คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อดีตและจุดเริ่มต้น
หวังอันเล่อ ยุวปัญญาชนจากเมืองปักกิ่งที่ถูกส่งตัวไปยังหมู่บ้านในชนบทห่างไกล
หลังจากถูกส่งตัวไปได้ไม่กี่ปี ด้วยความท้อแท้ สิ้นหวัง บวกกับความผิดพลาด ทำให้เธอจับพลัดจับผลู แต่งงานกับชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่าเฉินเยียน
ไม่นาน หลังจากแต่งงาน ทั้งสองก็มีโซ่ทองคล้องใจคือบุตรชายแสนน่ารัก แต่แล้ว เมื่อยุคสมัยผลัดเปลี่ยนผู้นำ ประกาศจากรัฐบาลก็เกิดขึ้น ให้ยุวปัญญาชนที่ถูกส่งตัว สามารถกลับสู่เมืองหลวงบ้านเกิดของตน
ในเวลานั้น หวังอันเล่อตั้งใจพาสามีและลูกกลับไปด้วย แต่ก็ถูกสหายคนสนิทของตนนามว่าจูถิงถิง ขัดขวางเอาไว้ โดยเธออ้างเหตุผลว่า การเดินทางเข้าเมืองโดยมีเด็กเล็กไปด้วยจะไม่ค่อยสะดวก อีกทั้งตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางก็มีเพียงแค่สองใบ จูถิงๆจึงบอกว่าให้อันเล่อไปกับเธอก่อน ถ้าอะไรเรียบร้อยแล้ว ค่อยกลับลงมารับพวกเขาก็ไม่สาย
เพราะความไว้ใจหวังอันเล่อจึงเชื่อจูถิงๆและไม่ว่าเธอคนนั้นจะพูดอะไร อันเล่อก็มักจะเห็นด้วยไปเสียทุกอย่าง จนกระทั่งหลังกลับมาถึงปักกิ่งได้2วันจูถิงๆ เกิดได้เสียกับพ่อของเธอ
เมื่อหวังอันเล่อรู้เรื่องเข้า ก็โกรธและได้ทะเลาะมีปากเสียงกับพวกเขา เธอวิ่งหนีออกมาจากบ้านในค่ำคืนนั้นด้วยความเสียใจ แต่แล้วอุบัติเหตุร้ายแรงก็เกิดขึ้น เพียงข้ามคืนหวังอันเล่อก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราในวัยเพียงแค่ 25 ปี เท่านั้น และเพราะแบบนี้เอง จึงทำให้ยามนี้หวังอันเล่อกลายเป็นดวงวิญญาณล่องลอย หาทางกลับเข้าร่างไม่เจอ
และในช่วงเวลาที่อันเล่อกลายเป็นดวงวิญญาณ เธอก็ได้รู้ความลับอย่างหนึ่งของจูถิงๆ
แท้จริงแล้ว คนที่เธอคิดว่าเป็นสหายรักมาตลอดกลับไม่ใช่จูถิงตัวจริง แต่เป็นวิญญาณที่มาจากโลกอนาคต อีกทั้งเธอยังได้ล่วงรู้ว่า เรื่องคืนนั้นของจูถิงๆ และ พ่อของเธอก็ ล้วนเป็นแผนการที่ จูถิงๆตัวปลอมคนนั้นวางไว้ตั้งแต่ต้น !
แต่กว่าจะรู้เรื่องราวและความจริงทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว หลังจากเธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ไม่นาน พ่อก็แต่งงานใหม่กับจูถิงตัวปลอม ไม่นานเขาก็ตายจากไป ส่วนทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ตกกลายไปเป็นของผู้หญิงคนนั้น ส่วนตัวเธอที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก็ถูกส่งมาปล่อยทิ้งไว้ยังโรงพยาบาลห่างไกล.....
