ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซ่อนรอยรัก...กับดักร้าย

    ลำดับตอนที่ #9 : เริ่มแผนการร้าย 100%

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 63


    ปกติแรกรักเป็นคนอาบน้ำเร็ว เธอไม่ค่อยมีเครื่องประทินโฉมเหมือนผู้หญิงคนอื่น ทว่าวันนี้ แผลที่ขา ทำเธออาบน้ำไม่ค่อยสะดวกนัก กว่าจะเรียบร้อยก็ใช้เวลามากโข 

    “ลำบากชีวิตชะมัด” เธอพูดพร้อมกับหยิบเสื้อยืดตัวโคร่งมาสวม ทว่ายังไม่ทันจะเรียบร้อย เธอก็ดันทำมันหลุดมือเสียจนได้ 

    “ตายแล้ว” เธอรีบหยิบเสื้อยืดกับกางเกงเลที่ตกไปบนพื้นขึ้นมา แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เสื้อกับเกงเกงที่เปียกไปเสียเกือบครึ่ง ต่อให้เช็ดอย่างไรก็คงไม่แห้ง

    “แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้” แรกรักมองดูเสื้อผ้าในมือ ก่อนจะตัดสินใจใช้ผ้าขนหนูห่อตัวแล้วเดินออกมายังตู้เสื้อผ้า เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ที่เขาเชื้อเชิญให้เธอใส่ยังคงแขวนอยู่ที่ราวหน้าตู้ เธอหยิบขึ้นมาทาบทับตัว เมื่อเห็นว่าความยาวไม่ได้น่าเกลียดเกินไป เธอเลยจนใจ ก็ดีกว่าใส่ผ้าขนหนูออกไปเจอเขาแล้วกัน

    “เฮียเรนเสร็จแล้ว” เธอเอ่ยเรียกคนที่กำลังนั่งดูทีวีให้หันกลับขึ้นมาสนใจ ทว่าทันทีที่เขาเห็นภาพตรงหน้า เขาก็ตกใจจนเผลอทำรีโมททีวีตกพื้น

    “คือว่าชุดเมื่อกี้ มันหล่นเปียกน้ำหมดเลย เฮียเรนมีตัวอื่นเหลืออีกมั๊ย” เธอยื่นชุดที่เปียกน้ำให้ดู พร้อมกับทำหน้าหง่อยๆ

    “ไม่มีเลย” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะเสหลบตา รู้สึกถึงเลือดลมในร่างกายที่สูบฉีดแรงกว่าปกติ จนร้อนวูบวาบไปหมด ยอมรับว่าคนตัวเล็กในเสื้อเชิ้ตของเขาดูเซ็กซี่กว่าที่คิดเอาไว้มากโข

    “งั้นรักใส่ตัวนี้ก่อนได้มั๊ย เดี๋ยวตากไว้แป๊ปนึง ถ้าผ้าแห้งแล้วรักค่อยเปลี่ยนกลับ ว่าแต่ตากตรงไหนได้บ้างอะ” เธอพูดพร้อมเดินกระเผกไปหาที่ตากผ้า

    “ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ทำเอง” เขาลุกขึ้นมาแย่ง

    “ไม่ได้ รักทำเปียก เดี๋ยวรักตากเอง เฮียเรนบอกว่าตากตรงไหนได้ก็พอ”

    “ไม่ได้ ขาเจ็บอยู่ มานั่งรอตรงนี้เลย เดี๋ยวแผลก็อักเสบหรอก”

    “ไม่เอา เฮียเรนปล่อย รักจะตากเอง ว้าย” ท้ายประโยคเธอร้องออกมาด้วยความตกใจ จังหวะที่ฉุดกระชากกันอยู่นั้น เธอไม่ทันได้ระวังตัว พอเขาออกแรงดึงให้คนตัวเล็กเสียหลัก โชคดีที่เขาคว้าเอาไว้ได้เสียก่อน เธอเลยมานั่งจุมปุกอยู่บนตักเขาแทนที่จะลงไปกองอยู่ตรงพื้นข้างล่าง

    “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เขารีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

    “เจ็บแผล” เธอบ่นเบาๆ

    “แล้วที่อื่น มีเจ็บตรงไหนอีกมั๊ย”

    “ไม่มีค่ะ”เธอลองขยับตัวซ้ายขวา ดูว่ามีตรงไหนที่เจ็บอีกหรือเปล่า โดยไม่รู้เลยว่าสัมผัสนุ่มๆของเธอ กำลังกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างของเจ้าของตักแกร่ง

