ตอนที่ 29 : {OS} 134340
จางไปตามกาลเวลา
.
.
.
.
.
.
ผมเป็นนักศึกษาปีสองอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เรื่องราวของผมตั้งแต่ตอนแรกเกิดจนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าหวือหวา.. ผมใช้ชีวิตแบบธรรมดา สมัยเด็กๆก็เล่นเฮฮากับเพื่อนตามประสา พอโตขึ้นมาหน่อยก็เก็บตัวแล้วนั่งติดเกมเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป จนตอนนี้ก็เรียนและอ่านหนังสือจนแทบจะเครียดตาย แล้วมันก็เป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย สำหรับคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยแบบผม
ผมจำไม่ได้แล้วว่าช่วงเวลาไหนตั้งแต่ใช้ชีวิตมาที่มันมีความสุขและสนุกที่สุด พอมานั่งคิดแล้วก็อาจจะเป็นช่วงมัธยมปลายที่ได้โดดเรียนกับเพื่อนกับฝูงและทำวีรกรรมแปลกๆด้วยกัน
แต่บางทีอาจจะเป็นสมัยเด็กหรือเปล่านะ?
สมัยเด็ก.. ที่ผมแทบจะลืมเรื่องราวทั้งหมดไปแล้ว
“แบคฮยอน! ลงมาข้างล่างหน่อย!”
บ่ายวันหนึ่งขณะที่ผมนอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่บนเตียง จู่ๆเสียงแม่เรียกก็ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง อาจจะใช้ให้ไปตากผ้าหรืออะไรสักอย่าง และแน่นอนว่าผมก็อิดออดทำเป็นไม่ขาน แต่สุดท้ายพอมีคำด่าพ่วงมาด้วยก็ต้องลุกขึ้นตามคำสั่งคุณนายประจำบ้านอยู่ดี
ผมเดินลงมาในคราบเสื้อยืดกับกางเกงบ็อกเซอร์และไม่ได้อาบน้ำ ไม่รู้จะอาบไปทำไมเพราะอากาศก็เย็นๆแถมผมก็อยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ไปออกกำลังกายเสียเหงื่อสักหน่อย ดังนั้นการไม่อาบน้ำและผมก็กลายเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“เอ้า.. มาแล้วนั่นไง”
ผมยืนนิ่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่นเมื่อพบกับคนที่ห่างหายไปนานหลายปี
ไม่ใช่แค่หลายปี.. แต่เป็นสิบปีแล้วต่างหาก
“ไม่ได้อาบน้ำด้วยล่ะสิ เน่าชะมัดลูกชายฉัน” แม่ว่าอย่างนั้นแล้วตีมือไปที่โซฟาข้างๆ “เอ้า มานั่งก่อน สวัสดีน้าเขาหรือยัง”
ผมโค้งทักทายคุณน้าผู้ชายคนหนึ่งที่จำได้ว่าเคยเห็นหน้าแต่กลับจำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มตัวสูงอีกคนที่นั่งข้างๆและน่าจะมาพร้อมกับคุณน้าคนนี้ ผมไม่ได้ไหว้เขา แต่กลับยืนนิ่งและมองเขาแบบนั้นอยู่นานหลายนาที
ผมจำหน้าเขาได้.. ผมจำได้
“นี่พี่ชานยอลลูกน้าเขาไง จำพี่เขาได้หรือเปล่า ปีนี้ก็อายุยี่สิบห้าแล้ว”
ผมมองหน้าพี่เขาที่ก็มองมาแล้วส่งยิ้มบางๆให้ จำได้สิ.. ยังไงผมก็ยังมั่นใจว่าผมจำได้ หน้าตาพี่เขาอาจจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ทำไมผมต้องจำไม่ได้ด้วยล่ะ
ในเมื่อแต่ก่อนผมชอบพี่เขาจะตาย
