ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซ่อนรอยรัก...กับดักร้าย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 63


    “รัก พี่ว่าพอก่อนดีมั๊ย มันเยอะเกินไปแล้ว” วาริดาหยิบแก้วเหล้าออกจากมือเด็กสาวตรงหน้า

    “ไม่เห็นจะเยอะตรงไหนเลย รักยังไม่เมา กินได้อีกเยอะ อึก” พูดจบเธอก็ยกน้ำสีอำพันที่เหลือเกือบครึ่งแก้วดื่มจนหมด พร้อมกับโบกมือเรียกบริกรเพื่อสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม

    “อีกแก้วเดียวพอนะแรกรัก ถ้าพี่นายรู้ มีหวังหัวขาดทั้งสองคนแน่ๆ”

    “ไม่เห็นจะกลัวเลย เฮียยังกินได้เลย ทำไมรักจะกินบ้างไม่ได้”

    “ก็พี่นายโตแล้วไง เขารู้ลิมิตว่ากินได้มากน้อยแค่ไหน แต่แรกรักยังเป็นเด็กอยู่ พอแล้วนะ หมดแก้วนี้ พี่จะพากลับบ้าน”

    “ไม่เอา รักไม่กลับ พี่วาก็เหมือนกับคนอื่นนั้นแหละ เห็นรักเป็นเด็กอยู่เรื่อย รักโตแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็เข้ามหา’ลัยแล้ว น้องเอามาอีกสามแก้ว” ท้ายประโยคคนขี้เมาหันไปสั่งเด็กเสิร์ฟที่เดินผ่านมา

    “ไม่ได้นะรัก ตายแล้วไอ้วา รู้ว่าดื้อแบบนี้ทั้งพี่ทั้งน้อง ไม่หลงกลพามาหรอก” วาริดาบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแก้วเหล้าออกจากเด็กสาวตรงหน้า

    “พี่วาเอาคืนมา รักจะกิน รักยังไม่เมา”

    “ชิบหายแล้วไง พี่นายโทรมา” วาหยิบโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงร้องอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู

    “อ้าว ดีเลย รับเลยสิคะ หรือพี่วาไม่กล้า เอามารักรับให้” พูดจบ คนตัวเล็กก็ยื่นมือมาคว้าโทรศัพท์ทันที ดีที่หลบทัน ไม่อย่างนั้นมีหวังเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ

    “ไม่ได้ ถ้าพี่นายรู้ รักนั่นแหละจะมีปัญหา รออยู่นี่ก่อนนะ พี่ไปหาที่เงียบๆรับโทรศัพท์แป๊ปเดียว เดี๋ยวกลับมา”

    “โอเค ได้” แรกรักตอบกลับมาด้วยน้ำเสืยงอ้อแอ้ ไม่ได้ทำให้คนฟังสบายใจแม้แต่นิดเดียว

    วาริดาชั่งใจอยู่สักครู่ เมื่อโทรศัพท์ไม่มีวี่แววว่าคนปลายสายจะลดละความพยายามในการติดต่อ จึงจำใจรีบเดินออกหาที่เงียบๆ เพื่อรายงานตัวทันที

    “ว่าไงน้องสาว มาคนเดียวหรอจ๊ะ” เสียงชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งในตำแหน่งเดิมแทนที่คนที่เพิ่งลุกออกไป

    แรกรักเงยหน้าขึ้นมอง เเม้จะมีฤทธิ์แอลกอฮอลล์ในเลือดค่อนข้างมาก ทว่าแววตาโลมเลียของคนตรงหน้าชัดเจนเสียจนเธออดรู้สึกขยะแขยงไม่ได้

    “ว่าไงคะ เหงาหรือเปล่า ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนมั๊ย” ชายหนุ่มคนตรงหน้าเอ่ยถามต่อ พร้อมขยับเข้าใกล้

    “ไม่เหงา ไม่ได้มาคนเดียว ขอโทษนะ ช่วยเขยิบออกไปห่างๆแฟนผมด้วย” เสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเอ่ยขึ้นพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มที่กระแทกลงอย่างแรงตรงกลางโต๊ะตามอารมณ์ของคนพูด ทำเอาแรกรักตกใจ แต่พอมองเห็นว่าคนมาใหม่เป็นใคร ก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นอย่างประหลาด

    “มีเเฟนแล้วก็ไม่บอก ก็ไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่หรอก หน้าตาก็งั้นๆ” พูดจบ คนหัวเสียที่อดล่าเหยื่อก็เดินจากไปทันที

