ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ย้อนกลับมาสู่ยุค70

    ลำดับตอนที่ #7 : ขอรหัสเข้าตลาดมืด

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 66


     เมื่อเห็นแม่หมอและยายแก่ข้างบ้านไม่ได้มาวุ่นวายกับตนอีก หวังอันเล่อ ก็ลงมือพรวนดินต่อไม่นานเมล็ดพันธุ์พืชผักก็ถูกโรยลงไปจนเต็ม  ยามนี้แปลงผักขนาดย่อมของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวหันไปมองเด็กชาย 2 คนที่นั่งเล่นอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้านก็ส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้พวกเขา

     

    " หากไม่ได้พวกเธอช่วยวันนี้แปลงผักของพี่ก็คงไม่เสร็จ พวกเธออยากกินอะไรเป็นอาหารเย็นดีล่ะพี่จะทำให้เป็นรางวัล" 

     

    " พวกผมไม่ได้ช่วยอะไรเยอะเลย ไม่ต้องทำอะไรให้พวกผมหรอกครับ" เด็กชายตัวน้อยทั้งสองคนรีบปฏิเสธ

     

    " ใครบอกล่ะ เธอช่วยพี่ถางหญ้าพรวนดินส่วนน้องชายเธอก็ช่วยเลี้ยงน้องให้ เพราะได้พวกเธอทั้งสองคนช่วย ทำให้แบ่งเบาพี่ไปได้ตั้งเยอะ  ถ้าคิดไม่ออกว่าอยากกินอะไรงั้นเดี๋ยวพี่จัดการให้ก็แล้วกันนะ" สิ้นเสียงพูดหญิงสาวก็เดินหายไปในครัวด้านหลังไม่นานกลิ่นหอมของกับข้าวก็ลอยฟุ้งไปทั่วบ้านหลังเล็ก

    เพียงครู่กับข้าวมากมายหลายอย่างก็ถูกจัดเรียงขึ้นโต๊ะจนเต็ม ยามนี้เฉินเยียนและหลิวต้าเม่ย ต่างก็กลับมาจากทำงานเรียบร้อยแล้ว

    พวกเขามองไปยังกับข้าวมากมาย ก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอหลายอึก กับข้าววันนี้มีทั้งไข่ มีทั้งไก่ต้ม และยังมีผัดผักอีกด้วย เรียกได้ว่ามันเป็นอาหารหรูหราที่สุดในชีวิตของพวกเขา ที่เคยเห็นมาเลย

    " คุณครับทำไมวันนี้มีเนื้อไก่ด้วยล่ะ ไปเอามาจากที่ไหนครับ"  เมื่อได้ยินคำถามจากสามีเบื้องหน้า คนตัวเล็กก็เหลือบตามองไปที่หลิวต้าเม่ย ยามนี้สาวร่างอ้วนแทบไม่ได้สนใจฟังเพราะเธอกำลังมองจ้องไปที่ไก่ต้มตัวอวบๆ

    " ฉันฝากน้องต้าเม่ยให้ซื้อมานะคะ พอดีเมื่อวานแกไปที่นั่นมา ฉันก็เลยฝากซื้อของมานิดหน่อย แล้ววันนี้ก็อยากทำอาหารเลี้ยงพวกเด็กๆด้วยที่มาช่วยเลี้ยงน้องแล้วก็ช่วยฉันทำแปลงผักคุณคงไม่ว่าอะไรหรอกใช่ไหมคะ" หวังอันเล่อเหลือบตามองไปยังสหายรักด้านข้างที่ยามนี้กำลังนั่งน้ำลายไหล และเมื่อ สาวตัวอ้วนได้ยินคำตอบของอันเล่อ เธอก็รีบทำทีพยักหน้าอย่างรู้งาน

     

    " ไม่ครับผมไม่ว่าอะไรหรอกครับเงินนั่นเป็นเงินคุณ คุณจะใช้มันอย่างไร ผมไม่ได้มีปัญหาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าแค่ตกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้กินอาหารดีๆแบบนี้"

     