แต่แล้ววันหนึ่ง คนที่คิดว่าชาตินี้จะไม่มีทางได้พบเจอกันอีก กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ข้างๆ เตียงคนไข้ที่มีร่างกายของเธอนอนอยู่
เขาคนนี้ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเฉินเยียน สามีของเธอนั่นเอง
หวังอันเล่อกลับมามีความหวังอีกครั้ง เธอเริ่มรู้สึกถึงการอยากมีชีวิตอยู่ต่อ แต่แล้วการพบกันครั้งแรกของเธอกับสามี ก็กลับกลายเป็นวันสุดท้ายที่ร่างกายโคม่าของเธอมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
เสี่ยงชีพจรจากเครื่องวัด ร้องบอกเป็นสัญญาณ ว่ายามนี้ร่างกายซูบผอมของหญิงสาวอายุ 35 ปี กำลังดับสิ้นลง
เฉินเยียน มองร่างของภรรยาพร้อมกับร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายคน ด้านข้าง ก็มีเด็กหนุ่มอายุราวๆ 15-16 ยืนมองมายังร่างไร้วิญญาณของคนเป็นแม่ ด้วยความรู้สึกสับสน
" ผู้หญิงคนนี้ทิ้งเราไปตั้งแต่ผมยังเล็ก ในวันที่ได้พบกันอีก เขาก็เลือกทิ้งเราไปอีกครั้ง ทำไมครับ ทำไมเราต้องให้เธอ กลับมาทำร้ายจิตใจเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยครับพ่อ ทั้งที่ทุกอย่างมันก็เริ่มดีขึ้นแล้วแท้ๆ" น้ำเสียงตัดพ้อเจือปนไปด้วยความเศร้า ของเฉินหลี่หมิง เอ่ยถามกับพ่อของตนด้วยความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจ
ตลอดเวลาสิบกว่าปี เขาพ่อลูก ไม่เคยหยุดตามหาเธอเลยสักครั้ง มีคำถามมากมายที่เขาอยากได้คำตอบจากเธอ ว่าทำไมกัน แม่ผู้แสนดี ถึงได้ทอดทิ้งพวกเขาและจากมา หากเธอทิ้งพวกเขามาแล้ว ควรต้องมีชีวิตสุขสบายมากกว่านี้สิ
ในขณะที่กำลังขบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฉับพลัน ก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้น ดังตึกตัก เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสองพ่อลูกหันไปดู กลับพบว่าเธอที่อยู่ตรงหน้านี้ คือจูถิงถิงสหายคนสนิทของภรรยา
" ตายจริงนี่ฉันมาขัดจังหวะการไว้อาลัยให้กับคนตายหรือเปล่าคะเนี่ย โธ่ ! สหายที่น่าสงสารของฉัน " น้ำเสียงเย้ยหยันที่หลุดออกมาจากปากของสตรีตรงหน้าทำเอาสองพ่อลูกถึงกับมองไปที่เขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ
" ไม่คิดจะเสียใจหน่อยหรอทั้งๆที่เธอเป็นสหาย และคอยช่วยเหลือคุณมาตลอด ท่าทีของคุณ มันไม่ได้บ่งบอกเลยว่ารู้สึกเสียใจสักนิด " เฉินหลี่หมิงเอ่ยถามพร้อมกับจ้องไปที่คนตรงหน้าด้วยสายตาไม่พอใจ
"ไม่มีประโยชน์จะต้องเสแสร้งอีกต่อไป หึ ช่างน่าเวทนา ครอบครัวที่พังพินาศนี้จริงๆ ถ้าหากวันนั้น พี่เฉินเยียน ยอมเลือกฉันเป็นภรรยา ไม่ใช่นังหวังอันเล่อผู้โง่เขลา ครอบครัวพี่ ก็คงไม่เป็นแบบนี้ ฮ่าๆๆ หากจะโทษก็โทษตัวพี่เองเถอะนะ ที่ไม่ยอมเลือกฉัน แต่ดันไปเลือกมัน" รอยยิ้มชั่วร้ายแสยะขึ้นบนริมฝีปากที่แต่งแต้มไปด้วยลิปสติกสีแดง เธอค่อยๆเดินกรีดกายเข้ามาหาเฉินเยียน ปลายนิ้วชี้ ไร้เกลี่ยขึ้นมาตามแผงอกของชายหนุ่ม แต่ทว่าเธอ ก็ถูกเขาผลักออกไปจนเต็มแรง
เหอะ ผู้หญิงคนนี้มันช่างน่าสะอิดสะเอียนเสียจริง หวังอันเล่อได้แต่ยืนคิดในใจอยู่ด้านข้างสามี
" ออกไป ที่นี่ไม่ต้อนรับคนแบบเธอ " แววตาคมของเฉินเยียนมองไปที่จูถิงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างนึกรังเกียจ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงน่ารังเกียจเสมอต้นเสมอปลาย หากไม่ใช่เพราะหวังอันเล่อขอร้อง เขาคงไล่ตะเพิดผู้หญิงคนนี้ออกไปเสียตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนนั้นแล้ว น่าเจ็บใจชะมัด!
" ฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่นักหรอกหากไม่ใช่เพราะพยาบาลโทรตามให้มาจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย จริงสิ พี่เป็นสามีของเธอนี่ เช่นนั้นก็จัดการด้วยก็แล้วกัน ส่วนศพของมัน จะเอาไปทำอะไรก็เชิญ " พูดจบจูถิงๆ ก็เดินกระแทกรองเท้าส้นสูงออกไปจากห้องทันที นัยน์ตากลมสาดประกายเต็มไปด้วยไฟแห่งโทสะ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาก็ไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตา เธอทั้งเก่งทั้งฉลาด แถมยังมีความรู้รอบด้าน ผิดกับนังโง่คนนั้นที่แม้แต่หัวคิดยังไม่มี ใครพูดอะไรก็เชื่อ ผู้หญิงแบบนั้นมีอะไรดีกัน สมควรแล้วที่มันต้องมาตายลงแบบนี้ !
