ตอนที่ 9 : {SF} i'm here !!
ขอให้เธอได้รู้ไว้แล้วกัน
.
.
.
นานเกือบชั่วโมงที่ชานยอลนั่งปลอบใจไอ้ตัวหัวม่วงที่กำลังร้องไห้อยู่บนเตียง แบคฮยอนร้องไห้อย่างกับเด็ก อยู่ดีๆนึกจะเงียบก็เงียบจนเขาคิดว่าหลับ แต่เผลอแว้บเดียวก็ปล่อยโฮออกมาอีกรอบเหมือนโดนขัดใจทั้งที่ชานยอลยังไม่ได้ขยับเขยื้อนตัวทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
แน่นอน มันทำให้เขาหงุดหงิด
เพราะแบคฮยอนเอาแต่ร้องไห้ให้ไอ้เดือนบริหารนั่นไม่ยอมหยุดเสียที
“.....”
“ฮึก.. ฮือ”
ชานยอลรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นตะคริวเมื่อต้องกอดแบคฮยอนเอาไว้ในท่าเดิมโดยไม่ได้ขยับย้ายกล้ามเนื้อ เขารู้สึกตัวชาไปซีกหนึ่งแล้วแต่ก็ไม่ได้บอกแบคฮยอน เพราะเขาจำได้ดีว่าต้องทำอย่างไรเวลาที่อีกฝ่ายร้องไห้
“ฮึก.. ”
“.....”
“อึก.. อื้อ” แบคฮยอนครางครืนแล้วทำปากแจ้บๆ ก่อนจะขยับตัวให้เหมาะสมแล้วก็เงียบเสียงไปอย่างกับเสกได้
ก็นะ.. เวลาที่แบคฮยอนร้องไห้ก็ต้องรอให้หลับไปแบบนี้แหละ ดีที่สุด
แบคฮยอนหลับน็อคคาอ้อมกอดของชานยอลแล้ว คนตัวสูงพรูลมหายใจก่อนจะจ้องมองใบหน้าลูกหมาที่ตอนนี้ตาบวมอย่างกับรถขนมะกรูดคว่ำใส่ เขาค่อยๆขยับแข้งขยับขาแล้วเอนร่างไอ้ตัวแสบให้ลงไปนอนบนเตียงดีๆ จัดแจงท่าทางให้เสร็จสรรพ และกำลังจะห่มผ้าให้
แต่คิดไปคิดมา เขาดูแลมันแค่นี้ก็พอแล้ว ปล่อยให้นอนหนาวไปคงไม่เป็นไรหรอก
ชานยอลพยักหน้าให้กับความคิดบรรเจิดของตัวเอง แม้จะเห็นใจขึ้นมากว่าหกสิบเปอร์เซนต์แล้วแต่เขาก็ยังไม่หายแค้นมันหรอกนะ ยังจำได้ดีเลยว่าวันนั้นไอ้เปี๊ยกนี่ทำกับเขาไว้แสบมากแค่ไหน
คนตัวสูงคว้ากระเป๋าตรงโซฟาขึ้นมาสะพาย หันไปมองหน้าไอ้แสบที่นอนเผยอปากอยู่บนเตียงแล้วก็ยกยิ้มน้อยๆ ยังไงตอนนี้เขาจะคิดว่าหายกันแล้วก็แล้วกัน เพราะแบคฮยอนก็ได้เจ็บเหมือนอย่างที่เขาปรารถนามาตลอดแล้วนี่นา
ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเกลียดมันอีก
ร่างสูงนึกยกโทษให้ในใจก่อนจะสาวเท้าเดินเตรียมออกจากห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีใครบางคนผลักประตูเข้ามาเสียก่อน
“แหม้ะ หายไปนานเลยนะมึง” ชานยอลเอ่ยทักไอ้ตัวกวางที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงจากร้านสะดวกซื้อ “ไปซื้อของที่ไหนมาอะ ปูซานหรอวะ”
“อย่ามาแซวไอ่สัด” ลู่หานเอ็ดแล้วกลั้วหัวเราะ “แล้วนี่มันหลับไปแล้วหรอ เงียบเชียว”
“เออ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้”
“อ้อ งั้นดีเลย”
“.....”
