ตอนที่ 13 : {SF} divorce [end]
อยากพูดให้ตรงใจ อยากเล่าให้เธอฟัง
.
.
.
.
หกเดือนแล้วที่ชานยอลต้องอยู่คนเดียว
มันก็ไม่แย่เท่าไหร่นักในตอนที่มาทำงาน ช่วงเวลาที่อยู่บริษัทคือช่วงเวลาที่เขาต้องยุ่งอยู่กับงานมากจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น พนักงานในบริษัทก็เยอะแยะ ดังนั้นมันก็เลยไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่เพราะพวกนั้นก็ชอบชวนเขาคุยอยู่แล้วถ้าว่าง
แต่พอกลับถึงบ้านเนี่ยสิ
บ้านเดี่ยวสีครีมสองชั้นเป็นบ้านที่เขากับแบคฮยอนช่วยกันสร้าง ก่อมันขึ้นมาทีละน้อยเพื่อครอบครัวในอนาคต ความจริงแล้วเขาหวังเอาไว้เยอะว่าเราจะมีเจ้าตัวเล็กด้วยกันสักสองสามคน แต่มันก็มาพังไม่เป็นท่าเสียก่อนเมื่อความเชื่อใจทั้งหมดของแบคฮยอนที่มีต่อชานยอลมันเริ่มสั่นคลอน
ดังนั้นพอกลับมาบ้านทีไร ก็เหมือนภาพวันเก่าๆจะย้อนกลับมาทุกที
อย่างเช่นตอนนี้ที่ชานยอลเห็นแบคฮยอนเต็มบ้านไปหมด มองไปทางห้องครัวก็เจอคนตัวเล็กกำลังพยายามหั่นผักกาดทั้งที่ไม่สันทัด ตรงห้องนั่งเล่นก็เห็นแบคฮยอนกำลังพาลูกสาวทำการบ้าน มองไปยังนอกบ้านก็เจอแบคฮยอนกำลังตากผ้าอยู่ตรงนั้น หรือบางทีก็กำลังรดน้ำต้นไม้ด้วย
ให้ตายสิ มันไม่ง่ายเลยกับการที่จะเลิกคิดถึงใครสักคนที่ยังติดอยู่ในใจตลอด
ก็อย่างที่บอกไป เขาไม่เคยเลิกรักแบคฮยอนเหมือนที่เจ้าตัวเข้าใจ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงอยู่ดี
ชานยอลจ้องมองจอทีวีกำลังฉายละครซีรี่ส์เรื่องดังที่คนติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตัวเขาเองไม่รู้จักหรอก แต่ถ้าให้เดาตอนนี้แบคฮยอนคงกำลังดูทีวีไปร้องไห้ไปอย่างที่เจ้าตัวมักจะเป็นแน่ๆ รายนั้นอ่อนไหวง่ายอย่างกับอะไร แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงใจแข็งกับเขานัก
นึกมาถึงตรงนี้ชานยอลก็ต้องถอนหายใจ ..เขาคิดถึงแบคฮยอนอีกแล้ว
ครึ่งปีที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะไม่มีใครผ่านเข้ามาในชีวิต น้องสาวของคุณอู๋หุ้นส่วนรายสำคัญก็เคยถูกคุณอู๋ทาบทามให้เขาหลายต่อหลายครั้ง ชานยอลเองก็เปิดใจ เขายอมพาเธอไปกินข้าวเหมือนอย่างคนกำลังจีบกัน เขาพยายามจะให้เธอเข้ามาอยู่ในหัวใจ หาช่องว่างที่จะแทรกเธอเข้ามาอยู่หลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยทำได้เลย
เหตุผลก็แบบเดิม แบคฮยอนยังวนเวียนอยู่ในสมองเขาไม่เคยไปไหน
ดังนั้นเขาเลยปฏิเสธเธอไปตรงๆ แม้จะโดนสายตาตัดพ้อส่งมาให้เหมือนเขาเป็นคนผิดเต็มๆแต่ชานยอลก็ยอมรับ เขาผิดเองจริงๆนั่นแหละ แต่เขาก็ไม่อยากจะโกหกตัวเองแล้วทำให้เธอมาเจ็บปวดทีหลังเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้รักเหมือนกัน
