ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อภิมหาศึกสงครามยุคหายนะล้างจักรวาล

    ลำดับตอนที่ #6 : ภาค นิยายวันอาเพศ : เกิดวันเดียว

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 52


     ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะๆ ปนกลับ

    มีลมกระโชกแรงและมีพายุเล็กๆก่อตัวขึ้นมาทางตึกที่โอมนั่ง

    ทำงานอยู่อย่างขยันโดยไม่รู้ว่าพายุมหึมากำลังมุ่งตรงมา

    ทางนี้


      "เฮ้ย..ไอ้โอมกลับยังวะนี่มันปาเข้าไปหกโมงครึ่งแล้วนะจะ

    ขยันอะไรกันตอ..."  เสียงแก้วขาดหายไปพร้อมกับมองออก

    ไปนอกหน้าต่างอย่างตะลึง

       "อ้าวเฮ้ย...เงียบทำไมวะทำไมไม่พูดให้มันจบๆล่ะ แล้วมัว

    อึ้งอะไรกันอยู่ล่ะ ไปก็ไปบ้านน่ะ บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอก

    ไป๊บอกให้กลับบ้านยังมัวอึ้งอะไรกันอยู่ล่ะ อึ้งไปนะข้าไปก่อน

    ละแล้วเจอกันที่บ้าน นอกหน้าต่างมันมีอะไรงั้นเรอะมีผู้หญิง

    แก้ผ้าลอยกลางอากาศเรอะไงไหนดูซิมันอึ้งอะไรกันนักหนา

    วะ" พลันสายตาคู่หนึ่งของโอมได้ปะทะกับพายุลูกหนึ่งซึ่งมุ่ง

    หน้ามาทางนี้ ก่อนที่แก้วจะดึงมือโอมแล้วออกวิ่งนอก

    ห้องอย่างด่วนจี๋    

      "ทีงี้เร็วเชียวนะมืง" เสียงโอมพูดประชดนิดๆ ก่อนทั้งคู่ที่จะ

    วิ่งลงบันไดอย่างรีบร้อน 


       ทางด้านก้องซึ่งมีปัญหาไฟดับในบ้านได้พยายามช่วยแม่

    หาเทียนเพื่อหาแสงสว่าง  แต่ทันใดนั้นเองก็มีแสงสีแดงจ้า

    ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากห้องครัวแล้วหยุดตรงหน้าห้องครัว

    ก่อนจะหายไป

      "แม่ไอ้เมื่อกี้นี้มันอะไรกันครับ" ก้องรีบถามแม่ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ  ก่อนที่ก้องจะได้รับคำตอบอันแปลกประหลาด

      "เหอๆๆ...แกเป็นคนเดียวที่เกิดวันเดียว เวลาเดียวกัน แกจะ

    ต้องถูกสังเวยแด่ท่านซาตานเพื่อจะให้ท่านซาตาน666มีพลัง

    อำนาจที่จะเรืองอำนาจบนโลกมนุษย์ได้แล้วที่ข้าอยากได้ตัว

    มากก็คือแกในชาติก่อนเคยทำพิธีของเหล่าปีศาจเพื่อให้

    ท่านซาตาน666มีอำนาจอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะมีคน

    มาเห็นก่อนจึงถูกตรึงไม้กางเขนแล้วเผาโทษฐานนับถือท่าน

    ซาตาน666แล้วจะทำให้โลกนี้ตกอยู่ในอันตรายจึงถูกเผา ที่

    กางหลังน่ะจะมีรูปปานสีแดงอยู่ข้าจำได้มันเป็นปานแห่งไฟที่

    ติดตัวเจ้าตั้งแต่เกิด เวลามันจะเหมาะเจาะอะไรกันเหลือเกิน

    เพราะพรุ่งนี้จะมีสุริยุปราคาเต็มดวงซึ่งเป็นเวลาดีที่ข้าจะทำ

    พิธีปลุกซาตานขึ้นมาอีกครั้ง เหอๆๆ..."  ว่าแล้วเสียงปริศนาก็

    หยุดลงพร้อมกับไฟทุกดวงในบ้านติดอีกครั้งแม่ของก้องตื่น

    ขึ้นมาหลังจากมองดูแสงสีแดงที่อยู่ในห้องครัวแล้วหมดสติ

    ไป  แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อก้องลูกชายคนเดียวของเขาหาย

    ไปอย่างลึกลับ...
     