“พอดีคืนนี้กูจะไปนอนห้องแฟนอะ ฝากมันหน่อยได้ป่ะ”
“ฝากพ่อง” ชานยอลสวนกลับทันควัน “เพื่อนใครก็ดูแลเองดิวะ กูจะกลับบ้านว้อย”
ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วพยายามจะแทรกตัวเดินออกจากประตูไป แต่ก็ถูกลู่หานมาดักหน้าเอาไว้ก่อน มันใช้ตาหวานๆเยิ้มๆอ้อนวอนเขาจนชานยอลรู้สึกขนลุกแปลกๆ พยายามจะแทรกตัวออกไปอีกครั้งแต่มันก็ยังตามมาดักหน้าอีกอยู่ดี
“นะมึง..” ลู่หานว่าก่อนจะทำตาปิ๊งๆ “เนี่ย กูไม่ได้เจอกับแฟนมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว มึงจะขัดขวางความรักของคนอื่นหรอวะ”
ชานยอลทำหน้าเหม็นเบื่อ “แต่เพื่อนมึงสภาพจิตใจแย่อยู่นะ ไม่คิดจะดูแลเพื่อนหรอ”
แล้วชานยอลก็ต้องกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเมื่อลู่หานทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่แว้บหนึ่งเหมือนกำลังคิดหนักถึงเรื่องที่เขาบอกออกไป แต่สุดท้ายก็ต้องหุบยิ้มในใจฉับเมื่อมันเอ่ยประโยคถัดมา
“ก็มีมึงมาดูแลมันแทนแล้วนี่ไง กูไว้ใจมึงเลยนะถึงยอมทิ้งแบคฮยอนไว้กับ-”
“โอเคไอ้สัส กูดูมันให้ก็ได้”
ชานยอลชูธงขาวยอมแพ้ เขาคิดว่ายังไงก็คงไม่มีทางสู้ไอ้ลู่หานได้แน่เพราะมันจะต้องหาคำพูดมาพูดแล้วพูดอีกจนคนขี้ใจอ่อนแบบเขายอมเฝ้าเพื่อนมันให้อยู่ดี
“เอ้อดีมาก ต้องงี้สิพี่ปาร์คแห่งวิศวะตัวจริง”
“พูดมากว่ะ” ชานยอลขมวดคิ้ว “แล้วไหนข้าวที่มึงบอกจะซื้อให้มันอะ”
ลู่หานนิ่งไปนิดนึงก่อนจะก้มลงมองถุงมินิมาร์ทของตัวเอง สลับกับเงยมองหน้าชานยอล ทำแบบนั้นสองสามรอบจนเขารู้สึกรำคาญ
“อะไรของมึง เอามาซะที เดี๋ยวแบคฮยอนตื่นจะได้ให้มันกิน”
“คือว่า..”
“.....”
“กูลืมซื้ออะ”
“.....”
“.....”
ภาพถัดจากนั้นคือปาร์คชานยอลกำลังกระโดดถีบขาคู่ใส่ลู่หานที่วิ่งแจ้นออกจากห้องไปแทบไม่ทัน มีอย่างที่ไหนหายหัวไปเป็นชั่วโมงแต่ไม่ได้ซื้อข้าวติดมือมาให้เพื่อนวะ!
ชานยอลส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามามองไอ้หัวม่วงที่นอนหลับอยู่บนเตียง แบคฮยอนอ้าปากหวอกว่าเดิมนิดหน่อย และนั่นทำให้เขาหนักใจ
คืนนี้สงสัยต้องปวดหัวกับไอ้(ผู้ใหญ่ที่ทำตัวเป็น)เด็กหัวม่วงนี่อีกยาว
ชานยอลกดเปลี่ยนช่องทีวีมาประมาณล้านรอบเพราะเขาอยากหารายการวาไรตี้ดีๆดู แต่ช่วงหัวค่ำแบบนี้มันมีแต่ละครน้ำเน่าทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่แนวเขาเลย แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องทนดูเพราะหารายการวาไรตี้ไม่เจอจริงๆ ชานยอลนั่งเท้าคางไว้กับที่วางแขนตรงเก้าอี้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ตอนที่เห็นนางร้ายตบหน้านางเอก
แล้วในที่สุดละครก็จบ ชานยอลอ้าปากหาววอด เขารู้สึกง่วงนอนขึ้นมาเพราะไม่มีอะไรทำ ตามสัญชาตญาณความง่วงก็เลยหันไปมองบนเตียงซึ่งเป็นทีที่น่านอนมากที่สุด
“เฮ้ย!!”
แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นเงาตะคุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง เนื่องจากตอนนี้ปิดไฟในห้องจนมืดแล้วก็มีเพียงแค่แสงจากทีวีเท่านั้นที่ยังสว่าง แต่พอปรับโฟกัสสายตามองดีๆ ชานยอลถึงได้รู้ว่าไอ้ตัวแสบมันตื่นแล้ว
“ไง” ชานยอลเอ่ยทักทายแก้อาการขายหน้าที่สะดุ้งอย่างแรงไปเมื่อกี้ “หลับสบายมั้ย”
“ลู่หานไปไหนอะ”
“ไปนอนกับแฟนมัน คืนนี้นายคงต้องนอนคนเดียวแล้วแหละ” ชานยอลได้ยินเสียงแบคฮยอนครางครืนเล็กน้อย แล้วถัดมาก็เอ่ยถามคำถามเขา
“ว่าแต่เมื่อกี้นายสะดุ้งทำไมหรอ”
“ห้ะ” ชานยอลแสร้งทำหน้าซื่อ “ใครสะดุ้ง ไม่มีอะ ตาฝาดแล้วครับคุณ”
ถ้ามองไม่ผิดชานยอลเห็นว่าแบคฮยอนกำลังหัวเราะอยู่ เขาหมุนคอกลับมาประจันหน้ากับทีวีอีกครั้งแก้ความอายที่เสียฟอร์มไปตะกี้ ชานยอลได้ยินเสียงสวบสาบของผ้าห่มบนเตียงนิดหน่อย หางตาเขาเห็นอะไรบางอย่างสีม่วงๆ(ที่เดาว่าเป็นหัวของแบคฮยอน)เดินเข้าห้องน้ำไป ถัดมาก็เป็นเสียงน้ำ แล้วไม่นานอะไรบางอย่างสีม่วงๆก็เดินออกมายืนอยู่ข้างๆเขา
“ชานยอล”
น้ำเสียงแบบเดิมๆทำให้ชานยอลชะงักไปนิดหน่อย แต่เขาจะไม่หันไปมองแบคฮยอนเด็ดขาด สาบานได้เลย
“นี่ ชานยอล เรียกไม่ได้ยินหรอ”
“.....”
“หูก็กางน่าจะประสาทการได้ยินชัดกว่าคนอื่นนะ ทำไมหูตึงได้ล่ะเนี่ย”
“ย่าห์” ชานยอลหันมาแหวใส่คนที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ “พูดงี้หมายความว่าไงวะ”
“ฮะๆ” แบคฮยอนหัวเราะจนตาปิด นั่นทำให้ชานยอลอารมณ์เสียเข้าไปอีก ทีก่อนหน้านี้ร้องไห้อย่างกับจะเป็นจะตาย นี่มายิ้มขำใส่เขาซะงั้น
“เรียกทำไม” ชานยอลถามห้วนๆพร้อมกับชักสีหน้า
“ฉัน..”
ใบหน้าหมาๆของแบคฮยอนเหมือนกับคนที่กำลังคิดหนัก ชานยอลเดาว่าอีกฝ่ายคงจะต้องการเอ่ยขอโทษ ขอบคุณ หรืออะไรสักอย่างที่มันหนักปากและอาจจะทำให้เสียฟอร์มถึงไม่ยอมพูดออกมา เขานั่งหลังตรงพิงพนักก่อนจะมองหน้าของแบคฮยอนอยู่อย่างนั้น
บางทีแบคฮยอนอาจจะต้องการบอกว่า ‘ขอโทษนะที่ทำกับนายตอนนั้น’ ‘กลับมาคบกันได้ไหม’ หรือไม่ก็ ‘ขอบคุณนะ ฉันซึ้งใจจริงๆที่นายมาช่วยปลอบ’ และลงท้ายด้วย ‘กลับมาคบกันได้ไหม’ เช่นเดิม
“อยากพูดอะไรก็พูดมาสิ รอฟังอยู่” ในความหมายคือ จะขอรีเทิร์นก็รีบๆพูดมา ฉันรอตอบรับคำนั้นอยู่
“คือฉัน..”
“.....”
“ขอบคุณมากนะ”
“.....”
“แล้วก็..”
“.....”