    “ไม่มีก็ดีแล้ว แต่รักหยุดขยับก่อนได้มั๊ย พี่จะทนไม่ไหวละนะ” เขาพยายามข่มอารมณ์ด้วยความยากลำบาก

    “ก็เฮียเรนเป็นคนถามรักเองว่าเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า รักก็ลองขยับดู ผิดตรงไหนกัน” เธอไม่ฟังเขาแม้แต่น้อย 

    “ยัยตัวร้าย ถ้าพี่ทนไม่ไหว ความผิดรักเลยนะ” 

    “ความผิดอะไร รักยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย” เธอเอียงคอถามด้วยความสงสัย ตาคู่ใสที่จ้องมาทำเอาความอดทนเขาหมดสิ้น

    ทิวาประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากสวยทันที เขารับรู้ได้ถึงความตื่นตระหนกของตรงหน้า แต่เพียงไม่นาน เธอก็โอนอ่อนผ่อนตามเขาแต่โดยดี สัมผัสอ่อนหวานกลายเป็นเร้าร้อนขึ้นตามจังหวะของอารมณ์ รู้ตัวอีกที คนตัวเล็กก็นั่งหายใจหอบมองเขาด้วยถ้าทีงอนๆเสียแล้ว

    “หวานจัง” เขาพูดโดนสายตายังไม่ละจากริมฝีปากบาง พร้อมกระชับวงแขนที่โอบรอบเอวบางให้แน่นขึ้นไปอีก

    “เฮียเรนทำอะไรปล่อยรักนะ” เธอออกแรงดิ้น ทว่าเรี่ยวแรงที่มีก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนเสียหมด เธอไม่เข้าใจการกระทำของเขาเลย นี่เป็นครั้งที่สองของวันแล้วที่เขาขโมยจูบเธอ

    “ก็พี่เตือนรักแล้ว รักไม่ฟัง เด็กดื้อต้องถูกลงโทษ”

    “แต่รักยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ” เธอเถียงต่อ

    “แค่รักนั่งบนตักพี่แบบนี้พี่ก็ห้ามใจไม่ไหวแล้ว ยังจะมาขยับบนตัวอีก แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ” เขาพูดพร้อมกับสัมผัสให้คนตัวเล็กรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เมื่อแรกรักรับรู้ถึงความแข็งแกร่งบางอย่าง แก้มใสก็ซับสีเลือดขึ้นมาทันที

    “ทะลึ่ง ปล่อยนะ รักจะลง”

    “ไม่ปล่อย เพราะพี่ยังทำโทษไม่เสร็จ” ไม่รอให้เธอได้แย้งอะไรต่อ เขาก็ประทับจูบลงมาอีกครั้งทันที ต่างกันตรงที่ครั้งนี้ดูเร้าร้อนและดุดันกว่าครั้งแรกมาก

    มือแกร่งลูบไล้ไปตามชายเสื้อ ก่อนจะสัมผัสแผ่นหลังเนียนใส ทุกครั้งที่เขาลากมือไป เหมือนจุดความเร้าร้อนให้กับคนที่ถูกสัมผัส

    “เฮียเรน” เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงหวาน 

    “ครับ” เขาตอบกลับก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไล่ตามคอระหง ต่ำลงมาเรื่อยๆ

    “เฮียเรน อย่า” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ กระดุมเสื้อตอนนี้ถูกแกะออกจนหมด เขาไล่มือไปตามผิวบอบบาง ยิ่งสัมผัสเท่าไหร่เขายิ่งต้องการมากขึ้นอีกเท่านั้น เสียงตอบรับของคนตัวเล็กทำให้สติของเขาแตกกระเจิง แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปไกลกว่านั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน

    “อือ เฮียเรน โทรศัพท์” แรกรักพยายามดึงสติเขาให้กลับมาสนใจกับสิ่งตรงหน้าอีกครั้ง

    “ปล่อยให้ดังไปสิ” เขาบ่นอย่างหัวเสีย 

    “เขาอาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้ เฮียเรนกดรับก่อน” แรกรับพยายามเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ดังอยู่มาให้เขา แล้วพอเห็นว่าเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอเป็นเบอร์ใคร เธอก็ตัดสินใจกดรับทันที

    “แก ฉันเอง นั่นแกขับรถถึงไหนแล้ว ฉันลืมกระเป๋าไว้กับแก เดี๋ยวฉันขับรถไปเอาเอง อะไรนะ อย่างนั้นหรอ โอเค งั้นฉันน่าจะเข้าใจอะไรผิด ไม่มีอะไรแล้ว แกขับรถดีๆแล้วกัน” พูดจบแรกรับก็กดวางสายโทรศัพท์และส่งมันคืนเจ้าของทันที

