อีกส่วน คือ การติวโดยพี่ๆ ในมข. เขาบอกว่าถูก เข้าใจ แต่เรากลัว พี่ๆมีแต่คนเก่งๆ พอสุดท้ายไกล้จะติวเสด พี่พาไปดูพี่ๆ เชียร์กลางเต้น และแนะนำการเรียน คายอยากเรียนอะไร ก็ไปหาพี่ๆ ที่เรียน เราก็ไปคณะมนุด บ้าง วิทยาศาสตรื ศึกษา แต่ไม่สนใจ แล้วพี่ๆก็พาไปไหว้เจ้าพ่อพี่ๆ บอกว่า อย่าขอ อย่าบน เพราะเจ้าพ่อจะมาเอาชีวิต เราก็ขอให้เจ้าพ่ออยู่ที่นี่ปกปักรักษา คนมข. ประมาณนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะคิดหรอกมข.
พอเราอยู่ได้ซักพักเราก็ไปสอบ ความถนัดนฤมิตศิล สอบความรู้ครู สองอย่าง ซึ่งได้อาจารย์สอนวาดเส้น ที่เราไปเรียนกับเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนี้เขาเรียน ที่ มช แล้ว พี่เขาถามเรารู้อะไรบ้าง ไม่รู้ค่ะ มีอะไรบ้าง ดินสอ กระดาษ ไม่มีค่ะ 555 ไม่มีอะไรเลย พอวาดไปพี่เขามองหน้า แล้วสอนการจับดินสอการลงเงา พอเสร็จ พี่เขาบอกก็ทำได้นี่นา พี่เขาเก่งมาก เป็นศิลปินอิสระ ชื่อเพลิง วัตรสาร
พอผลโควต้าออกก็พอดีเราได้ทุนเรียนดี และเราก็ติดราชภัฎด้วยแบบว่าแค่ไปสอบไม่มีการสัมภาษแล้วประกาศผล แม่บอกว่าเรียนราชภัฎ เราไม่ยอมสุดท้ายต้องมาจ่ายค่าเทอมที่มมส. เราดีใจมากๆ เย้ เราได้เรียนแล้ว 555มีที่เรียนแล้ว
พอมีการสอบเอเน็ตโอเน็ตก็สอบๆไป แล้วก็ลงอะไรไม่รุไปงั้น
พอประกาศผลสอบโอ้โห ได้ตั้งเยอะ ประกาศผลสอบรอบสอง ลดลงอีกแระ รอบสามช่างหัวโมยิ่งลดลงอีก และพอประกาศผลการสอบเราก็ไม่รุเรื่อง แต่เพื่อนโทรมาบอกว่าติดมข เพื่อนๆก็บอกไปเถอะได้น่า ได้แน่นอนจ้า เอาเลย
สุดท้ายแม่ก็รีบพามามข เพราะว่าที่นี่แม่อยากให้เรียนที่สุดนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนที่มข ที่เป็นมหาลัยชื่อดังของอีสาน
ผลงานอื่นๆ ของ zoo ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ zoo
ความคิดเห็น