คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Mission 1 : โอแกนนิค
2.ทำลายอาวุธใหม่ล่าสุดที่ทางบริษัทผลิตอย่างผิดกฎหมาย
Part 1
Zero
Shot Shot
10 กันยา ค.ศ. 2035
อเมริกา : นิวยอร์ก
ดาดฟ้าตึกโอแกนนิค ชายในชุดปัฏิบัติหน้าที่สองคนโดดร่มลงมาสู่ดาดฟ้า ทั้งคู่ถอดแว่นกันลมแล้วเก็บห้อยไว้ที่เอว ชายร่างผอมบางผมดำรูปหน้ายาว ดูแล้วรู้ว่ามีเชื้อสายเอเชียผสมอเมริกันอีกคน
“ถีบเลยรึแจ๊ส”
ชายผมดำรูปร่างสมส่วนหน้าตาบอกว่าเป็นคนเอเชียแท้ ๆ เขาเสยผมแล้วหยิบหน้ากากหัวกะโหลกสีขาวที่ห้อยไว้ที่เข็มขัดมาใส่ไว้ที่หน้า
“เขาเรียกว่ายันโว้ย บันดราคุ แบบเนี้ย เอ้าทำงานก่อนพูดทีหลัง”
บันดราคุ ใช้มือขวากดที่เครื่องสื่อสาร
“พานูรัส ชั้นไหนมีการป้องกันสูงสุด”
[ ประมานชั้น 13 พวกนายต้องลงมา 12 ชั้น ]
บันดราคุมองหน้าแจ๊สที่ถอดหน้ากากออกแล้วแสดงสีหน้าแหยเกราวกับโดนเตะเป้า
“เฮ้ ไม่ไกลไปหรือ ไปบันไดรึลิฟ ได้ล่ะเนี่ย”
บันดราคุส่ายหน้าอย่างหน่าย ๆ แล้วกดเครื่องสื่อสาร
“รับทราบแล้ว เราจะไปทางบันไดหนีไฟกล้องที่ปืนของเธอมองทะลุกระจกติดฟิล์มได้ใช่ไหม คอยดูลาดเลาชั้นต่อ ๆ ไปให้หน่อยนะ”
[ รับทราบ แจ๊สชั้นขอย้ำนาย
แจ๊สคิ้วกระตุกเล็กน้อย แล้วใส่หน้ากากหัวกะโหลกสีขาว จากนั้นเอามือจิ้มเครื่องสื่อสาร
“วางใจเถอะ เธอระวังต้นทางให้ด้วยละกัน”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทสุด ๆ บันดราคุถอนหายใจแล้วหยิบโม่งสีดำที่หลังต้นคอขึ้นมาใส่ ปิดปากและจมูก เหลือไว้เพียงดวงตา แล้วพยักหน้าให้แจ๊ส หน้ากากหัวกะโหลกพงกหัวให้เขา แล้ววิ่งตรงไปยังประตูดาดฟ้า แจ๊กหยิบปืนลูกซอง Leone 12 gauge super ของ อิตาลี ขึ้นมา เขาเลื่อนกระสุนเข้าลำกล้องแล้วยืนอยู่หน้ากำแพง บันดราคุหยิบปืนพกสีดำ ES five sewen ระบบออโต้ เลื่อนกระสุนเข้าลำกล้อง ง้างนกสับเพื่อความแม่นยำในนับแรก เขายืนพิงกำแพงใกล้ ๆ ประตูดาดฟ้าชี้ปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วมองหน้าแจ๊ส แจ๊สลดปืนลง แล้วหมุนตัวถีบประตูอย่างแรง ประตูเปิดออก จะว่าไปออกเป็นแนวกระเด็นไปตามแรงถีบซะมากกว่า บันดราคุหมุนตัวชี้ปืนเข้าไปในห้อง เห็นว่าห้องดาดฟ้าโลงว่างเปล่า จึงวิ่งไปที่บันไดแล้วลงเดินลงไป โดยมีแจ๊สคอยระวังหลังให้ ทั้งคู่ลงมาเรื่อย ๆ ได้ 5 ชั้นแล้ว แจ๊สจึงเริ่มบ่น
“วู้ ข้อเท้าข้ายิ่งไม่ดีอยู่ บันดราคุ ลงลิฟกันเหอะหว่ะ”
บันดราคุ เริ่มหอบเหมือนกันพูดว่า
“จะดีเหรอ แฮก ๆ ชั้นไม่รู้ด้วยนะ”
[ พวกนาย จะอู้ไปถึงไหนกันยะ ]
