คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หลิวต้าเม่ยคนนั้น
หวังอันเล่อทิ้งกายนั่งลงบนแคร่ไม้หน้าบ้านด้วยอารมณ์หลากหลายที่ปะทุอัดแน่นเข้ามาในอก เธอทั้งโกรธและเสียใจ ต่อให้จะฝืนชะตาแค่ไหนก็ไม่มีทางห้ามวิญญาณผู้หญิงคนนั้นมาสู่โลกนี้ได้อยู่ดี และนี่ก็คงเป็นชะตากรรมที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
หากในร่างของจูถิงถิงมีวิญญาณจากโลกอนาคตสิงอยู่ แล้วหลิวต้าเม่ยล่ะ หญิงสาวที่จมน้ำคนนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่นะ
"หวังอันเล่อ หวังอันเล่อ " ในขณะนั้นเองก็มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเรียกเธออยู่ด้านหน้า
หวังอันเล่อเมื่อได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมองและพบว่ายามนี้ เบื้องหน้าของเธอมีหลิวต้าเม่ย ตัวเปียกน้ำ ยืนมองมาที่เธอ อีกทั้งดวงตากลมของต้าเม่ยก็แดงกล่ำ ดูคล้ายกับคนกำลังร้องไห้
" มีอะไรหรอ" หวังอันเล่อ มองไปที่หญิงสาวตรงหน้าด้วยความระแวดระวัง
" หวังอันเล่อ นี่ฉันเองสหายรักของเธอ จูถิงๆ" คำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนตรงหน้าทำเอาหวังอันเล่อถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ทำไมเธอถึงบอกว่าตัวเองคือจูถิงๆล่ะ ?
" หลิวต้าเม่ย เธอไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย จู่ๆพูดอะไรแบบนี้กัน ฉันเพิ่งแยกทางกับจูถิงถิงเมื่อกี้นี้เอง" หวังอันเล่อทำทีหัวเราะกลบเกลื่อน
" เธอไม่เชื่อฉันหรอ ฉันคือจูถิงๆจริงๆนะ อันเล่อนี่ฉันเองสหายรักของเธอ ทำไมเธอถึงไม่เชื่อฉันล่ะ ฉันคือจูถิงๆจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นที่เธออยู่ด้วยวันนี้ไม่ใช่ฉัน ร่างกายภายนอกมันอาจจะดูเป็นของฉันก็จริง แต่ข้างในนั้นมันต้องมีผี...." พูดไม่ทันขาดคำหวังอันเล่อ ก็รีบเอามือขึ้นมาอุดปากของหญิงร่างอ้วนตรงหน้า พร้อมกับพยายามลากเธอให้ตามเข้ามาภายในบ้านด้วยเรี่ยวแรงที่มีอันน้อยนิด
ให้ตายเถอะตัวหนักชะมัด
"หลิวต้าเม่ย เธอจะพูดอะไรกันแน่ ! รู้ใช่ไหมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ อยู่ดีๆเธอจะเที่ยวเดินมาป่าวประกาศว่าใครต่อใครถูกผีสิงมันฟังดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ บอกฉันมาได้ไหม ว่าทำไมเธอถึงคิดว่าตัวเองเป็นจูถิงๆล่ะ "
นี่มันผิดจากชาติก่อนไปมาก ทำไมวิญญาณของจูถิงๆถึงไปอยู่ในร่างของหลิวต้าเม่ย เธอจะยังไม่เชื่อคำพูดของคนแปลกหน้าเด็ดขาด จนกว่าจะพิสูจน์ได้ ว่าตรงหน้าคือสหายของเธอตัวจริง