“เคยเล่นกันอยู่สมัยเด็กไง.. แต่ก่อนแกติดพี่เขาอย่างกับตังเม ขอขี่หลังทุกวันจนฉันล่ะเมื่อยแทน”
ภาพในอดีตย้อนกลับมาอีกครั้งเหมือนกรอกลับ ผมยิ้มบางๆตอนที่เห็นตัวเองในวัยเด็กขี่หลังพี่ชานยอล จำได้ว่าชอบซุกหน้าลงไปตรงไหล่กว้างๆเพราะมันอุ่นดี แล้วพี่เขาก็ไม่เคยบ่นเลยไม่ว่าผมจะงอแงมากแค่ไหนก็ตาม
แต่น่าแปลกใจ.. ที่ผ่านมาผมไม่เคยนึกขึ้นได้เลยว่าเราเคยพบกัน
นานมากจนกระทั่งตอนนี้.. มันเหมือนกับโลกหมุนพี่เขาให้กลับมาอีกครั้งเพื่อให้ผมระลึกถึง เพราะผมเกือบจะลืมอยู่แล้วเชียวว่าเราเคยพบกันตอนไหน แล้วก็นึกสงสัยขึ้นมาในใจเล่นๆเดี๋ยวนั้นเองว่าเขาหายไปไหนมา
“เอ้อ.. แบคฮยอน ออกไปซื้อโคล่าให้แม่สักสองขวดสิ” คุณนายว่าแล้วควักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงส่งให้ผม “เงินที่เหลือก็ซื้อขนมเข้ามาแล้วกัน”
“เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนน้องเองครับ” พี่ชานยอลเอ่ยบอก.. เสียงของเขาทุ้มกว่าเมื่อก่อนมากโข ก็แหงล่ะ นี่มันผ่านมาตั้งเป็นสิบปีแล้ว เขาจะเปลี่ยนไปบ้างก็ไม่แปลกอะไร
ผมเดินออกมาพร้อมกับเขาเมื่อได้รับการอนุญาต พี่ชานยอลตัวสูงเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน ในขณะที่ผมก็ตัวเตี้ยม่อต้อและคาดว่าระยะห่างของส่วนสูงระหว่างเราคงจะเท่าเดิม ..สักไม้บรรทัดได้มั้ง จำได้ว่าผมเคยวัดอยู่ลางๆ
“เป็นไงบ้าง” จู่ๆพี่เขาก็เอ่ยถามขณะที่เรากำลังสาวเท้าเดินอยู่
“ครับ?”
“สบายดีไหม”
คำถามนั้นดูเป็นคำถามที่ปกติมากในความคิดของผม หากแต่มันกลับมีความอบอุ่นบางอย่างแฝงอยู่ สำหรับคนที่ไม่ได้เจอกันมานานทั้งที่แต่ก่อนเราเคยสนิทกันขนาดนั้น คำถามแรกที่ออกมาจากปากเขาก็ทำให้ผมยิ้มกว้างได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ครับ.. สบายดี” ผมเอ่ยยิ้มๆกลับไปเช่นกัน “แล้วพี่ล่ะครับ”
“เหมือนกัน” เขาว่าอย่างนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงค้างอยู่ที่ริมฝีปาก “เราโตขึ้นเยอะเลยนะ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรตามประสาคนพูดไม่เก่ง ทำได้แค่พยักหน้าแล้วยิ้มกลับไปเท่านั้น แล้วเราก็เดินมาจนกระทั่งถึงมินิมาร์ท เอาเข้าจริงผมไม่ได้รู้สึกถึงความอึดอัดอะไรระหว่างเดินเงียบๆมาด้วยกัน อาจเป็นเพราะเราเคยสนิทกันมาก และผมยังจำความรู้สึกปลอดภัยตอนอยู่ใกล้ๆเขาได้ดี
“เรายังชอบกินอันนี้อยู่ไหม” จู่ๆเขาก็ถามแล้วชูลูกอมกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ยี่ห้อดังให้ผมดู ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ส่ายหัวกลับไป ลูกอมรสนี้มันไม่ใช่สไตล์ผมเลยสักนิด แบบผมต้องพวกมินท์หอมชื่นใจต่างหาก “อ้าว.. งั้นหรอ”
“ครับ ผมชอบกินพวกกลิ่นเย็นๆมากกว่า”