แต่กับแบคฮยอนล่ะ? ยอมรับเลยก็ได้ว่าเขาไม่รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว
ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาเขาแวะไปหาโชอาที่บ้านของแบคฮยอนบ้าง แต่พอไปทีไรก็ไม่เจอแบคฮยอนสักที ไม่รู้ว่าอีกคนพยายามจะหลบหน้าเขาหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่กล้าจะละลาบละล้วงถามอดีตพ่อตาหรอก รายนั้นจ้องเขาอย่างกับจะกินเลือด แต่ยังดีที่แม่ยายญาติดีกับเขาเหมือนอย่างเคย แถมยังยอมให้เขาเรียกว่าแม่เหมือนเดิมอีกต่างหาก
เฮ้อ... แต่ก็ไม่แน่ ตอนนี้แบคฮยอนอาจจะมีใครอีกคนที่ดูแลเจ้าตัวได้ดีกว่าเขา ดูแลโชอาได้ดีและมีเวลาให้ลูกสาวของเขามากพอ ถึงตอนนั้นชานยอลจะไม่ขัดใจอะไรแบคฮยอนเลย สิ่งที่เขาจะทำคือร่วมยินดีไปกับอีกฝ่ายเท่านั้น เพราะมันก็ดีถ้าโชอาจะมีพ่อใหม่สักคนที่ดีกว่าเขาเป็นไหนๆ
ร่างสูงเอนหลังลงกับที่นอนอย่างเหนื่อยล้า มันคือเตียงเดิมที่เขากับแบคฮยอนแล้วก็ลูกสาวเคยนอนรวมกัน แต่วันนี้มันกลับวูบโหวงแปลกๆเมื่อไม่มีอีกสองชีวิตอยู่เคียงข้างกันอีกแล้ว
ความจริงมันก็โหวงๆมาตั้งนานแล้วนั่นแหละ
คนตัวสูงปิดเปลือกตาลง ภาพของแบคฮยอนยังคงลอยอยู่ในหัวตลอดเวลา พอกลับมาถึงบ้านทีไรก็ชอบเป็นแบบนี้ทุกที จนบางครั้งชานยอลก็มีความคิดว่าเขาควรจะย้ายไปนอนที่บริษัทเลยดีไหม เผื่อว่าจะหายคิดถึงอีกคนได้บ้าง
อีกคนที่ตอนนี้คงมีความสุขดีแล้ว.. เมื่อปราศจากผู้ชายอย่างเขาในชีวิต
R rr rrrrr
ชานยอลค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นเมื่อเผลอหลับไปได้ประมาณห้านาที คว้าโทรศัพท์มือถือข้างกายขึ้นมา เวลานี้คงไม่พ้นเลขาของเขาโทรมารายงานเรื่องคิวนัดที่ต้องสะสางวันพรุ่งนี้ ชานยอลใช้นิ้วโป้งข้างซ้ายสไลด์จอโทรศัพท์เพื่อกดรับสายตามความเคยชินโดยที่ไม่ต้องมองจอเลยด้วยซ้ำ
“ฮัลโหลครับ” ชานยอลเอ่ยทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงสบายๆ ก็ไม่เห็นจะต้องมีพิธีรีตรองอะไรมากนักในเมื่อปลายสายคือเลขาที่เขาพูดคุยด้วยอยู่ทุกวันจนเกือบจะสนิทเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว
“ฮึก..”
แต่แล้วก็ต้องหยุดหายใจ เมื่อเสียงสะอื้นที่คุ้นเคยนั้นไม่ใช่เสียงของเลขาคนสนิท
“ฮึก.. ชาน..”
แต่เป็นเสียงของอดีตภรรยาคนเดิม
“ฮัลโหล..”
“........”
“แบค.. แบคฮยอน.. คุณร้องไห้ทำไม”
ชานยอลเอ่ยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ปลายสายคือบยอนแบคฮยอนไม่ผิดแน่ ทำไมเขาจะจำเสียงภรรยาของตัวเองไม่ได้
“ชานยอล ฮึก.. โชอา..”