    " ถ้างั้นก็ต้องกินให้หมดเลยนะคะ พวกเธอสองคนก็ด้วยรู้ไหม กินให้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจ" สิ้นเสียงพูดของหวังอันเล่อ เด็กชาย 2 คนที่นั่งอยู่ถัดไป ก็เหลือบตามองไปยังพี่ชายตัวโตตรงหน้าเมื่อเห็นเขาส่งรอยยิ้มใจดีมาให้ พวกเขาก็พยักหน้าขอบคุณทันที

    ลึกๆในใจของเด็กน้อยทั้งสอง รู้สึกว่าครอบครัวนี้ช่างเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาเหลือเกิน พวกเขามีกินมีใช้แถมยังมีเหลือเผื่อแผ่ หากวันหน้าพวกเขาโตขึ้นคงต้องตอบแทนพี่สาวคนนี้ แม้จะเป็นอาหารมื้อเดียว แต่มันก็ทำให้พวกเขาไม่มีวันลืมโดยเด็ดขาด นี่คือสิ่งที่พวกเด็กๆคิด

     

    " หลิวต้าเม่ย หลิวซือ หลิวอู่ พวกเธอไม่ต้องเกรงใจหรอก อีกอย่างหากต่อไปหากพวกเธอจะมากินข้าวที่บ้านด้วยพี่ก็ไม่ว่าอะไร ดีเสียอีกเวลาที่ออกไปทำงานอันเล่อ จะได้มีเพื่อนอยู่บ้านในตอนกลางวัน  "  ตั้งแต่กลับมาเฉินเยียน ก็ได้ฟังเรื่องราวของครอบครัวนี้จากภรรยา ความเห็นอกเห็นใจและความเวทนาทำให้เขานึกไปถึงชีวิตของตัวเองในวัยเด็ก 

    ตัวเขาเองก็ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวขาดพ่อแม่ทำให้ต้องต่อสู้ใช้ชีวิตลำพัง กว่าจะเติบโตมาได้ก็เล่นเอาแทบตาย ยิ่งเมื่อเจอคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขาก็รู้สึกเห็นใจเด็กๆพวกนี้ไม่น้อย อีกทั้งเด็ก 2 คนนี้ก็มีนิสัยดีเคารพผู้ใหญ่ รู้จักช่วยเหลือ ขยันหยิบจับนั่นทำนี่และ ช่วยงานหลายอย่าง แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเขาเอ็นดูได้อย่างไรกัน

     

    " ขอบคุณครับพี่สาว พี่ชาย ขอบคุณที่ให้การต้อนรับพวกผมกับพี่สาว ในหมู่บ้านนี้ใครๆต่างก็พากันรังเกียจไม่อยากคบหาสมาคมกับบ้านเรา ขอบคุณพวกพี่จริงๆครับ ที่ไม่คิดรังเกียจพวกผม บุญคุณในครั้งนี้หากผมโตขึ้นต้องทดแทนคืนอย่างแน่นอนครับ" หลิวซือยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้า คำพูดราวกับผู้ใหญ่บวกกับการกระทำของเด็กน้อยทำเอาคนตัวโตถึงกับน้ำตาซึมไม่พ้นสาวร่างอ้วนที่นั่งอยู่ด้านข้าง

     

    หลังจากนั้น ข้าวสวยร้อนๆก็ถูกแจกจ่ายให้เด็กๆบนโต๊ะ หลิวต้าเม่ย เมื่อเห็นดังนั้นก็ฉีกยิ้มแป้นพร้อมกับยื่นมือมารอรับถ้วยข้าว แต่ทว่าหวังอันเล่อกับส่งถ้วยที่มีผักหลากสีพร้อมกับยังมีน้ำสีขาวข้นๆแปลกๆราดอยู่ด้านบนมาให้เธอ

     

    "ข้าวฉันล่ะจ๊ะ พี่สาวฉันขอข้าวนะจ๊ะไม่ได้ขอถ้วยใส่ผัก" จูถิงถิง ในร่างของหลิวต้าเม่ย มองไปยังถ้วยผักในมือด้วยสายตางุนงง 

     

