ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหมดใจยัยล่าแต้ม

    ลำดับตอนที่ #5 : คริส

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 57


    รักหมดใจยัยล่าแต้ม ตอนที่ 5 : อดีตของคริส
    ผมกำลังยืนอยู่หน้าหญิงสาววัยประมาณ 50 ปี เธอยืนทำหน้าเคร่งเครียดมองหน้าผม มือทั้งสองข้างเท้าสะเอว คริสที่กำลังหลับอย่างมีความสุขอยู่บนหลังของผม ผมว่าคริสคงเป็นคนที่หลับลึกมากจริงๆ มือทั้งสองข้างของผมค่อยๆ เอื้อมไปสะกิดตัวคริสอย่างแผ่วเบา
    “ตื่นได้แล้ว คริส” ผมสะกิดเธอพลางเรียก
    “ถึงแล้วเหรอ เร็วดีแฮะ” เธอพูดพลางกระโดดลงจากหลังผมและ ชูมือทั้งสองข้างขึ้นบนอากาศในท่าบิดขี้เกียจ
    “คุณป้า !!! สวัสดีค่ะ มารอหนูนานไหม” คริสพูด พลางยกมือไหว้และเข้าไปกอดคุณป้าที่ทำหน้าตาบึ้งตึง
    “นี้เป้ก ค่ะ เอ่อ…. เขาคือ….” คริสพูดพลางหน้าแดง
    “อ๋อ ผมเป็นเพื่อนคริสนะครับ สวัสดีครับ” ผมรีบพูดตัดบท พร้อมสวัสดีคุณป้าอีกครั้ง
    “เพื่อน ใช่ไหม ได้ เพื่อน ก็เพื่อน งั้น เพื่อน คนนี้ไปนอนก่อนละ บาย” คริสพูด พร้อมเดินหน้าบึ้งเข้าบ้านไป
    “ขอโทษ แทนคุณหนูคริส ด้วยนะค่ะ เชิญข้างในบ้านก่อนนะค่ะ” คุณป้ากล่าว
    เมื่อเปิดประตูรั้วเหล็กอัตโนมัติสีเงินเข้ามา ด้านในจะมีทางเดินปูด้วยอิฐสีครีม สองข้างทางจะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว มีการปลูกพืชยืนต้นและไม้พุ่มเพื่อความสวยงามเป็นบางระยะ ระยะทางจากปากประตูถึงตัวบ้านมีความยาวประมาณ 50 เมตรได้ บ้านของคริสเป็นบ้านสองชั้น หลังคาสีน้ำเงิน ผนังเป็นสีขาว มีประตูไม้ขนาดใหญ่ เมื่อเปิดเข้าไป ก็จะได้พบกับความหรูหรา สไตล์ยุโรป มีรูปภาพสวยงามมากมายจากจิตรกรชื่อดัง ทั้งไทยและเทศ เช่น อาจารย์เฉลิมชัย, อาจารย์ถวัลย์, แวนโก๊ะ เป็นต้น ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะดูเพียบพร้อมแต่ทำไมผมกลับรู้สึกถึงความเหงาและความโหยหาอย่างบอกไม่ถูก
    “ห้องนอนของคุณอยู่ด้านบนนะครับ เดี๋ยวป้าพาไปดู” คุณป้ากล่าว พลางยิ้มให้
    “ขอบคุณครับ” ผมกล่าว ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่คุณป้าตอนยิ้มดูน่ากลัวกว่าตอนปกติมากเลยครับ- -
    ห้องที่คุณป้าจัดไว้ให้ด้านบน เป็นห้องสีครีม ด้านในประดับตกแต่งด้วยภาพวาดจากจิตรกรชื่อดังมากมาย แผ่นเสียงของศิลปินเก่ามากมายถูกวางไว้บนตู้ บนหัวเตียงมีภาพวาดของชายคนหนึ่งที่ดูคุ้นตา
    “ เป็นภาพวาดของเจ้าของห้องเหรอครับ” ผมพูด
    “ค่ะ เป็นภาพของคุณพ่อ ของคุณหนูคริสเอง” คุณป้าแม่บ้านกล่าวอีกครั้ง
    นั่นสินะ ผมคุ้นๆหน้าคนคนนี้ที่ไหน แท้จริงเขาคือพ่อของคริส ตาและจมูกของเขาคล้ายกับคริสมาก แต่ทำไมห้องของคุณพ่อคริสถึงไม่มีคุณพ่อของเธออยู่ล่ะ
    “ท่านไปต่างจังหวัดเหรอครับ” ผมถาม
    “เปล่าหรอกค่ะ ท่านเสียไปนานมากแล้ว” ป้าตอบ
