ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงน้ำผึ้ง

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 – ข้อต่อรองของแพรวา

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 57


    ตอนที่ 1 ข้อต่อรองของแพรวา

     

                “ถ้าคุณต้องการให้ฉันมาทำงานกับคุณ ฉันขออย่างเดียว คือ อย่าให้ยัยมัทรู้เด็ดขาดว่าฉันทำงานกับ คุณได้ไหมค่ะ” แพรวาพูดเสียงดังฟังชัดให้ ยศวิน ชายหนุ่มที่ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทนำเข้าเครื่องสำอางที่เธอมาทำงานฟังอย่างช้าๆ

                “ทำไมล่ะครับ?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

                “ก็คุณเป็นคนรักของน้องสาวฉันไม่ใช่หรือไงค่ะ?” หล่อนถามชายหนุ่มกลับเป็นเหตุให้ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขันราวกับว่าเรื่องที่หล่อนขอร้องนั้นเป็นเรื่องตลก แพรวานิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะพูดว่า “สรุปว่าคุณตกลงมั้ยค่ะ?

                “ตกลงครับ...ตกลง แต่ผมมีข้อแม้ว่าคุณจะต้องเริ่มงานกับผมตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป” ชายหนุ่มพูดพลางจ้องหน้าแพรวาราวกับต้องการอ่านใจหล่อนว่าตอนนี้หล่อนคิดอะไรอยู่

                “โอเคค่ะ” หล่อนพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปข้างหน้า ชายหนุ่มยิ้มลุกขึ้นแล้วยื่นมือไปจับมือของหญิงสาวทันที

                “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ”

     

                ***************

     

                รถยนต์สีดำคันหรูค่อยๆ แล่นเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์จักรวัฒน์ของตระกูล จักรวัฒน์ รถยนต์สีดำแล่นเข้ามาหยุดตรงหน้าคฤหาสน์ก่อนที่จะปรากฏตัวของคนขับว่าเป็นหญิงสาวผิวขาวอมชมพู ผมสีน้ำตาลออกดำยาวสลวยดัดเป็นลอน ริมฝีปากอวบอิ่มแดงอมชมพู จมูกโด่งพอประมาณ นัยน์ตาสีน้ำผึ้งหวานหยดย้อยจนใครๆ ที่เผลอสบตากับเจ้าหล่อนก็ต้องแทบจะละลายหายไปในบัดดล หล่อนเดินเข้าไปในห้องอาหารที่บัดนี้คนในครอบครัวของหล่อนนั่งอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

                “เพิ่งกลับมาหรือจ้ะ หนูแพร” เสียงของ อุษา ภรรยาคนที่สองของ ศิวา บิดาของเธอถามขึ้นเมื่อเห็นหล่อนเดินเข้ามาในห้องอาหารของคฤหาสน์จักรวัฒน์

                “ค่ะ น้าอุษา” หล่อนตอบก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งตรงที่ว่างข้างๆ ไพลิน ภรรยาคนแรกและเป็นมารดาของหล่อน

                “เหนื่อยไหมจ้ะ ยัยแพร” ไพลินถามลูกสาวทันทีเมื่อเห็นแพรวานั่งเรียบร้อยแล้ว

                “นิดหน่อยค่ะคุณแม่ แล้วน้องมัทล่ะค่ะหายไปไหน” แพรวาถามพลางมองหามัทนาน้องสาวของหล่อน

                “หนูมัทก็ไปทานกับแฟนเขาสิจ้ะ” ไพลินพูดก่อนที่จะตักหมูทอดกระเทียมพริกไทยชิ้นใหญ่ให้กับแพรวา

                “ค่ะ คุณแม่” แพรวาพูดเสียงแผ่วก่อนที่จะนิ่วหน้าด้วยความกังวลกลัวความลับที่เธอปิดบังมัทนานั้นจะแตก

                ความลับมันไม่มีในโลกนะยัยแพร ถ้ายัยมัทรู้มีหวังฉันตายแน่

     

                ******************

     

                ขณะเดียวกันมัทนากับยศวินกำลังเดินเล่นภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง มัทนาเป็นหญิงสาวผิวขาวอมชมพูเฉกเช่นเดียวกับแพรวา แต่ต่างกันตรงที่มัทนานั้นดูบอบบางน่าทะนุถนอมราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่พร้อมจะแตกอยู่ตลอดเวลา และที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัดคือสีผม มัทนาเป็นผู้หญิงผมดำขลับตามธรรมชาติแถมยังตรงยาวสลวยที่ไร้การตัดแต่งเหมือนกับผมของแพรวา ส่วนเครื่องหน้านั้นก็คล้ายกันราวกับแกะมาจากพิมพ์เดียวกัน

                “น้องมัทหิวหรือยังค่ะ?” ยศวินถามมัทนาที่กำลังเดินดูเสื้อผ้าอยู่ภายในร้านเสื้อผ้าชื่อดัง

