คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : HAPPY ENDING 100%
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ฝันดีนะคะ” แรกรักยื่นมือไปรับกระเป๋าจากคนตรงหน้า ทว่าเขากลับอ้อยอิ้งไม่ยอมเอากระเป๋ามาให้สักที
“ทำไมวันนี้รักไม่ไปนั่งเล่นห้องพี่ก่อน พี่อุตส่าห์เลิกเร็ว คิดว่าจะมีเวลาอยู่กับแฟนนานๆเสียหน่อย” เขางอแง โดยไม่รู้เลยว่าคำว่าแฟนของตัวเองทำเอาคนฟังรู้สึกใจเต้นแรง แรกรักยอมรับว่ายังไม่ชินกับสถานะใหม่นี้แม้จะผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ตาม
“ก็รักมีงาน พี่เรนเอาของรักมา แล้ววันนี้ก็นอนพักผ่อนนะคะ นอนดึกมาหลายวันแล้ว”
“แต่พี่ไม่ง่วง พี่อยากอยู่กับรัก”
“แต่รักมีงานต้องทำส่งพรุ่งนี้นะคะ”
“พี่สัญญาจะนั่งเฉยๆ ไม่เสียงดังกวนใจ” เขายังคงต่อรอง ไม่ยอมคืนกระเป๋าให้คนตรงหน้า
“ไม่ได้ วันนี้รักต้องทำรายงานส่งคุณครู รักต้องการสมาธิ” เธออธิบายเหตุผลพร้อมน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วพี่ทำให้รักเสียสมาธิตรงไหน พี่สัญญาว่าจะไม่กวนตอนรักทำงาน พี่จะอยู่เงียบๆ ถ้าอ่านหนังสือดึกๆ มีบริการชงกาแฟให้ หรือถ้าเมื่อยปวดไหล่ พี่ช่วยนวดให้ด้วยก็ได้”
“ไม่ได้ค่ะ รักตามใจพี่เรนมากไปแล้ว วันก่อนรักหอบหนังสือไปอ่านห้องพี่เรน สุดท้ายก็ไม่ได้การได้งาน ถ้าพี่เรนยังงอแง ต่อไปรักจะไม่ยอมไปห้องพี่เรนอีกแล้วจะเอากุญแจห้องรักคืนด้วย” เธอเริ่มใช้ไม้แข็ง
“ไม่เอานะ พี่ไม่คืนกุญแจ”
“งั้นคืนกระเป๋ามาค่ะ”
“คืนก็ได้ แต่ขอแลกกับหอมแก้มเป็นพลังหน่อยได้มั๊ยสัญญาแค่หอมแก้มจริงๆ” เขาเอียงแกมสากให้เธอ ทว่าแรกรักไม่ยอมหลงกลง่ายๆ
ตั้งแต่ตกลงเป็นแฟนกันในวันนั้น เขาก็พยายามขอร้องแกมบังคับให้เธอย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน โดยให้สัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์ 25+ เหมือนในวันนั้นอีก ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ยังคงเล่ห์เหลี่ยมจัดวันยังค่ำ เขายังหาโอกาสทำโทษเธอด้วยวิธีชวนวาบวามอยู่เป็นประจำ ล่าสุดก็เรื่องใส่เสื้อเปิดไหล่ถ่ายรูปเมื่ออาทิตย์ก่อน
‘รัก ใครให้ใส่ชุดแบบนี้ ไม่เปลี่ยนเลย มันโป๊’ เขาติงทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องนอน
‘โป๊ตรงไหน ไม่เห็นโป๊เลย แค่เปิดไหล่เอง รีบไปกับเถอะพี่เรน รักนัดพี่ๆตากล้องไว้ตอนเที่ยง เดี๋ยวไม่ทัน’ เธอดึงมือคนตัวโตให้ลุกจากโซฟา ทว่าเขายังขืนตัวปักหลักอยู่ที่เดิม
‘ไม่ไป จนกว่ารักจะเปลี่ยนชุด’
‘พี่เรน ทำไมงอแงแบบนี้ รักไม่เปลี่ยนแล้ว ขี้เกียจเลือกชุดใหม่’
‘เดี๋ยวพี่ช่วยเลือก’ เขารีบลุกขึ้นทันที แต่พอเจอหน้าดุๆ ของคนตัวเล็ก เท้าที่ตั้งใจจะก้าวไปเลือกเสื้อผ้าก็ดันหนักขึ้นมาจนก้าวไม่ออกเสียอย่างนั้น
‘ก็พี่หวง ขอโทษที่ทำให้รักรำคาญ ไปกันเถอะ เดี๋ยวรักจะสาย’ คนตัวโตทำหน้าเศร้าพร้อมกับหยิบกุญแจรถเตรียมพร้อมไปส่งอย่างที่กล่าว ทั้งที่ใจไม่อยากให้เธอไปเลยแม้แต่น้อย
