คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องบังเอิญ 100%
“เอาเสื้อพี่ไปคุมไว้ก่อน เสื้อเปียกหมดแล้ว” เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นเสื้อกันหนาวมาให้
“ไม่เอา ฉันไม่หนาว” แรกรักปฏิเสธเสียงแข็ง มือเล็กปัดเสื้อที่ยื่นมากลับคืนเจ้าของไป
“จะใส่ดีๆหรือให้พี่ใส่ให้”
“ไม่ใส่ แล้วก็ไม่ต้องใส่ให้ด้วย ส่งฉันลงตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าก็ได้ เดี๋ยวฉันไปต่อเอง” เธอพูดพร้อมกับชี้มือไปยังเป้าหมายที่ต้องการจะไป สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำเอาคนฟังอดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้
“ดื้อ”
“ไม่ได้ดื้อ จอดได้แล้ว ฉันจะลง” เธอเริ่มขึ้นเสียง แต่เขาก็ไม่ได้ทำตามแม้แต่น้อย ทิวาขับรถเลยจุดหมายของเธอไปมากโข ก่อนจะยอมตีไฟเลี้ยวแอบตรงที่ว่างเปล่าข้างทางแทน
“คุณจะให้ลงตรงนี้หรอ” แรกรักหันไปถาม แววตาฉายแววตัดพ้ออย่างที่เจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว
“เปล่า จะใส่นี่ให้ต่างหาก” พูดจบ เสื้อกันหนาวตัวหนาก็พาดคลุมลงมาทันที ความอบอุ่นแล่นวาบไปทั้งตัว เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นจนกลัวว่าใครอีกคนจะได้ยิน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใส่” เธอยังคงขัดขืน ทว่าเสียงที่เอ่ยออกมาไม่เข้มแข็งเหมือนก่อนหน้าแม้แต่น้อย
“เสื้อมันบาง ใส่เถอะ เดี๋ยวจะไม่สบาย หรือตั้งใจให้พี่ดูหรอ” ท้ายประโยค เขาตั้งใจก้มหน้าลงมาใกล้ ลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะแก้มใส ทำเอาหัวใจเต้นแรงขึ้นไปอีก
“บ้า ใครจะคิดแบบนั้นกัน” แรกรักตอบกลับไปเบาๆ
“ก็เห็นไม่อยากใส่ รู้มั๊ยว่าเสื้อนักศึกษาสีขาว เวลาโดนน้ำมันเปียกไปจนเห็น…”
“เฮียเรน หยุดพูดลามกเลยนะ ไม่งั้นรักจะฟ้องเฮีย” แรกรักออกแรงผลักคนตรงหน้า ก่อนจะมอบกำปั้นเป็นรางวัลให้คนลามกเสียสองสามที
“ยอมแทนตัวเองแบบเดิมแล้วหรอ” เขายิ้มตอบกลับมา ไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองที่ถูกทำร้ายร่างกายแม้แต่น้อย
“จะแทนตัวเองแบบไหน เฮียเรนสนใจด้วยหรอ”
“อ้าว ถ้าไม่สนใจแล้วจะถามหรอ”
“แต่เมื่อเช้าเฮียเรนเป็นคนเดินหนีรักเอง ไม่สนใจรักด้วย รู้มั้ยว่า รักเสียใจ” พูดจบน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลลงอาบแก้มเนียน ทำเอาคนที่ตั้งใจแกล้ง ทำอะไรไม่ถูก ปกติเขาก็แพ้น้ำตาผู้หญิงอยู่แล้ว แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะมีอานุภาพรุนแรงกว่าคนอื่นหลายเท่า
“โอ๋ๆ ไม่เอานะ ไม่ร้อง พี่ขอโทษ เมื่อเช้าพี่ไม่ได้ตั้งใจ ต่อไปพี่จะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลย ถ้าพี่ทำรักเสียใจอีก พี่ยอมให้…”