    “ขอโทษนะครับ” เป้กตอบ พ่อของเธอเสียไปนานแล้วงั้นเหรอ ผมรู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก คืนนี้ผมจะโดนอะไรหรือเปล่านะ
    หลังจากที่คุณป้าออกจากห้องไป ผมก็จัดแจงอาบน้ำแต่งตัว ในชุดนอนที่อยู่ในตู้ คืนนี้พระจันทร์สวยจริงๆ ผมอยากจะออกไปรับอากาศด้านนอก และดูพระจันทร์กับคริสจริงๆ ผมเดินไปห้องของเธอเพื่อชวนเธอไปรับชมความงามนี้
    “คริส ดูพระจันทร์กันดีกว่า” ผมเคาะประตู พลางถาม
    คริสเปิดประตูออกมา  พร้อมทั้งผลักบ่าผมอย่างแรง “ ไม่ไป เพื่อนคนนี้ง่วงแล้ว วันนี้งอนโอเคป่ะ” คริสตอบ
    “งอนเรื่องอะไรล่ะ บอกเราก่อน” เป้กถาม
    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านถาม งอน งอนเรื่องอะไรล่ะเนี่ย ถึงแม้ผมจะงงๆ แต่ผมก็ทราบดีว่าถ้าคริสบอกไม่ก็คือไม่ถ้าไปเซ้าซี้ เธออีก คงจะเกิดเรื่องอีกแล้ว ถึงแม้คริสจะไม่ออกมา ผมก็ไม่ละความพยายามในการดูพระจันทร์ ผมเดินลงบันได และออกไปสูดอากาศด้านนอกตัวตึก
    ผมยืนกอดอกมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นดวงดาวมากมายส่องแสงระยิบระยับ อากาศเย็นสบายค่อยๆ ผ่านตัวผมไป ผมหลับตาพร้อมทั้งชูมือขึ้นเหนือศีรษะ ความเงียบทำให้ผมได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของตัวเอง เสียงแมลง และเสียงผู้หญิง ถึงแม้ผมจะเป็นคนกลัวผีพอสมควร แต่เสียงที่ผมได้ยินเป็นเสียงที่ดูเป็นมิตรมาก เธอบอกว่าให้ผมเข้าไปที่พุ่มไม้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องเชื่อ แต่ยังไงผมก็ได้ก้าวเท้าออกไปแล้ว
    พุ่มไม้สูงประมาณ  1 เมตร ผมยืนจ้องอยู่ที่พุ่มไม้นี้อย่างตั้งใจ แล้วผมก็เจอประตูไม้อยู่ด้านหลังพุ่มไม้นี้ ผมไม่รีรอ รีบแกะพุ่มไม้นี้ออก พร้อมทั้งเปิดประตู
    “อึด อึด” ผมพยายามจะเปิดประตูด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ก็ไม่สำเร็จ หรือประตูนี้จะมีกลไกบางอย่างซ่อนอยู่ ผมพยายามมองหาอักษร หรือเบาะแสต่างๆ จากสิ่งรอบข้าง แล้วก็เจอกับสิ่งที่น่าสนใจ
    ผนังซีเมนส์ที่อยู่ด้านข้างประตูมีลวดลายสีขาวคล้ายหยดเทียนวนอยู่เป็นลาย ลากตามทาง ผมนั่งยองๆ ลงกับพื้นค่อยๆใช้นิ้วชี้ลากตามลวดลายที่ฝาผนังอย่างตั้งใจ ทุกๆช่วงการขีดผมจะค่อยๆ ขยับตัวอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันนิ้วหลุดออกจากลวดลายสีขาว
    “แบร๊ะ” เสียงของเท้าเปล่าๆ สัมผัสกับวัตถุยืดหยุ่นบางอย่างที่เราเรียกว่า “อุจจาระ”
    ผมตกใจลุกพรวดขึ้นแต่ก็ต้องลื่นไถล จากอุจจาะที่ลื่นอย่างกับจารบี จนหัวชนเข้ากับเหล็กที่บานประตูไม้
    “ปัก”
    ประตูไม้เปิดออกอย่างง่ายดาย เมื่อผมค่อยเงยหน้าขึ้นทำให้ผมทราบได้อย่างหนึ่งว่า อึหมาใช้ล๊อคประตูไม่ได้
    เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน ก็จะพบกับบันไดที่เดินลงไปต่อด้านล่างคล้ายกับที่นี้เป็นห้องใต้ดิน ผมเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟ ไม่นานไฟทุกดวงที่ห้องใต้ดินก็เปิดขึ้น ด้านในห้องใต้ดินเก่ามาก คล้ายกับไม่ได้ใช้งานมาหลายเดือน สิ่งของต่างๆ มีผ้าพลาสติกสีฟ้าคลุมไว้ เมื่อเดินเข้าไปประมาณ 10 ก้าว ก็จะพบกับโต๊ะเหล็ก ที่มีหนังสือกองอยู่มากมาย โดยมากมักจะเป็นหนังสือแนววิทยาศาสตร์ ผมหยิบหนังสือเหล่านั้นขึ้นอ่านดู เมื่อพลิกเพียงหน้าแรก ผมก็สูดฝุ่นเข้าไปเต็มๆ จนหายใจแทบไม่ทัน
    “อะ แฮ้ม” ผมไอ
    ผมค่อยๆ เปิดดูหนังสือเหล่านั้น ทำให้ทราบว่า หนังสือเกือบทุกเล่มเกี่ยวข้องกับทฤษฏีของเวลา และ time machine นอกจากหนังสือโต๊ะตัวนี้ยังมีแบบแปลนของรถยนต์ หัวข้อของแปลนงานเขียนว่า
    “ รถยนต์ย้อนอดีต เพื่อพ่อ แม่ และคนรัก”
    เมื่อลองนำแปลนนี้กางออกดูก็จะพบว่ามีลักษณะคล้ายกับรถที่วางอยู่ตรงกลางโรงรถมาก รถสปอร์ตสีส้ม ด้านนอกเต็มไปด้วยหลอดไฟมากมาย ด้านในมีมิเตอร์เหมือน taxi ตั้งอยู่ตรงที่วางของด้านหน้า ในขณะที่ผมกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ ผมก็ต้องสะดุ้งอย่างแรง เมื่อหันไปพบกับผู้หญิงในชุดเข้ารูปสีเงิน หน้าตาของเธอคล้ายกับคริสมาก เพียงแต่ดูแก่กว่ามากเท่านั้น
    “เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม” เธอถาม
    “สบายดีครับ เอ่อ คุณเป็นใครเหรอครับ” ผมถาม
    เธอส่ายหน้าไปมา ยิ้ม พร้อมทั้งเดินตรงมาที่ผม เธอกอดผมและซบลงที่บ่าผม หัวใจผมแทบจะหยุดเต้น ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้เธอคือ
    “คริส เธอใช่ไหม” ผมถาม
    “คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ผมได้แต่เอามือกอดเธอไว้ พร้อมทั้งลูบหลังเธอเบาๆ เธอค่อยๆ ปล่อยมือออกจากตัวผม และค่อยๆ เดินห่างออกมา สายตาของผมมองที่เธอ คริส เธอคือคริสแน่นอน ผมอยากที่จะเดินเข้าไปกอดเธอ แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนอยู่เฉยๆ ร่างกายของผมตั้งแต่ขาลงไปไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
    “ไปล่ะนะ หมดเวลาของเค้าแล้ว” เธอเดินหันหลังพร้อมทั้งน้ำตา หายไปในแสงที่สว่างจ้า ผมค่อยๆถูกกลืนเข้าไปในแสงนั้นทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด จนหายไป
     
    “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
    “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” ผมสะดุ้งตื่น พร้อมทั้งมองไปรอบห้อง ตอนนี้ผมอยู่ในห้องนอน ชุดเดิม 
    “ตื่นได้แล้ว เป้ก เราหายงอนแล้ว พาไปขับรถหน่อย” คริสถาม
    “คริส เมื่อวานเราลงที่สนามหญ้าของเธอ เจอห้องใต้ดิน เหมือนพวกห้องสร้างเครื่องประดิษฐ์เลย” ผมพูด
    “ฝันไปล่ะ มันมีที่ไหนกันล่ะ นายบื้อเอ้ย” คริสตอบ
    “เราจะพาไปดู” ผมตอบ
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×