    “เฮียเรนมาได้ยังไงคะ”แรกรักเอ่ยทักพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้า

    “พี่ควรจะถามเรามากกว่า เป็นเด็กเป็นเล็ก มาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ได้ไง มันอันตราย แล้วดูแต่งเนื้อแต่งตัว” พูดจบ เขาก็ถอดเสื้อแจ๊กเกตของตัวเองคลุมร่างของคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆทันที

    “ไม่เอาเฮียเรน รักไม่หนาว ร้อนจะตาย เอาเสื้อคืนไปเลย” แรกรักเอ่ยอ้อแอ้ พร้อมพยายามถอดเสื้อคลุมของเขาเพื่อส่งคืน

    “อย่าดื้อ ใส่ไว้ ชอบให้คนมองนักหรือไง” เขาพูดจบก็มองคนตรงหน้าด้วยแววตาจิงจัง

    เสื้อเปิดไหล่สีดำกับกางเกงยีนส์ขาสั้นธรรมดา แต่พออยู่กับคนตรงหน้า มันขับผิวให้เธอดูเด่น ผมยาวที่ปล่อยทิ้งตัวอยู่กลางหลัง ทำเอาเธอน่าดึงดูด เสียจนเขาอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่ง จะจับมาตีก้นเสียห็เข็ด

    “เปล่าสักหน่อย มันดูแย่มากเลยหรอคะ” แรกรักกระชับเสื้อคลุมก่อนจะเอ่ยถามเสียงอ่อย รู้สึกร้อนๆที่ขอบตา พยายามกลั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา

    “เปล่า ไม่ได้ดูแย่ แค่พี่ไม่ชอบ” เขาตอบกลับไปพร้อมหลบตา โดยไม่รู้ว่านั้นเป็นตัวกระตุ้นน้ำตาให้คนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

    “ใครๆก็ไม่ชอบรักหรอก ไม่มีเลย” เสียงสะอื้นเบาๆ เรียกให้คนตรงหน้าหันกลับมาสนใจ ก่อนจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นคนตัวเล็กเนั่งน้ำตาไหลรินอยู่ข้างหน้า

    “รักเป็นอะไร พี่พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า”

    “เฮียเรนไม่ผิดหรอก รักผิดเอง” แรกรักร้องไห้เสียงดังขึ้น ทำเอาโต๊ะข้างๆเริ่มหันมามอง

    “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ ไหนใครทำอะไร บอกพี่สิ” เขาถือวิสาสะเอื้อมมือไปลูบศีรษะอย่างปลอบโยน โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้น ทำให้ใครบางคนใจกระตุก

    “ไม่มีใครทำหรอค่ะ รักทำตัวเอง เฮียเรนรู้มั้ยว่ารักดีใจมากเลยที่สอบติดทันตะได้ ป๊ากับม้าบอกว่าถ้าสอบติดจะให้ของขวัญรักหนึ่งอย่าง แต่พอรักทวงสัญญา ทั้งสองก็ไม่ให้ บอกว่ารักยังเด็กไป แบบที่ทุกคนพูดอยู่นี่ละ” แรกรักเล่าพร้อมกับหยิบเครื่องดื่มขึ้นดื่มอีกรอบ

    “แล้วรักขออะไรล่ะ” เขายังทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี โดยยังไม่ยอมละมือออกจากศีรษะได้รูป ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น มันรู้สึกดีเสียจนเขาไม่อย่างละมือออกในตอนนี้

    “รักขอไปอยู่คอนโด แต่ป๊ากับม้าจะส่งไปอยู่บ้านอาม่า รักไม่อยากไป มันไกลมหา’ลัยจะตาย แค่เรียกเลิกดึก กลับมาก็คงไม่มีแรงแล้ว รักไม่อยากเดินทางนานๆให้เสียพลังงานอีก”

    “แล้วรักบอกเหตุผล ป๊ากับม้าไปหรือยัง” เขาถามต่อ

    “ยังค่ะ แค่ป๊ากับม้าไม่ทำตามสัญญา รักก็ไม่อยากคุยต่อแล้ว ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่รักษาสัญญาแบบนี้ รักขอเป็นเด็กตลอดไปดีกว่า”