หลังจากหวังอันเล่อตายลง ดวงวิญญาณของเธอกลับยังคงไม่ไปสู่สุคติ เธอตามเกาะติดวนเวียนอยู่รอบๆกายสามีและลูก เธอเฝ้ามองดูพวกเขาอยู่เงียบๆ จวบจนเวลาผ่านพ้นล่วงเลยไปเข้าสู่ศตวรรษใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี
อีกทั้งตั้งแต่ ที่เธอจากมา สามีของเธอก็ไม่เคยคิดแต่งงานใหม่ จวบจนเวลานี้เขาอายุปาไป 80 กว่าปี กลายเป็นคนแก่ แต่ถึงแบบนั้น ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เฉินเยียนก็มักทำทานบริจาคเงิน รวมถึง ข้าวของหลายอย่างในนามของหวังอันเล่อ และทุกๆปีในวันครบรอบวันตายของเธอ เขาก็มักจะทำบุญใหญ่มาให้ไม่เคยขาด แต่ถึงจะทำบุญมามากมายขนาดไหน หวังอันเล่อก็ยังคงไม่เคยได้รับมันอยู่ดี
อันเล่อเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเธอถึงไม่หลุดพ้นจากบ่วงกรรมในโลกมนุษย์นี้เสียที จวบจนกระทั่งอายุขัยของเฉินเหยียนหมดลงจนเขาได้จากไปแล้ว แต่ตัวเธอกลับยังคงวนเวียนไม่ไปไหน มันเป็นเพราะอะไรกันนะ
ดวงวิญญาณหญิงสาวล่องลอยมาหาลูกชาย ในห้องทำงาน ก็เห็นเขากำลังนั่งจิบไวน์สีแดงด้วยอารมณ์โศกเศร้า
ยามนี้ เฉินหลี่หมิงเข้าสู่วัยกลางคน แต่เขา กลับยังไม่แต่งงานไม่มีครอบครัว นั่นเป็นสิ่งที่อันเล่อเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงได้เลือกอยู่คนเดียวแบบนี้กัน
หรือว่าบางทีนีอาจจะเป็นห่วง ที่ทำให้เธอไม่สามารถไปสู่สุคติได้
ในจังหวะที่ดวงวิญญาณกำลังขบคิดไปต่างๆนานา ฉับพลันเธอก็เห็นเฉินหลี่หมิง หยิบ รูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมาดู มันคือรูปของเขากับเฉินเยียนที่ถ่ายคู่กันตอนเฉินหลี่หมิงรับปริญญา
"ผมว่าผมถึงจุดอิ่มตัวแล้วแหละ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร คนที่ผมรักเพียงคนเดียวก็จากไปแล้ว ผมก็ควรได้จากไปเสียที" สิ้นเสียงพูดของเขา ปืนกระบอกสีดำก็ถูกหยิบขึ้นมาจากลิ้นชัก พร้อมกับจ่อเข้าไปที่ขมับของตัวเอง
หวังอันเล่อที่เห็นแบบนั้น นางก็ถึงกับยืนตัวสั่นพยายามร้องตะโกน หวังจะดึงสติของ เฉินหลี่หมิง
"ไม่นะ อย่าทำนะ ได้โปรดอย่าทำนะ การฆ่าตัวตายมันเป็นบาป วิญญาณของลูกจะตกนรก ลูกจะไม่ได้พบกับแม่อย่าทำนะ แม่ขอร้องอย่าทำนะ" เธอพยายามร้องไห้อ้อนวอน แต่เสียงนั้นมันก็ส่งไปไม่ถึงบุตรชาย
ไม่นานเสียงปืนก็ดัง ปั้ง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังระงม ฉับพลันภาพรอบด้านที่เคยสว่างไสวก็ค่อยๆมืดมิดสนิทลง
" เฉินหลี่หมิง อย่าทำ แม่บอกอย่าทำ " หวังอันเล่อกรีดร้อง พร้อมกับลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงเตา ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนเสียจนดูไม่ได้
แต่ทว่าจู่ๆเสียงอู้อี้ของเด็กทารกที่นอนอยู่ด้านข้าง ก็ดึงสติให้เธอเหลือบตามอง ทันทีที่เห็นว่ามีเด็กชายตัวน้อยนอนอยู่ด้านข้าง และเขาก็คือลูกชายของเธอตอนเด็ก ตากลมก็เบิกโพลงพร้อมกับความสับสนมึนงงหลายอย่างอัดแน่นปะทุเข้ามา
ทำไมกัน ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
อันเล่อค่อยๆ ยกมือขึ้นมาตบไปที่หน้าของตนจนเต็มแรง ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอสัมผัสได้แล้วว่า เธอในตอนนี้คือคน มีเลือดเนื้อ ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ อยู่ภายในบ้านหลังเก่าซอมซ่ออันคุ้นตา อีกทั้งยังมีลูกชายตัวน้อยนอนอู้อี้อยู่ด้านข้าง หรือว่าเธอย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง ต้องใช่แน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้นหวังอันเล่อค่อยๆโอบอุ้มทารกน้อยข้างๆขึ้นมากอดไว้ ตากลมก็มองไปที่บุตรชายด้วยความรัก
" แม่กลับมาแล้ว แม่กลับมาแล้วจริงๆใช่ไหม สวรรค์ยอมให้โอกาสคนโง่อย่างแม่อีกครั้ง ใช่หรือไม่ หลี่หมิง ต่อไปนี้ แม่จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้งรังแกครอบครัวของเราได้อีก แม่สัญญา "
ความคิดเห็น