                “นิดหน่อยค่ะ พี่วินหิวแล้วหรือค่ะ?” มัทนาละสายตาจากเสื้อสีชมพูอ่อนที่สวมอยู่กับหุ่นโชว์ภายในร้าน

                “ค่ะ พอดีตั้งแต่เที่ยงพี่เพิ่งกินกาแฟไปแค่แก้วดีเอง” ยศวินตอมพลางยิ้มเจื่อนๆ มัทนาตีไปที่ต้นแขนของยศวินเบาๆ แล้วพูดว่า “แล้วทำไมไม่บอกมัทล่ะค่ะ ไปค่ะ...ไปหาอะไรกินกัน”

                “ค่ะ น้องมัท” แล้วทั้งสองก็พากันเดินน้องจากร้านขายเสื้อผ้าตรงไปที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังร้านประจำของทั้งสองคน

     

                *********************

     

                ตรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด

                โทรศัพท์เครื่องสวยของยศวินสั่นอย่างแรงหลังจากที่ชายหนุ่มขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ยศวินกดรับสายโดยที่ยังไม่ทันดูว่าคนที่โทรเข้ามานั้นเป็นใคร

                “นี่คุณ...ทำไมเพิ่งรับโทรศัพท์ล่ะ?” เสียงของแพรวาดังออกมาจากลำโพงของโทรศัพท์

                “คุณเป็นใครครับ?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยเพราะว่าเสียงนั้นช่างคุ้นหูของเขาเหลือเกิน

                “แพรวาค่ะแพรวา” แพรวาตอบด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

                “อ้าว...คุณแพทหรอครับ แล้วคุณมีธุระอะไรถึงโทรมาดึกป่านนี้ หรือว่าคุณคิดถึงผมกันแน่?” ชายหนุ่มหยอกเย้าแพรวาอย่างสนุกสนานเพราะว่าปัจจุบันแพรวาทำงานเป็นเลขานุการส่วนตัวของเขา

                “บ้า...อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย แล้วตอนนี้ยัยมัทอยู่กับคุณหรือเปล่า?

                “อยู่ก็บ้าสิคุณ นี่ผมคุยในห้องน้ำชายนะ”

                “แล้วไป ฉันก็แค่กลัวว่ายัยมัทเขาจะระแวง เรื่องของเรา ก็เท่านั้น”

                “คุณก็เลยโทรมาเช็คเพื่อความปลอดภัย...ว่างั้น?

                “ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปนอนก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาฉันจะไม่สวย”

                “ครับ...ฝันดีนะครับ”

                “เช่นกันค่ะ” แล้วแพรวาก็กดวางสาย ส่วนยศวินาก็เดินฮัมเพลงกลับไปที่โต๊ะอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ตัวว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเพราะความเจ้าชู้ของตัวเอง

                   

                *********************

     

                หญิงสาวในชุดสีแดงเพลิงเดินตรงเข้ามาหามัทนาที่กำลังทานอาหารอย่างมีความสุข ก่อนที่จะหยุดแล้วพูดว่า “แกนี่เอง นังแมวขโมย!!!

                มัทนาเงยหน้ามองหญิงสาวแปลกหน้าด้วยความงุนงงก่อนที่จะถามว่า “คุณเป็นใครค่ะ?

                “ฉันก็เป็น เมีย คุณวินนะสิ” หญิงสาวแปลกหน้าตอบก่อนจะหยิบแก้วน้ำสาดเข้าไปที่ใบหน้าของมัทนา มัทนายืนขึ้นด้วยความโกรธและอับอาย หญิงสาวแปลกหน้าแสยะยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า “โกรธหรือจ้ะ แม่ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

                เพียะ

                ร่างของหญิงสาวแปลกหน้าล้มลงไปกองกับพื้นก่อนที่เจ้าหล่อนจะกรีดร้องโวยวายด้วยความเจ็บใจ

                “นี่แกกล้าตบฉันหรอ นังหน้าด้าน!!!

                “ใครกันแน่ที่หน้าด้าน เขาไม่เอาแล้วยังอยากจะรั้งเขาไว้อีก” มัทนาพูดก่อนที่จะหยิบแก้วน้ำราดศีรษะของหญิงสาวแปลกหน้าอย่างช้าๆ

                “กรี๊ด!!!” หญิงสาวแปลกหน้ากรีดร้อง มัทนาหัวเราะสะใจก่อนที่จะตกใจเพราะเห็นว่ายศวินกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ มัทนาลงไปนั่งกับพื้นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่หญิงสาวแปลกหน้าลุกขึ้นยืน มัทนาเอาจานอาหารของยศวินราดตัวเองก่อนที่จะบีบน้ำตา ยศวินมาถึงเห็นสภาพของมัทนาและหญิงสาวแปลกหน้าก็ตกใจ