‘เดี๋ยวก่อน รักยังไม่ได้บอกเลยว่ารำคาญพี่เรน เลิกทำหน้างอแบบนั้นแล้วยิ้มให้รักหน่อยนะคะ’ เธอเอ่ยปากอ้อนพร้อมเอียงคอถามด้วยท่าทางน่ารัก
‘พี่ไม่ได้ทำหน้างอสักหน่อย’
‘งั้นยิ้มให้รักหน่อยนะคะ รักอยากได้พลัง’ เธอเอื้อมมือขึ้นไปจับริมฝีปาก พยายามใช้นิ้วขยับเป็นสัญญาณให้เขาส่งยิ้ม ทว่าก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับมา
‘รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวสายนะ’
‘ไม่ค่ะ จนกว่าพี่เรนจะหายงอนรัก’
‘มันก็แค่ความรู้สึก รักไม่ต้องสนใจก็ได้ พี่ไม่เคยโกรธหรืองอนรักได้นานอยู่แล้ว’ เขาเอ่ยด้วยเสียงเรียบเฉย ทำเอาคนฟังยิ่งรู้สึกผิด
‘ทำไมพี่เรนพูดอย่างนี้ละคะ ยิ่งเป็นความรู้สึกพี่เรน รักยิ่งต้องสนใจ ถ้าอะไรที่ทำให้พี่เรนหายงอนได้ รักก็จะทำ’
‘ทุกอย่างเลยหรอ’ เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ แต่ยังคงวางตัวนิ่งเฉย
‘ทุกอย่างเลยค่ะ’ เธอรีบพยักหน้า
‘งั้นก็เปลี่ยนชุด หรือไม่ก็หอมแก้มเติมพลังให้พี่ที’
‘เติมพลังอะไรคะ’ แรกรักถามกลับไปด้วยความสงสัย
‘พลังใจไง พี่ต้องทนให้รักอยู่ในชุดแบบนี้ทั้งวัน ใครต่อใครมองบ้างก็ไม่รู้ คิดดูสิว่าหัวใจพี่ต้องทรมานมากขนาดไหน’
‘เว่อร์จัง แค่หอมอย่างเดียวนะคะ’
‘ครับ แค่หอมแก้มอย่างเดียว’ เขาตอบกลับไปพร้อมซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆหายงอนคนตัวเล็กตั้งนานแล้ว แต่ทำเป็นวางฟอร์ม กลัวคนบางคนจะได้ใจ
ทว่าเอาเข้าจริงการหอมธรรมดาแบบฉบับของเขาก็กินเวลาไปหลายนาที แถมท้ายที่สุดแล้ว เธอก็จำใจต้องเปลี่ยนเป็นเสื้อคอเต่า เพราะคนเจ้าเล่ห์จงใจทิ้งร่อยรอยให้คนอื่นเข้าใจผิด เล่ห์เลี่ยมแพรวพราวแบบนี้จะให้เธอเชื่อใจได้ยังไงกัน
“นะครับ” เสียงเขาเรียกเธอให้กลับมาสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง
“ก็ได้ค่ะ หอมแก้มอย่างเดียวนะคะ” เธอยื่นริมฝีปากอิ่มไปสัมผัสแก้มสาก ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับเบี่ยงตัวทำให้องศาพลาดจากเป้าหมายกลายเป็นริมฝีปากหนาแทน
เขาหยอกเย้าเธอจากที่ตั้งใจจะแกล้งเล่นๆ พอได้สัมผัสความอ่อนหวาน รสสัมผัสก็เริ่มเร้าร้อนขึ้นเรื่อยๆ มือหนาปะป่ายไปทั่วคล้ายกับจะสัมผัสเธอให้มากกว่านี้ คนในอ้อมกอดเริ่มส่งเสียงแสดงความต้องการมากขึ้น ทว่าทุกอย่างกลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคล้ายๆกับอะไรสักอย่างตกลงพื้น
“ไอ้เรน”
“พี่นาย” เขาเป็นคนแรกที่หาเสียงเจอ ในขณะที่คนตัวเล็กตกใจจนแทบจะแข็งเป็นหินไปแล้ว เขารีบจัดเสื้อผ้าให้คนตรงหน้า ก่อนจะมองไปยังรุ่นพี่ที่มีศักดิ์เป็นอาจารย์ที่ไม่เจอกันนาน
“มึงไม่ต้องเรียกชื่อกู อธิบายมาเลยนะว่าที่เห็นคืออะไร”
“เฮีย ใจเย็นๆก่อนนะ คือรักอธิบายได้” คนตัวเล็กที่เพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอ เริ่มอธิบาย