"เธอคงคิดว่าฉันบ้าสินะ ที่อยู่ๆก็เดินมาพูดอะไรแบบนี้ ความจริงแล้วฉันกลัวมาก ฉันตื่นมาอยู่ในร่างอ้วนของหลิวตาเม่ย แถมยังเห็นร่างกายของตัวเองยืนพูดคุยกับเธออยู่ไม่ไกลเธอลองคิดดูสิว่าฉันต้องตกใจมากแค่ไหน ฉันรู้ว่ามันฟังดูบ้า แต่ได้โปรดเชื่อที่ฉันพูดเถอะ ทั้งชีวิตฉันไม่เคยโกหกอะไรเธอเลย จะให้ฉันพิสูจน์ยังไงก็ได้ว่าฉันคือจูถิงๆจริงๆ ไม่ใช่หลิ่วตาเม่ย "หญิงอ้วนร้องไห้ฟูมฟายพลางทิ้งตัวลงกับพื้น ดูคล้ายกับเด็กกำลังร้องไห้งอแงไม่มีผิด
"หากบอกว่าเป็นจูถิงๆ งั้นเธอช่วยบอกเรื่องที่เรารู้กันแค่สองคน จะได้ไหมถ้าเธอพูดได้ ตรงฉันจะยอมเชื่อเธอ"
" จริงนะ หวังอันเล่อ เธอกับฉันเราเป็นสหายกันตั้งแต่ย้ายมายังหมู่บ้านในชนบทแห่งนี้ พวกเราเป็นยุวะปัญญาชน แต่แล้วก็ถูกปล่อยลอยแพอยู่ที่ชนบทแห่งนี้เป็นเวลาหลายปี ฉันกับเธอเราพบกันครั้งแรกบนรถของทหารที่นำตัวพวกเรามาส่งที่หมู่บ้าน วันนั้นฉันใส่เสื้อสีฟ้ากางเกงสีดำ ส่วนเธอใส่เสื้อสีครีมกางเกงสีดำจำได้ไหม ฉันยังเอ่ยทักเธอเลยว่า สวัสดีฉันชื่อจูถิงถิงพวกเรามาเป็นสหายกันเถอะนะ ประโยคนี้คือคำแรกที่ฉันพูดกับเธอ หลังจากนั้นพวกเราก็อยู่ร่วมกินนอนด้วยกันตั้งแต่มาถึงชนบท เป็นเวลาหลายปี มีครั้งหนึ่ง ตอนที่คนอื่นหลับหมดแล้ว พวกเราแอบพากันไปเล่นน้ำข้างฝาย คืนนั้นเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง เรายังนอนนับดาวด้วยกันอยู่เลย อ่อ ยังมีอีกนะ เธอน่ะมีขี้แมลงวันอยู่ที่โคนขาซ้าย แล้วก็....."
"พอแล้วพอแล้วไม่ต้องพูดแล้ว" หวังอันเล่อ พูดพลางเบือนหน้าหน้าหนีไปทางอื่น เธอเองก็ยังสับสนไม่น้อย ทำไมวิญญาณของจูถิงๆถึงมาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้ แต่ประโยคที่หลิ่วตาเม่ยพูดออกมานั้นล้วนเป็นเรื่องจริงระหว่างเธอกับจูถิงๆทั้งหมด และเรื่องนี้ก็ไม่มีคนอื่นรู้นอกจากพวกเธอสองคน
"ทำไมล่ะหรือว่า เธอก็ยังคงไม่เชื่อฉันอยู่ดีสินะ อย่างว่าแหละใครจะมาเชื่อ ผู้หญิงตัวอ้วนจอมขี้เกียจคนนี้กัน เหอะ ให้ตายสิทำไมฉันต้องมาอยู่ในร่างคนแบบนี้ด้วยเนี่ย ฮึกๆ ฮึกๆ " จูถิงถิงในร่างหลิวต้าเม่ย ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ไม่นานเธอก็ค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นและหมุนตัวจะเดินจากไป
"เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ฉันไม่ได้บอกว่าฉันไม่เชื่อ แต่ขอเวลาให้ฉันคิดทบทวนหน่อยได้ไหมเธอก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันเหลือเชื่อเกินไป แล้วนี่ เธอหิวไหม ฉันมีข้าวผัดที่ตั้งใจทำเผื่อไว้ให้จูถิงๆ ถ้าเธอบอกว่าเธอคือสหายของฉัน ก็นั่งลง แล้วกินมันซะ " สิ้นเสียงพูดหญิงสาวตัวโตที่กำลังจะเดินจากไป ก็หันกลับมาและร้องไห้โฮอีกครั้งเสียงดังด้วยความดีใจ
