ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The legend of devil : ตำนานปีศาจผู้สิ้นหวัง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 55


    บทนำ

     

                            ท่ามกลางการหลับไหลในราตรีกาลที่เงียบสงบ  หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินพลิ้วไหวคนหนึ่งกำลังวิ่งล้อแสงจันทร์อยู่ ณ.บนพื้นหญ้าภายใต้ท้องนภาที่ดับมืด  เธอยังคงวิ่ง  วิ่งอยู่ท่ามกลางเสียงกรนที่ดังอื้ออึงออกมาจากบ้านเรือนที่วิ่งผ่านหลังแล้วหลังเล่า   ดวงตาสีม่วงส่องประกายคล้ายอัญมณีที่งามล้ำอย่างอเมทิสต์กำลังจ้องตรงไปข้างหน้าด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่น  แน่นอนว่าการวิ่งของเธอตอนนี้นั้นมีเป้าหมาย  แต่เป้าหมายนั้นคือที่ไหนล่ะ?

                            เธอยังคงวิ่งต่อไปอย่างเงียบๆ    ริมฝีปากบางหยักสีชมพูระเรื่อนั้นยังคงปิดสนิทเป็นเส้นตรงไม่มีวี่แววจะเปิดเพื่อเปล่งเสียงใดออกมาแม้แต่น้อยขณะที่ใบหน้ารูปไข่กระจ่างใสไร้รอยตำหนิยังคงไม่สะท้อนอารมณ์ใดออกมาให้เห็นนอกจากความนิ่ง  เงียบและเฉียบขาด  แต่ใบหน้านั้นกลับชวนน่าหลงไหลจนลืมไม่ลง   แต่แล้วเธอก็หยุดวิ่ง เมื่อพบกับสิ่งกีดขวาง ไม่ซิ!  ต้องบอกว่าถึงที่หมายถึงจะถูก  สิ่งที่ขวางอยู่ตรงหน้าเธอก็คือคฤหาสน์หลังงามของตระกูลขุนนางชื่อดังคนหนึ่ง  ที่นี่คือ 'คฤหาสน์ของดยุคไอเซนทาม'

                            เธอแหงนหน้าขึ้นมองไปยังหน้าต่างห้องที่ดับไฟมืดสนิทที่อยู่ไม่ไกลจากสายตาก่อนจะค่อยๆเดินถอยหลังแล้วเริ่มวิ่งอีกครั้ง   เธอวิ่งขึ้นกำแพงด้วยสองขาก่อนจะคว้าขอบหน้าต่างไว้ด้วยสองมือแล้วห้อยต่องแต่งอยู่ตรงนั้น   ซักพักแขนที่เล็กเรียวก็ค่อยๆดึงร่างอันผอมบางของตนเองขึ้นไปสู่หน้าต่าง   เธอกรอกสายตามองเข้าไปในความมืดที่อยู่เบื้องหน้าก่อนจะค่อยๆปีนป่ายจนเข้ามาในห้องได้สำเร็จ  จากนั้นเธอก็ค่อยๆสืบเท้าเข้าไปตรงเตียงนอนมโหฬารที่ถูกครอบครองไว้โดยบุรุษอ้วนพีคล้ายหมูตัวหนึ่ง  หมูตัวนั้นก็คือเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้  หรือที่ใครๆรู้จักกันดีในนามของดยุคไอเซนทามนั่นเอง

    หญิงสาวค่อยๆปัดมือไปมาอยู่ตรงใบหน้าร่างที่หลับตาพริ้มในผ้าห่มหนานุ่มนั้นเชื่องช้าและแผ่วเบา

                            "หลับสนิทซินะ" เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อไม่พบการตอบสนองใดๆของอีกฝ่าย

                            เมื่อเห็นว่าเขาหลับสนิทดีเธอก็ถอนใจโล่งอกแล้วมองดูรอบๆห้องอย่างถี่ถ้วน  ภายในความมืดนั้นเธอก็เห็นอะไรบางอย่าง  บางอย่างที่เธอต้องการ  บางอย่างที่เธอปรารถนา  บางอย่างที่นำพาเธอมาอยู่ที่นี่ 

    หญิงสาวค่อยๆก้าวท้าว  เธอเดินเข้าไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนตอนนี้เธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าสิ่งที่ต้องการแล้ว  เธอค่อยๆเอื้อมมือไป แต่ทว่า 

                            "แกเป็นใคร" 

    น้ำเสียงเข้มๆที่แฝงไว้ด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่งดังขึ้นขณะที่หญิงสาวก็สัมผัสได้ถึงปลายดาบที่แทงหลังเธอขณะที่เธอเผลอตัวขยับกาย 