“เงียบไปเลยนะรัก เฮียจะคุยกับไอ้เรน ไหนอธิบายมา ทำอย่างนี้ได้ยังไง กูอุตส่าห์ไว้ใจ” ณพบมองรุ่นน้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขายอมรับว่าโกรธมากที่เปิดห้องทั้งสองกำลังจูบกัน ทั้งๆที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพต์น้องสาวแท้ๆ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโดนเซอร์ไพต์เสียเอง
“ผมรักรักครับ” ทิวาเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ณพบถามกลับไป สังเกตว่าแววตาของรุ่นน้องจริงจังต่างจากแต่ก่อนมาก
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ รู้อีกทีก็รักไปแล้ว ตอนที่ผมสัญญากับพี่นาย ผมก็พยายามห้ามใจตัวเอง แต่สุดท้ายผมก็ทำไม่ได้ ผมผิดสัญญา แต่ผมรักรักจริงๆนะครับ พี่นายให้โอกาสผมด้วยนะครับ”
“แค่สัญญาแกยังรักษาไม่ได้เลย แล้วฉันจะไว้ใจให้แกดูแลน้องฉันได้ยังไง” ณพบถามกลับไปนิ่งๆ ทว่าเฉือดเชือนใจคนฟังทุกคำ เพราะมัวแต่เครียด เลยทำให้เธอและเขาไม่ทันสังเกตว่าสรรพนามที่เรียกขานถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว
“ถ้าผมให้สัญญาอีก พี่นายก็คงจะไม่เชื่อ ผมจะพิสูจน์ให้พี่นายเห็นครับ ว่าผมดูแลรักได้จริงๆ”
“แกจะขอเวลากี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี ว่ามาเลย”
“ตลอดไปครับ จนกว่าพี่นายจะยอมรับ ว่าผมรักรักจริงๆ” เขาเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่นอย่างในความหมาย ทำเอาคนฟังรู้สึกตื้นตันจนน้ำตารื้อ
“เฮีย รักขอนะ รักกับพี่เรนรักกันจริงๆ เฮียอาจจะคิดว่ารักยังเด็ก แต่เรื่องความรัก รักขอเป็นคนตัดสินใจเองได้มั๊ย”
“ถ้ามันทำรักเสียใจ”
“จะไม่มีวันนั้นครับ”
“ฉันพูดกับน้องสาว ไม่ได้พูดกับแก” ณพบหันไปส่งสายตาดุให้รุ่นน้อง
“รักจะไม่โทษใครค่ะ เพราะรักเป็นคนเลือกเอง” เธอตอบคำถามพี่ชายอย่างแน่วแน่ ทั้งน้ำเสียง ท่าทาง และคำพูดทำให้ณพบรู้ได้ทันที ว่าน้องน้อยของเขาตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่จริงๆแล้ว
“งั้นก็ได้ แต่เฮียมีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรคะ” แรกรักรีบเอ่ยถาม
“ข้อแม้ว่าต่อไปนี้ แกห้ามเข้าใกล้น้องสาวฉันเกินสองเมตร ห้ามอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ห้ามเข้ามาในห้องนี้ถ้าไม่จำเป็น แล้วก็ห้ามแตะเนื้อต้องตัวจนกว่าแรกรักจะเรียนจบ ได้มั๊ย” ณพบมองรุ่นน้องที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มไปเสียแล้ว
“แต่เราเป็นแฟนกันนะครับ” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ถ้าไม่ยอมรับก็เลิกยุ่งกับน้องฉัน ก็จบ”
“ไม่เลิก ผมตกลงตามนั้นครับ” เขารีบตอบรับ เพราะกลัวคนตรงหน้าจะเปลี่ยนใจอีก
“อย่างนั้นก็ตกลง เอาเป็นว่าเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยนะ แกกลับไปได้แล้ว ฉันมีเรื่องจะคุยกับน้องสาวต่อ”
