ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZeroTEN : หน่ยวปฏิบัติการหมายเลข 10 อณุญาติให้ฆ่า

    ลำดับตอนที่ #1 : Mission 1 : โอแกนนิค

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 52


    Mission 1 : 1.ฆ่า-ประธานบริษัทโอแกน

                      2.ทำลายอาวุธใหม่ล่าสุดที่ทางบริษัทผลิตอย่างผิดกฎหมาย

    Part 1 –

     

    Zero

    Shot – Shot

    10 กันยา ค.ศ. 2035

    อเมริกา : นิวยอร์ก

     

     

            ดาดฟ้าตึกโอแกนนิค ชายในชุดปัฏิบัติหน้าที่สองคนโดดร่มลงมาสู่ดาดฟ้า ทั้งคู่ถอดแว่นกันลมแล้วเก็บห้อยไว้ที่เอว ชายร่างผอมบางผมดำรูปหน้ายาว ดูแล้วรู้ว่ามีเชื้อสายเอเชียผสมอเมริกันอีกคน

     

                ถีบเลยรึแจ๊ส

     

    ชายผมดำรูปร่างสมส่วนหน้าตาบอกว่าเป็นคนเอเชียแท้ ๆ เขาเสยผมแล้วหยิบหน้ากากหัวกะโหลกสีขาวที่ห้อยไว้ที่เข็มขัดมาใส่ไว้ที่หน้า

     

                เขาเรียกว่ายันโว้ย บันดราคุ แบบเนี้ย เอ้าทำงานก่อนพูดทีหลัง

     

    บันดราคุ ใช้มือขวากดที่เครื่องสื่อสาร

     

                พานูรัส ชั้นไหนมีการป้องกันสูงสุด

     

                [ ประมานชั้น 13 พวกนายต้องลงมา 12 ชั้น ]

     

    บันดราคุมองหน้าแจ๊สที่ถอดหน้ากากออกแล้วแสดงสีหน้าแหยเกราวกับโดนเตะเป้า

     

                เฮ้ ไม่ไกลไปหรือ ไปบันไดรึลิฟ ได้ล่ะเนี่ย

     

    บันดราคุส่ายหน้าอย่างหน่าย ๆ แล้วกดเครื่องสื่อสาร

     

                รับทราบแล้ว เราจะไปทางบันไดหนีไฟกล้องที่ปืนของเธอมองทะลุกระจกติดฟิล์มได้ใช่ไหม คอยดูลาดเลาชั้นต่อ ๆ ไปให้หน่อยนะ

     

                [ รับทราบ แจ๊สชั้นขอย้ำนายนะ แอบเข้าไป ไม่ใช่ตูมตามเข้าไปนะ ]

     

    แจ๊สคิ้วกระตุกเล็กน้อย แล้วใส่หน้ากากหัวกะโหลกสีขาว จากนั้นเอามือจิ้มเครื่องสื่อสาร

     

                วางใจเถอะ เธอระวังต้นทางให้ด้วยละกัน

     

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทสุด ๆ บันดราคุถอนหายใจแล้วหยิบโม่งสีดำที่หลังต้นคอขึ้นมาใส่ ปิดปากและจมูก เหลือไว้เพียงดวงตา แล้วพยักหน้าให้แจ๊ส หน้ากากหัวกะโหลกพงกหัวให้เขา แล้ววิ่งตรงไปยังประตูดาดฟ้า แจ๊กหยิบปืนลูกซอง Leone 12 gauge super ของ อิตาลี ขึ้นมา เขาเลื่อนกระสุนเข้าลำกล้องแล้วยืนอยู่หน้ากำแพง บันดราคุหยิบปืนพกสีดำ ES five sewen ระบบออโต้ เลื่อนกระสุนเข้าลำกล้อง ง้างนกสับเพื่อความแม่นยำในนับแรก เขายืนพิงกำแพงใกล้ ๆ ประตูดาดฟ้าชี้ปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วมองหน้าแจ๊ส แจ๊สลดปืนลง แล้วหมุนตัวถีบประตูอย่างแรง ประตูเปิดออก จะว่าไปออกเป็นแนวกระเด็นไปตามแรงถีบซะมากกว่า บันดราคุหมุนตัวชี้ปืนเข้าไปในห้อง เห็นว่าห้องดาดฟ้าโลงว่างเปล่า จึงวิ่งไปที่บันไดแล้วลงเดินลงไป โดยมีแจ๊สคอยระวังหลังให้ ทั้งคู่ลงมาเรื่อย ๆ ได้ 5 ชั้นแล้ว แจ๊สจึงเริ่มบ่น