“ตอนนี้ฉันหิวข้าวอะ พาไปหาอะไรกินหน่อยได้ไหม”
เพล้ง! (เสียงหน้าชานยอลแตก)
โอเค เขาจะไม่คาดหวังอะไรกับแบคฮยอนอีกต่อไปแล้ว
อากาศหนาวจนชานยอลต้องกระชับเสื้อโค้ตของตัวเองให้แนบกับร่างกายเข้าไปอีก เขาหันไปมองคนข้างๆที่ใส่เสื้อขนเป็ดสีเทาซึ่งตัดกับผมสีม่วงๆนั่นได้ดี แบคฮยอนกำลังซดน้ำรามยอนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ดูท่าว่าจะหิวมากจริงๆ เพราะพอมาถึงมินิมาร์ทอีกฝ่ายก็วิ่งแจ้นเข้าไปซื้อรามยอนทันทีโดยไม่รอเขาเลย
“ฮ้า” แบคฮยอนซดน้ำคำสุดท้ายก่อนจะวางถ้วยรามยอนเอาไว้ข้างตัว ฟุตปาธตรงนี้ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านไปผ่านมานัก ทำให้ชานยอลกับแบคฮยอนสามารถนั่งตรงนี้ได้โดยไม่ต้องระวังว่าจะไปขวางทางใคร
“โอ้ะ ลืมเลย” แบคฮยอนทำท่าตกใจ “นายหิวป่าวเนี่ย”
“ขอบใจนะ กินหมดแล้วเพิ่งจะมาถาม”
“อ่า ขอโทษ ก็คนมันหิวจริงๆนี่”
“ช่างเหอะ” ชานยอลเอ่ยปัดๆ เพราะอันที่จริงเขาก็ไม่ได้หิวอะไรมากมายนักหรอก “กินเสร็จแล้วใช่ไหม ป่ะ กลับห้อง”
“เดี๋ยวดิ” แบคฮยอนคว้าข้อมืออีกคนที่ลุกขึ้นยืนให้กลับมานั่งลงที่เดิม ชานยอลขมวดคิ้วฉงน แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เขายอมนั่งลงที่เดิมตามที่อีกคนต้องการ
“ทำไมอะ อยากนั่งตากลมก่อนหรอ”
“เปล่าหรอก”
“.....”
“แค่จะขอบคุณอีกทีน่ะ”
แบคฮยอนยกยิ้มบางๆแล้วส่งมาให้ มันเป็นรอยยิ้มที่ชานยอลไม่ได้เห็นมานานแล้ว รอยยิ้มแรกที่แบคฮยอนส่งมาให้เขาอย่างจริงใจหลังจากเลิกกัน เพราะก่อนหน้านี้เวลาบังเอิญเจอ อีกฝ่ายก็จะยิ้มให้เขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่าชานยอลก็ไม่ได้ยิ้มตอบกลับไป เขาเลือกที่จะเมินรอยยิ้มโง่ๆบนใบหน้าของแบคฮยอนเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกัน
ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่เขายิ้มบางๆตอบกลับไป
“ขอบคุณนะ ขอบคุณมากที่อยู่เป็นเพื่อน”
“......”
“ฉันนี่มันน่าอายชะมัด ร้องไห้แบบไม่ลืมหูลืมตาเลย”
“ไม่หรอกน่า” ชานยอลเท้าแขนไปด้านหลังแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า “ฉันเข้าใจว่ามันเจ็บปวด”
“......”
“ร้องไห้ออกมานั่นแหละ มันดีที่สุดแล้ว”
“......”
“ส่วนเรื่องที่ฉันบอกให้นายเกลียดไอ้อี้ฟานน่ะ ฉันพูดเล่น เพราะถึงยังไงนายก็ทำไม่ได้อยู่ดี”
แบคฮยอนก้มหน้าลงมองปลายเท้าที่เหยียดตรงออกไปบนถนน คนตัวเล็กยกมือขึ้นเอาผมทัดหูตัวเอง ก่อนจะยิ้มออกมาบางเบา
“นั่นสินะ..”
“......”
