ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ย้อนกลับมาสู่ยุค70

    ลำดับตอนที่ #2 : ของทำบุญถูกส่งเรียบร้อย

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 66


     เมื่อตั้งสติได้ หวังอันเล่อ ก็ค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียงเตา เธอเดินไปสำรวจรอบๆบ้านหลังเล็กแห่งนี้

    ทุกอย่างยังคงถูกจัดเรียงเหมือนเดิม ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสเธอกลับมาอีกครั้ง เธอจะไม่ปล่อยให้ ผู้หญิงคนนั้น หรือ ใครมาบงการจนครอบครัวของเธอต้องพังอีกครั้งเด็ดขาด  ไม่มีทาง ! 

     

    แต่จะว่าไป ช่วงเวลาในชนบทตอนนี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาเลวร้ายแห่งหนึ่ง เพราะยุคสมัยนี้ผู้คนไม่สามารถเปิดร้านค้าขายได้ตามอำเภอใจ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องอยู่ภายใต้การจัดสรรของรัฐบาล อีกทั้งการจะซื้อข้าวของ แต่ละอย่างได้นั้นก็จะต้องใช้คูปอง ในแต่ละเดือนครอบครัวแต่ละครัวเรือนจะได้รับคูปองจากทางการใน ทุกๆต้นเดือนเพื่อเอาไว้จับจ่ายใช้สอย ซึ่งกว่าจะยกเลิกใช้ก็ปาไปในปี 80 ดังนั้นช่วงเวลา ที่อยู่ในชนบท จึงค่อนข้างยากลำบากพอสมควร

    แถมในแต่ละปี ก็มีผู้คนอดอยาก ล้มตายเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าพืชอะไรผักอะไรที่สามารถยัดลงไปเพื่อประทังความหิวได้ผู้คนเหล่านั้นก็สามารถขุดมันขึ้นมากินได้หมด และการที่เธอย้อนเวลากลับมา แม้จะมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังต้องเผชิญกับชะตากรรมเลวร้าย และยากลำบากอยู่ดี 

     

    ในขณะที่หวังอันเล่อ กำลังเดินสำรวจรอบๆบ้านและขบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาในหัว เสียงคล้ายๆระบบ AI จากโลกอนาคตที่เธอเคยได้ยินบ่อยๆในห้องทำงานของลูกชาย

     

    " ของทำบุญได้ถูกจัดส่งสำเร็จเรียบร้อยแล้วเชิญกดที่ปุ่มเพื่อปลดล็อค" 

     

    เพียงพริบตา ปุ่มสีฟ้าเล็กๆก็เด้งลอยขึ้นมากลางอากาศ หวังอันเล่อ ถึงกับถอยหลังกรูด ด้วยความตกใจ และเมื่อชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ร่างบางก็ตัดสินใจ ยกมือกดเข้าไปในปุ่มสีฟ้า เพียงครู่ เธอก็เห็นข้าวของมากมายจำนวนมากเรียงตัวอัดกันแน่น อยู่ในกล่องตารางกลางอากาศ  อีกทั้งมันยังดูคุ้นตาราวกับว่าเธอเคยเห็นพวกมันมาก่อน

    นึกออกแล้ว นี่เป็นของทำบุญที่สามีเธอทำมาให้ตั้งแต่โลกก่อน หมายความว่ายังไงกันทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ อีกทั้งด้านล่างกล่อง ยังมีช่อง ตัวเลขที่ดูเหมือนจะเป็นจำนวนเงินทำบุญ มากถึง 300,000 หยวน 

    นี่มัน เงินจำนวนมาก ที่สามีเธอบริจาคให้กับเด็กยากไร้.... ไม่ผิดแน่ นี่คือของที่เฉินเยียนหมั่นทำบุญทำทานให้เธอ ในตอนที่เธอตายเป็นวิญญาณ ในที่สุดเธอก็จะได้ใช้มันแล้วอย่างนั้นหรือ นี่เธอไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่

    เมื่อคิดได้ดังนั้น หวังอันเล่อจึงลอง หยิบของบางอย่างออกมาจากหน้าต่างกล่องสีฟ้า มันคือผ้านวมผืนหนา และสามารถใช้งานได้จริง 

     หวังอันเล่อ มองไปที่ผ้านวมนุ่มๆในมือก็นึกขอบคุณสวรรค์ อย่างน้อยหากมีข้าวของเหล่านี้เธอและครอบครัวก็จะผ่านชะตากรรมเลวร้ายนี้ไปได้ 