ชานยอลหัวใจกระตุกวูบเมื่อได้ยินความรักของเขาพูดถึงสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา
“ฉันขอโทษ.. ขอโทษจริงๆ”
หลังจากนั้นก็เป็นเสียงร้องไห้ที่ดังที่สุดอีกครั้งหนึ่งที่เขาเคยได้ยินแบคฮยอนร้องไห้มา ชานยอลตัดสินใจยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู พร่ำบอกปลายสายซ้ำๆว่าให้ใจเย็นๆ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นเพราะแบคฮยอนไม่ยอมพูดอะไรนอกจากคำว่าขอโทษ ชานยอลรีบเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วตรงไปสตาร์ทรถที่จอดอยู่หน้าบ้านทันที
“ที่รักครับ.. ผมสัญญาว่าจะไม่โกรธ แต่ตอนนี้คุณต้องบอกมาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
ชานยอลใช้มือข้างหนึ่งประคองพวงมาลัย ส่วนอีกข้างก็กำโทรศัพท์แน่น ใจของเขาร้อนรนไปหมดเพราะต้องเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นกับโชอาอย่างแน่นอน แบคฮยอนไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้ นี่มันคงเป็นเรื่องใหญ่
“ฮึก.. ชานยอล.. รีบมาได้ไหม”
“โอเคครับ ผมกำลังจะไป.. ไม่ร้องไห้นะ คุณต้องใจเย็นๆ” ชานยอลเองก็เริ่มจะน้ำตารื้นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ เวลาที่แบคฮยอนร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้ทีไรเขามักจะร้องตามทุกที
โดยเฉพาะครั้งนี้ ที่สาเหตุมาจากลูกสาวของเรา
“โชอาจมน้ำ”
“......”
“ความผิดของฉันเอง.. ฮึก.. ฉันผิดเอง”
ชานยอลกระพริบตาถี่ๆ หลังจากสอบถามอีกไม่กี่คำก็ได้คำตอบมาว่าตอนนี้แบคฮยอนอยู่ที่โรงพยาบาลกับลูกสาว ชานยอลเหยียบคันเร่งให้เร็วเข้าไปอีกเพราะเขารู้สึกร้อนใจจนเหมือนอกแทบจะแตก เขาเป็นห่วงคนทั้งสองคนเท่าๆกันในตอนนี้
เป็นห่วงทั้งแม่ทั้งลูก จนหัวใจบีบรัดตัวจนเจ็บไปหมดแล้ว
ชานยอลกับแบคฮยอนได้มานั่งเคียงข้างกันในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก
บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินที่มีผู้คนไม่ค่อยหนาแน่นเพราะตอนนี้ปาเข้าไปสี่ทุ่มกว่า แบคฮยอนยังคงร้องไห้ แม้จะไม่ได้ร้องหนักเหมือนตอนที่โทรหาเขาแต่ก็ยังร้องอยู่จนตาบวมไปหมด
ชานยอลอยากจะเข้าไปกอดปลอบเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในสถานะเดิมอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องชั่งใจอย่างมาก
“อย่าร้องไห้” ดังนั้นเขาก็ทำได้เพียงแค่บอกให้อีกคนใจเย็นลงเท่านั้น ที่ถึงแม้ว่าจะพร่ำบอกกี่ครั้งแบคฮยอนก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อฟังเขาเลย
“ขอโทษ.. ฮึก” แถมยังย้ำคำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนชานยอลอยากจะจับอีกคนมาตีปากจริงๆ เขาไม่เคยโทษว่าแบคฮยอนเป็นคนผิด แม้จะลองตะล่อมถามดูแล้วพบว่าอีกคนพาลูกไปเล่นที่สระว่ายน้ำจนโชอาจมน้ำก็เถอะ แต่ชานยอลไม่คิดโทษแบคฮยอนหรอก
เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แล้วเขาก็มั่นใจว่าแบคฮยอนเองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น
ชานยอลนั่งฟังแบคฮยอนพูดพร่ำต่อว่าตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ‘ฉันมันเป็นแม่ที่แย่จริงๆ’ บ้างล่ะ ‘ทำไมฉันถึงทำให้ลูกจมน้ำได้นะ’ บ้างล่ะ ทุกอย่างที่แบคฮยอนพูดมานั่นคือการต่อว่าตัวเองทั้งนั้น ทั้งที่ไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นเสียหน่อย
“ถ้าฉันไม่พาเขาไป เขาก็ไม่ต้องจมน้ำแบบนี้.. ฮึก”
“โอเค เลิกว่าตัวเองเถอะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแบคฮยอน” ชานยอลหันไปเอ่ยเสียงแข็งกับอดีตภรรยาในที่สุด เขาไม่ต้องการให้แบคฮยอนว่าตัวเองทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย
“ผิดสิ ฉันผิดเต็มๆ ฉันน่ะพาลูกไปเล่นน้ำทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ”
“.....”