    มันคือเสียงของเจ้าของห้องหมูตอนที่เธอคาดว่าเขาน่าจะนอนหลับสนิทไปแล้วนั่นเอง  ดูท่าเขาจะไม่ค่อยอยากต้อนรับผู้มาเยือนเท่าไหร่นัก  ก็แหงล่ะ เธอดันมาตอนกลางดึกขนาดนี้แถมยังเข้าทางหน้าต่างอีก  แน่นอนว่าเขาต้องโกรธมากอยู่แล้ว  บางทีถ้าเธอเข้ามาทางประตูเขาอาจจะไม่โกรธขนาดนี้ก็ได้  แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ 

                            "ฉันคือเอลวี่  เจมส์ "  เธอตอบด้วยน้ำเสียงเย็นวาบราวกับมีไอเย็นลอยออกจากปากขณะพูด

    เมื่อลองกรองชื่อที่หญิงสาวขานบอกมาดยุคไอเซนทามก็มีสีหน้าซีดเผือดเลือดหายไปโดยพลัน  ทันใดนั้นเทียนไขที่ดับสนิทก็ติดไฟอย่างไร้สาเหตุทำให้ทั่วทั้งห้องสว่างไสวขึ้น  ในตอนนั้นเองหญิงสาวที่ถือจังหวะที่ไอเซนทามกำลังตกใจหมุนตัวหันใบหน้าที่งดงามจนยากหาที่เปรียบมาแล้วยิ้มบางๆให้แก่ไอเซนทามอย่างน่าขนลุก  ไอเซนทามคงจะมีความสุขไม่น้อยหากได้พบรอยยิ้มของเธอที่ไม่ได้อยู่บนใบหน้าที่ตายด้าน  ใบหน้าของนักฆ่าสาวผู้โด่งดัง  ใบหน้าของเอลวี่  เจมส์ 

                            ไอเซนทามพิจารณามองร่างที่อยู่เบื้องหน้าอีกครั้ง  รูปร่างที่อรชรมีทรวดทรงโค้งเว้าดั่งรูปสลัก  ดวงหน้าที่ไม่สื่ออารมณ์ใดๆให้เข้าใจ  แม้ไอเซนทามจะไม่เคยพบหน้าคาดตาเธอมาก่อนแต่ดูจากลัษณะที่ตรงตามคำล่ำลือ  มิหนำซ้ำร่ายกายที่ไร้บาดแผลนั้นเธอคงจะเป็นเอลวี่  เจมส์ตัวจริงไม่ผิดแน่ เพราะคนสามารถบุกเข้าห้องเขาโดยผ่านกับดักที่สวนและสุนัขล่าเนื้อนับหลายสิบตัวที่อยู่บนสนามหญ้าแล้วยังจะองครักษ์ฝีมือดีที่เขาว่าจ้างไว้คอยคุ้มกันอีกหลายคนโดยไม่มีแม้แต่บาดแผลหรือเสียงการต่อสู้ใดๆเลยแบบนี้ 

                            "นี่น่ะเหรอ เอลวี่  เจมส์"

                            ไอเซนทามคิดในใจก่อนดึงสติกลับมาแล้วพบว่าที่หน้าผากของเขาตอนนี้กำลังชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลรวมตัวกันอยู่  แถมมือของเขาก็เริ่มสั่นเทาขึ้นอย่างน่าสมเพศ 

    เอลวี่ก็ค่อยๆหรี่ตามองปลายดาบที่กำลังจ่อคอตนเองอยู่  ทว่าชั่วพริบตาที่ดยุคพับเปลือกตาลงเอลวี่ก็ดึงดาบมหึมาที่ห้อยอยู่ข้างเอวปัดดาบของไอเซนทามลอยละลิ่วปักลงกลางเตียงฉับพลันจากนั้นก็เปลี่ยนจากผู้ถูกกุมชะตาชีวิตมาเป็นผู้กำชะตาชีวิตขึ้นเสียเอง 

                            "ธะ..เธอ  ต้องการอะไร"  ไอเซนทามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น  เขายกสองมือขึ้นเหนือหัวแล้วเหล่ตามองปลายดาบที่กำลังจ่อคออยู่แล้วลมหายใจก็เริ่มติดขัด เอลวี่มองเขา  มองใบหน้าที่ขลาดกลัวจนแทบเป็นลมนั้นแล้วค่อยๆกล่าว

                             "ฉันต้องการดวงใจของท่านไงล่ะ  ท่านดยุคไอเซนทาม"

                            "ไม่นะ   ม่ายยยยยยยยยยย"




    ....................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×