“ครับ” พูดจบทิวาก็เดินคอตกออกจากห้องไปทันที แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอแรกรัก ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ จิตใจเขาก็ห่อเหี่ยวจนไม่มีแรงทำอะไรแล้ว
ทิวาพาร่างที่ไร้วิญญาณของตัวเองกลับมาที่ห้อง หยิบกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากในตู้เย็นแล้วเดินมาทิ้งตัวอย่างเหนื่อยล้าลงที่โซฟากลางห้อง
วันนี้มีบอลนัดเด็ด ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้จิตใจเขากระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวาขึ้นสักนิด เขาเร่งเสียงโทรทัศน์ให้ดังขึ้น ต้องการให้เสียงโห่ร้องดับความวุ่นวายในใจ แต่มันไม่ได้ช่วยเลย
เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง แต่ไร้การตอบรับจากเจ้าของห้อง แรกรักเลยถือวิสาสะไขกุญแจเข้ามาเอง ก่อนจะเจอคนตัวโตนั่งหน้าหงอยอยู่หน้าโทรทัศน์
“เอาขนมมาฝาก ให้วางไว้ตรงไหนคะ” เสียงใส เรียกคนตัวโตให้กลับไปสนใจได้ทันที และเมื่อเขาเห็นว่าเป็นเธอไม่ผิดแน่ๆ เขาก็รีบเดินมาประชิดตัวทันที
“ทำไมรักมาอยู่นี่ได้ พี่นายกลับแล้วหรอ”
“ยังหรอกค่ะ รักแค่เอาขนมมาฝาก”
“พี่นายไม่ได้ดุอะไรรักใช่มั๊ย” เขาถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ได้ดุอะไรค่ะ เฮียก็แค่ถามสาระทุกข์สุขดิบทั่วไป เมื่อกี้เห็นพี่วาโทรมา กว่าจะวางคงอีกนาน รักเลยถือโอกาสเอาขนมมาให้พี่เรนดีกว่า”
“ขอบคุณครับ รักไม่โดนดุอะไรพี่ก็สบายใจแล้ว งั้นรีบกลับดีกว่า เดี๋ยวพี่นายกลับมาจะหาเจอ”
“อุตส่าห์มาหาที่ห้องแท้ๆ ไล่กันกลับเฉยเลย ไม่อยากอยู่กับรักแล้วหรอ” เธอแกล้งงอน เอียงคอถามด้วยท่าทางน่ารักเช่นเคย
“รักก็รู้ว่าพี่อยากอยู่กับรักทุกเวลา แต่พี่นายห้ามแบบนั้น พี่จะทำอะไรได้” เขาเอ่ยด้วยท่าทีหงอยๆ
“แต่เฮียบอกเองว่าถ้าห้ามพี่เรนไปห้องรัก แต่ไม่ได้ห้ามรักมาห้องนี้สักหน่อย แล้วเฮียห้ามถ้าไม่มีเหตุจำเป็น แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ทำได้”
“เจ้าเล่ห์จริงๆ” เขาอมยิ้มให้กับความน่ารักของคนตรงหน้า
“เจ้าเล่ห์ แล้วรักหรือเปล่าคะ”
“รักครับ รักมากที่สุดเลย” พูดจบเขาก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแนบอก เสียงหัวใจที่เต้นอยู่ตอนนี้ อธิบายความรู้สึกทั้งหมดที่มีของเขาได้อย่างชัดเจน
ใครจะไปรู้ว่าความรักที่ถูกซ่อนเอาไว้ตั้งนาน สุดท้ายโชคชะตาก็มักจะเล่นกลให้มันเปิดเผยออกมาอยู่ดี เหมือนกับชีวิตเธอและเขาในตอนนี้ แต่ต่อจากนี้ไป เขาสัญญาว่าจะไม่ซ่อนความรู้สึกอะไรอีกแล้ว เขาจะแสดงให้เห็นว่าความรักของเขามีมากจนเธอคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
คุยกันสักหน่อย : นิยายเรื่องนี้ แต่ขึ้นกรณีพิเศษช่วง WFH จาก covid19 ที่พนักงานเสื้อขาวอย่างเราก็โดนผลกระทบไปด้วย จริงๆตั้งใจจะให้คลายเครียด คลายเหงา ขอบคุณแฟนๆที่ยังคิดถึงกัน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกันนะ ดูแลสุขภาพด้วย ♥️
ความคิดเห็น