    หลังจากเรียนรู้วิธีใช้งานมันอยู่พักหนึ่ง เมื่อทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วและเข้าใจกลไกของมัน หวังอันเล่อ ก็รีบกลับไปที่เตียงเตา พร้อมกับเตรียมตัวเอาทารกน้อยเข้าเต้า เพื่อดูดนม แต่ทว่า ใครจะคาดคิดในระหว่างนั้น คนที่เธอเกลียดที่สุด กับโผล่หน้าเข้ามา เธอคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือจูถิงๆนั่นเอง

     

    " อันเล่อ ตื่นแล้วหรอ อาการปวดท้องเป็นอย่างไรบ้างดีขึ้นแล้วหรือยัง" 

     จูถิงถิง ถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้านของ หวังอันเล่อ พร้อมกับทิ้งกายลงบนเตียงข้างๆ พรางมองสำรวจไปยังสหายเบื้องหน้าด้วยความเป็นห่วง

    อันเล่อ เก็บซ่อนสีหน้าอาฆาตเอาไว้ภายในพร้อมกับยกยิ้มอ่อน เพราะยามนี้เธอเดาไม่ออกเลยว่าคนที่นั่งอยู่ คือจูถิงๆตัวจริงหรือว่าเป็นวิญญาณจากโลกอนาคตนางนั้นกันแน่  คงมีแต่ต้องพิสูจน์ดูเท่านั้น...

     

    "  ดีขึ้นแล้ว จริงสิจูถิง เธอตัดสินใจเรื่องการแต่งงานได้หรือยัง พี่เสียวอู่ดูชอบเธอมาก เธอมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างล่ะ " ร่างเล็กพูดพลางเหลือบตามมองไปยังสหายด้านข้างเป็นระยะ พร้อมกับสังเกตปฏิกิริยา ว่าคนคนนี้คือจูถิงตัวจริงหรือตัวปลอม

     

    "อืมม.... เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร จริงๆแล้วก็ตอบตกลงไปแล้วแหละ บางทีฉันควรเอาอย่างเธอบ้างดีกว่า รีบหาครอบครัวก่อนที่ตัวเองจะแก่ อีกทั้งฉันก็เลิกคาดหวังแล้วล่ะนะ คิดว่าคงไม่มีทางได้กลับไปบ้านเกิดอยู่ดี อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ยังมีเธอ มีหลานชายตัวน้อยคนนี้ เห็นที ฉันคงต้องรีบแต่งงาน กับพี่เสียวอู่แล้วแหละ จะได้รีบมีลูกมาเล่นเป็นเพื่อนของเฉินหลี่หมิงเร็วๆ" คำตอบมากมายที่หลุดออกมาจากปากของจูถิงๆทำให้หวังอันเล่อถึงกับลอบผ่อนลมหายใจออกมา เบาๆ

     

    ยังไม่ตายสินะ ยังมีชีวิตอยู่สินะ จูถิงๆ สหายเพียงคนเดียวของฉัน

    เมื่อคิดได้ดังนั้นน้ำตาใสๆก็ไหลรื้นขึ้นมาที่ขอบ ด้านจูถิงๆที่เห็นเพื่อนสาวกำลังร้องไห้เธอก็นึกแปลกใจ อดไม่ได้ที่จะถามออกมาเสียงดัง

     

    " เป็นอะไรของเธอเนี่ย ร้องไห้ทำไมพี่เฉินเยียนรังแกอะไรเธอ บอกมาเดี๋ยวนี้หรือว่าเป็นยัยป้าข้างบ้าน ทำไม มันมาหาเรื่องเธออีกแล้วอย่างนั้นหรือ หนอยย ! ยัยแก่นี่เห็นที่จะปล่อยไว้ไม่ได้ " จูถิงๆพูดพลางถลกแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกับลุกขึ้นจะเดินไปเอาเรื่องป้าเฟยข้างบ้าน ซึ่งเป็นคู่ อริของตน 

    เดิมทีนิสัยของจูถิงๆตัวจริงเป็นคนโผงผาง พูดขวานผ่าซากและมีนิสัยทะเล้นทะลึ่งคล้ายๆผู้ชาย ส่วนจูทิ้งทิ้งตัวปลอมนางมักจะมีนิสัยนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดเล่น ติดเป็นคนปากหวานชอบหลอกใช้เสียมากกว่า ซึ่งหากดูๆไปแล้วทั้งๆที่สองคนนี้ก็มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว แต่เธอในชาติก่อนทำไมถึงมองไม่ออกกันนะ