    " นี่แหละอาหารเย็นของเธอส่วนกับข้าวพวกนี้ ฉันทำให้พวกเด็กๆแล้วก็พี่เฉินเยียน ส่วนเธอกินผักพวกนี้ไปนี่แหละ จะได้ช่วยเร่งการลดน้ำหนัก เธอเองก็บ่นว่าอยากผอมไม่ใช่หรอ วิธีนี้น่ะได้ผลดีเชียว งดข้าวเย็นกินผัก" ใช่แล้วนี่คือสิ่งที่เธอเห็นมาจากในทีวี วิธีการที่สาวๆในโลกอนาคตนิยมใช้ นั่นก็คือการกินสลัดผักเป็นมื้อเย็นแทนข้าว

     

    "พี่!  แต่ฉันอยากกินข้าว พี่ทำกับข้าวไว้ตั้งเยอะ แต่จะให้ฉันนั่งกินผักนี่นะ แบบนี้ไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรอ" หญิงสาวร่างอ้วนบ่นออกมาด้วยท่าทีงอแง การกระทำของเธอทำเอาคนในโต๊ะถึงกลับหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย

    ไม่นึกเลยว่าหลิวตาเม่ยกับภรรยาจะสนิทสนมกันมากถึงเพียงนี้ ว่าแต่พวกเขาไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหนนะ เฉินเยียนได้แต่มองแล้วก็นึกในใจ

     

    "ตาเม่ยเธออยากผอมไม่ใช่หรอ ตอนนี้น้ำหนักเธอเยอะเกินไป อีกหน่อยจะกลายเป็นโรคอ้วน กินผักเข้าไปเนี่ยแหละ ดีต่อสุขภาพแถมยังช่วยลดไขมันในร่างกายอีกด้วย ถ้าไม่กิน งั้นมื้อนี้เธอก็คงต้องอดแล้วแหละ "รอยยิ้มเย็นๆถูกส่งออกมาจากปากของสหายรักด้านหน้า หญิงสาวตัวอ้วนทำได้เพียงมองตาละห้อยไปยังกับข้าวพร้อมกับตักผักในจานเข้าปากอย่างไม่เต็มใจ

     

    ใจร้ายทำแบบนี้มันฆ่ากันทางอ้อมชัดๆ

     

    หวังอันเล่อ เมื่อเห็นท่าทีของหลิวต้าเม่ย ก็นึกสงสารไม่น้อย แต่เธอจะไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด ตอนนี้ร่างกายของคนตรงหน้านั้นอ้วนเกินไปแล้ว ทั้งที่อยู่แบบอดๆอยากๆ แต่กลับยังอ้วนตุ๊บ  หากไม่ลดน้ำหนักจริงจัง มีหวัง ในอนาคตร่างนั้นคงได้กลายเป็นโรคอ้วนไขมันอุดตันตาย ดังนั้นเธอจึงต้องเข้มงวดกับสหายคนนี้เสียหน่อย และไม่ว่าอย่างไรเธอจะไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด! 

     

    หลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเฉินเยียนก็พาเด็กชายทั้งสองไปรดน้ำแปลงผัก

    ส่วนเธอกับหลิวต้าเม่ยก็จัดการเก็บถ้วยชามไปล้างในครัวด้านหลัง เมื่อเห็นว่ายามนี้ไม่มีใคร หวังอันเล่อจึงพูดกับสหายว่า วันพรุ่งนี้เธออยากไปที่ตลาดมืดเพื่อจับจ่ายซื้อของ หลิวตาเม่ยเมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็แนะนำว่าในกองยุวปัญญาชน มีผู้หญิงคนหนึ่งชอบไปที่นั่นอยู่บ่อยๆและหาก อยากได้รหัสเข้าตลาดมืดหวังอันเล่อก็ต้องเป็นคนไปขอมา เพราะเธออยู่ในสภาพร่างของหลิวต้าเม่ย สาวร่างอ้วนน่ารังเกียจ คงไม่สามารถเข้าถึงผู้หญิงคนนั้นได้

    เมื่อพูดคุยกันจบสองเพื่อนซี้จึงได้นัดแนะกันว่าพรุ่งนี้ให้เตรียมตัวเข้าตลาดมืด ส่วนลูกชายก็ฝากให้สามีและเด็กชายทั้งสองช่วยดู โดยพวกเธออ้างว่าจะเข้าไปซื้อของในเมือง  เพราะสหกรณ์ในตำบลมีของไม่มากพอ เฉิยนเยียนเองก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าภรรยา เป็นหญิงสาวมาจากในเมืองอีกทั้งยัง มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากเธอจะออกไปจับจ่ายใช้สอยก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