“นั่นสิ พี่ก็ลืมไปเลยว่ามันผ่านมาตั้งสิบปีแล้ว”
และคำพูดของเขาก็ทำให้ผมชะงักไปอีกครั้ง เมื่อระลึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนตัวเองชอบกินไอ้ลูกอมรสสตรอว์เบอร์รี่ยี่ห้อนี้มากขนาดไหน
มันไม่แปลกอะไรกับคนที่โตกว่าแล้วจะมีความจำที่ดีกว่าหากถูกกระตุ้นเพียงเล็กน้อย สิบปีที่แล้วผมเพิ่งอายุเก้าขวบและอยู่ปอสาม ในขณะที่เขาเองก็น่าจะอายุสิบห้า แต่มันก็อดยิ้มไม่ได้เลยที่เขายังจำเรื่องของผมได้
ในขณะที่สมองของเด็กวัยเก้าขวบในตอนนั้นของผม ก็เริ่มจะร้องเตือนว่าผมเองก็จำเรื่องราวของเขาได้เช่นกัน
“ส่วนพี่ก็ชอบกิน.. น้ำครีมโซดา”
“จำได้ด้วยหรอ” เขาว่าแล้วหัวเราะเบาๆ “ตอนนี้พี่ก็ยังชอบอยู่นะ”
“จะว่าผมใจง่ายหรอครับ” ผมเอ่ยถามยิ้มๆ เริ่มรู้สึกเป็นกันเองกับเขามากขึ้นแล้ว
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แค่พูดให้ฟังเฉยๆ” เขาเอ่ยตอบยิ้มๆแล้วเดินนำผมไปยังโซนตู้แช่ ก่อนจะหยิบโคล่าในนั้นขึ้นมาสองขวดตามที่แม่สั่ง “ว่าแต่มินิมาร์ทร้านนี้เปิดมานานหรือยัง พี่จำได้ว่าเมื่อก่อนไม่มี”
“สองปีเศษๆเองครับ”
เขาพยักหน้ารับรู้แล้วหย่อนสองขวดนั้นลงตะกร้าที่ถืออยู่ มือพี่เขาใหญ่มากจนตะกร้าดูเล็กไปเลย แล้วมันก็ไม่ต่างอะไรจากเมื่อก่อนเช่นกัน ที่พี่เขาจะเป็นคนถือของทุกอย่างให้เวลาผมขอเงินแม่ไปซื้อขนมนมเนยที่ร้านโชห่วยแถวๆปากซอย
ผมลอบยิ้มเบาๆอีกครั้งเมื่อนึกได้
“สิบปีที่ผ่านมานี้พี่เป็นยังไงบ้าง” แล้วผมก็เอ่ยถามออกไปตามที่ใจอยากรู้ ..อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร ชีวิตราบรื่นดีหรือเปล่าหลังจากที่จากกันไปตั้งนาน
แล้วยังนึกถึงผมอยู่บ้างไหม
“อืม..” เขาทำท่านึกนิดหน่อยก่อนจะตอบกลับมา “หลังจากย้ายบ้านไปก็ไม่มีอะไรหวือหวาหรอก พี่เข้าเรียนโรงเรียนแถวนั้น แล้วก็ต่อมหาลัยเหมือนเด็กทั่วๆไป”
ก็เหมือนกับผม..
พี่ชานยอลไม่ได้เล่าอะไรต่อจากนั้นเพราะเขาคงไม่มีอะไรแล้วจริงๆ ผมส่ายหัวให้กับตัวเองที่ปรารถนาจะได้ยินคำพูดว่าคิดถึงจากเขา ทั้งที่ผมเองยังลืมเลือนเขาไปแล้วด้วยซ้ำ
นับประสาอะไรกับเขาที่โตกว่า.. การจะลืมผมไปก็คงไม่ยากเพราะสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอใครต่อใครมากมาย และคงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเคยรู้จักกันก็ตอนเห็นหน้าเมื่อกี้เช่นเดียวกับผม
“ที่จริงผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเราเคยสนิทกันมากๆเมื่อก่อน” ผมเอ่ยบอกไปอย่างเถรตรง “พอนึกได้ก็เหมือนกับฝันไปเลย.. ผมจำได้ว่าเคยขี่หลังพี่ด้วย”
พี่เขาหัวเราะเบาๆ “พี่จำได้นะ.. แต่มันก็ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”
“ใช่ๆ มันเลือนลางมากๆ.. เหมือนกำลังจะหายไป”
“..........”