    “รักจะกลับห้อง เอาของรักคืนมาเลย” เธอเอ่ยเสียงเข้ม ลุกขึ้นยืนก่อนจะรวบเสื้อเชิ้ตที่เปิดอยู่ไว้ด้วยมือข้างเดียว

    “เดี๋ยวก่อนสิ ฟังพี่อธิบายก่อน” 

    “ไม่ฟัง เฮียเรนทำอะไรอยู่ รักไม่เข้าใจ” แรกรักยอมรับว่าโกรธมาก โกรธจนอยากจะฉีกคนตรงหน้าออกเป็นชิ้นๆ

    “คือว่า” เขาเอ่ยได้แค่นั้น ก่อนจะนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแผนการณ์

     

     

    ‘พี่เรนครับ ต้นจะโทรมาบอกว่ากระเป๋ารักอยู่ที่ต้น จะให้เอาไปให้ที่ไหนดี’ ต้นโทรกลับมายังเบอร์ของเขาหลังจากวางหูจากแรกรักไปไม่นาน

    ‘ตอนนี้น้องต้นอยู่ที่ไหนหรอครับ’ 

    ‘ต้นอยู่ตรงหน้าตึกอุบัติเหตุครับ’

    ‘ถ้าอย่างนั้น น้องต้นฝากถุงยากับกระเป๋าของรักไว้กับเคาเตอร์พยาบาลก็ได้ บอกว่าฝากให้หมอทิวา เดี๋ยวพี่วนรถไปเอาครับ’

    ‘ได้ครับ งั้นต้นฝากไว้เลยนะครับ’

    และนั่นเป็นจุดเริ่มต้น เขาไม่ได้ตั้งใจจะปกปิด แค่บอกไม่หมดเท่านั้นเอง ตอนที่วนรถไปรับยา เขาก็แค่ไม่ได้บอกเธอว่าเอากระเป๋ามาเรียบร้อยแล้ว ส่วนตอนที่เธอพยายามโทรติดต่อเพื่อน เขาก็แค่ลืมกดโทรออกก่อนหยิบโทรศัพท์แนบหูเท่านั้นเอง

     

     

    “คืออะไร ถ้าเฮียเรนไม่พูดก็เอาของรักคืนมา รักจะกลับห้อง” เสียงของคนตัวเล็กเรียกสติเขาให้กลับคืนมาอีกครั้ง

    “พี่ก็แค่อยากดูแลรักเท่านั้นเอง”

    “แต่เฮียเรนก็ทำอยู่แล้ว รักไม่เห็นความจำเป็นที่เฮียต้องโกหกรักเลย” 

    “ก็ไม่ได้อยากดูแลเหมือนเดิมแล้วไง แล้วถ้าพี่เอากระเป๋าคืนรัก รักจะยอมมาห้องพี่หรอ รักก็คงหนีกลับไปกินยานอนที่ห้องแน่ๆ” เขาบอกเหตุผลที่แท้จริงออกไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าเข้าใจเขาขึ้นเลยแม้แต่น้อย

    “รักป่วย กลับไปกินยาแล้วนอนก็ถูกแล้วหนิคะ วันนี้เฮียเรนเป็นอะไรไป ทำไมทำตัวไม่เหมือนเฮียเรนปกติเลย รักเริ่มกลัวแล้วนะ” เธอเอ่ยออกมาอย่างไม่จริงจัง ทว่าคำว่ากลัวของเธอ ทำให้คนฟังใจเสีย 

    “พี่ขอโทษแล้วกันที่ทำให้รักกลัว รักอยากกลับไปพักที่ห้องใช่มั๊ย เดี๋ยวพี่ไปหยิบของให้ รอแป๊ปนึง” พูดจบเขาก็ตั้งท่าลุกจากโซฟาทันที ไหล่ห่อๆกับท่าทีหงอยๆของคนตรงหน้า ทำเอาแรกรักรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องเข้าใจอะไรผิดไปอีกเป็นแน่

    “เดี๋ยวเฮียเรน ไม่ต้องมาทำท่างอนแบบนั้นเลย รักควรจะเป็นคนงอนเฮียเรนมากกว่านะ”

    “พี่ไม่ได้งอนสักหน่อย แล้วพี่ก็ขอโทษแล้วไง หรือรักจะให้พี่ทำยังไงเพื่อไถ่โทษก็บอกมาได้เลย พี่ยอม”เขาตอบกลับมาเสียงอ่อยๆ ไม่อยากเงยหน้ามองคนตัวเล็ก เพราะกลัวจะเผลอแสดงแววตาตัดพ้อออกไป ทั้งๆที่ตัวเขาเองไม่มีสิทธิอะไรเลยด้วยซ้ำ