      @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    ความเป็นมาของพระไตรปิฎก

               พระสาวก ๔ รูป ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาแห่งพระไตรปิฎก คือ

               ๑. พระอานนท์ เป็นโอรสของเจ้าชายสุกโกทนศากยะ ผู้เป็นพระอนุชาของพระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดา ท่านออกบวชแล้วได้เป็นผู้ที่สงฆ์เลือกให้ทำหน้าที่เป็นพุทธอุปฐาก คือ ผู้รับใช้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้า พระอานนท์ทรงจำพระพุทธวจนะได้มาก ท่านจึงมีส่วนสำคัญในการรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วจัดเป็นหมวดหมู่ต่างๆ สืบมาจนทุกวันนี้

               ๒. พระอุบาลี เคยเป็นพนักงานรักษาภูษามาลาอยู่ในราชสำนักแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ท่านออกบวช พร้อมกับพระอานนท์และราชกุมารอื่นๆ โดยได้รับเลือกจากเจ้าชายเหล่านั้นให้อุบาลีบวชก่อน พวกตนจะได้กราบไหว้อุบาลีตามพรรษาอายุเป็นการแก้ทิฐิมานะตั้งแต่เริ่มแรกในการออกบวช ท่านมีความสนใจกำหนดจดจำทางพระวินัยเป็นพิเศษ จนแม้พระพุทธเจ้าก็ทรงสรรเสริญท่านด้วย ท่านจึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตอบคำถามเกี่ยวกับวินัยปิฎก จึงนับว่าท่านเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยตรงในการช่วยรวบรวมข้อพระวินัยต่างๆ ให้เป็นหมวดหมู่เป็นหลักฐานมาจนทุกวันนี้

                ๓. พระโสณกุฏิกัณณะ ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระไตรปิฎก แต่ประวัติของท่านมีส่วนเป็น หลักฐานในการท่องจำพระไตรปิฎก เรื่องของท่านมีปรากฎในพระสุตตันตปิฎกความว่า เดิมท่านเป็น อุบาสกคอยรับใช้พระมหากัจจานเถระ แล้วบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ ๓ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ต่อมา ท่านได้เดินทางไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ เชตวนาราม พระพุทธเจ้าตรัสเชิญให้พระโสณะกล่าวธรรม ซึ่งท่านได้กล่าวสูตรถึง ๑๖ สูตร อันปรากฏในอัฏฐกวัคค์จนจบ เมื่อจบแล้วพระพุทธเจ้าทรงอนุโมทนาสรรเสริญความทรงจำ และท่วงทำนองในการกล่าว เรื่องนี้เป็นตัวอย่างอันดีในเรื่องความเป็นมาแห่งพระไตรปิฎกว่าได้มีการท่องจำกันตั้งแต่ ครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์อยู่

                ๔. พระมหากัสสป เป็นผู้บวชเมื่ออายุสูง แม้ท่านไม่ใคร่สั่งสอนใคร แต่ก็สั่งสอนคนในทางปฏิบัติ คือทำตัวเป็นแบบอย่าง เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว ท่านได้เป็นหัวหน้าชักชวนพระสงฆ์ให้ทำสังคายนาคือ ร้อยกรอง หรือจัดระเบียบพระวินัย นับว่าท่านเป็นผู้มีส่วนสำคัญยิ่งในการทำให้เกิด พระไตรปิฎก

                นอกจากพระไตรปิฎกจะเกิดขึ้นจากความปรารถนาของพระเถระ ๔ รูปนี้แล้ว พระพุทธเจ้า ยังได้เคยแนะให้รวบรวมธรรมภาษิตของพระองค์และทำสังคายนา เพื่อไม่ให้เกิดความแตกกัน เหมือนอย่างสาวกของนิครนถนาฏบุตร ที่แตกกันหลังจากผู้เป็นอาจารย์เจ้าลัทธิสำคัญคนหนึ่งสิ้นชีพ พระพุทธสุภาษิตที่แนะนำรวบรวมพุทธวจนะร้อยกรองจัดระเบียบหมวดหมู่นี้ ถือได้ว่าเป็นเริ่ม ต้นแห่งการแนะนำ เพื่อให้เกิดพระไตรปิฎกดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

                เมื่อกล่าวถึงความเป็นมาแห่งพระไตรปิฎก และกล่าวถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำให้ ทำสังคายนาก็ดี ก็ต้องกล่าวถึงความปรารถนาดีของพระจุนทเถระ ครั้งแรกก็คือท่านได้เข้าพบพระอานนท์ เมื่อรู้เห็นเหตุการณ์ที่สาวกของนิครนถนาฏบุตรแตกกัน ซึ่งพระอานนท์ชวนให้เข้าเฝ้า พระพุทธเจ้า และพระผู้มีพระภาคทรงตรัสแนะให้ทำสังคายนาดังกล่าวแล้วข้างต้น ครั้งหลังคือ เมื่อสาวกนิครนถนาฏบุตรแตกกันยิ่งขึ้น ท่านก็เข้าหาพระอานนท์อีกขอให้กราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงโพธิปักขิยธรรมอันเป็นหลักของพระพุทธศาสนา แล้วทรงแสดงมูลเหตุ แห่งการทะเลาะวิวาท ๖ ประการ อธิกรณ์ ๔ ประการ วิธีระงับอธิกรณ์ ๗ ประการ กับประการ สุดท้ายทรงแสดงหลักธรรมสำหรับอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก ๖ ประการ ที่เรียกว่า สาราณิยธรรม ซึ่งการเข้าหาพระอานนท์ทั้ง ๒ ครั้งของพระจุนทเถระนี้คือ ความปรารถนาดีของท่าน ที่ห่วงใยใน ความตั้งมั่นยั่งยืนแห่งพระพุทธศาสนา

                      เทพสังหรณ์...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×