เสียงของพานูรัส ดังขึ้นในเครื่องสื่อสาร ทันใดแจ๊สก็พลักบันดราคุเข้าไปในห้องเก็บของของชั้นที่ 20 ชายใส่สูทสีดำสองคนเดินขึ้นบันไดมาคุยกันเสียงค่อนข้างดัง แล้วดันมาหยุดตรงหน้าห้องเก็บของ พวกเขาสะพายปืนเอ็ม 16 ติดกล้องอินฟาเรต แจ๊สกับบันดราคุอยู่ในห้องเก็บของทั้งคูมองหน้ากัน
“ไปสิวะ มายืนคุยตรงนี้ทำอะไรเล่า”
แจ๊สกระซิบเบา ๆ บันดราคุถอนหายใจ ทันใดนั้น เสียงเพลงซ่า ๆ จากโทรศัพท์เครื่องหนึ่งดังขึ้น เพลงสตราวอร์ ทามทามทาม ทั่ ทั้ม ทาม~ ชายชุดสูทสองคนมองหน้ากัน แล้วล้วงมือเข้าไปในกางเกง โทรศัพของทั้งคู่ไม่ได้ดัง ทั้งคู่มองเข้ามายังห้องเก็บของ แจ๊สส่งเสียงถอนหายใจออกมาจากหน้ากาก บันดราคุเบิกตากว้าง แจ๊สเก็บปืนลูกซองLeone เข้าซองปืนที่หลัง แล้วคว้าปืนลูกซอง Jack Hammer(ลูกซองขนาด ใหญ่ มีโม่ที่ท้ายปืน บันจุได้ 10 นัด) แจ๊สหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นด้วยมือซ้ายแล้วแล้วรับ
“ฮัลโหล”
ตูม!! เสียงปืนดังสนั่น ชายสองคนปลิวไปพร้อมประตูห้องเก็บของ แจ๊สเดินออกมาคอนปืนไว้ที่บ่า มองชายใส่สูทสองคนที่โดนแรงอัดของลูกซองของเขาจนปลิว บันดราคุถอนหายใจ
“ถ้าเดาไม่ผิดนะสิ่งต่อไปที่จะเกิดคือ....”
หวอ~ หวอ~
“ไม่ทันขาดคำ
”
บันดราคุเก็บปืนพก Es five sewen เข้าซองปืนที่ต้นขาขวา แล้วคว้าปืนกล Es c90(P90) ปืนรูปร่างประหลาดที่ห้อยอยู่ที่เอวซ้าย มาแล้วตะโกนถามแจ๊ส
“ทีนี้จะไปทางไหนกันเนี่ย”
“จะไปรู้เร้อ~ ไอ้เวรนี่ดันโทรผิดอีก ไอ้XXX ไอ้YYY ไอ้ZZZ (คำเตือน : เป็นอะไรที่หยาบมาก)”
แจ๊สสบถแล้ววิ่งไปที่กระจกของตึก แล้วหยุดดู บันดราคุวิ่งตามมา
[ พวกนาย
แจ๊สเล็งลูกซอง jack Hammer ไปที่กระจก แล้วยิง กระจกแตกออก กระจกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แจ๊สเก็บลูกซองยักษ์ของเขา แล้วโยนสว่านลงพื้นกระเบื้อง มันเป็นสว่านอัตโนมัติ มันเจาะพื้นแล้วยึดตัวอยู่กับพื้นตึก มีห่วงยื่นออกมาจากสว่าน แจ๊สใช้เชือกโรยตัวเกี่ยวกับห่วงของสว่าน บันดราคุทำตามทุกอย่าง
“บันดราคุ เหลือกี่ชั้นนะ”
“ประมาน 7 ชั้นนึงประมาน
[ รับทราบแล้ว จะยิงเดี๋ยวนี้หล่ะ ]
สิ้นเสียงตอบกลับบันดราคุก็มองลงไปด้านล่าง หัวใจเขาเต้นรัวอีกครั้ง เม็ดเหงื่อยเริ่มผุดขึ้น แต่เขายังไม่ทันได้ลังเลใจ รองเท้าคอมแบ๊ต หุ้มข้อก็ถีบเขาที่ก้นกก อย่างจัง
“เฮ้ย~ อะไรวะอีกแล้วเหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!”
แจ๊สเอียงคอเสียงดังกร๊อบ แล้วโดดตามลงไป เมื่อเชือกโรยตัวรั้งร่างของพวกเขา พวกเขาก็แกว่งเชือกแบบทาซานเข้าหาตึก แต่ว่า.... พลัก!! ใบหน้าพวกเขาแนบกระจกหนา ๆ อย่างจัง
“อึ่ย.......”