“ฮึก.. มันเหมือนฉันจงใจจะฆ่า-”
แบคฮยอนชะงักคำพูด เมื่ออ้อมกอดที่อบอุ่นอันแสนคุ้นเคยเข้ามาตระกองกอดเขาไว้อีกครั้ง
คนตัวสูงกระชับร่างเล็กๆในอ้อมแขน แบคฮยอนตัวเล็กลงเยอะจากที่ได้กอดกันครั้งล่าสุด ดูเหมือนว่าอีกคนจะเปราะหักและแตกสลายได้ง่ายๆ ทั้งที่ความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้น แต่มันเป็นคำนิยามของคนที่อยากดูแลใครอีกคนอยู่ตลอดเวลาเท่านั้นเอง
“......”
“คุณเป็นแม่ของเขา จะฆ่าลูกตัวเองได้ยังไง”
“.......”
“และในฐานะที่ผมเป็นพ่อของโชอา.. ผมไม่คิดจะโทษคุณเลยแบคฮยอน เพราะฉะนั้นอย่าร้อง”
คนตัวเล็กสะอื้นน้อยๆพร้อมกับกอดตอบ ตอนนี้แบคฮยอนคงอยากจะได้กำลังใจมากที่สุดในบรรดาทุกสิ่งทุกอย่าง และแน่นอนว่าชานยอลพร้อมจะมีให้แบคฮยอนเสมอถ้าอีกคนต้องการ
ไม่นานนักคุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน แบคฮยอนกับชานยอลผละตัวออกจากกัน ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะรีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอท่าทางใจดีที่กำลังส่งยิ้มมาให้
“น้องปลอดภัยแล้วนะครับ แค่หมดสติไปเพราะตกใจ ยังดีที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำทัน” คำเอ่ยบอกของคุณหมอทำให้ผู้ใหญ่ที่กำลังยืนรอฟังข่าวโล่งอกเป็นปลิดทิ้ง
“ฮึก.. ครับ ขอบคุณนะครับคุณหมอ ขอบคุณจริงๆครับ” แบคฮยอนรีบโค้งขอบคุณคุณหมอ แล้วชานยอลเองก็ทำตามเช่นกัน แต่เรายังถูกห้ามไม่ให้เข้าไปหาลูกในตอนนี้ เพราะโชอายังต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกคืนหนึ่ง
คนตัวสูงเดินมานั่งที่เก้าอี้พร้อมกันกับอดีตภรรยา ดูเหมือนสภาพจิตใจของแบคฮยอนจะถูกฟื้นฟูขึ้นมาแล้วเกินครึ่ง แต่ก็ยังดูเหมือนมีเรื่องที่ตะขิดตะขวงใจอยู่ดี
ชานยอลเองก็มีเหมือนกัน เรื่องที่ตะขิดตะขวงใจน่ะ
มันเกิดขึ้นตั้งแต่ได้ยินเสียงแบคฮยอนร้องไห้ผ่านโทรศัพท์ วินาทีนั้นเขาแทบอยากจะถลาพาตัวเองไปกอดอีกคนเอาไว้เลยด้วยซ้ำถ้าเป็นไปได้ มันเหมือนกับอีกฝ่ายยังอ่อนแอเกินว่าจะอยู่คนเดียว
และใช่ เขาคิดว่าแบคฮยอนเป็นแบบนั้น
“แบคฮยอน” คนตัวสูงเอ่ยเรียกร่างเล็กที่นั่งเคียงข้างกันเอาไว้ อีกฝ่ายหันมาแล้วเงยหน้ามองเขา ดวงตาที่ช้ำจากการร้องไห้มองสบเข้ามาอย่างสงสัย
“เหนื่อยไหม.. ครึ่งปีที่ผ่านมาน่ะ”