“มันคงต้องใช้เวลาอีกสักพัก”
ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรเพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาผินหน้ากลับมามองเจ้าของเรือนผมสีม่วง แบคฮยอนตีขาไปมากับพื้นถนนเหมือนเด็กๆ และอีกฝ่ายคงไม่ได้มีความคิดที่ซับซ้อนเหมือนอย่างเขา ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว
ชานยอลหัวเราะเยาะตัวเองในใจให้กับความคิดหนึ่งของตัวเอง ทั้งที่เป็นเขาเองที่ตั้งแง่กับแบคฮยอนมาตลอด ทำท่าว่าเกลียดมาตลอด แต่สุดท้ายก็มาพ่ายแพ้ให้กับความจริงที่ว่ายังอยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคิดอย่างหนึ่ง แบคฮยอนก็จะคิดในเรื่องที่ตื้นๆกว่าเสมอ
คงจะเหมือนกับตอนนี้ที่เขาคิดว่าอยากให้เราคืนดีกัน
แต่แน่นอนว่าแบคฮยอนคงไม่ได้คิดแบบนั้น
“กลับห้องเถอะ หนาวจะแย่” ชานยอลเอ่ยขัดความเงียบก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขายื่นมือไปให้อีกฝ่ายที่นั่งอยู่ แบคฮยอนมองมือของเขาเหมือนกำลังชั่งใจ แต่สุดท้ายคนตัวเล็กก็ยอมจับมือเพื่อพยุงให้ตัวเองลุกขึ้นได้อย่างสะดวก
‘มือนิ่มเหมือนเดิมเลยนะ’ ชานยอลคิดในใจ เขาไม่กล้าบอกแบคฮยอนหรอกน่า มันเหมือนคนโรคจิตจะตายไปไม่ใช่หรอ
“อยากจะเข้าไปซื้ออะไรอีกไหม” ชานยอลผินหน้าไปทางมินิมาร์ท แล้วแบคฮยอนก็ส่ายหัวตอบกลับมา “งั้นกลับห้องแล้วกัน”
“ชานยอลอ่า”
“.....”
“ขอบใจอีกครั้งจริงๆนะ”
ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งยิ้มบางๆไปให้อีกครั้ง
ก็ถือว่ายังดี ที่อย่างน้อยเขาก็ได้มิตรภาพกลับมา
“หอนายน่าจะมีลิฟต์นะ”
ชานยอลรู้สึกเหนื่อยทุกครั้งเวลาที่ต้องเดินขึ้นลงบันไดหอของแบคฮยอน ถ้ามันมีสักชั้นสองชั้นเขาจะไม่บ่นแบบนี้หรอก แต่นี่ตั้งหกชั้น แล้วกว่าจะเดินถึงก็เล่นเอาหอบแห่กทุกที
“คืนนี้นายจะนอนที่นี่ไหม” แบคฮยอนเอ่ยถาม แล้วนั่นก็ทำให้ชานยอลหน้าร้อนขึ้นมา
“อ่า.. ไม่มีเสื้อผ้าอะ คงไม่นอน”
“งั้นหรอ..”
“ทำไม อยากให้นอนหรอ”
“เปล่าซะหน่อย” คนตัวเล็กหัวเราะเบาๆ “แล้วก็มือน่ะ..”
“.....”
“ปล่อยได้แล้วมั้ง”
ชานยอลสะดุ้ง เขาหัวเราะแหะๆก่อนจะปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระ แบคฮยอนคงคิดในใจว่าเขาเนียน แต่ก็เนียนจริงๆนั่นแหละ เพราะตั้งแต่ช่วยพยุงแบคฮยอนให้ลุกขึ้นยืนที่หน้ามินิมาร์ทเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจนกระทั่งตอนนี้
“ถ้างั้นก็.. กลับดีๆนะ”
“อื้อ” ชานยอลพยักหน้า “อย่าแอบร้องไห้คนเดียวอีกล่ะ”
แบคฮยอนยิ้มจนตาปิด “ไม่ร้องแล้วๆ ..ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้เอาขนมไปให้ที่คณะ”
“โอเค จะรอ” ชานยอลเองก็ยิ้มกลับไปเช่นกัน เขาโบกมือให้แบคฮยอนนิดหน่อย ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหันหลังเตรียมจะเดินกลับมา
แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อมีใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้น
“แบคฮยอนนี่..”