     

                วู้ ข้อเท้าข้ายิ่งไม่ดีอยู่ บันดราคุ ลงลิฟกันเหอะหว่ะ

     

    บันดราคุ เริ่มหอบเหมือนกันพูดว่า

     

                จะดีเหรอ แฮก ๆ ชั้นไม่รู้ด้วยนะ

                [ พวกนาย จะอู้ไปถึงไหนกันยะ ]

     

    เสียงของพานูรัส  ดังขึ้นในเครื่องสื่อสาร ทันใดแจ๊สก็พลักบันดราคุเข้าไปในห้องเก็บของของชั้นที่ 20 ชายใส่สูทสีดำสองคนเดินขึ้นบันไดมาคุยกันเสียงค่อนข้างดัง แล้วดันมาหยุดตรงหน้าห้องเก็บของ พวกเขาสะพายปืนเอ็ม 16 ติดกล้องอินฟาเรต แจ๊สกับบันดราคุอยู่ในห้องเก็บของทั้งคูมองหน้ากัน

     

                ไปสิวะ มายืนคุยตรงนี้ทำอะไรเล่า

     

    แจ๊สกระซิบเบา ๆ บันดราคุถอนหายใจ ทันใดนั้น เสียงเพลงซ่า ๆ จากโทรศัพท์เครื่องหนึ่งดังขึ้น เพลงสตราวอร์ ทามทามทาม ทั่ ทั้ม ทาม~  ชายชุดสูทสองคนมองหน้ากัน แล้วล้วงมือเข้าไปในกางเกง โทรศัพของทั้งคู่ไม่ได้ดัง ทั้งคู่มองเข้ามายังห้องเก็บของ แจ๊สส่งเสียงถอนหายใจออกมาจากหน้ากาก บันดราคุเบิกตากว้าง แจ๊สเก็บปืนลูกซองLeone  เข้าซองปืนที่หลัง แล้วคว้าปืนลูกซอง Jack Hammer(ลูกซองขนาด ใหญ่ มีโม่ที่ท้ายปืน บันจุได้ 10 นัด) แจ๊สหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นด้วยมือซ้ายแล้วแล้วรับ

     

                ฮัลโหล

     

    ตูม!! เสียงปืนดังสนั่น ชายสองคนปลิวไปพร้อมประตูห้องเก็บของ แจ๊สเดินออกมาคอนปืนไว้ที่บ่า มองชายใส่สูทสองคนที่โดนแรงอัดของลูกซองของเขาจนปลิว บันดราคุถอนหายใจ

     

                ถ้าเดาไม่ผิดนะสิ่งต่อไปที่จะเกิดคือ....