                “น้องมัทเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ?” ยศวินเข้าไปพยุงมัทนาให้ยืนขึ้น มัทนาร้องไห้แล้วค่อยๆ พูดว่า “มัทไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่มัทตกใจที่อยู่ดีๆ เขาก็เข้ามาตบมัท เอาน้ำมาสาดมัท แล้วก็เอาอาหารของพี่วินมาราดมัทอีก”

                “นังตอแหล!!! วินอย่าไปเชื่อมันนะค่ะ มันโกหกคุณ” หญิงสาวแปลกหน้าปราดเข้าไปเกาะแขนยศวิน ยศวินสะบัดออกด้วยความโกรธทันที

                “คุณทำอย่างนี้ทำไม...ทราย?” ยศวินถามด้วยความโกรธพลางเช็ดเศษอาหารจากศีรษะของมัทนา

                “มัทขอตัวไปล้างตัวในห้องน้ำนะค่ะ” มัทนาพูดพลางรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้ทรายกับยศวินยืนอยู่ด้วยกัน ยศวินจ้องหน้าทรายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

                “ทรายไม่ได้ทำนะค่ะ มันทำตัวเอง แล้วอีกอย่างมันยังตบทรายแล้วเอาน้ำมาราดทรายด้วย” ทรายอธิบายก่อนที่จะเข้าไปเกาะแขนยศวิน แต่ยศวินก็สะบัดออกเช่นเคย

                “คุณกลับไปได้แล้วทราย”

                “แต่ว่าทราย...”

                “กลับไป!!!” ยศวินพูดเสียงดัง ทรายตกใจก่อนที่รีบวิ่งออกจากร้านไปด้วยความเสียใจ

     

                *************************

     

                หลังจากที่ทรายออกจากร้านอาหารไปได้ไม่นานมัทนาก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ดูดีกว่าเดิมนิดหน่อย มัทนามองหาทรายแต่ไม่พบจึงหันไปถามยศวิน

                “ทรายกลับไปแล้วหรือค่ะ?

                “ค่ะ เขากลับไปแล้ว เราก็กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวน้าอุษาเขาจะเป็นห่วง” ยศวินพูดพลางถือกระเป๋าถือให้มัทนาแล้วจูงมือมัทนารีบเดินออกจากร้านไปโดยที่ยศวินไม่สังเกตว่าบนใบหน้าของมัทนาปรากฏรอยยิ้มบางๆ ที่ใครเห็นก็ไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร

     

                **************************

     

                ยศวินพามัทนากลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่ม แพรวาที่กำลังนอนหลับอยู่พอได้ยินเสียงรถยนต์ของยศวินมาจอดที่หน้าบ้านก็สะดุ้งตื่นทันที แพรวาหยิบนาฬิกาที่วางไว้ข้างเตียงนอนมาดูก็เห็นว่าเกือบห้าทุ่มก็ตกใจจึงรีบเดินลงมาไปที่ประตูหน้าบ้านทันที

                “นี่คุณ...คุณพายัยมัทไปตะลอนที่ไหนมาถึงพากลับมาดึกดื่นป่านนี้?” แพรวาตวาดแว้ดใส่ยศวินทันทีด้วยความโมโห มัทนาตกใจก่อนที่จะเข้าไปเกาะแขนแล้วพูดกับแพรวาว่า “พี่วินก็แค่พามัทไปซื้อของและก็ดินเนอร์เองค่ะ”

                “ดินเนอร์ประสาอะไรกันจนถึงห้าทุ่มเที่ยงคืน แล้วนี่...ยัยมัทแกไปทำอะไรมาถึงกลับมาสภาพนี้เนี่ย หรือว่ามัน...”

                “พี่วินไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ แต่คนที่ทำเป็นกิ๊กเก่าพี่เขาเอง” มัทนาอธิบายก่อนที่ยศวินจะหูชาไปมากกว่านี้

                “มิน่าล่ะ ทีหน้าทีหลังก็ระวังตัวให้ดีเวลาไปไหนมาไหนกับ มัน ล่ะ” แพรวาพูดก่อนที่จะส่งสายตาอาฆาตไปที่ยศวิน มัทนาพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้

                “น้องมัทค่ะ พี่ขอตัวกลับก่อนนะค่ะ ไม่อย่างนั้นพี่มีหวังได้ตายอย่างเขียดแน่” ยศวินพูดพลางเอานิ้วปาดคอตัวเองก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไป แพรวามองตามอย่างหัวเสียก่อนที่จะลากน้องสาวตัวดีเข้าบ้าน มัทนาเดินตามแรงลากของแพรวาอย่างอารมณ์ดีพลางคิดในใจสนุกๆ ว่า

                มัทดีใจนะค่ะที่พี่แพรรักมัทมากขนาดนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×