“ไม่เอา ไม่พูด รักเชื่อแล้ว เฮียไม่ต้องสัญญาหรือสาบานอะไรนะ รักกลัว” เธอพูดพร้อมยื่นมือเล็กๆมาปิดปากเขา ความอบอุ่นทำเอาคนตัวโตเสียอาการ เขารู้สึกถึงความร้อนที่ลามขึ้นทั้งหน้า ให้เดาว่าตอนนี้หน้าเขาต้องแดงมากแน่ๆ เธอคงจะรู้สึกได้ เลยค่อยลดมือลง พร้อมกับเสมองไปทางอื่น
“ฝนไม่มีท่าทีจะหยุดเลยเนาะ” แรกรักเป็นคนที่เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นก่อน
“ก็ช่วงนี้ฤดูฝน คาดการณ์อะไรไม่ได้หรอก” เขาตอบกลับมา ก่อนจะตีไฟเลี้ยวขวา เพื่อพารถกลับสู่เลนส์ปกติ
“รักไม่ชอบเลย มันหนาวๆ เหงาๆ ยังไงบอกไม่ถูก” เธอเอ่ยพร้อมกระชับเสื้อกันหนาวให้แน่นขึ้น
“หรอ แต่พี่ชอบนะ มันรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาดี เหมือนชื่อพี่ไง”
“โห นี่โฆษณาขายของเฉยเลย ไม่เห็นเฮียเรนจะสดชื่นมีชีวิตชีวาตรงไหนเลย” ท้ายประโยค เธอปรับเสียงให้เบาลงคล้ายจะบ่นกับตัวเอง
“แล้วอยากลองดูรึเปล่า ว่าสดชื่นตรงไหน” เขาพูดพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ ทำเอาคนถูกมองอดรู้สึกร้อนวูบวาบไม่ได้
“ไม่เห็นจะอยากรู้เลย เฮียเรนมองถนนไปเลย ฝนยิ่งตกหนักๆอยู่ เดี๋ยวก็เกิดอุบัติเหตุหรอก”
“อ้าว ไม่เห็นต้องแช่งกันเลย”
“ไม่ได้แช่งสักหน่อย เป็นห่วงต่างหาก” ท้ายประโยคแม้จะเบา แต่คนฟังได้ยินชัดเจน ทำเอาหุบยิ้มแทบจะไม่ได้
“รับทราบครับ จะตั้งใจขับเดี๋ยวนี้ละครับ”
บทสนทนาในห้องคนขับยังดังไม่ขาดสาย ช่วงเวลาที่หายไป ความรู้สึกขุ่นมัวในตอนเช้า ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกคุ้นเคย ความทรงจำเก่าๆบวกกับวีรกรรมแสบถูกยกขึ้นมาเล่าอย่างไม่ขาดสาย รู้ตัวอีกที รถสปอร์ตคันเก่งก็เคลื่อนมาจอดอยู่ในที่จอดคอนโดเสียแล้ว
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งรัก ว่าแต่เฮียเรนรู้ได้ไงว่ารักอยู่คอนโดนี้”
“ใครว่าพี่มาส่งรัก พี่ก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน” เขายักคิ้วกวนๆตอบกลับไปหนึ่งที
“อะไรนะ เฮียเรนก็อยู่คอนโดนี้หรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ห้องชั้นไหน นี่ไม่คิดจะบอกกันเลยใช่มั๊ย” แรกรักกลายร่างเป็นเด็กงอแง ทุบกำปั้นไปยังอกแกร่งอย่างเคย ทว่าครั้งนี้เขาไหวตัวทัน คว้ามือนุ่มเอาไว้เสียก่อน คนตัวเล็กเลยเสียหลักถูกดึงมาซบอกเขาเสียได้
“จะให้ตอบคำถามไหนก่อนดี ถามเยอะจังเลย” เขาจงใจก้มหน้าลงไปพูดใกล้ๆแก้มเนียน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของคนตรงหน้า ทำเขาอดใจแทบไม่ไหว อยากฟังจมูกลงไปสัมผัสความนุ่ม ติดแต่อะไรบางอย่างยั้งความรู้สึกเขาเอาไว้อยู่
“ก็ตอบมาทั้งหมดนั่นละ แล้วก็ปล่อยรักด้วย อึดอัด” เธอพูดพร้อมกับพยายามลุกออกจากอกแกร่ง เสื้อกันหนาวตัวโคร่งที่สวบอยู่ดันลื่น ทำเอาเสียหลักอีกครั้ง ต่างกันที่ครั้งนี้ เป็นแก้มใสที่ไปประทะกับริมฝีปากเข้มที่ก้มรออยู่แล้ว