     

    หวอ~ หวอ~

     

                ไม่ทันขาดคำ…”

     

    บันดราคุเก็บปืนพก Es five sewen เข้าซองปืนที่ต้นขาขวา แล้วคว้าปืนกล Es c90(P90) ปืนรูปร่างประหลาดที่ห้อยอยู่ที่เอวซ้าย มาแล้วตะโกนถามแจ๊ส

     

                ทีนี้จะไปทางไหนกันเนี่ย

     

                จะไปรู้เร้อ~ ไอ้เวรนี่ดันโทรผิดอีก ไอ้XXX ไอ้YYY ไอ้ZZZ (คำเตือน : เป็นอะไรที่หยาบมาก)

     

    แจ๊สสบถแล้ววิ่งไปที่กระจกของตึก แล้วหยุดดู บันดราคุวิ่งตามมา

     

                [ พวกนายเล่นอะไรกันน่ะ มันวิ่งไปที่ชั้น 10 กันใหญ่เลย ]

     

    แจ๊สเล็งลูกซอง jack Hammer ไปที่กระจก แล้วยิง กระจกแตกออก กระจกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แจ๊สเก็บลูกซองยักษ์ของเขา แล้วโยนสว่านลงพื้นกระเบื้อง มันเป็นสว่านอัตโนมัติ มันเจาะพื้นแล้วยึดตัวอยู่กับพื้นตึก มีห่วงยื่นออกมาจากสว่าน แจ๊สใช้เชือกโรยตัวเกี่ยวกับห่วงของสว่าน บันดราคุทำตามทุกอย่าง

     

                บันดราคุ เหลือกี่ชั้นนะ

     

                ประมาน 7 ชั้นนึงประมาน 45 เมตร เชือกพออยู่แล้ว พานูรัสยิงกระจกข้างล่างให้ที เราจะโหนเข้าไปแล้ว

     

                [ รับทราบแล้ว จะยิงเดี๋ยวนี้หล่ะ ]

     

    สิ้นเสียงตอบกลับบันดราคุก็มองลงไปด้านล่าง หัวใจเขาเต้นรัวอีกครั้ง เม็ดเหงื่อยเริ่มผุดขึ้น แต่เขายังไม่ทันได้ลังเลใจ รองเท้าคอมแบ๊ต หุ้มข้อก็ถีบเขาที่ก้นกก อย่างจัง

                เฮ้ย~ อะไรวะอีกแล้วเหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!”

     

    แจ๊สเอียงคอเสียงดังกร๊อบ แล้วโดดตามลงไป เมื่อเชือกโรยตัวรั้งร่างของพวกเขา พวกเขาก็แกว่งเชือกแบบทาซานเข้าหาตึก แต่ว่า.... พลัก!! ใบหน้าพวกเขาแนบกระจกหนา ๆ อย่างจัง

     

                อึ่ย.......

     

    เสียงบันดราคุโอดครวน เขาเอามือกำใบหน้าและจมูกโด่ง ๆ ของเขาไว้ น้ำตาเล็ดออกมาเล็กน้อย ส่วนแจ๊สหน้ากากหัวกะโหลกหลุดตกลงไป เขากระเดาะลิ้นแล้วกดเครื่องสื่อสารแล้วตวาดว่า ทำไมไม่ยิงวะ พานูรัส

     

          [ ก็ยิงไปแล้วอะ แต่มันไม่แตก มันเป็นกระจกกันกระสุนนะยะ ปืนไรเฟิ้ลยิงแตกที่ไหนหล่ะ ]

     

          วะ!! จะบ้าตาย

     

    เขาตวาดใส่กระจก บันดราคุมองเข้าไป

     

                เฮ้ยแจ๊ส ดูข้างในสิ

     

    แจ๊สมองเข้าไปบ้าง ข้างในมีชายในชุดสูทดำ 10 กว่าคนชี้ปืนเอ็ม 16 มาทางพวกเขา แจ๊สส่ายหน้าแล้วหยิบปืนรูปร่างแปลก ๆ คล้าย ๆ ลูกซองที่แข้งขวา แจ๊สหมุนบางอย่างที่ปืนรูปร่างคล้ายโม่บรรจุกระสุน แต่ไม่มีกระสุน เสียงดังแกร๊ก ๆ ดังมาจากโม่แจ๊สเล็งไปที่กระจก บันดราคุโวยวายอย่างหวาด ๆ แล้วถีบตัวออกจากกระจกพร้อมกับ  แจ๊ส แจ๊สลั่นไกปืนเสียงปืนดังสนั่น มันดังกว่าไรเฟิ้ลของพานูรัส ดังพอ ๆ กับปืนใหญ่เลยทีเดียว กระจกกันกระสุนแตกออก แรงดันทำเอาแจ๊สลอยไปด้านหลัง ชายชุดสูทดำกระเด็นออก บันดราคุโยนตัวเข้าไปในตึก แล้วปลดเชือก เขาชักปืน Es Five sewen ออกมากราดยิงพวกที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อแจ๊สเข้ามาในตึกแล้วเอานิ้วแยงหู