" อันเล่อ ฮืออ เธอยอมเชื่อฉันแล้วใช่ไหมฮือออ ให้ตายสิร่างนี้หิวอยู่ตลอดเวลา ฉันจะทำยังไงดีนะ ฉันอยากได้ร่างกายของตัวเองคืน ไม่อยากอยู่ในร่างของผู้หญิงอ้วนคนนี้หรอกนะ" พูดจบหลิวต้าเม่ยก็นั่งลงพร้อมกับกินข้าวผัดที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าจนหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว ทำเอาหวังอันเล่อถึงกับหลุดขำออกมาไม่ได้
"นี่ หากเธอบอกว่าในร่างกายของหลิวต้าเม่ย มีวิญญาณของจูถิงๆอยู่ แล้วเธอจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมวิญญาณถึงหลุดออกจากร่างได้ อีกทั้งในร่างของเธอยังมีวิญญาณดวงอื่นเข้ามาสิงสู่ เธอพอจะจำอะไรก่อนหน้านั้นได้บ้างไหม"
" มานึกๆดูแล้ว หลักจากที่กลับจากบ้านเธอ ฉันก็แวะไปหาพี่เสียวอู่ พอกลับจากบ้านของเขา....ใช่แล้วฉันว่าฉันสะดุดก้อนหินแต่หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย หรือว่า นี่ ฉันสะดุดก้อนหินล้มจนหัวฟาดพื้น ทำให้วิญญาณหลุดออกจากร่าง ใช่แน่ๆ ต้องเป็นเหตุการณ์ในตอนนั้นแน่ๆ ความจริงฉันควรจะตายไปแล้ว แต่รู้ตัวอีกทีก็ตื่นมาอยู่ในร่างของหลิวต้าเม่ยนี่แหละ ฉันจำได้แค่นี้จริงๆ ....เออนี่อันเล่อ ฉันลองไปหาร่างของตัวเองดีไหมแล้วบอกเล่าเรื่องราวของตนให้กับผู้หญิงคนนั้นฟัง บางทีเธออาจจะช่วยฉันหาทางเอาร่างคืนมาก็ได้"
" ไม่มีทาง ! ผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีทางช่วยเธอ จำเอาไว้ให้ดี เรื่องนี้เธอห้ามบอกใครเด็ดขาดเข้าใจไหม ไม่อย่างนั้นคนในหมู่บ้านจะได้คิดว่าเธอบ้าแน่ๆ และหากเป็นไปได้พยายามอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับจูถิงๆคนนั้น อยู่ให้ห่างจากเธอไว้เป็นดีที่สุด เพราะเธอคนนั้นไม่ใช่คนดี ! หากเธอรู้ว่าวิญญาณเจ้าของร่างอยู่ในร่างของหญิงอ้วน เธอคงหาทางกำจัดร่างใหม่และวิญญาณของเธอเป็นแน่ เข้าใจที่ฉันพูดไหม"
" ทำไมล่ะทำไมเธอคนนั้นจะต้องทำแบบนี้ด้วย ทั้งๆที่ร่างนั้นเป็นของฉัน"
" เธอลองคิดดูสิ ตัวเธอเป็นถึงยุวปัญญาชนที่เรียนจบระดับชั้นมัธยมปลาย มีบ้านเกิดอยู่ในตัวเมืองปักกิ่ง เธอคิดว่าฐานะของเธอมันธรรมดา แต่ถ้าเทียบกับหญิงสาวชนบททั่วไปแล้วต่างกันราวฟ้ากับเหว หากฉันเป็นวิญญาณ ฉันก็ขอใช้ร่างของเธอดีกว่า ที่จะต้องกลายมาอยู่ในร่างของหญิงสาวตัวอ้วนแบบนี้ เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหม อย่าทำเป็นอ่อนต่อโลกไปหน่อยเลย มันไม่สมเป็นเธอเลยนะ เธอก็น่าจะรู้นี่ ว่าโลกนี้มันไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่เราคิดหรอกนะ "
" โอ๊ย นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับฉันด้วยเนี่ย แล้วมันจะมีอะไรที่ฉันจะพอทำได้บ้างล่ะ "