คนตัวเล็กชะงักไปก่อนจะหลบสายตา แบคฮยอนทำเพียงแค่หลุบตามองปลายเท้าตัวเองเท่านั้น การที่อีกคนไม่ได้ตอบอะไรกลับมาทำให้ชานยอลใจชื้น เพราะถ้าเป็นปกติ แบคฮยอนจะเอ่ยกลับมาเสียงแข็งว่า ‘ไม่เหนื่อย’ ทั้งที่ดูหน้าก็รู้แล้วว่าเหนื่อยมากแค่ไหนกับการต้องทำอะไรคนเดียว
เพราะฉะนั้น
“กลับมาอยู่ด้วยกันไหม”
เขาจะไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำๆอีกแล้ว
แบคฮยอนเงยหน้ามองอดีตสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ เขามองหาแววตาที่ฉายประกายความล้อเล่นเหมือนอย่างแต่ก่อนแต่ก็ไม่พบ ชานยอลในตอนนี้ดูจริงจังและโตเป็นผู้ใหญ่ เหมือนต้องการคำตอบจากเขาจริงๆไม่ใช่เล่นๆเหมือนอย่างที่ผ่านมา
“ช่วยกันเลี้ยงโชอา.. ผมรู้ว่ามันอาจจะทำใจยาก แต่ผมก็อยากให้คุณลองคิดดูอีกทีนะ”
“.......”
“ผมแค่คิดว่าถ้าช่วยกันดู อาจจะแบ่งเบาอะไรคุณได้บ้าง”
ตอนนั้นเองที่แบคฮยอนขมวดคิ้วฉับ และแน่นอนว่าชานยอลเองก็รู้ว่ามันเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ชอบให้พูดจาทำนองนี้ เพราะเป็นประเภทยืนกรานว่าตัวเองเลี้ยงลูกคนเดียวได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรและไม่เคยคิดว่าโชอาเป็นภาระ ชานยอลยกยิ้มบางๆ ชิงพูดตัดหน้าก่อนที่อีกคนกำลังจะอ้าปากโวยวายเสียก่อน
“อีกอย่าง ผมคิดถึงคุณ..”
“.......”
“เหตุผลแค่นี้มันอาจจะไม่พอใช่ไหม” ชานยอลใช้นิ้วแตะคางพลางทำท่านึก “เอาเป็นว่า..”
“........”
“ผมยังรักคุณอยู่.. แบบนี้โอเคหรือยัง”
พูดจบก็ยิ้มจนเห็นแก้มบุ๋ม ในขณะที่อีกฝ่ายอ้าปากค้าง แต่เพียงไม่นานก็เหมือนแบคฮยอนจะตั้งสติได้ อีกฝ่ายขมวดคิ้วฉับ ก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่นเหมือนโกรธ
แต่ชานยอลรู้หรอกว่าอีกคนแค่พยายามจะกลั้นเขินเท่านั้นเอง
“ฉันไม่ไว้ใจนายหรอก”
“โธ่.. เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วนะแบค” ชานยอลรู้ดีว่าอีกคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ..คงไม่พ้นสาวยุ่นนมโตคนนั้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราสั่นคลอนอย่างแน่นอน
“นาน.. แต่มันติดแน่นในหัวเชียวล่ะ” แบคฮยอนชี้ไปที่ศีรษะของตัวเอง “แล้วแน่นอนว่าฉันไม่ลืม”
“ก็ไม่ได้ขอให้ลืม” ชานยอลเขยิบเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก ก่อนจะจับมือบางขึ้นมา เมื่ออีกคนไม่ได้มีท่าทีผลักไสเขาจึงกระชับมือเล็กๆเอาไว้แน่นกว่าเดิม
“แต่ขอให้มาเริ่มต้นกันใหม่”
“........”
“ผมสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ผมจะเป็นพ่อดีที่ของโชอา”
“........”
“แล้วก็จะเป็นสามีที่รักคุณที่สุดด้วย”
ชานยอลยิ้มบางๆให้อีกคนที่ยอมหันหน้ามามองหน้าเขาแล้ว “ดีกันนะแบคฮยอน”
เห็นหรอกว่าแบคฮยอนหน้าแดงจนลามไปถึงหู ชานยอลอยากจะหัวเราะให้กับความน่าเอ็นดูของคนตัวเล็กแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้เพราะกลัวว่าแบคฮยอนจะโกรธอีก
แบคฮยอนเงียบไปสักพัก จนในที่สุดก็ตอบกลับมา
“ถือว่าเห็นแก่โชอาหรอกนะ แกบ่นคิดถึงนายทุกวัน”
“พูดแบบนี้แสดงว่ายอมดีด้วยแล้วใช่ไหม”
แบคฮยอนยกยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้ากลับมา
“แน่นะ ไม่คืนคำนะ!” ชานยอลเขย่ามือเล็กที่กุมอยู่แรงๆจนแบคฮยอนเบ้หน้า “ตอบมาสิคุณ”
“อือ! ถ้านายยังไม่หยุดเขย่าฉันจะไม่คืนดีด้วยแล้วจริงๆ”
แล้วชานยอลก็ต้องหยุดเขย่ามือภรรยาเดี๋ยวนั้น เขาจ้องมองหน้าเล็กๆของแบคฮยอนอย่างพินิจพิเคราะห์ เกิดเป็นชานยอลนี่มันดีจริงๆ ลูกสาวก็น่ารัก แถมเมียก็ยังน่าเอ็นดูอีกต่างหาก
“อ้อ อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอก แล้วมันก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฉันยอมคืนดีกับนายด้วย”
“.......”
“ฉันท้อง”
ชานยอลชะงัก เขารู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนในตอนนั้น
มันเหมือนกับตอนที่คุณหมอบอกว่าแบคฮยอนกำลังจะมีโชอา แม้นี่จะเป็นครั้งที่สองแต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้ตลอด เพิ่งเข้าใจหัวอกของความเป็นพ่อก็วันนี้ว่าไม่ว่าจะมีลูกอีกกี่คน ผู้ที่เป็นพ่อก็ยังคงตื่นเต้นเหมือนหนแรกอยู่เสมอ
“เดี๋ยวนะ.. อย่างนี้ก็ท้องเจ็ดเดือนแล้วหรอ” ชานยอลเอ่ยถาม
“ไอ้บ้ากาม นายนับเดือนด้วยหรอว่าครั้งล่าสุดมันตอนไหน!” แบคฮยอนทำหน้ามุ่ย ผู้เป็นสามีจึงรีบเอ่ยแก้ตัวทันที
“ผมเปล่านะ” ทำหน้าตาเหรอหราแต่แน่นอนว่าแบคฮยอนไม่เชื่อหรอก คนตัวเล็กหรี่ตาก่อนจะลูบไปที่พุงตัวเอง เวลาตั้งครรภ์แบคฮยอนจะท้องไม่ค่อยใหญ่นัก อาจเป็นเพราะยังวัยรุ่นอยู่ก็ได้
“ไม่รู้เลยจริงๆหรอว่าฉันท้อง” คนตัวเล็กเอ่ยถามผู้เป็นสามี ไม่เห็นชานยอลจะทักอะไรว่าเขาท้องใหญ่ขึ้น หรืออาจเป็นเพราะกำลังว้าวุ่นใจกับเรื่องของโชอาจึงไม่ทันสังเกต
“ก็เห็นว่าพุงใหญ่ขึ้นอยู่แหละ”
“........”