     

                เสียงดังชะมัดเลยเว้ย แต่ใช้ดีเหมือนกันนะ ไอ้นี่เนี่ย

     

                ทีหลังจะยิงก็บอกกันมั่งเดะ

     

    บันดราคุปลด แมกกาซีน ออกแล้วใส่แมกกาซีนใหม่ใส่เข้าใป แจ๊สเก็บปืนแรงอัดใสซองปืนที่แข้งขวาเหมือนเดิมแล้วหยิบลูกซองLeone ขึ้นมาควงไปมา แล้วชี้ไปทีประตูบันดราคุรู้หน้าที่ดี เขาวิ่งไปพิงกำพงประตูทันที จากนั่นแจ๊สลดปืนลงแล้วกระโดดถีบขาคู่ใส่ประตู บันดราคุหมุนตัวเข้าไปในห้องชี้ปืนเข้าไปที่เก้าอี้นวมในห้องที่มีผู้ชายวัยกลางคนหุ่นท้วม หนวดเคราสีขาวนั่งอยู่ ( ส่วนแจ๊ส ร่วงลงที่พื้นดังแอ๊ก แล้วลุกขึ้นเอามือกุมท้องขึ้นมา )

     

                เข้ามาได้ยังไงฟะ ไอ้พวกเวรนี่

     

    ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในห้องกำมือแน่น เหงื่อกาฬแตก ผุดขึ้นเป็นเม็ด บันดราคุเดินเข้าไปใกล้แล้วง้างนกสับขึ้นไม่มีท่าทีว่าจะลดปืนลง

     

                ไม่น่าถาม ไม่เห็นท่าถีบประตูของข้ารึไงวะ

     

    แจ๊สโวยวายแล้วคอนปืนลูกซองไว้บนบ่า

     

                ถึงยังไงพวกแก...ก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะฆ่าชั้นนี่ จะพาชั้นไปไหนก็เอาสิ ชั้นประกันตัวได้อยู่แล้ว

     

    ชายหนวดขาวพูดอย่างใจเย็น

     

                คุณน่ะ ยังไม่รู้สินะว่าพวกเราน่ะ

     

    บันดราคุตีสีหน้านิ่งลดปืนลงพยักหน้าให้แจ๊ส แจ๊สยิ้มระรื่นใบหน้าคล้ายกระหายเลือด ชี้ปืนมือเดียวไปยังชายวัยกลางคน

     

                เฮ้ พวกชั้นน่ะ ได้รับอนุญาต ให้ฆ่าโว้ย เพราะแกผู้บริสุทธิ์มากมาย ต้องมาตายเพราะไอ้อาวุทสวะที่เท้าแกน่ะ สู่สุขตินะ

     

    ปัง!! เสียงปืนลูกซองดังขึ้นวิญญาณ ของชายวัยกลางคนปลิวหายไปตามเสียงปืน บันดราคุเดินเข้าไปใต้โต๊ะ กล่องรูปสีดำใบหนึ่งเมื่อเปิดออก พวกเขาพบกับปืนรูปร่างแปลก ๆ บันดราคุปิดกล่องลงแล้วส่ายหน้า

     

                แปลก ๆ เดาไม่ออกด้วยว่ามันใช้ทำอะไร

     

