คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สาเหตุที่เปลี่ยนไป 50%
“ตื่นได้แล้ว เด็กขี้เซา” เสียงทุ้มที่เอ่ยลอดมาตามเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันทีที่กดรับ ก่อนที่แรกรักจะตกใจจนเกือบจะตกเจียง เมื่อคิดได้ว่าวันนี้เธอต้องติดรถใครบางคนไปมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ขับไปเองอย่างเคย
“ตายแล้ว กี่โมงแล้ว ทำไมเฮียเรนไม่ปลุกรักเลย” เธอบ่าพลางเอื้อมมือไปคว้านาฬิกาปลุกข้างเตียงขึ้นมาดู “เพิ่งเจ็ดโมงเอง ยังมีเวลาเหลือพอให้อาบน้ำ หรือว่าจะไม่อาบก็ได้นะ”
“เจ็ดโมงแล้วหรอ สายแล้วๆ แค่นี้ก่อนนะเฮียเรน แล้วเจอกัน” เสียงสัญญาณโทรศัพท์จากอีกฝั่งถูกตัดไป ทิวาอมยิ้มกับหน้าจอ ก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารคู่ใจลงในกระเป๋า เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดี ก่อนยังยกกาแฟขึ้นจิบ ความทรงจำครั้งก่อนจะมาเรียนในเมืองใหญ่ย้อนเข้ามาในหัวเหมือนเพิ่งเกิดไม่นาน
‘ว่าไงไอ้เรน ได้ข่าวว่าป๋าจะส่งไปเรียนต่อ hepato (ศัลยกรรมตับและระบบทางเดินน้ำดี) หรอ’ เสียงสตาฟหนุ่ม ที่เป็นทั้งพี่และอาจารย์เอ่ยทักเมื่อบังเอิญเจอกันในห้องพักแพทย์
‘ครับพี่นาย ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า แต่ผมก็ชอบทางนี้มากสุดแล้ว’
‘ชอบทางนี้ หมายถึงชอบกินตับหรอวะ’ เสียงปัญญา สตาฟสาวเอ่ยแซวขึ้นอีกคน เรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากคนในห้องให้ดังขึ้นอีกครั้ง
‘โถ อาจารย์ปัญญาครับ ทำไมชงผมไปทางนั้นล่ะครับ เสียชื่อเสียงหมด’
‘แหม ไม่ต้องทำเป็นพูดเลย ใครก็รู้ว่าแกน่ะ เสือผู้หญิงจะตาย’
‘เสืออะไรกันครับ เรียกว่าผู้มีสัญชาตญาณนักล่าจะดีกว่า’ พูดจบเขาก็ส่งยิ้มทะเล้นๆ ให้กับทุกคนในห้อง เรียกเสียงหัวเราะเกรียวกราวได้อีกหน
‘แกมันก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วใครมันจะกล้ามาฝากชีวิตด้วยวะ’
‘โถพี่นาย คนที่ใช่อะ ถึงเวลาก็มาเองนั้นละ พี่อย่ามัวแต่ห่วงผมเลย เอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วกัน ผมว่าช่วงนี้ไอ้วามันดูฮอตแปลกๆนะ ดูนั่นสิ เดนท์ออโถมายืน consult เคสตั้งนานสองนานแล้ว ไม่เห็นไปไหนเลย’ เขาพยักเพยิดไปทางกระจกใสตรงหน้าที่สามารถมองจากห้องพักแพทย์ทะลุไปยังวอร์ดผู้ป่วยได้
‘มันเป็นใครวะ’
‘ไม่รู้เหมือนกันพี่ เห้ย พี่นายจะรีบไปไหน’ ยังไม่ทันที่เขาจะตอบ สตาฟหนุ่มก็เดินลิ่วไปเสียแล้ว คิดแล้วก็อดเสียวสันหลังวาบแทนเดนท์ออโถคนนั้นไม่ได้