เสียงบันดราคุโอดครวน เขาเอามือกำใบหน้าและจมูกโด่ง ๆ ของเขาไว้ น้ำตาเล็ดออกมาเล็กน้อย ส่วนแจ๊สหน้ากากหัวกะโหลกหลุดตกลงไป เขากระเดาะลิ้นแล้วกดเครื่องสื่อสารแล้วตวาดว่า ทำไมไม่ยิงวะ พานูรัส
[ ก็ยิงไปแล้วอะ แต่มันไม่แตก มันเป็นกระจกกันกระสุนนะยะ ปืนไรเฟิ้ลยิงแตกที่ไหนหล่ะ ]
“วะ!! จะบ้าตาย”
เขาตวาดใส่กระจก บันดราคุมองเข้าไป
“เฮ้ยแจ๊ส ดูข้างในสิ”
แจ๊สมองเข้าไปบ้าง ข้างในมีชายในชุดสูทดำ 10 กว่าคนชี้ปืนเอ็ม 16 มาทางพวกเขา แจ๊สส่ายหน้าแล้วหยิบปืนรูปร่างแปลก ๆ คล้าย ๆ ลูกซองที่แข้งขวา แจ๊สหมุนบางอย่างที่ปืนรูปร่างคล้ายโม่บรรจุกระสุน แต่ไม่มีกระสุน เสียงดังแกร๊ก ๆ ดังมาจากโม่แจ๊สเล็งไปที่กระจก บันดราคุโวยวายอย่างหวาด ๆ แล้วถีบตัวออกจากกระจกพร้อมกับ แจ๊ส แจ๊สลั่นไกปืนเสียงปืนดังสนั่น มันดังกว่าไรเฟิ้ลของพานูรัส ดังพอ ๆ กับปืนใหญ่เลยทีเดียว กระจกกันกระสุนแตกออก แรงดันทำเอาแจ๊สลอยไปด้านหลัง ชายชุดสูทดำกระเด็นออก บันดราคุโยนตัวเข้าไปในตึก แล้วปลดเชือก เขาชักปืน Es Five sewen ออกมากราดยิงพวกที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อแจ๊สเข้ามาในตึกแล้วเอานิ้วแยงหู
“เสียงดังชะมัดเลยเว้ย แต่ใช้ดีเหมือนกันนะ ไอ้นี่เนี่ย”
“ทีหลังจะยิงก็บอกกันมั่งเดะ”
บันดราคุปลด แมกกาซีน ออกแล้วใส่แมกกาซีนใหม่ใส่เข้าใป แจ๊สเก็บปืนแรงอัดใสซองปืนที่แข้งขวาเหมือนเดิมแล้วหยิบลูกซองLeone ขึ้นมาควงไปมา แล้วชี้ไปทีประตูบันดราคุรู้หน้าที่ดี เขาวิ่งไปพิงกำพงประตูทันที จากนั่นแจ๊สลดปืนลงแล้วกระโดดถีบขาคู่ใส่ประตู บันดราคุหมุนตัวเข้าไปในห้องชี้ปืนเข้าไปที่เก้าอี้นวมในห้องที่มีผู้ชายวัยกลางคนหุ่นท้วม หนวดเคราสีขาวนั่งอยู่ ( ส่วนแจ๊ส ร่วงลงที่พื้นดังแอ๊ก แล้วลุกขึ้นเอามือกุมท้องขึ้นมา )
“เข้ามาได้ยังไงฟะ ไอ้พวกเวรนี่”
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในห้องกำมือแน่น เหงื่อกาฬแตก ผุดขึ้นเป็นเม็ด บันดราคุเดินเข้าไปใกล้แล้วง้างนกสับขึ้นไม่มีท่าทีว่าจะลดปืนลง
“ไม่น่าถาม ไม่เห็นท่าถีบประตูของข้ารึไงวะ”
แจ๊สโวยวายแล้วคอนปืนลูกซองไว้บนบ่า
“ถึงยังไงพวกแก...ก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะฆ่าชั้นนี่ จะพาชั้นไปไหนก็เอาสิ ชั้นประกันตัวได้อยู่แล้ว”
ชายหนวดขาวพูดอย่างใจเย็น
“คุณน่ะ ยังไม่รู้สินะว่าพวกเราน่ะ”
บันดราคุตีสีหน้านิ่งลดปืนลงพยักหน้าให้แจ๊ส แจ๊สยิ้มระรื่นใบหน้าคล้ายกระหายเลือด ชี้ปืนมือเดียวไปยังชายวัยกลางคน