    แจ๊สเดินเข้ามาแล้วยื่นระเบิดมือลูกเกลี้ยงมาให้ บันดราคุรับมาแล้วมัดติกกับกล่อง แต่เมื่อเสียงดังติ้ด ดังขึ้น พวกเขามองหน้ากัน แล้วมองไปที่มือของชายวัยกลางคน ในมือของเขามีระเบิด C4 อยู่ มันเริ่มทำงานแล้ว บันดราคุหยิบอุปกรณ์กู้ระเบิดออกมา เขาพึมพำว่า 3 นาที

     

                อะไรก้าน~ ไอ้ของแบบนี้ มันมีปุ่มยกเลิกอยู่แล้วนี่นา

     

    ไม่ทันบันดราคุห้าม เขาก็กดปุ่มมั่ว ๆ ไปที่ระเบิด

     

                เฮ้ย~ อย่าไป.....กด...มั่ว...นะเว้ย......

     

    ตัวเลขบอกเวลาเปลี่ยนเป็น 1 นาทีทันที

     

                จะบ้าเหรอแก กดมั่วนั่นมันปุ่มอะไรแกไม่รู้เรื่องแล้วกดทำพระซากอะไรวะ

     

                ก็ใครจะไปรู้เล่า มันกดไปแล้วนี่หว่าทำไงได้

     

                วันหลังก็หัดถามอะไรก่อนเดะวะ

     

                เออคราวหน้าเดะ แล้วตอนนี้ทำไงได้เนี่ย

     

                ถามตูแล้วตูจาถามใครเล่าเนี่ย

     

    ทั้งคู่เถียงดังพอดู ชายชุดสูทที่รอดชีวิตจากการทำลายกระจกของแจ๊ส ลุกขึ้นมาชี้ปืนเอ็ม 16 มาทางพวกเขา แจ๊สควักลูกซอง Sawnoff (ลูกซองแฝดสั้น) ออกมายิงใส่หัวของเขาทันที

     

                อย่าเพิ่งยุ่งโว้ยคนกำลังเถียงกันอยู่

     

                [ พวกนาย ออกมาทางกระจกบานเก่าที่แตกแหล่ะ เร็วเข้า]

     

                นั่นสิไม่ใช่เวลามาเถียงกันนะ ว่าแต่เหลือเวลา.....แว๊ก!!แจ๊ส ไปเร็วโว้ย อีก 10 วิ

     

    แจ๊สและบันดราคุรีบโกยออกจากห้องแล้วกระโดดออกไปทางกระจกที่แตก ขาของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง โผล่มาพอดี พวกเขาคว้าไว้ทัน เสียงระเบิด C4 ทำงานหลังจากพวกเขาปีนขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว พานูรัสนั่งอยู่บนฮ. นักบินใส่หมวกมองพวกเขาแว๊บหนึ่งก่อนจะออกตัวหนีแรงระเบิด ชายวัยกลางคนคนหนึ่งคอนปืนไรเฟิ้ลไว้บนบ่าชุดพวกเขาขึ้นมา

     

                ขอบคุณครับจ่าธม

     

    จ่าธมยิ้มให้พวกเขา พวกเขามองดูตึกที่มีเปลไฟลุกที่ชึ้น 13

     

                ภารกิจลุล่วง...

     

    พานูรัสพูด

     

                ใช่ ในที่สุดก็ได้พักซักที ไปรายงานผลคราวนี้ถ้าจะไม่โดนด่า....นะ....

     

    แจ๊สยังไม่ทันพูดจบตึกโอแกนนิคก็ถล่มลงมา พวกเขามองหน้ากัน พานูรัสทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ บันดราคุมองหน้าแจ๊สแหย ๆ ส่วนแจ๊สยักไหล่แล้วพูดว่า

     

                ช่วยไม่ได้...

     

    Shot-Shot

    TEN

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×