“ขอบคุณนะครับที่กลับมา ไม่อย่างนั้นผมคงลืมไปแล้ว”
ผมยกยิ้มให้เขาที่ก็ยิ้มมาให้เช่นกัน มันเป็นความรู้สึกฟูๆอยู่ในหัวใจแบบอธิบายไม่ถูกและไม่เชิงดีใจ ผมกำลังคิดว่าตัวเองเคยทำใครหายไปจากความทรงจำสักกี่คนแล้วนะ อาจจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กหรือใครอีกหรือเปล่าที่ผมไม่ได้นึกถึงมาตั้งนานแล้ว
โดยเฉพาะกับคนสำคัญๆในชีวิตแบบพี่เขา.. มีใครอีกไหมที่ผมลืม
พี่ชานยอลหล่อขึ้นเยอะเลยพอมองจากตรงนี้ เขากำลังหันหน้าเข้าเคาน์เตอร์คิดเงินเลยทำให้ผมเห็นสันดั้งเขาชัดเจน ภาพของเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นย้อนเข้ามาในความคิดอีกครั้ง มันเลือนลางไปบ้างแต่ก็ไม่ได้จางหาย และผมดีใจจนแทบบ้าเมื่อรู้ตัวว่ามันคงไม่หายไปไหนแล้ว อาจจะอีกสักสิบถึงสิบห้าปีต่อจากนี้
เราเดินขนาบข้างกันกลับมาบ้านอีกครั้งด้วยระยะห่างที่น้อยลงกว่าเดิม
ผมไม่ใช่เด็กคนเดิมที่จะบอกกับเขาว่า ‘พี่ชานยอล ขอขี่หลังหน่อยได้ไหม’ ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ผมรู้สึกกลับไปเหมือนเด็กที่ถูกพี่ชายสักคนปกป้องคุ้มครองและให้ความรู้สึกปลอดภัยอีกครั้งก็คงจะเป็นการเดินชิดกับพี่เขาแบบนี้
มันอบอุ่นเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้งจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
จริงสิ.. ที่จริงแล้วผมยังไม่เคยได้บอกเลยว่าเมื่อก่อนชอบเขามากขนาดไหน
ถุงจากมินิมาร์ททั้งหมดถูกหิ้วผ่านผู้ใหญ่สองคนที่ยังคุยกันอย่างออกรสชาติอยู่ตรงห้องนั่งเล่น ผมกับพี่ชานยอลช่วยกันเอาของเก็บเข้าตู้เย็นก่อนจะพากันกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้งด้วยความรู้สึกใหม่
เหมือนได้ย้อนกลับไปตอนนั้น ที่ผมก็สนิทกับเขา.. อาจจะไม่ได้หมดทั้งใจเท่า แต่มันก็รู้สึกดีไม่แพ้กัน
“เป็นยังไงบ้าง แบคฮยอนดื้อใส่หรือเปล่า” ประโยคนี้แม่ถามพี่ชานยอลจนผมต้องยู่หน้ากลับไปให้
“ไม่ครับ น้องดูสุภาพกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”
เข้ากันดีจนผมต้องทำหน้าเหม็นเบื่อ.. ทั้งหมดยกเว้นผมพากันหัวเราะที่สามารถยั่วอารมณ์จนทำให้ผมหน้าบูดได้ แต่ก็ช่างเถอะ ผมน่ะถูกแกล้งแบบนี้มาตั้งแต่เล็กๆแล้ว โดยได้รับเหตุผลว่าพวกเขาเอ็นดูผม ถ้าตอนนี้เหตุผลยังเป็นเหมือนเดิมจะไม่ว่าอะไรแล้วกัน
“ยังไงต้องพาแม่หนูคนนั้นมาเจอน้าด้วยนะ อยากเห็นหน้าดูสักที”
“ได้ครับ.. แต่ยังไงวันงานคุณน้าก็ต้องเจออยู่แล้ว”
จวบจนกระทั่งเขากำลังคุยกันถึงเรื่องที่ผมเริ่มจะเข้าไม่ถึง
สีหน้าพี่ชานยอลและพ่อของเขาดูอิ่มเอม โดยเฉพาะกับพี่ชานยอลที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนแก้มบุ๋มและหูแดงไปหมด นี่ผมกำลังพลาดเรื่องสำคัญๆอะไรไปหรือเปล่านะ
“จัดตั้งที่โซลเชียว.. น้ายังไม่แน่ใจเลยว่าจะไปได้หรือเปล่า” แม่พูดอย่างนั้นก่อนจะหันมาหาผม “แล้วแกล่ะ จะไปงานพี่เขาหรือเปล่า”
.. งานอะไรกัน
“อ่อ ลืมบอกไปเลย” แม่คว้ากระดาษฉลุลายกุหลาบจากบนโต๊ะมายื่นให้ผม “อ่ะนี่ ดูวันเวลาซิ แกไปได้ไหม”
ผมรู้สึกใจวูบโหวงไปเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆของกระดาษที่ลอยมาแตะจมูก
ผมรับกระดาษที่เป็นการ์ดใบนั้นมาแล้วเปิดออกดู.. ก่อนที่ความจริงบางประการจะปรากฏแก่สายตาว่าท้ายที่สุดแล้วคนสำคัญในชีวิตของผมอีกคนก็กำลังจะมีอนาคตที่สมบูรณ์แบบ
การ์ดงานแต่งงานของพี่ชานยอลกับหญิงสาวอีกคนที่ผมไม่คุ้นชื่อ
“เสียดายจังครับ..” ผมเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ามันเป็นแบบไหน “ช่วงนั้นผมติดสอบพอดี คงไปร่วมงานไม่ได้”
จริงๆมันก็เป็นงานสำคัญของคนที่สำคัญ.. แต่เหตุใดผมถึงได้ปฏิเสธออกไปทั้งที่ตอนนั้นไม่ใช่ช่วงสอบอย่างที่พูด ก็ไม่กล้าถามใจตรงๆดูเหมือนกัน
แต่บางทีการที่ทำได้แค่ระลึกถึงต่อจากนี้.. มันคงไม่แย่เท่าไหร่นัก
และถึงแม้ว่าเขาจะมาเพื่อแจกการ์ดงานแต่งให้กับแม่ของผม ไม่ได้มาเพราะคิดถึงผม แต่นึกขึ้นได้เพราะเห็นหน้า มันก็ไม่ได้แย่มากเท่าไหร่เหมือนกัน
เพราะผมเองก็เป็นเช่นนั้น ..แม้จะผิดหวังนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
“จริงหรอ เสียดายจัง” แม่พูด ในขณะที่สีหน้าของพี่ชานยอลก็ดูจะเสียดายแต่ก็ประกอบรอยยิ้มเอาไว้เหมือนเดิม “ถ้าอย่างนั้นน้าคงต้องดูอีกที เดี๋ยวจะโทรไปให้คำตอบกับคุณพ่อนะจ๊ะ”
พี่ชานยอลพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเผื่อแผ่รอยยิ้มมาทางผม ซึ่งผมก็ทำให้แค่ส่งยิ้มกลับไปให้เท่านั้น ก่อนที่เจ้าบ้านอย่างผมกับแม่จะเดินออกมาส่งเขาทั้งสองคนตรงรถที่จอดอยู่หน้าบ้านเมื่อสมควรแก่เวลา
“ไว้วันหลังมาเยี่ยมกันใหม่ด้วยนะยูอิน” แม่บอกคุณน้าที่เป็นพ่อของพี่ชานยอล ผมโค้งให้เขาก่อนจะหันไปมองใครอีกคนที่อยู่ตรงตำแหน่งคนขับ
หลายสิ่งหลายอย่างที่ผมได้เจอมาตลอดหลายปีอาจทำให้ลืมเรื่องราวในวัยเด็กไปบ้างก็จริง แม้ว่ามันจะไม่ได้ชัดเจนเหมือนอย่างตอนนั้นแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าความรู้สึกนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นเสียที่ไหนกัน
ดังนั้นผมก็ควรจะบอกถึงความรู้สึกของเด็กวัยเก้าขวบให้คนวัยสิบห้าในตอนนั้นได้รับรู้
“ผมเคยชอบพี่ด้วยนะ”
ผมพูดไปยิ้มไปเมื่อนึกถึงความรู้สึกที่ยังคงฟุ้งกระจายอยู่ในใจ
“ชอบมากๆ.. แต่ไม่เคยบอกเลย”
คนฟังนิ่งไปเพียงครู่เดียวก่อนจะส่งยิ้มกลับมาให้ แล้วเพียงชั่วอึดใจ เขาก็ได้เอ่ยบอกความรู้สึกที่เด็กวัยเก้าขวบในอดีตอย่างผมอยากได้ยินกลับมาเช่นกัน
“พี่ก็เคยชอบแบคฮยอน.. ชอบมากๆเหมือนกัน”
เราส่งยิ้มให้กันและกันเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับความรู้สึกที่คล้ายๆกัน
บางอย่างในชีวิตนคนเรามันไม่ได้จบลงด้วยดีเสมอไป แต่อย่างน้อยเราก็เคยใจตรงกันอยู่ในชั่วขณะหนึ่ง แม้จะยังเด็กมากแต่ก็ใช่ว่าเด็กจะมีความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้สักหน่อย
“ขอบคุณนะครับ.. ที่กลับมาให้ผมนึกถึง”
แล้วผมก็เอ่ยบอกกลับไป ภาพที่ผมขี่หลังพี่ชายตรงหน้ามันย้อนกลับมาอีกแล้ว และแน่นอนว่าผมยังจำได้ดีว่าตอนนั้นเคยยิ้มกว้างมากขนาดไหนเมื่อได้อยู่กับเขา
“ขอบคุณเหมือนกัน.. ต่อจากนี้มันคงชัดเจนกว่าเดิม”
"................"