“เฮ้ พวกชั้นน่ะ ได้รับอนุญาต ให้ฆ่าโว้ย เพราะแกผู้บริสุทธิ์มากมาย ต้องมาตายเพราะไอ้อาวุทสวะที่เท้าแกน่ะ สู่สุขตินะ”
ปัง!! เสียงปืนลูกซองดังขึ้นวิญญาณ ของชายวัยกลางคนปลิวหายไปตามเสียงปืน บันดราคุเดินเข้าไปใต้โต๊ะ กล่องรูปสีดำใบหนึ่งเมื่อเปิดออก พวกเขาพบกับปืนรูปร่างแปลก ๆ บันดราคุปิดกล่องลงแล้วส่ายหน้า
“แปลก ๆ เดาไม่ออกด้วยว่ามันใช้ทำอะไร”
แจ๊สเดินเข้ามาแล้วยื่นระเบิดมือลูกเกลี้ยงมาให้ บันดราคุรับมาแล้วมัดติกกับกล่อง แต่เมื่อเสียงดังติ้ด ดังขึ้น พวกเขามองหน้ากัน แล้วมองไปที่มือของชายวัยกลางคน ในมือของเขามีระเบิด C4 อยู่ มันเริ่มทำงานแล้ว บันดราคุหยิบอุปกรณ์กู้ระเบิดออกมา เขาพึมพำว่า 3 นาที
“อะไรก้าน~ ไอ้ของแบบนี้ มันมีปุ่มยกเลิกอยู่แล้วนี่นา”
ไม่ทันบันดราคุห้าม เขาก็กดปุ่มมั่ว ๆ ไปที่ระเบิด
“เฮ้ย~ อย่าไป.....กด...มั่ว...นะเว้ย......”
ตัวเลขบอกเวลาเปลี่ยนเป็น 1 นาทีทันที
“จะบ้าเหรอแก กดมั่วนั่นมันปุ่มอะไรแกไม่รู้เรื่องแล้วกดทำพระซากอะไรวะ”
“ก็ใครจะไปรู้เล่า มันกดไปแล้วนี่หว่าทำไงได้”
“วันหลังก็หัดถามอะไรก่อนเดะวะ”
“เออคราวหน้าเดะ แล้วตอนนี้ทำไงได้เนี่ย”
“ถามตูแล้วตูจาถามใครเล่าเนี่ย”
ทั้งคู่เถียงดังพอดู ชายชุดสูทที่รอดชีวิตจากการทำลายกระจกของแจ๊ส ลุกขึ้นมาชี้ปืนเอ็ม 16 มาทางพวกเขา แจ๊สควักลูกซอง Sawnoff (ลูกซองแฝดสั้น) ออกมายิงใส่หัวของเขาทันที
“อย่าเพิ่งยุ่งโว้ยคนกำลังเถียงกันอยู่”
[ พวกนาย ออกมาทางกระจกบานเก่าที่แตกแหล่ะ เร็วเข้า]
“นั่นสิไม่ใช่เวลามาเถียงกันนะ ว่าแต่เหลือเวลา.....แว๊ก!!แจ๊ส ไปเร็วโว้ย อีก 10 วิ”
แจ๊สและบันดราคุรีบโกยออกจากห้องแล้วกระโดดออกไปทางกระจกที่แตก ขาของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง โผล่มาพอดี พวกเขาคว้าไว้ทัน เสียงระเบิด C4 ทำงานหลังจากพวกเขาปีนขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว พานูรัสนั่งอยู่บนฮ. นักบินใส่หมวกมองพวกเขาแว๊บหนึ่งก่อนจะออกตัวหนีแรงระเบิด ชายวัยกลางคนคนหนึ่งคอนปืนไรเฟิ้ลไว้บนบ่าชุดพวกเขาขึ้นมา
“ขอบคุณครับจ่าธม”
จ่าธมยิ้มให้พวกเขา พวกเขามองดูตึกที่มีเปลไฟลุกที่ชึ้น 13
“ภารกิจลุล่วง...”
พานูรัสพูด
“ใช่ ในที่สุดก็ได้พักซักที ไปรายงานผลคราวนี้ถ้าจะไม่โดนด่า....นะ....”
แจ๊สยังไม่ทันพูดจบตึกโอแกนนิคก็ถล่มลงมา พวกเขามองหน้ากัน พานูรัสทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ บันดราคุมองหน้าแจ๊สแหย ๆ ส่วนแจ๊สยักไหล่แล้วพูดว่า
“ช่วยไม่ได้...”
Shot-Shot
TEN
ความคิดเห็น