    “ไม่เอาน่า พี่ว่าไปคุยกับท่านด้วยเหตุผลดีกว่า พี่ว่า ท่านน่าจะเข้าใจนะ ลูกสาวคนเดียวไปอยู่ตัวคนเดียว ไกลขนาดนั้น เป็นใครก็คงเป็นห่วงเป็นธรรมดา หรือรักอยากให้ท่านไม่สนใจ ปล่อยไป อยากอยู่ไหนก็อยู่ ทำอะไรก็ทำ อย่างนี้หรอ”

    “ไม่ค่ะ” แรกรักส่ายหน้าตอบอย่างรวดเร็ว

    “เห็นมั๊ย พี่ว่ากลับไปคุยกับท่านดีๆดีกว่า” เขาถือวิสาสะเขี่ยผมที่ปกลงมาบังแก้มใส โดยไม่รู้เลยว่าสัมผัสอบอุ่นสร้างความอบอุ่นให้คนตรงหน้า จนใจเต้นไม่เป็นจังหวะเสียแล้ว

    “ค่ะ รักจะกลับไปคุยกับท่านอีกที” แรกรักตอบกลับ แต่พอสบสายตาคมตรงๆ ใจก็แกว่งจนต้องรีบเสหลบตาทันที

    “ดีมาก อีกไม่กี่เดือนพี่ก็ไปเรียนต่อยอดเหมือนกัน”

    “เฮียเรนจะไปเรียนที่ไหนคะ แล้วทำไมต้องไป” แรกรักถามกลับไป อดรู้สึกโหวงๆแปลกๆไม่ได้

    “พี่อยากเรียนเฉพาะทาง hepato =hepatobiliary system (เฉพาะทางตับและระบบทางเดินน้ำดี) มันมีทุนพอดี อาจารย์เลยจะส่งไปเรียนต่อปีหน้าเลย”

    “อย่างนั้น รักก็ไม่ได้เจอเฮียบ่อยๆแล้วสิคะ” รักแรกทำหน้าเศร้า เหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง ทำเอาคนมองอดอมยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้

    “เดี๋ยวรักไปเรียน กิจกรรมเยอะแยะ ไหนจะมีเพื่อนใหม่อีก เดี๋ยวคงสนุกจนลืมพี่แน่ๆ”

    “ไม่นะ รักไม่ลืม” เธอส่ายหน้าปฏิเสธจนผมปลิว พร้อมน้ำตาที่รื้อขึ้นมาอีกรอบ ทำเอาคนมองต้องรีบปลอบ

    “ไม่ลืมก็ไม่ลืมครับ ไม่ร้องไห้แล้ว รักจะเจอพี่ได้เท่าที่อยากเจอเลย ไม่เชื่อรอดูสิ” เขาส่งยิ้มพร้อมพูดประโยคที่เธอไม่ค่อยเข้าใจความหมาย ทว่ายังไม่ทันได้ถามอะไรมากกว่านั้น ใครอีกคนก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาเสียก่อน

    “ขอโทษนะรัก พี่ไปนานเลย อ้าว เฮียเรน มาได้ไง”

    “มาแล้วตัวดี เป็นเด็กเป็นเล็กหนีมาเที่ยวกันสองคนแบบนี้ มันอันตรายรู้มั๊ย แล้วใครให้ทิ้งน้องไว้แบบนี้ เกือบจะโดนหมาป่าล่าไปกินแล้วมั๊ยละ”

    “จริงหรอเฮีย รักเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ขอโทษ เมื่อกี้พอคุยกับพี่นายเสร็จ โรงพยาบาลก็โทรมารายงานเคสต่อพอดี” วาริดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับสำรวจคนตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร ก็เบาใจขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี

    “รักไม่เป็นอะไรสักหน่อย เฮียเรนก็พูดเกินไป ดูหน้าพี่วาสิ หงอยหมดแล้ว ไม่เอา ไม่เศร้ากันสิคะ มาฉลองให้รักดีกว่า ชนแก้ว” พูดจบแรกรักก็ยกแก้ว เตรียมพร้อมรอคนตรงหน้าทั้งสอง เมื่อเห็นท่าทีลังเล เธอก็ส่งสายตาอ้อนพลังทำลายล้างสูง ก่อนจะที่วาริดากับทิวาจะได้แค่ยินยอมยกแก้วตอบแต่โดยดี

    “รักรักเฮียเรนกับพี่วาที่สุดในโลกเลย”พูดจบเธอก็ถือวิสาสะดึงทั้งสองคนเข้ามากอด โดยไม่รู้เลยว่า อ้อมกอดนั้น ทำเอาใครบางคนใจเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×