" เห้อ เอาเป็นว่า สิ่งที่เธอต้องทำก็คือพยายามอยู่ให้ห่างจากจูถิงๆคนนั้น อ่อแต่ฉันว่าจริงๆร่างใหม่ของเธอก็มีเรื่องต้องทำอีกเยอะเลย...ได้ข่าวว่าหลิวต้าเม่ยอยู่กับแม่เลี้ยงใจร้าย และน้องชายอีก 2 คน เธอมักโดนกดขี่ข่มเหงรังแกอยู่บ่อยครั้ง นี่ถ้าหากเธอกลับไปบ้านแล้วถูกแม่เลี้ยงใจร้ายคนนั้นทุบตีจะทำยังไง เธอคิดหาทางออกไว้บ้างแล้วหรือยัง"
"หึ ก็ลองให้นังแม่เลี้ยงนั่นมารังแกฉันดูสิฉันจะสอยหน้ามันให้ร่วงเลย ฉันไม่ยอมคน เธอก็รู้ใครดีมาดีกลับ ร้ายมาก็ร้ายตอบเป็น 10 เท่า"
"ยัยบ้า เธอนี่มันติดนิสัยหัวรุนแรงไม่เปลี่ยนเลยนะ ยังไงก็ระวังตัวด้วยแม่เลี้ยงของหลิวต้าเม่ยก็ไม่ใช่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นพ่อของเจ้าหลิวต้าเม่ยจะตายจากไปโดยที่หาสาเหตุไม่ได้ ได้อย่างไรกัน ระวังตัวด้วยล่ะ"
" รู้แล้วล่ะน่า เธอไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องของยังแม่เลี้ยงนั่นไม่ได้ทำให้ฉันเป็นกังวลเลยสักนิดตอนนี้สิ่งที่ฉันกังวลก็คือ พี่เสียวอู่ ทั้งๆที่กำลังจะได้แต่งงานกันอยู่แล้วแท้ๆ แต่ทำไมต้องมาเกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นด้วยเนี่ย แบบนี้ให้ตายชาตินี้ฉันก็คงหาสามีไม่ได้กันพอดีน่ะสิ บั้นปลายชีวิตฉันต้องอยู่บนคาน กลายเป็นสาวเทื้อ ติดแหงกอยู่กับร่างอ้วนๆ นี้นะหรอ ไม่นะ ! แค่คิดก็เศร้าเกินไปแล้ว"
" เธอนี่นะ! เวลาแบบนี้ ยังจะกลัวหาสามีไม่ได้อีก เชื่อฉันสิ พี่เสียวอู่ไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นหรอก ถ้าไม่อยากขึ้นคานก็รีบจัดการลดน้ำหนักตัวเองด่วน ดูๆไป ใบหน้าของหลิวต้าเม่ยก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ก็พอมีเคล้าความสวยอยู่บ้าง... จะมีแค่เพียงร่างกายที่หนาท้วม ขี้ไคลขึ้นเต็มคอ เอิ่มแถมฟันยังเหลืองอ๋อย ให้ตายสิแปรงฟันบ้างหรือเปล่าเนี่ย อะ..เอาเป็นว่าเธอเริ่มต้นด้วยการดูแลเรื่องความสะอาดแล้วก็ลดน้ำหนักหน่อยก็แล้วกันนะ พี่เสียวอู่จะได้หันมามองเธออีกครั้ง " เพราะไม่อยากพูดจาทำร้ายจิตใจของสหายหวังอันเล่อจึงเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จะบอกได้อย่างไรว่าร่างนี้อัปลักษณ์จนเต็มขั้น
หญิงสาวตัวอ้วน เมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็ถอนหายใจยาวเหยียด พลางแนบหน้านอนราบลงไปกับโต๊ะ ด้วยจิตใจอันห่อเหี่ยว
จบสิ้นแล้วชีวิตของฉัน !! ที่หวังอันเล่อพูดมาทั้งหมด ร่างกายนี้แทบไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างแม้แต่กระทั่งฟันยังมีสีเหลืองอ๋อย แบบนี้ฉันจะกล้ายิ้มให้กับพี่เสียวอู่ได้อย่างไรกันให้ตายสิ ! ฮืออออ
สวยอยู่ =
????????
ความคิดเห็น