"พี่จะคิดถึงแบคฮยอน"
เขาหมายถึงเรื่องราวในหัว และผมเองก็เช่นเดียวกัน
รถคันนั้นขับเคลื่อนออกไปแล้วพร้อมกับคนในนั้น หากแต่ความทรงจำบางอย่างยังชัดเจนอยู่ และถึงแม้ว่าต่อจากนี้ผมจะมีเขาอยู่แค่ในความทรงจำที่อาจจะเลือนหายไปในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าก็ไม่เป็นไร
อย่างน้อยโลกก็เคยเหวี่ยงเราให้มาเจอกันในขณะหนึ่ง
เพื่อให้เก็บไว้และนึกถึงตลอดไป
TALK:
134340 หรือชื่อเรื่องนี้คือรหัสของดาวพลูโตค่ะ
เราได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้มาจากกระทู้พันทิบชื่อ 'เคยมีดาวพลูโตเป็นของตัวเองกันหรือเปล่าครับ?' และคาดว่าหลายๆคนคงเคยอ่าน เป็นกระทู้ที่ดีมาก ทำให้เรานึกถึงคนที่หล่นหายไประหว่างทางในชีวิตเยอะแยะเลย
เคยมีดาวพลูโตเป็นของตัวเองกันไหมคะ? : )
ปล.มีคนบอกว่าชอบ OS/SF แนวดราม่าของเรา เราดีใจมากเลยน้า แนวถนัดเราเอง อิอิ (ต่อจากนี้จะเสิร์ฟให้ถี่ๆเลยดีแม้ะ 555555555555555)
#น้ำผึ้งมะนาวCB
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

3,420 ความคิดเห็น
-
#3323 april_summerr (จากตอนที่ 29)วันที่ 24 พฤศจิกายน 2561 / 09:57หน่วงๆจังเลยค่ะT_T#3,3230
-
#3321 sol_tt31 (จากตอนที่ 29)วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 / 13:52น้ำตาแตกเฉยเลยแง๊#3,3210
-
#2395 จีวอนชิ':) (จากตอนที่ 29)วันที่ 21 ธันวาคม 2559 / 10:55ฝหกด่าสว#2,3950
-
#1779 `พ่อตาสระอิ:') (จากตอนที่ 29)วันที่ 24 กรกฎาคม 2559 / 21:20อิจฉาจังเลยนะคุณพยอนนน#1,7790
-
#1775 -FL- (จากตอนที่ 29)วันที่ 23 กรกฎาคม 2559 / 11:23หรอยยยยย ~~~ ชีวิคดี๊ดีมัคนขับให้ซ้อน#1,7750
-
#1759 ❤ Little "B" ❤ (จากตอนที่ 29)วันที่ 19 กรกฎาคม 2559 / 12:28น่ารักมากอ่ะฟินอ่ะ#1,7590
-
#1390 =:SMILE:= (จากตอนที่ 29)วันที่ 12 มิถุนายน 2559 / 09:53ภาพในทวิตลอยขึ้นมาเลย5555#1,3900
-
#1370 stikloxe (จากตอนที่ 29)วันที่ 3 มิถุนายน 2559 / 00:56เขินอะ เขินมากกกก ฟินมากจริงๆ ยิ่งมีโมเม้นต์คือภาพก็เห็นมาแล้ว พอมาอ่านฟิค ฟินไปอีกกกกก#1,3700
-
#1313 pim pimmi (จากตอนที่ 29)วันที่ 21 พฤษภาคม 2559 / 21:56กรี๊ดดดด เรียลมากกกก งื้ออออ ฟินนนนน ><#1,3130
-
#1244 B.E{ye}.S.T (จากตอนที่ 29)วันที่ 15 พฤษภาคม 2559 / 20:17ฮืออออออออ ของจริงฟินแล้ว มาอ่านฟิคนี่ฟินหนักเลย เหมือนเป็นเหตุการณ์หลังจากที่พ้นจากดงแฟนคลับมาแล้ว ของจริงจะเป็นยังไงไม่มีใครรู้ แต่เราของมโนว่ามันเป็นแบบในฟิคเนี่ยแหละ ชานยอลจะเร่งเครื่องกี่รอบ จะเบรกกี่รอบกันนะ แบคต้องกอดแน่นๆเลยนะ เดี๋ยวตก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ#1,2440