“แต่นึกว่าอ้วนขึ้น เลยไม่ได้ทัก กลัวที่รักเสียเซลฟ์อะ เพราะปกติก็อ้วนอยู่แล้ว”
“........”
“........”
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย! ตีทำไมเนี่ยคุณ”
“ว่าฉันอ้วนหรอปาร์คชานยอล!” แบคฮยอนเอ่ยก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกหูอีกคนอย่างแรง
“โอ้ยที่รัก.. ไม่ว่าแล้วจ้า ไม่ว่าแล้ว” เอามือออกจากหูก่อนเถอะนะ มันเจ็บ!
แบคฮยอนค่อยๆคลายมือที่หูอีกคนออกก่อนจะเอนหลังไปนั่งพิงพนัก นึกมาถึงตอนนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าเขาจะยอมใจอ่อนกลับไปคืนดีกับปาร์คชานยอลได้ง่ายๆ
แต่ไม่รู้สิ
เพียงแค่รู้ว่าอีกคนไม่ได้เบื่อเขา แล้วก็ไม่ได้มีคนอื่น แบคฮยอนก็ใจยวบยาบไปหมดแล้ว
“ที่นายบอกว่าคิดถึงฉัน ความจริงแล้วน่ะ..”
เสียงของแบคฮยอนทำเอาคนที่กำลังลูบหูตัวเองป้อยๆหันกลับมามอง คนตัวเล็กไม่ได้หันไปสบตา เขาเลือกที่จะพักสายตาของตัวเองเอาไว้กับสภาพแวดล้อมใกล้ๆแทนการมองหน้าชานยอล
ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาคนฟังยิ้มไม่หุบ
“ฉันก็คิดถึงนายไม่แพ้กันหรอก”
“......”
“แล้วก็ยังรักเหมือนเดิม.. ไม่แพ้นายเลยชานยอล”
อืมนะ.. ความผัวเมียก็เป็นแบบนี้แหละครับท่านผู้ชม :D
TALK :
จริงๆจะจบตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้วนะ แต่พอมีคนมาขอต่อเยอะๆเลยจัดให้สักหน่อย 55555555 จบแบบตอนที่แล้วมันทรมานจิตใจใช่ไหมหล่า เลารู้(เพราะเลาโดนคนอ่านหาว่าใจร้ายเยอะมาก จริงๆเลาใจดีนะ เป็นนางฟว้า) เพราะงั้นก็เอาตอนนี้ไปเลยยยย
จาก os เลยต้องแก้เป็น sf อีกจนได้ 555555555555
มีความสุขกับการอ่านนะคะทุกคน เลิ้ฟๆ ♥
#น้ำผึ้งมะนาวCB
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

3,420 ความคิดเห็น
-
#3309 kwangchip (จากตอนที่ 13)วันที่ 30 กรกฎาคม 2561 / 11:06กี๊ดดดดดด#3,3090
-
#3218 DBK1802 (จากตอนที่ 13)วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 / 20:45โธ่ แม่คุณไม่รอให้คลอดก่อนเลยล่ะ ค่อยมาบอกน่ะ ถ้ารักและคิดถึงกันขนาดนี้ทีหลังก็ช่วยคิดถึงกันให้มากกว่าเดิมด้วยล่ะ ชีวิตคู่น่ะ จะมาคิดเองเออเองคนเดียวไม่ได้หรอกนะรู้มั้ย ฮึ่ยยย รักกันให้มากๆ ห้ามหย่ากันอีกเด็ดขาดดด#3,2180
-
#3087 BbiI (จากตอนที่ 13)วันที่ 25 ธันวาคม 2560 / 20:40น่ะะะ ทำไมปากหนักกกก T________T#3,0870
-
#2769 pcy921 (จากตอนที่ 13)วันที่ 1 ตุลาคม 2560 / 17:30ต่างคนต่างคิดเนอะ#2,7690
-
#2654 PoohPiano (จากตอนที่ 13)วันที่ 14 กรกฎาคม 2560 / 08:53อย่าคิดให้เกินตัว...อย่าไปรักให้เกินใจ...#2,6540
-
#2552 litterrabbitza (จากตอนที่ 13)วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 / 16:40ฮืออออ มันเจ็บบบ แต่เราชอบนะ#2,5520