ใครบางคนที่มองผ่านเขาไปเพื่อสบตากับแบคฮยอน
“พะ.. พี่อี้ฟาน”
ใครบางคนที่แบคฮยอนเพิ่งจะร้องไห้ให้มันมา.. กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง
“แบคฮยอนไปไหนมา พี่รอนานจนต้องลงไปนั่งที่ล็อบบี้เลยนะ” อี้ฟานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนจะหันมาสบตากับชานยอล “แล้วนี่..”
“......” ซึ่งชานยอลเองก็จ้องตากลับไปอย่างไม่หวั่นเกรงเช่นเดียวกัน
“อ๋อ.. แฟนเก่าแบคฮยอนนี่เอง” อี้ฟานครางครืน “ว่าแต่เป็นแค่ ‘แฟนเก่า’ จะมาหาแบคฮยอนทำไมหรอ”
“โถ..” ชานยอลส่ายหัวไปมา “มึงก็แฟนเก่าเหมือนกันนั่นแหละวะ"
อี้ฟานเองก็ส่ายหัวไปมาอย่างยียวนเช่นกัน "ก็เดี๋ยวมาดูกัน ว่าตกลงใครกันแน่ที่จะเป็นแฟนเก่าตัวจริง"
"เหอะ กูไม่แข่งกับมึงหรอก ไอ้เลว"
“ไอ้ชานยอล!" อี้ฟานตะคอกอย่างขุ่นเคือง "กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ พูดจาแบบนี้กับรุ่นพี่หรอวะ!”
“รุ่นพี่ทำตัวเหี้ยๆกูไม่เคารพหรอก!”
"มึง!"
“พอ! หยุด!” เสียงของแบคฮยอนเรียกให้คนสองคนที่กำลังจะเข้าไปซัดหมัดกันต้องหยุดชะงัก ชานยอลหันไปมองแบคฮยอนที่ยืนตัวสั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองลงไปที่ดวงตาของคนตัวเล็ก
“ชานยอลอา....”
“…..”
“กลับไปก่อนเถอะนะ”
และนอกจากวันที่ถูกบอกเลิก นี่เป็นครั้งที่สองที่ชานยอลไม่เห็นอะไรในแววตาคู่นั้น
ไม่เห็นอะไร.. รวมไปถึงตัวของเขาเอง
อีกครั้ง
TALK:
พยายามจะทำให้จบ แต่ไม่จบจริงๆ เราต้องตัดฉับอีกแล้ว เป็นฟิคที่มีหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวจริงๆ 5555555
ตอนหน้าเป็นตอนจบ แล้วก็สั้นที่สุดเลยค่ะ ><
ขอบคุณมากนะคะที่รออ่าน เลิ้ฟๆทุกคนเลย
#น้ำผึ้งมะนาวCB
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

3,420 ความคิดเห็น
-
#3278 BN0412 (จากตอนที่ 9)วันที่ 20 กรกฎาคม 2561 / 22:35ชานยอลลลล TT#3,2780
-
#3214 DBK1802 (จากตอนที่ 9)วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 / 01:41สงสารนาง มาเพื่อเป็นเบอร์สองมากเว่อ ไม่ทุกข์ไม่สุขเป็นฟีลหน่วงไปเลย#3,2140
-
#2827 เอาตรงตรงตรงเลยนะ (จากตอนที่ 9)วันที่ 3 ตุลาคม 2560 / 19:37เป็นเรื่องที่เปลี่ยนอารมณ์เร็วมาก แต่ดีโคตร5555555 ทำไมฉันต้องมีความสุขขนาดนี้ด้วย แค่ชานยอลบอกว่าให้เปลี่ยนจากเกลียดเป็นรักซะเลย โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย#2,8270
-
#2764 pcy921 (จากตอนที่ 9)วันที่ 1 ตุลาคม 2560 / 16:5355555555 ดีๆ ชานยอลเป็นคนคิดบวกมาก5555#2,7640
-
#2546 litterrabbitza (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 / 09:00พี่ชานสู้ๆค่า#2,5460
-
#2420 qqxr_ (จากตอนที่ 9)วันที่ 25 มกราคม 2560 / 17:58หว่ายยยย#2,4200
-