-
#1130 dark chocolate (จากตอนที่ 29)วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 / 18:48หวานเว่อหวานอีก นึกถึงเหตุการณ์จริงค่ะแม่เจ้า โอ้ววววว นึกถึงวันนั้นที่คู่นี้แว้นมอไซค์แล้วหน้าทล.ทวิตก็คร่ำหวอดทั้งวันทั้งคืน มันดีจริงๆ ดีต่อหัวใจมากเว่อค่ะ หวีดไปเถอะค่ะ ความดีงามนี้ เรื่องจริงก็คงแบบนี้สินะชานแบค แอร้ยยยยยย รักแรงมาก#1,1300
-
#1058 nyjdr (จากตอนที่ 29)วันที่ 9 พฤษภาคม 2559 / 01:09ฟินมากกกก >||<#1,0580
-
#1013 Senilu_L94 (จากตอนที่ 29)วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 / 22:49ถถถถ เซฮุนเอาเราไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ไหม ????????#1,0130
-
#1011 bayun (จากตอนที่ 29)วันที่ 2 พฤษภาคม 2559 / 22:24อรั้ยยยย น่ารักมากเลย;-;#1,0110
-
#1008 อิ อิ (จากตอนที่ 29)วันที่ 2 พฤษภาคม 2559 / 01:56งื้อออออออออออออออ เขินมากกกกกกกกกกกกกก ฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก อยู่ที่คนขับจริงๆ อิอิ#1,0080
-
#1007 SnoopDrop (จากตอนที่ 29)วันที่ 2 พฤษภาคม 2559 / 00:59ออดี้ที่ว่าแพงก็ยังแพ้เวสป้าได้55555555#1,0070
-
#1006 bbbbbbbys (จากตอนที่ 29)วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 / 21:22งืออออออเราเขินนนนนน เขินมากกกกยิ้มแก้มจะแตกกกกกก#1,0060
-
#1004 Daodyoo_ (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 22:31เขินนนนนนนนนนร มีความฟินเเรงมาก#1,0040
-
#1003 perlitez29 (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 21:14เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ออดี้ก็แพ้เวสป้าได้ 55555555555555#1,0030
-
#1002 KeyLuhan (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 18:07อ้อดี้เป็นหมันค่ะทุกคน 5555#1,0020
-
#1000 Kimjonginlove (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 15:43รถเซฮุนเป็นหมัน555#1,0000
-
#998 isisnotexist (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 14:53เซฮุนจ้าไม่ต้องเสียใจไป เดี๋ยวเราไปนั่งออดี้แทนแบคเองเนอะ#9980
-
#997 kamrung (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 12:13ว่าแล้วว่าที่แม่ยกหวีดกันเมื่อวาน จะต้องมาอยู่ในฟิคเริ่งไหนสักเรื่อง55#9970
-
#996 _maieak_ (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 11:46เขินสุดดดดๆๆ#9960
-
#995 FewHan_EXO (จากตอนที่ 29)วันที่ 30 เมษายน 2559 / 10:45โง๊ยยยยย ฟินนนนนมั่กๆ เขินสุดๆ 555#9950