    “ไม่ต้องไถ่โทษอะไรทั้งนั้นแหละ เฮียเรนแค่มองหน้ารัก แล้วบอกว่าเป็นอะไรก็พอ” เธอถือวิสาสะเชยคางของเขาขึ้น ทันทีที่สบสายตาคม หัวใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    “พี่ก็เป็นเฮียเรนของรักไง” 

    “แล้วยังไงค่ะ” เธอเอียงคอถามต่อด้วยความสงสัย

    “ก็จริงๆไม่ได้อยากเป็นแค่นั้น ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าพี่เป็นอะไร” ท้ายประโยค เขาจงใจก้มลงมาพูดข้างๆแก้มใส ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดข้างแก้ม ทำเอาเธอร้อนวูบวาบไปหมด

    “รักไม่อยากรู้แล้ว กลับห้องดีกว่า” ทั้งๆที่เป็นคนคาดคั้นคำตอบจากคนตรงหน้า แต่กลายเป็นเธอเองที่ไม่กล้าจะฟังต่อ 

    ทิวาส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจของคนตรงหน้า แรกรักรู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เธอแค่ยังไม่เปิดใจยอมรับมันก็เท่านั้นเอง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเธอหรอก มันเป็นปัญหาของเขาที่จะทำยังไงให้เธอยอมรับมากกว่า

    เขาพาเธอมาส่งยังห้อง หลังจากจัดแจงวางข้าวของ บอกวิธีการกินยา เช็คว่าคนไข้ทำตามคำแนะนำได้เป็นที่เรียบร้อย แต่พอถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย กลับเป็นเขาเสียเองที่งอแงไม่ยอมกลับ

    “เฮียเรนสอนวิธีกินยารักซ้ำเป็นรอบที่สามแล้วนะ รักกินได้ แล้วเรื่องเดิน จะพยายามไม่เดินเยอะ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ไปพักผ่อนได้แล้วค่ะ”

    “รักอยู่คนเดียวได้จริงๆนะ ถ้าจะเข้าห้องน้ำ เดินไม่ไหวก็โทรเรียกพี่แล้วกัน”

    “เฮียเรน รักแค่เป็นแผลนะ ไม่ได้ขาขาดสักหน่อย รักไปได้ เฮียเรนก็ไปนอนได้แล้ว เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” เธอรุนหลังเขาออกไป ทว่าคนตัวโตก็ยังยื้อขอเวลาเพิ่มอีกสักหน่อย

    “งั้นพรุ่งนี้รักโทรปลุกพี่หน่อยแล้วกัน เดี๋ยวมาทำแผลให้รักแต่เช้าก่อนไปทำงาน”

    “แผลทำตอนไหนก็ได้เฮียเรน วันละครั้งเอง ไปนอนได้แล้ว”

    “ก็ได้ อย่าลืมกินยาก่อนนอนด้วยนะ”

    “รับทราบเจ้าค่ะ สั่งมากขนาดนี้ มานอนเฝ้าเลยมั๊ย” แรกรักพูดทีเล่นทีจริง แต่ดันเข้าทางคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังหาช่องทางเข้าเสียได้

    “นอนได้หรอ อย่างนั้นก็ดีเลย พี่จะได้รู้ว่ารักกินยาจริง” เขามองมาสายตาวาววับ เล่นเอาคนถูกมองทำตัวไม่ถูก

    “รักล้อเล่น นอนไม่ได้ ไปได้แล้วค่ะ” คราวนี้เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังพยายามซ่อนความเขินอายไม่ให้เขารู้

    “ไปก็ได้ ขอ Good night kiss หน่อยได้มั๊ย” เขาพูดพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆ ไม่รอให้เธออนุญาต เขาก็ฉวยโอกาสเก็บความหวานจากริมฝีปากบางทันที

    “เฮียเรน” เธอมองเขาตาโต 

    “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้อยากเป็นแค่เฮีย ฝันดีนะครับ” พูดจบเขาก็หันหลังจากไปทันที ทิ้งแรกรักให้ยื่นอึ้ง สิ่งเดียวที่เธอรับรู้ได้ว่าที่ผ่านไปไม่ใช่ฝัน คงเป็นหัวใจที่เต้นรัวอยู่ในตอนนี้

    คนบ้า ไม่ได้อยากเป็นแค่เฮีย แล้วอยากเป็นอะไรกัน ไม่บอกแล้วเธอจะรู้ได้ยังไงกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×