#2378 จีวอนชิ':) (จากตอนที่ 9)วันที่ 20 ธันวาคม 2559 / 20:10หูยยยยย#2,3780
-
#2051 CHan CHaNom (จากตอนที่ 9)วันที่ 17 ตุลาคม 2559 / 16:14ทีมพี่ชานคะ#2,0510
-
#1838 Noey_unnie (จากตอนที่ 9)วันที่ 18 กันยายน 2559 / 08:15เฮร้ยยยย ชานยอลสู้ๆ#1,8380
-
#1741 ❤ Little "B" ❤ (จากตอนที่ 9)วันที่ 18 กรกฎาคม 2559 / 21:46ยังรักเขาอยู่ก็บอกเขาไป ฟอร์มจัง#1,7410
-
#1652 mintun_7269 (จากตอนที่ 9)วันที่ 7 กรกฎาคม 2559 / 21:16แล้วทำไมแบคต้องทิ้งชานอ่ะ#1,6520
-
#1226 pim pimmi (จากตอนที่ 9)วันที่ 14 พฤษภาคม 2559 / 21:20อ่าาา เดี๋ยวคอยดู#1,2260
-
#1124 dark chocolate (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 / 17:12ยังรักก็บอกว่ายังรัก อย่าทำเป็นเกลียด มันไม่เวิร์คนะแก ฉันเคยทำแล้วชยอล แรกๆมันก็สะใจนะที่เขาเสียใจเวลาทะเลาะกับแฟนใหม่ แต่พอเห็นน้ำตาผช แพ้จ้าาาา เจ็บแทนประหนึ่งคบกับผญคนนั้นเสียเอง เอาจริงๆ แกก็ไม่ได้อยากให้แบคร้องไห้หรอก มันเจ็บใช่มั้ยล่ะชยอล ที่ต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บปวดน่ะ...#1,1240
-
#959 KAKARN_MATO (จากตอนที่ 9)วันที่ 29 เมษายน 2559 / 15:23โอ๊ยยน่ารึกอีกแล้วววววว อยากให้มีเป็นเรื่องยาวจัง#9590
-
#528 คปซป. (จากตอนที่ 9)วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 / 13:55อน่าฟอร์มเยอะชานยอล????#5280
-
#502 bestye (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 / 14:42รักก็บอกว่ารักสิไม่ใช่ปากแข็งแบบนี้โง้ยยยยยยยย#5020
-
#322 junojunox (จากตอนที่ 9)วันที่ 5 มกราคม 2559 / 00:37แง่งงงงงงงงงง ถึงจะบอกว่าสะใจ แต่จริงๆก็ยังไม่เคยลืม-ลูกหมาหัวม่วงแถวนี้สินะ พิชานสู้ไ ทีมพิชานนะรู้ยัง#3220
-
#108 ikonsouy (จากตอนที่ 9)วันที่ 12 ตุลาคม 2558 / 04:05ทำไมนี่มีแต่ความสะใจ ยิ่งแม่งเสียใจยิ่งสะใจ เป็นนางร้ายสินะ 555555#1080
-
#82 ❾❶❾❸ (จากตอนที่ 9)วันที่ 9 ตุลาคม 2558 / 15:35โถชานยอล ทำปากแข็งอ้ะนะ#820
-
#77 บี.เหลือง (จากตอนที่ 9)วันที่ 7 ตุลาคม 2558 / 08:48ค้างแรงง. พูดเลยย เข้าใจอารมณ์ชานยอลอ่ะ มันสะใจปนแต่ก็เป็นห่วงอยู่ดี เย้ๆ รอต่อไป 55555 สู้ๆ#770
-
#76 ninuttyy (จากตอนที่ 9)วันที่ 7 ตุลาคม 2558 / 08:17ต้องมีตอนต่อไปนะ! พูดเลย#760
-
#75 empty XOXO (จากตอนที่ 9)วันที่ 7 ตุลาคม 2558 / 07:19ค่ะค่ะชานยอลลลลล แหม#750
-
#74 empty XOXO (จากตอนที่ 9)วันที่ 7 ตุลาคม 2558 / 07:19ค่ะค่ะชานยอลลลลล แหม#740
-
#72 t-t-thn (จากตอนที่ 9)วันที่ 7 ตุลาคม 2558 / 02:10เคยเป็นแบชชานยอล สะใจแต่ก็เป็นห่วง เราเข้าใจดีเลยยยย ;________;#720
-
#71 CoffeeMate (จากตอนที่ 9)วันที่ 6 ตุลาคม 2558 / 23:40Pcy ปากแข็ง 555555 ลืมเลิม อะไรกัน โกหกทั้งเพ 5555#710