    " ไม่ใช่..ไม่มีใครทำอะไรฉันทั้งนั้นแหละ ฉันก็แค่ดีใจที่ได้พบหน้าเธออีก ถิงถิง ฉันคิดถึงเธอมาก แล้วก็ดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้ง" หวังอันเล่อยกมือขึ้นมาปาดน้ำหูน้ำตาออกจากใบหน้าพร้อมกับ ทำทีจะสวมกอดสหายของตน การกระทำของนางทำให้จูถิงๆถึงกับถอยหลัง พร้อมกับเบ้หน้าออกมา เธอค่อยๆยื่นมือเล็กๆ ดันหัวสหายรักด้านข้าง ด้วยท่าทีรังเกียจ

     

    " ยัยบ้าเช็ดขี้มูกแล้วจะเอามาป้ายเสื้อฉันอย่างนั้นหรอ ถอยไปเดี๋ยวนี้เลยนะ นี่มันเสื้อตัวเก่งเลยนะ 3 วันจะซักสักทีนึง อย่าได้เอาน้ำมูกน้ำตาเธอมาโดนให้เลอะเด็ดขาด " แม้ปากจะบอกไปแบบนั้น แต่ทว่าจูถิงถิงกับหัวเราะออกมา

     

    " ยัยบ้า ฉันคิดถึงเธอมากรู้ไหมฉันเป็นห่วงเธอมาก นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้เจอกันยังจะมารังเกียจฉันอีกยัยเพื่อนบ้า "

     

    " หวังอันเล่อ !!! เธอ....พูดคำหยาบอย่างนั้นหรอ บ้าไปแล้ว หมาต้องออกลูกเป็นลิงแน่ หวังอันเล่อของฉันพูดคำหยาบ "

    ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาหวังอันเล่อเป็นคนเงียบไม่ว่าใครพูดอะไรเธอก็จะเอาแต่พยักหน้าและส่งยิ้มให้ ไม่นึกเลยวันนี้นอกจากเธอจะพูดยาวเหยียด อีกทั้งยังพ่นคำหยาบออกมาอีก ให้ตายเถอะนี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

    " ก็แค่อยากลองเปลี่ยนตัวเองดูบ้างไม่มีอะไรหรอก จริงสิ ช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้อย่าไปแถวสะพานกลางหมู่บ้านเลยนะ เห็นว่าเก่ามากแล้วแถมไม่ค่อยดีจะถล่มลงมาวันไหนก็ไม่รู้ ฉันเป็นห่วง" 

     

    " ไม่ไปหรอกน่าไม่ได้มีธุระอะไรให้ไปแถวนั้นเสียหน่อย แค่วันๆทำงานในไร่จัดเสบียงก็เหนื่อยจนร่างจะแตกอยู่แล้ว ฉันว่าฉันไปดีกว่า เธอกับลูกจะได้พักผ่อนไปนะ" สิ้นเสียงพูดจูถิงๆก็เดินออกจากบ้านไป

    แม้คนตรงหน้าจะรับปาก แต่เธอก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เหตุการณ์สะพานถล่มกำลังจะเกิดขึ้น และมันก็เป็นสาเหตุทำให้ดวงวิญญาณจากโลกอนาคตนางนั้นเข้ามาสิงสู่ยังร่างกายสหายของตน เห้อ คงมีแต่ต้องหาทางป้องกันไปก่อน แล้วค่อยมาวางแผนอีกทีว่าจะรับมืออย่างไรกับเรื่องนี้

     

    เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เอาเด็กทารกมาเข้าเต้าปล่อยให้เขาดูดจ๊วบๆจนน้ำนมไหลเข้าปาก พอ เห็นว่าเจ้าก้อนแป้งน้อยอิ่มแล้ว เธอก็วางบุตรชายลงบนเตียงเตาพร้อมกับลุกขึ้นมาที่ครัวด้านหลังเพื่อเตรียมตัวทำกับข้าวไว้รอสามีกลับมาจากแปลงนา

     

    เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการหุงหาอาหารเพราะยามนี้มีข้าวสารอาหารมากมายอยู่ในช่องของทำบุญที่ได้รับมา ดังนั้นต่อให้เธอไม่ไปลงนาแลกแต้มก็ จะมีอาหารให้กินอยูดี 

     

    ดีล่ะ ถ้างั้นวันนี้ก็ทำไข่ต้ม กินคู่กับผัดผักก็แล้วกัน แถมยังมีข้าวสวยร้อนๆที่ถูกหุงขึ้นหม้ออีก หากพี่เฉินเยียนกลับมา เขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ แทบทนรอเจอหน้าไม่ไหวแล้ว  คิดถึงจังเลยนะ บรรยากาศแบบนี้~ 

     

    อ่านแล้วอย่าลืม

    กด comment ด้วย

    เจอกันน้า


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×