     

    รุ่งขึ้น

    สองสหายอ้วนผอม เดินมายังโรงนอนของยุวปัญญาชน เมื่อเห็นหญิงสาว คนที่มีรหัสเข้าตลาดมืด หวังอันเล่อ ก็เดินเข้าไปทักทาย เธอคนนี้คือจิ่วโหยว เป็นปัญญาชนที่มาจากเมืองเซี่ยงไฮ้  หวังอันเล่อกวาดสายตามองไปรอบๆเมื่อเห็นว่าจิ่วโหยว อยู่คนเดียว เธอก็ถามถึงเรื่องที่อยากรู้ออกไปทันที ไม่นานเธอคนนั้นก็บอกรหัสผ่านออกมาด้วยความเต็มใจ เพราะเธอรู้ดีว่า ถึงเรื่องรหัสผ่านนี้จะไม่ใช่เรื่องที่ควรเปิดเผย แต่จื่อโหยวเห็นว่าหวังอันเล่อเอง ก็เป็นยุวปัญญาชน เธอก็ต้องมีเงินไม่น้อย จึงไม่ได้ปิดบังเรื่องรหัสผ่านหากอยากจะไปจับจ่ายใช้สอยที่นั่นเหมือนเช่นคนอื่นๆในกอง เพราะยามนี้ เหล่ายุวปัญญาชนอื่นๆ ต่างก็เข้าออกตลาดมืดที่นั่นกันอยู่บ่อยครั้ง แต่แม้จะไปบ่อยแค่ไหน พวกเขาก็ต้องระวังตัวอยู่ดีหากถูกจับได้คงไม่พ้นถูกลงโทษ

     

    หลังจากได้รหัสผ่านแล้วหวังอันเล่อก็ขอบคุณหญิงสาวคนนี้เป็นข้าวโพดหนึ่งฝัก และเดินออกมา จังหวะนั้นเองเธอก็สวนกับจูถิงถิงที่เดินมาพร้อมกับหญิงสาวอีกสองสามคน

    ทั้งสองไม่ได้มีการเอ่ยทักทาย เดินผ่านกันไปราวกับเป็นคนแปลกหน้า จิ่วโหยวเห็นแบบนั้นก็มองไปที่พวกเขาพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย

     

    ไม่ใช่ว่าเขาสองคนสนิทกันหรอกหรอ แปลกจัง

     

    " นี่เมื่อกี้หวังอันเล่อนี่" หนึ่งในยุวปัญญาชนพูดพลางสะกิดจูถิงๆให้มองตามแผ่นหลังนั้นไป 

     

    " อ๋อ คนที่เธอบอกว่าเป็นอดีตสหายสนิทของฉันน่ะหรอ" 

     

    " ใช่แล้วคนนี้แหละ จะว่าไปตั้งแต่ความจำเสื่อมเธอสองคนยังไม่ได้พูดคุยกันเลยหรอ" หนึ่งในสหายยุวปัญญาชนเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง

     

    " ไม่รู้สิ ก็ไม่เห็นว่าเธอคนนั้นจะอยากคุยกับฉันสักเท่าไหร่ อีกอย่างนึง ฉันก็ความจำเสื่อมไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยอะไรกับเธอคนนั้นด้วย"

     

    " แปลกจังนะ ทั้งที่เมื่อก่อนพวกเธอสนิทกันแทบตาย ทำไมอันเล่อถึงดูไม่สนใจเธอเลย หรือว่าก่อนความจำเสื่อมพวกเธอทะเลาะกัน" 

     

    " ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" จูถิงๆพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ตาคมก็ยังมองตามแผ่นหลังนั้นไป ไม่นานก็มีหญิงสาวร่างอ้วนเดินมาขนาบข้างพร้อมกับควงแขนของหวังอันเล่อ 

     

    " อะไรน่ะ นั่นมันยัยหมูตอนน่ารังเกียจประจำหมู่บ้านไม่ใช่หรอ ที่ชื่อว่าหลิ่วตาเม่ยทำไมอันเล่อถึงไปสนิทกับคนแบบนั้น.." สหายยุวะปัญญาชนพูดพลางมองไปที่คนสองคนด้านหน้า ด้านจูถิงๆเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ลอบเบะปากออกมาเล็กน้อยพร้อมกับคิดในใจ