เขาอมยิ้มกับตัวเองแล้วนึกขำอยู่ในใจ อานุภาพความรักนี่ทำให้รุ่นพี่ที่ขรึมๆ ติดอันดับตัวโหดต้นๆของภาควิชา กลายเป็นหนุ่มวัยรุ่นใจร้อน ขี้หึงจนแทบจะฆ่าผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้ผู้หญิงของเขาเกินสองเมตรให้ตายเสียหมด เขานึกภาพตัวเองเป็นแบบนั้นไม่ออกจริงๆ จนเมื่อวันที่ได้รู้จักเด็กแสบคนนึง
วันนั้นเขาไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนที่ร้านประจำเช่นเคย ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นวาริดามากับผู้หญิงหน้าตาดีคนนึง ตอนแรกแค่คับคล้ายคับคลา พอมองชัดๆถึงรู้ว่าเป็นแรกรัก น้องสาวตัวแสบของพี่นาย ดูเหมือนทั้งสองจะไม่รู้ตัวเลยว่า ตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มหลายๆคนในร้าน เธอกระดกแก้วแล้วแก้วเล่า เห็นแล้วอดหงุดหงิดไม่ได้ ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งคงเรียกมาตีก้นเสียให้หลาบจำ
ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้คิดไปไกลมากกว่านั้น ก็เกิดเรื่องเข้าจนได้ มีหนุ่มขี้เมาเข้าไปหาเรื่องเธอ โชคดีที่เขามองอยู่พอดี ไม่อย่างนั้น มีหวังลูกกวางน้อยต้องโดยล่าเหยื่อไปเป็นแน่ แค่คิดถึงตอนนั้น เขาก็รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจอย่างไรบอกไม่ถูก
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น แรกรักก็เริ่มเกาะติดเขาแจ เรียกว่าว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องหาเรื่องมาป่วนเขาถึงโรงพยาบาลตลอด แรกๆก็ทำเป็นส่งขนมมาขอบคุณ หลังๆเขาเลยแอบรู้ความจริงว่าเธอจะขอให้เขาไปช่วยพูดกับพี่ชายเรื่องที่พักที่คอนโด
‘นะเฮียเรน ช่วยพูดให้รักหน่อย ถ้าเป็นเฮียเรน เฮียต้องฟังแน่ๆ แล้วถ้าเฮียไปเอ่ยปากขอม้ากับป๊าต่อ ป๊ากับม้าต้องยอมแน่ๆ’
‘อ้าว ที่มาเทียวส่งข้าวส่งน้ำแบบนี้ จริงๆแล้วตั้งใจหลอกใช้พี่หรอ’ เขาเอ่ยพร้อมแกล้งทำหน้าเศร้า ทั้งๆที่แกล้งหยอก ทว่าทำไมในใจเขาอดรู้สึกเจ็บแปลกๆไม่ได้
‘เขาเรียกทำดีหวังผลต่างหาก’ เธอยิ้มอวดฟันขาวอย่างอารมณ์ดี ยิ่งทำให้ใจเขาห่อเหี่ยวลงไปอีก
‘ถ้าอย่างนั้น รักไม่ต้องเอาขนมมาให้พี่แล้วก็ได้ ขะได้ไม่ลำบาก ส่วนเรื่องคอนโด เดี๋ยวพี่หาโอกาสคุยกับพี่นายให้ แต่ไม่รับปากนะว่าจะช่วยได้หรือเปล่า’ พูดจบเขาก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไปจากห้องพักแพทย์ทันที โชคดีที่คนตัวเล็กคว้าเอาไว้ทัน