“หอมจัง”
“ปล่อยเลย” แรกรักใช้พลังที่เหลือ ดันตัวกลับมานั่งยังตำแหน่งเดิม เธอรู้สึกมือไม้อ่อนไปหมด ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว คล้ายจะเป็นลมอย่างไงอย่างงั้น
“พี่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย รักล้มเองแท้ๆ สรุปว่าไม่อยากรู้แล้วหรอว่าพี่อยู่ที่นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ไม่อยากรู้แล้ว รักขึ้นห้องดีกว่า” พูดจบเธอก็หอบข้าวของ ขึ้นคอนโดไปทันที ปล่อยให้คนตัวสูงยืนยิ้มแก้มปริอยู่คนเดียว
เมื่อเห็นว่าเธอขึ้นห้องไปแล้ว โดนไม่มีท่าทีจะวกกลับมา ทิวาก็ลงมือเก็บข้าวของของตัวเองบ้าง เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดี สัมผัสอุ่นกับแก้มนุ่มๆยังติดอยู่ในความรู้สึก คิดแล้ว ใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงขึ้นจนผิดจังหวะ เขาเหลือบมองไปยังที่นั่งของคนตัวเล็ก ก่อนจะยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่เธอลืมไว้
เสียงเรียกเข้าของโปรแกรมสนทนายอดฮิตดังขึ้น ดึงความสนใจจากคนที่กำลังหาของในกระเป๋าให้กลับมาสนใจ แรกรักหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าปลายทางคือใคร เธอก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
Rain : ลืมไอแพดไว้บนรถพี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเอานะ
First_love : หาอยู่ตั้งนาน คิดว่าหายไปไหน เฮียเรนอยู่ห้องไหน เดี๋ยวรักไปเอาเลยก็ได้
Rain : อย่ามาใช้มุกแอบหลอกถามห้องพี่ ไม่ได้ผลหรอก ค่อยเอาพรุ่งนี้แล้วกัน ยังไงรักก็ต้องไปมหาวิทยาลัยพร้อมพี่อยู่แล้ว
First_love : หลงตัวเอง แล้วใครจะไปพร้อมเฮียเรนกัน
ทันทีที่พิมจบประโยค เสียงตอบแชทก็กลายเป็นเสียงโทรศัพท์แทน
“ถ้าไม่ไปพร้อมพี่ จะไปพร้อมใครกัน มีรถหรอเรา” เสียงทิวาเอ่ยถามมากวนๆ อย่างคนที่เป็นต่อ
“ไม่มี รักก็หาทางไปเองได้”
“ไม่ได้ รักต้องไปกับพี่ หรือจะให้พี่บอกพี่นาย” เขายื่นไม้เด็ดเช่นเคย แล้วก็ได้ผล เพราะปลายสายเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ก็ได้ ทำไมต้องขู่ว่าจะฟ้องพี่นายทุกทีเลย คอยดูนะ อย่าให้ถึงทีรักบ้าง”
“ไม่ได้ขู่สักหน่อย เอาเป็นว่า เจอกันพรุ่งนี้นะครับ อย่าลืมอาบน้ำ สระผม แล้วเป่าผมให้แห้งก่อนนอนด้วย”
“รับทราบเจ้าค่ะ สั่งเยอะขนาดนี้ มาทำให้เลยมั๊ย” ท้ายประโยค เธอบ่นเบาๆให้กับความเยอะของคนปลายสาย ทว่าสิ่งที่เขาตอบกลับมา กลับทำเอาเธอใจสั่นเสียเอง
“ถ้าอยากให้ทำให้ พี่ก็ยินดีนะ”
“บ้า” แรกรักตอบไปแค่นั้นก่อนจะกดตัดสาย แม้เขาจะวางไปแล้ว แต่ประโยคเมื่อครู่ยังคงดังอยู่ในหัว ครั้งพอเธอคิดภาพตาม ไอร้อนก็เห่อลามขึ้นหน้าอย่างห้ามไม่ได้
ถ้าคืนนี้เธอนอนไม่หลับ เธอจะถือว่าเป็นความผิดเขาเลย คอยดู
ความคิดเห็น