    เหอะ คงอยากให้ตัวเองดูดี เลยเลือกคบคน หน้าตาน่าเกลียดกว่าตนยังไงล่ะ เป็นฉัน ฉันก็ทำย่ะ นังพวกโง่

     

     "จะว่าไป ก็น่าอิจฉาอันเล่อเนอะได้สามีหน้าตาดี แถมยังขยันทำมาหากิน ชีวิตบั้นปลายในชนบทคงไม่ลำบาก พวกเรานี่สิต้องทำงานกันงกๆเพื่อหาเลี้ยงชีพ กว่าจะได้กลับบ้าน ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เผลอๆชาตินี้อาจต้องติดแหง็กอยู่ที่นี่ไปจนตายก็ได้ " หนึ่งในสหายของจูถิงๆพูดพลางทำหน้าเศร้า

    พวกเธอติดอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วและไม่มีวี่แวว ว่าจะถูกส่งตัวกลับบ้าน บางทีการใช้ชีวิตแบบหวังอันเล่อน่าจะเป็นทางออกเดียวที่ดีที่สุดในตอนนี้

     แต่ทว่าจู่ๆ จูถิงๆก็เปิดปากพูดขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเหล่ายุวปัญญาชนถึงกับเงียบกริบ เพราะไม่คิดว่าจูถิงๆจะพูดถึงหวังอันเล่อแบบนี้

     

    " หรอ แต่ฉันคิดว่า สักวันหนึ่งก็คงได้กลับไปนั่นแหละ ไม่เห็นจำเป็นต้องยืมมือผู้ชายให้มาช่วยเหลือเลย การยืมจมูกคนอื่นหายใจดีตรงไหนกัน ฉันว่ามีชีวิตแบบนั้น น่าสมเพชออก อีกอย่างการเลือกผู้ชายบ้านนอก บั้นปลายชีวิตก็ต้องอยู่บ้านนอกไปจนตาย  ชีวิตน่าสมเพชแบบนั้นมีอะไรให้อิจฉากันนะ " 

     

    " ถิงถิง ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ เธอ พูดเหมือนกำลังต่อว่าอันเล่ออยู่เลย สิ่งที่เธอพูดมันคือการดูถูกคนอื่นนะ และการที่อันเล่อใช้ชีวิตกับชายคนรักมันไม่ได้น่าสมเพช แต่ สิ่งที่ฉันคิดว่าน่าสมเพชกว่าคือการที่เธอนินทาลับหลังเพื่อนยังไงล่ะ   " จิ่วโหยวที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลพูดแทรกขึ้นมา พร้อมกับมองจ้องไปยังจูถิงๆด้วยสายตาไม่ชอบใจสักเท่าไร

    ตั้งแต่ความจำเสื่อม ถิงๆก็มีนิสัยเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน เธอมักชอบพูดจาดูถูกคนอื่น ต่อหน้าแสร้งทำเป็นดี แต่ลับหลังวาจากับเชือดเฉือนไปด้วยคมมีด คนแบบนี้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหวังอันเล่อถึงได้เลิกคบ

     

    " เปล่าเลย ฉันไม่ได้ดูถูกหวังอันเล่อเลยนะฉันจะทำแบบนั้นทำไม ที่พูดออกไปเมื่อกี้ ก็แค่พูดไปตามความคิดเท่านั้น ฉันว่าเธอคงเข้าใจผิดแล้วแหละ ไปเถอะ พวกเราไปทำงานกันดีกว่า เสร็จแล้วเย็นนี้จะได้หาของกินอร่อยมากินกัน เราไม่มีผู้ชายหาเลี้ยง ต้องดิ้นรนสู้กันต่อไปแหละนะ" ถิงถิงพูดพลางส่งยิ้มหวานมาให้จื่อโหยว พร้อมกับเดินสวนผ่านหน้าคนตัวเล็กไป

    ฉับพลันใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานก็แปรเปลี่ยนราวกับเป็นนางมารร้าย

     

    สาระแนนักนะอีนี่ ! ฝากไว้ก่อนเถอะ

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×