‘โอ๋ๆ รักล้อเล่น ที่เอามาให้เพราะอยากให้จริงๆ ส่วนเรื่องคอนโดก็อีกเรื่องนึง ไม่ได้เกี่ยวกันสักหน่อย อย่าน้อยใจเลยนะ รักขอโทษ’ พูดจบเธอก็ถือวิสาสะเกาะแขนอ้อน แล้วก็ดูจะได้ผล ทันทีที่ได้ยินเสียงหวานกับสัมผัสอุ่นๆ ความขุ่นเคืองก็หายไปแทบจะทันที
‘ไม่ได้น้อยใจสักหน่อย ไปได้แล้ว พี่ต้องไปเข้าเคสแล้ว’
‘แหม ไม่ต้องมาไล่แก้เขินเลย ไปก็ได้ ไว้เจอกันตอนเย็นนะคะ’ พูดจบ เด็กสาวผมเปียในชุดมัธยมปลายก็โบกมือลาแล้ววิ่งออกจากวอร์ดไป ทิ้งให้คนตัวโตยืนยิ้มกับลมกับฟ้าอยู่คนเดียว
ให้มันได้อย่างนี้สิ ยัยตัวแสบ เขาส่ายหน้าด้วยความระอา ก่อนจะกลับมาตั้งสติกับประวัติผู้ป่วยเคสที่กำลังจะผ่าตัดต่อไป
ภาพหนุ่มสาวต่างวัยกลายเป็นภาพชินตาของทุกคนไปเสียแล้ว ถ้าใครไม่รู้ คงคิดว่าเเรกรักเป็นน้องสาวของทิวามากกว่าณพบซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆเสียอีก ทว่าบางอย่างมันได้เริ่มเปลี่ยนไป ในวันที่เขาตัดสินใจคุยกับพี่นายเรื่องการอยู่คอนโดของเธอ
‘แกจะไว้ใจได้ยังไงวะ ว่าที่นั้นมันปลอดภัย รักอยู่บ้านตลอด ติดป๊ากับม้าแจ เคยไปอยู่คนเดียวเสียที่ไหน หัวเด็ดตีนขาดฉันก็ไม่ให้ไป’
‘แต่พี่นาย คอนโดมันมีระบบรักษาความปลอดภัยอีกแล้ว อีกอย่างเพื่อนรักก็อยู่กันเยอะๆ แถมเป็นคอนโดแถวโรงพยาบาลด้วย ส่วนใหญ่ก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์ทั้งนั้น ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย’
‘แกรู้ได้ไง’ คนเป็นพี่ชายขี้หวงถามกลับมาด้วยความสงสัย
‘เพราะผมก็จองคอนโดนี้ไว้เหมือนกัน รายเดือนกับส่วนกลางราคาสูงหน่อย ผมว่าน่าจะปลอดภัยระดับนึงเลย แล้วถ้าพี่นายเป็นห่วง เดี๋ยวผมช่วยดูแลให้ก็ได้ รักก็เหมือนน้องสาวผมอยู่แล้ว’ เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง ณพบนิ่งไปอยู่สักพัก ก่อนจะตอบตกลง
‘งั้นฉันฝากน้องด้วยแล้วกัน ห้ามให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ ห้ามมีแฟนก่อนจบหกปี ถ้าแกสัญญาว่าช่วยดูได้ ฉันจะไปช่วยคุยกับที่บ้านให้’
‘ครับพี่นาย’ เขารับคำอย่างไม่เต็มเสียงนัก
‘ฉันไว้ใจนาย อย่าทำให้ผิดหวังแล้วกัน’ พูดจบพี่นายก็เดินจากไป ทิ้งความรู้สึกหนักอึ้งไว้ในใจคนฟัง และตั้งแต่วันนั้น เขาก็เริ่มหายไปจากชีวิตแรกรัก เธอเพียรพยายามติดต่อเขาทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่เป็นผล แล้วสุดท้ายเธอก็เงียบหายไป จนกระทั่งวันที่มาเจอกันอีกครั้ง
“เหม่ออะไรอยู่อะเฮีย ไปกันเถอะ สายแล้ว” เธอกระโดดเกาะแขนเขาอย่างเคยชิน หลังจากที่เคลียกันเรียบร้อย ระยะเวลาที่หายไปก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลยสักนิด
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เรามีเรียนสิบโมงไม่ใช่หรอ” เขาเอ่ยทักเมื่อหญิงสาวตรงหน้ารีบเดินจนกลัวว่าจะเผลอสะดุดล้ม
“ไม่ได้หรอก เฮียเรนมีราวเช้า เดี๋ยวไปสาย รักไม่อยากเป็นคนทำให้เฮียเสียประวัติ”
“แต่ถ้าหกล้มไป แข้งขาหัก พี่นายรู้ พี่อาจจะเสียประวัติมากกว่านี้ก็ได้นะ”
“รักโตแล้วนะ ไม่ซุ่มซ่าม ว้าย” ท้ายประโยคหายไปเพราะคนตัวเล็กเผลอสะดุดลูกระนาดบนถนนจนได้ โชคดีที่ทิวาเอื้อมมือไปคว้าเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ล้มไปแบบที่เขากังวลเป็นแน่
“เห็นมั๊ย พูดยังไม่ทันขาดคำเลย” เขาเอ่ยเบาๆ
“ขอบคุณค่ะ” แรกรักเอ่ยปากเบาๆ สัมผัสอุ่นที่ข้อมือทำเอาเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หัวใจพานเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ไม่เจ็บตรงไหนใช่มั๊ย” เขาถาม ยังไม่ยอมปล่อยมือคนตรงหน้า
“ไม่เจ็บค่ะ ไปกันดีกว่า เดี๋ยวเฮียเรนสาย” แรกรักขืนมือออกเบาๆ พร้อมออกปากเร่ง ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ยอมปล่อย
“ไปก็ไป รถพี่จอดอยู่ตรงนั่น” เขาออกแรงจูงคนตัวเล็ก
“รักรู้แล้ว ไม่หลงทางหรอก เดินเองได้” เธอพูดขึ้นเบาๆ รู้สึกถึงไอร้อนที่เห่อขึ้นข้างแก้มใส
“ไม่ได้กลัวหลง กลัวล้มต่างหาก ไปเถอะ พี่ลืมไปว่ามีแกรนราวน์วันนี้” เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดอะไรอีกจนกระทั่งถึงรถ ไม่รู้เธอคิดไปเองหรือเปล่า คนที่บอกว่ารีบแต่ขากับก้าวช้ากว่าเธอเสียอีก ดูรีบไม่จริงเอาเสียเลย
“วันนี้ตอนเย็นว่างหรือเปล่า มีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อจอดรถเทียบหน้าคณะคนตัวเล็กเรียบร้อย
“เย็นมีประชุมหลีด แต่ไม่น่าจะค่ำมาก ถ้าเฮียเรนรอได้ ก็โอเคค่ะ”
“พี่ว่ารักน่าจะประชุมเสร็จก่อนพี่”
“เฮียเรนจะให้รักไปช่วยทำอะไรคะ”
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ เจอกันที่คอนโดเลยแล้วกัน เดี๋ยวพี่ขับรถไปรับ ตั้งใจเรียนด้วยนะ” เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะได้รูปด้วยความเอ็นดู
“ผมยุ่งหมดแล้ว” เธอบ่ายเบี่ยง ปากทำเป็นบ่น ทั้งๆใจจริงของชอบสัมผัสเขาอยู่ไม่น้อย
“แหม ทำเป็นบ่น ทีแต่ก่อนยังชอบให้พี่ลูบหัวอยู่เลย”
“ไม่คุยกับเฮียเรนแล้ว ไปดีกว่า ไว้เจอกันนะคะ”
เธอก็เป็นเสียอย่างนี้ เวลาเขินชอบตีเนียนเฉไฉไปเรื่องอื่นทุกที เห็นแล้วก็อดแกล้งไม่ได้สักที ทิวาอมยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะออกรถไปยังที่ทำงานของตน
ความคิดเห็น