-
#2382 จีวอนชิ':) (จากตอนที่ 13)วันที่ 20 ธันวาคม 2559 / 21:22ตะหูววว#2,3820
-
#2122 pim pimmi (จากตอนที่ 13)วันที่ 21 ตุลาคม 2559 / 16:10เฮ้ยยยยย จบแบบนี้จริงอ่ะ คิดไปเองทั้งคู่#2,1220
-
#1844 ojay2 (จากตอนที่ 13)วันที่ 29 กันยายน 2559 / 09:35เห้ยยยย ปากหนักทั้งคู่#1,8440
-
#1781 FluffyMatilda9 (จากตอนที่ 13)วันที่ 2 สิงหาคม 2559 / 02:23ใจหายเลยอะ :(#1,7810
-
#1745 ❤ Little "B" ❤ (จากตอนที่ 13)วันที่ 18 กรกฎาคม 2559 / 22:17ฝืนใจกันทั้งคู่#1,7450
-
#1718 แพะบยอน❤️ (จากตอนที่ 13)วันที่ 11 กรกฎาคม 2559 / 00:38ไม่เชื่อใจกันไงก็เป็นเงี้ย#1,7180
-
#1309 Dyo.A (จากตอนที่ 13)วันที่ 21 พฤษภาคม 2559 / 16:29ปากหนักก็เป็นเงี่ย#1,3090
-
#1119 dark chocolate (จากตอนที่ 13)วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 / 16:45หวีดมากกกกก มันดีมากจริงๆค่ะ ภาษาสวยตลอด พอมาดูคนละมุมแบบนี้ก็น่าเจ็บใจนะคะ ที่ไม่เข้าใจกัน ไว้มาจดทะเบียนสมรมกันใหม่นะ#1,1190
-
#963 KAKARN_MATO (จากตอนที่ 13)วันที่ 29 เมษายน 2559 / 16:12เสียใจอีกแล้วว#9630
-
#887 Kurumi-Love (จากตอนที่ 13)วันที่ 27 เมษายน 2559 / 11:16ดราม่าตลอด#8870
-
#722 วายอิ้ง (จากตอนที่ 13)วันที่ 14 เมษายน 2559 / 13:46ตัวเองชอบดราม่า ;-;#7220
-
#532 คปซป. (จากตอนที่ 13)วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 / 14:45นี่มัน ดราม่า!!!!???#5320
-
#505 bestye (จากตอนที่ 13)วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 / 15:35ฮรืออออออทำไมไม่ยอมพูดกันนนนนนนนปากหนักทั้งคู่ งอแงได้มั้ยยย ถถถถถ#5050
-
#409 Nursery*purr-fect (จากตอนที่ 13)วันที่ 22 มกราคม 2559 / 16:12ทำไมไม่เปิดใจคุยกันดีๆเล่าาาา ;-;#4090
-
#184 แบ้กซี่ซู่ซ่าส์ (จากตอนที่ 13)วันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 / 06:39เศร้าาา ไม่งี้ดิ TT#1840
-
#177 เทวดามิวเว้ย55 (จากตอนที่ 13)วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 / 19:02ต่างคนต่างรัก ต่างคนต่างคิดไปเอง ทำไมไม่พูดกันวะเห้ย!!#1770
-
#173 lekkiegush (จากตอนที่ 13)วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 / 16:30ไม่เอาแบบนี้!!!! T_T#1730
-
#172 ribbon blue (จากตอนที่ 13)วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 / 21:29ทำไมเป็นเเบบนี้ล่ะ#1720
-
#170 BABYzPCY (จากตอนที่ 13)วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 / 14:03โอ้ยยยยต่างคนก็ต่างคิดไปเองทั้งนั้นๆ ทั้งๆที่ก็ยังรักกันอยู่#1700